ตอนที่ 116 ไร้ยารักษา
ทุกคนที่อยู่ภายในศาลาต่างตกใจกับสายตาที่เปลี่ยนไปของเขา แม้แต่หลิ่วเซียงเซียงก็อดไม่ได้ที่จะยืดตัวขึ้นเล็กน้อย เพราะอยากเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ท่านหมอเสิ่น เป็นอะไรหรือ?” เว่ยหยวนโหวเป็นคนแรกที่อดไม่ไหวจนต้องถามออกมา
ท่านหมอเสิ่นดึงมือกลับมา กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำลง “ท่านอ๋องซิวได้รับพิษที่เรียกว่า ‘ไป๋เสี้ยน’ ตอนนี้บนโลกใบนี้ยังไม่มีใครสามารถถอนพิษได้ นอกจากหมอปี…อาจารย์ของข้าที่ตายไปแล้ว เกรงว่าคงหาคนถอนพิษคนที่สองไม่ได้แล้ว”
ไป๋เสี้ยน นี่เป็นพิษชนิดหนึ่งที่หมอปีศาจเป็นคนสร้างขึ้นมาและตั้งชื่อขึ้นเอง เขาเคยเจอคนป่วยที่ได้รับพิษชนิดนี้ คนคนนั้นบอกว่าเป็นพิษที่หมอปีศาจเป็นคนวาง นอกจากเขาแล้ว คนอื่น ๆ ก็ไม่มีความสามารถในการถอนพิษ
ตอนนี้ เขาได้มาเจอที่นี่อีกครั้ง ทั้งยังเป็นท่านอ๋องซิวที่ได้รับพิษ หรือว่า หมอปีศาจจะอยู่ที่เมืองหลวง?
ท่านหมอเสิ่นคิดถึงตรงนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปด้วย มองดูสีหน้าของเย่ซิวตู๋ที่กำลังแอบหยั่งเชิงอยู่เล็กน้อย “ท่านอ๋องซิว ข้าขอถามอะไรหน่อยได้หรือไม่ ท่านอ๋องไปได้รับพิษนี้มาจากที่ใด? ใครเป็นคนวางพิษใส่ท่าน ท่านอ๋องเคยเห็นหน้า…คนที่วางยาพิษนั่นหรือไม่?”
เย่ซิวตู๋นิ่งสงบอย่างมาก “พิษนี้น่ะหรือ ข้าได้รับมาตอนอยู่ที่หลี่เฉิง แต่ไม่มีใครวางยาพิษใส่ข้าทั้งนั้น เป็นข้าเองที่กินลงไป”
ท่านหมอเสิ่นสูดลมเย็นเข้าปาก “กินเข้าไปเอง? ท่านอ๋องรู้หรือไม่ว่าพิษนี้ไม่มีใครถอนพิษได้ คนที่ให้ยาพิษท่านเล่า? ท่านอ๋องเคยเห็นหน้าหรือไม่?”
นี่เริ่มตื่นตระหนกแล้ว? ในเมื่ออยากปลอมตัวเป็นหมอปีศาจ เช่นนั้นก็ควรจะมีสมาธิให้มากกว่านี้หน่อย แต่ก็ต้องยอมรับว่า คนผู้นี้ก็มีความสามารถในด้านทักษะทางการแพทย์อยู่เหมือนกัน
เย่ซิวตู๋เม้มปาก ส่ายหน้า “ยาพิษนี้เราซื้อมา ส่วนคนผู้นั้นที่ขายให้เรามีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรเราลืมไปนานแล้ว”
จักรพรรดิยิ่งได้ยินก็ยิ่งตื่นตระหนก หมายความว่าอย่างไรกัน? ซิวเอ๋อร์ได้รับพิษจริง ๆ พิษที่แม้แต่หมอปีศาจก็มิอาจถอนพิษได้?
เว่ยหยวนโหวก็ตื่นตระหนกเช่นกัน เขาคิดว่าเชิญให้หมอปีศาจมาแล้ว ต่อให้ท่านซิวอ๋องจะได้รับพิษจริง ๆ ก็สามารถถอนพิษได้ ถึงเวลานั้น เซียงเซียงก็ยังแต่งงานกับเขาได้ ทั้งยังเป็นหวังเฟยของจวนซิวอ๋องด้วย ทว่าตอนนี้…
“ท่านหมอเสิ่น พิษของท่านอ๋อง ไม่มีทางรักษาจริงหรือ?”
ท่านหมอเสิ่นส่ายหน้า “ข้าน้อยไร้ความสามารถ”
เว้นเสียแต่ว่าหมอปีศาจตัวจริงจะปรากฏตัวออกมา ทว่าคนคนนั้นได้หายไปจากเจียงเฉิงแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เขาไปอยู่แห่งหนใด
เว่ยหยวนโหวมีสีหน้าดูไม่จืดตามไปด้วย ไร้ความสามารถ ไร้ความสามารถ เช่นนั้นก็หมายความว่า…หากท่านอ๋องแต่งงานกับเซียงเซียงขึ้นมาจริง ๆ เมื่อเซียงเซียงแต่งงานไปแล้ว ก็จะกลายเป็นม่ายตลอดทั้งชีวิต?
ฮ่องเต้ขมวดพระขนง โบกพระหัตถ์ “เชียนชิว ส่งท่านหมอเสิ่นออกนอกวัง”
จนกระทั่งท่านหมอเสิ่นและหมอหลวงเหลียงออกไปแล้ว จักรพรรดิจึงช้อนสายพระเนตรทอดมองไปยังเย่ซิวตู๋ “ซิวเอ๋อร์ เหตุใด…เจ้าถึงได้โง่เขลาเช่นนี้?”
“ฝ่าบาท” เว่ยหยวนโหวคุกเข่าลง “ชีวิตของท่านอ๋องซิวช่างล้ำค่า เหตุใดถึงได้ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของสตรีคนหนึ่งได้ง่ายดายนัก? กระหม่อมจะไปจับตัวสตรีผู้นั้นมา บังคับให้นางนำยาถอนพิษออกมาให้ได้”
เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว จับจอกชากระแทกลงบนโต๊ะจนเกิดเสียง ‘เคล้ง’ กล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา “ท่านโหวอยากเห็นเราตายจนทนไม่ไหวจริง ๆ สินะ”
“ท่านอ๋อง ข้า…”
“ท่านโหว เหตุใดท่านถึงได้มั่นใจว่าจับตัวนางมาแล้ว นางจะยอมมอบยาถอนพิษให้? ยิ่งไปกว่านั้น แม่นางหลิ่วก็น่าจะบอกท่านไปแล้ว หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับแม่นางคนนั้น เราก็จะไม่ใช้ชีวิตตามลำพังเช่นกัน” เย่ซิวตู๋หรี่ตา มองเขาด้วยสายตาเย็นชา
เว่ยหยวนโหวถูกสายตาเหี้ยมโหดของเย่ซิวตู๋กวาดมอง จู่ ๆ ภายในใจก็สั่นไหวเล็กน้อย
เหมิงกุ้ยเฟยที่อยู่ข้าง ๆ เห็นเหตุการณ์ จึงแค่นเสียงเย็นหนึ่งเสียง “ซิวเอ๋อร์ เจ้าเป็นถึงท่านอ๋อง เหตุใดถึงได้พูดจาเช่นนี้ออกมา? ฝ่าบาท หม่อมฉันคิดว่าที่ท่านโหวพูดมาก็มีเหตุผล นำตัวสตรีผู้นั้นมาเถิดเพคะ”
“หมู่เฟยก็ลองดูได้เลย ดูสิว่าหากเกิดเรื่องกับสตรีผู้นั้นขึ้นมา บุตรของท่านยังจะมีชีวิตต่อไปหรือไม่”
“ซิวเอ๋อร์ เจ้ากำลังข่มขู่แม่อยู่นะ” เหมิงกุ้ยเฟยถูกกระตุ้นจนเกิดโทสะ
เย่ซิวตู๋กลับยังคงวางท่าทางเช่นเดิม “ข้าเพียงแต่สงสัยว่า สุดท้ายแล้วหมู่เฟยยังสนใจชีวิตของลูกอยู่หรือไม่ เมื่อครู่หมอปีศาจก็บอกไปแล้วว่าพิษนี้ไม่มีใครสามารถถอนได้ ดังนั้นบนโลกใบนี้ จึงมีแค่สตรีผู้นั้นที่มียาถอนพิษ หมู่เฟยอยากเดิมพัน เพื่อดูว่าชีวิตของลูกคนนี้จะหายไปหรือไม่งั้นหรือพะยะค่ะ?”
จักรพรรดิเห็นว่าสถานการณ์เริ่มตึงเครียดแล้ว จึงหันซ้ายแลขวาก่อนจะขมวดพระขนงตรัสว่า “เอาล่ะ เรื่องนี้ต้องปรึกษากันให้ดีเสียก่อน ซิวเอ๋อร์ หมู่เฟยของเจ้าเพียงแค่คิดแทนเจ้าเท่านั้น”
ด้านหนึ่งก็เป็นนางสนมที่พระองค์รัก อีกด้านหนึ่งก็เป็นพระโอรสที่พระองค์รักมากที่สุด ทั้งสองคนนี้เมื่อพูดคุยกันก็มักจะวางท่าทางตึงเครียดใส่กันอยู่เสมอ ทำให้พระองค์ปวดพระเศียรอย่างมาก
เว่ยหยวนโหวก้มหน้าลง เขาทราบดีว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่มีผลลัพธ์แล้ว ฝ่าบาทไม่มีทางจัดการท่านอ๋องซิว หากเขายังสร้างปัญหาต่อไปแบบไม่หยุด คงทำให้ฝ่าบาทคิดว่าเขามีข้อกังขาต่ออ๋องซิว ตัดสินใจจะทำร้ายเขาถึงชีวิตจริง ๆ
ทว่า…เขาก็ไม่เต็มใจจริง ๆ บุตรีที่เขาทะนุถนอมมาโดยตลอด ได้รับอันตรายจนเกือบถึงแก่ชีวิต ผลลัพธ์ที่ได้คือสตรีผู้นั้นกลับไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย
“เว่ยหยวนโหว” จักรพรรดิตรัส “เราทราบดีว่าแม่นางหลิ่วได้รับความอยุติธรรม เราจะให้หมอหลวงเหลียงไปดูแลนางอย่างดี ส่วนเรื่องของสตรีผู้นั้น รอให้เราตรวจสอบให้แน่ชัด เราจะอธิบายกับเจ้าเอง”
“ขอบพระทัยฝ่าบาท” แม้ว่าภายในใจของเว่ยหยวนโหวจะไม่พอใจ และทราบดีว่าจักรพรรดิก็แค่ตรัสไปเช่นนั้น หากคิดจะอธิบายจริง ๆ ตอนนี้คงพาตัวออกมาแล้ว
ทว่าเรื่องนี้เขาจะทำอะไรได้? หรือว่าจะใช้ชีวิตของท่านอ๋องเพื่อเติมเต็มจริง ๆ? ในตอนนี้อย่าว่าแต่ช่วยชีวิตของเซียงเซียงไว้ได้แล้ว ต่อให้ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ นางก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะใช้ชีวิตของท่านอ๋องมาชดเชยอยู่ดี
ท่านอ๋องซิวต้องการปกป้องสตรีผู้นั้นอย่างเห็นได้ชัด ใครก็ทำอะไรไม่ได้
ในเมื่อจักรพรรดิปูทางให้เขาเช่นนี้ ก็ทำได้เพียงแค่ปีนลงไป
ทว่าการที่ฝ่าบาทไม่จัดการนางไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ไปคิดบัญชีกับสตรีผู้นั้นเป็นการส่วนตัว โทสะนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องระบายออกแทนเซียงเซียง
เว่ยหยวนโหวนำฮูหยินและหลิ่วเซียงเซียงทูลลา แต่หลิ่วเซียงเซียงยังไม่เต็มใจที่จะไป “ท่านพ่อ สตรีผู้นั้นนาง…”
“หุบปาก เรื่องนี้เจ้าเองก็มีส่วนผิด กลับไปพ่อจะคิดบัญชีกับเจ้า” เว่ยหยวนโหวตำหนิเสียงเบา ก่อนจะสั่งให้ฮูหยินและสาวใช้พานางออกไป
เหมิงกุ้ยเฟยเห็นเงาของพวกเขาที่ค่อย ๆ ห่างไกลออกไป นัยน์ตาพลันหรี่ลงเล็กน้อย นางหันกลับมามองเย่ซิวตู๋ รอยยิ้มที่มุมปากกลับมาเย็นชาลงอีกหลายส่วน ลุกขึ้นยืนเช่นเดียวกัน
“ฝ่าบาทและซิวเอ๋อร์ไม่ได้เจอกันมาหลายปี คงมีเรื่องให้พูดคุยกันอีกมาก หม่อมฉันขอทูลลาเพคะ กลับไปค่อยให้ซิวเอ๋อร์ไปพบที่ตำหนักอี๋ซิ่ง นั่งพูดคุยกับแม่คนนี้สักหน่อย”
จักรพรรดิพยักพระพักตร์ “ก็ดีเหมือนกัน เราเองก็มีอีกหลายเรื่องที่อยากจะถามซิวเอ๋อร์”
เหมิงกุ้ยเฟยพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะหมุนกายเดินนำนางข้าหลวงข้างกายออกไป
หลังจากออกมาจากอุทยานอวี้ฮวาแล้ว การย่างก้าวของนางจึงช้าลง น้ำเสียงก็ทุ้มต่ำลง “หมอปีศาจผู้นั้น รั้งตัวไว้หรือยัง?”
“กราบทูลเหนียงเหนียง รั้งตัวไว้แล้วเพคะ”
หมอปีศาจ? หนานหนานที่กำลังขดตัวอยู่ในภูเขาเทียมกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความประหลาดใจ ท่านแม่ก็เข้าวังมาแล้ว? อืม คงไม่ใช่ว่ามาเพราะตามหาเขาหรอกกระมัง
หนานหนานรู้สึกซึ้งใจ คิดไม่ถึงเลยว่าท่านแม่จะเป็นห่วงเขาขนาดนี้
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
โดนพิษเข้าไปตอนไหนเนี่ยท่านอ๋อง แต่ก็สมแล้วล่ะ
หนานหนาน เขาไม่ได้เอ่ยถึงแม่หนูลูก แม่หนูยังอยู่ในตำหนักอ๋องอยู่เลย
ไหหม่า(海馬)