ตอนที่ 161 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​มีพื​้น​เพ​มาจาก​ครอบครัว​ทหาร​ธรรมดา​สามัญ​ ​มิใช่​ตระกูล​ใหญ่โต​ ​หา​ได้​มีความรู้​อะไร​มาก​นัก​ ​นับตั้งแต่​ที่​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​กลายเป็น​สนม​รัก​เป็นต้นมา​ ​คนใน​ตระกูล​ก็​เริ่ม​ยโส​โอหัง​ไม่รู้​จัก​แผ่นฟ้า​สูง​ผืนดิน​ต่ำ​ ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​ต่อว่า​ไป​หลายครั้ง​ ​คนใน​ตระกูล​ถึง​ทำตัว​ดีขึ้น​มาบ​้าง​ ​แต่​เนื่องจาก​นาง​อยู่​ใน​วัง​ ​ไม่​อาจ​คอย​สอดส่อง​ได้​ทุกเมื่อเชื่อวัน​ ​คนใน​ตระกูล​นาง​ยังคง​สร้างเรื่อง​ออกมา​ให้​เห็น​อยู่​บ่อยครั้ง​ ​ด้วยเหตุนี้​ ​นาง​จึง​ดูแคลน​พี่น้อง​ของ​ตัวเอง​ยิ่งนัก​ ​แล้วก็​ยิ่ง​ไม่เห็น​เหล่า​หลานชาย​อยู่​ใน​สายตา​ด้วย

องค์​ชาย​สาม​ ​องค์​ชาย​ห้า​และ​องค์​หญิง​ฟู่​หยาง​ต่าง​ได้รับ​อิทธิพล​ของ​มารดา​ ​ไม่​ค่อย​สุงสิง​กับ​คนที​่​บ้าน​ของ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​เท่าไร​นัก

คนใน​จิง​เฉิง​เห็น​เช่นนั้น​แล้ว​ ​ก็​ไม่​ค่อย​ชอบ​คน​จาก​ตระกูล​ของ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​เช่นกัน

หลานชาย​ของ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​จัดงาน​วัน​คล้าย​วันเกิด​ ​เหล่า​ขุนนาง​และ​คนชั้นสูง​จาก​ตระกูล​ใหญ่​ตระกูล​โต​ย่อม​ไม่​ไปร​่ว​มงาน

เฉิน​อิง​จึง​คิด​ว่า​หาก​ไป​กล่าว​อวยพร​เขา​จริง​ ​จะ​มิ​เท่ากับ​ว่า​เป็นการ​ให้​ผู้คน​เห็น​เรื่องขบขัน​หรอก​หรือ​ ​ถึง​เขา​อยาก​ประจบประแจง​องค์​ชาย​สาม​กับ​องค์​ชาย​ห้า​ ​ก็​ไม่​อาจ​กระทำ​เช่นนี้​ได้

มิสู​้​แสร้งทำ​เป็น​เจอ​โดยบังเอิญ​ดีกว่า

ให้​พอ​มีเรื่อง​ชวน​คุย​สัก​เรื่อง​ยาม​พานพบ​กับ​องค์​ชาย​สาม​และ​องค์​ชาย​ห้า​ก็​พอ

เฉิน​อิง​สืบ​ทราบ​ชื่อ​หอ​สุรา​ที่​หลานชาย​ของ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​ใช้​เป็น​สถานที่​จัด​เลี้ยง​แล้วก็​ทำการ​จอง​โต๊ะ​ที่​หอ​สุรา​ดังกล่าว​ด้วย​โต๊ะ​หนึ่ง​ ​นัด​สหาย​ที่​เข้ากันได้ดี​สอง​คน​ไปรับ​ประทาน​อาหาร​ด้วยกัน

เพียงแต่​เขา​คิดไม่ถึง​ว่า​หลานชาย​ของ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​จะ​ไม่เห็น​อก​เห็นใจ​ต่อ​ชะตา​และ​ความยากลำบาก​ของ​ป้า​ตัวเอง​เลย​แม้แต่น้อย​ ​มิใช่​วันเกิด​ครบรอบ​ใหญ่​ ​แต่​เชิญ​แขก​มาก​ถึง​ยี่สิบ​เจ็ด​ยี่สิบ​แปด​โต๊ะ​ ​นอกจากนี้​ยัง​เป็น​คนที​่​ทำงาน​อยู่​ใน​กองพล​ส่วนพระองค์​ทั้งสิ้น​ ​มาก​จน​เต็มที่​พื้นที่​อัน​กว้างขวาง​ของ​หอ​สายลม​วสันต์​ ​ตอนที่​พวกเขา​ไป​ถึง​ ​หลง​จู๊​ของ​หอ​สุรา​นำ​เสี่ยว​เอ้อ​ค้อมตัว​กล่าว​ขออภัย​อยู่​ตรงนั้น​ด้วยตัวเอง​ ​พา​พวกเขา​เดิน​ไป​ยัง​ด้านหลัง​ของ​หอ​สุรา​เข้าไป​ใน​ร้าน​เครื่องเขิน​ร้าน​หนึ่ง​ที่​เพิ่ง​ยืม​มาชั​่ว​คราว​ ​“​เนื่องจาก​มี​แขก​มา​อย่างกะทันหัน​เป็น​จำนวนมาก​ ​จึง​ไม่ทัน​ได้​ส่งจดหมาย​ไป​แจ้ง​พวก​ท่าน​ ​หาก​ท่าน​ไม่ถือสา​ ​พวก​ข้า​ขอยืม​ห้องส่วนตัว​ของ​พวกเขา​เอาไว้​ ​ท่าน​ทน​รับประทาน​อาหาร​สัก​มื้อ​ไป​ก่อน​ ​วันหน้า​ข้า​ค่อย​ไป​กล่าว​ขออภัย​ท่าน​ที่​บ้าน​เป็นการ​เฉพาะ​อีกครั้ง​และ​จะ​ส่ง​อาหาร​ไป​ให้​สัก​สอง​สาม​โต๊ะ​ ​ท่าน​ต้องการ​ให้​พวก​ข้า​ส่ง​ไป​ให้​เมื่อไร​ ​พวก​ข้า​จะ​ส่ง​ไป​ให้ท่าน​เมื่อนั้น​”

คนโง่​ผู้​นี้​!​ ​ไม่​แปลกที่​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​จะ​รังเกียจ​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​เขา​ที่​เป็น​เพียง​หลานชาย​ผู้​หนึ่ง​ของ​พระสนม​ ​ต่อให้​เป็น​ลุง​ของ​แผ่นดิน​อันเป็น​ที่​น่าเคารพนับถือ​อย่าง​จวน​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหว​ยัง​ไม่​ทำ​เช่นนี้​เลย

เฉิน​อิง​ด่าทอ​อยู่​ใน​ใจ​จน​ไม่​เหลือ​ชิ้น​ดี​ไป​ครั้งหนึ่ง​ ​คิดในใจ​ว่าวั​นนี​้​คง​ไม่​อาจ​กิน​อาหาร​มื้อ​นี้​ได้​แล้ว​ ​จึง​หารือ​กับ​สหาย​ทั้งสอง​คน​ว่า​จะ​กินที่​นี่​หรือ​จะ​เปลี่ยนไป​กินที่​อื่น​แทน​ ​สหาย​ทั้งสอง​คน​ของ​เขา​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ตอบ​ ​จู่ๆ​ ​ก็​มีเสียง​เอะอะ​ดัง​เข้ามา​จาก​หอ​สายลม​วสันต์​ทาง​ด้าน​โน้น

หรือว่า​บุตรหลาน​จาก​ตระกูล​มั่งคั่ง​คนใด​กับ​หลานชาย​ของ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​มีเรื่อง​ปะทะ​กัน​ขึ้น​มา​?

สมควร​แล้ว​!

เฉิน​อิง​คิด​อยู่​ใน​ใจ​ ​ตัดสินใจ​ก้าว​ออก​ไปดู​ความ​ครึกครื้น​สักหน่อย​ ​หรือไม่ก็​ไป​เติม​เชื้อไฟ​อีก​สักนิด​ก็ได้​ ​จะ​ได้​ใช้​เรื่อง​นี้​เป็น​ข้ออ้าง​ไป​เล่า​ให้​องค์​ชาย​สาม​กับ​องค์​ชาย​ห้า​ฟังได้​ ​พวกเขา​ต้อง​ดีใจ​มาก​แน่​ที่​ญาติ​ผู้​พี่​ที่​ไม่เอาไหน​ของ​ตัวเอง​คน​นี้​ถูก​ผู้อื่น​สั่งสอน

เขา​เดิน​เข้าไป

ไม่​คาดคิด​ว่า​จะ​ได้ยิน​เสียง​ของปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​ ​“​เจ้า​จะ​จัดงาน​เลี้ยง​ก็​จัด​ไป​ ​แต่กลับ​ใช้​หอ​สายลม​วสันต์​แห่ง​นี้​จน​เต็ม​พื้นที่​โดย​ไม่​บอก​ไม่​กล่าว​ ​แค่​คำ​ว่า​ ​‘​ไม่สน​’​ ​เพียง​ประโยค​เดียว​ของ​เจ้า​ก็​จะ​ให้​คนที​่​จอง​โต๊ะ​มาก​่อ​นล​่​วงหน้า​อย่าง​พวก​ข้า​กลับ​จวน​ไป​ให้​หมด​ ​มี​คน​ทำ​เช่น​เจ้า​ด้วย​หรือ​ ​คง​มิใช่​ว่า​มา​อยู่​จิง​เฉิง​หลาย​ปี​ขนาด​นี้​แล้ว​ ​เจ้า​ยัง​ไม่รู้​ว่า​จิง​เฉิง​มี​กฎระเบียบ​อะไร​บ้าง​หรอก​กระมัง​”

นี่​ตั้งใจ​ถากถาง​ว่า​หลานชาย​ของ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​เป็น​คนบ้านนอก​คอก​นา

เฉิน​อิง​สะดุด​ซวนเซ​ไป​ครั้งหนึ่ง​ ​เกือบ​ทำให้​ข้อเท้า​พลิก​เสีย​แล้ว

ไม่น่า​จะ​บังเอิญ​ขนาดที่​ว่าปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​ก็​มากิ​นข​้า​วที​่​นี่​ด้วย​หรอก​กระมัง​?

เขา​ก้าว​ฉับๆ​ ​ออก​ไป​ ​เห็นปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​ใน​ชุด​เต้า​เผา​ผ้าไหม​หังโจว​สีขาว​พระจันทร์​ลาย​ปล้อง​ไผ่​กำลัง​โบก​พัด​พับ​สีดำ​วาด​ลาย​สีทอง​ ​ยืน​เด่น​เป็น​สง่า​เสมือน​ต้น​อวี​้​ท้า​สายลม​อยู่​หน้า​หอ​สายลม​วสันต์​ ​ประหนึ่ง​พวก​ลอยชาย​ผู้​หนึ่ง​ออกมา​ต่อว่า​หลานชาย​ของ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​ด้วยตัวเอง​ก็​ไม่​ปาน​!

ส่วน​หลานชาย​ของ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​นั้น​ ​ไม่กล้า​แม้แต่​จะ​โผล่​หน้า​ออกมา​ให้​เห็น​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ทหาร​รับใช้​ของ​เขา​เหล่านั้น​เลย​ ​บ้าง​ก็​ขี้ขลาด​ตาขาว​ไม่กล้า​โผล่​หัว​ออกมา​ ​บ้าง​ก็​ยิ้มอยู่​ข้างๆ​ ​อย่าง​ประจบประแจง​ ​แน่นอน​ว่า​ก็​มี​คน​ใจกล้า​อยาก​เอาใจ​ทั้งปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​และ​หลานชาย​ของ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​เสนอหน้า​ออกมา​กล่าว​โน้มน้าว​อย่างนอบน้อม​อยู่​ตรงนั้น​ว่า​ ​“​ไหน​จะ​กล้า​!​ ​ไหน​จะ​กล้า​!​ ​พวก​ข้า​ได้ยิน​ว่า​องครักษ์​อิ่น​จัดงาน​วัน​คล้าย​วันเกิด​ที่นี่​ ​ก็​เลย​อยาก​มาร​่วม​ครึกครื้น​ด้วย​สักครั้ง​ ​ผู้ใด​จะ​รู้​ว่า​คน​มาร​่ว​มงาน​เป็น​จำนวนมาก​ ​ที่นั่ง​จึง​ไม่​เพียงพอ​ ​องครักษ์​อิ่น​ของ​พวก​ข้า​ไม่มีทาง​เลือก​ ​จำต้อง​ขอให้​หลง​จู๊​พา​แขก​คนอื่นๆ​ ​ไป​นั่ง​อีกที​่​หนึ่ง​ ​ไม่ได้​มี​เจตนา​จะ​ไล่​แขก​จริงๆ​ ​ขอรับ​ ​และ​ไม่รู้​ว่าวั​นนี​้​จะ​บังเอิญ​โชคดี​ขนาด​นี้​ ​ท่าน​เอง​ก็​มา​เลี้ยงแขก​ที่นี่​ด้วย​…

…​ท่าน​ว่า​เช่นนี้​ดี​หรือไม่​ ​อย่างไร​เสีย​ก็​ยืม​สถานที่​ของ​ร้าน​เครื่องเขิน​ข้างๆ​ ​เอาไว้​แล้ว​ ​พวก​ข้า​จะ​ไปรับ​ประทาน​ที่นั่น​แล้ว​ยก​ทาง​ด้าน​นี้​ให้​ทุกคน​…​”​ ​ขณะที่​กล่าว​ ​ยัง​หันไป​ส่งสายตา​ให้​หลง​จู๊​ของ​หอ​สายลม​วสันต์​ครั้งหนึ่ง​ ​เป็น​สัญญาณ​ให้​เขา​ก้าว​ออกมา​พูด​อะไร​สัก​สอง​ประโยค

ตระกูล​เดิม​ของ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​แซ่​อิ่น

พ่อค้า​เปิดร้าน​ทำการค้า​ ​เป็นธรรมดา​ที่​ไม่​อยาก​ผิดใจ​กับ​ผู้ใด

แน่นอน​ว่า​เขา​ไม่​อาจ​ไปร​้​อง​ขอให้ปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​ปล่อย​ตระกูล​อิ่น​ไป​ ​เพราะ​หาก​คุณชายปั​๋ว​พูด​ให้​ฝั่ง​ของ​ตัวเอง​บ้าง​ ​กลายเป็น​ผิดใจ​กับ​ทั้งสองฝ่าย​ ​เช่นนั้น​ต่อไป​ใคร​จะ​กล้า​ช่วยเหลือ​พวกเขา

เขามอง​ตา​แป๋ว​ ​แสร้งทำ​เป็น​ไม่รู้​ว่า​คน​ผู้​นั้น​หมายความว่า​อย่างไร

ปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​ไม่​อยาก​ทำให้​คน​ของ​หอ​สายลม​วสันต์​ต้อง​ลำบากใจ

ที่นี่​เป็น​กิจการ​ของ​ตระกูล​หวัง​ ​เขา​สืบ​ทราบ​มาตั​้ง​แต่​เนิ่นๆ​ ​แล้ว

เรื่องราว​ดำเนิน​มาถึง​ขั้น​นี้​แล้ว​ ปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​จำต้อง​หาทาง​ลง​ให้​ตัวเอง​ ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​แกม​ด่าว่า​ ​“​เจ้า​มอง​หลง​จู๊​เพื่อ​อัน​ใด​ ​หรือ​ข้า​สู้​หลง​จู๊​ผู้​หนึ่ง​ไม่ได้​?​”​

ท่าทาง​เหมือน​คน​ไม่​อยาก​สืบสาวราวเรื่อง​กับ​พวกเขา​ต่อ​แล้ว

คน​ผู้​นั้น​ลิงโลด​ ​รีบ​ก้าว​ออกมา​คารวะปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​ ​ร้อง​บอก​ให้​คนที​่​นั่ง​ครอบครอง​โต๊ะ​อยู่​เหล่านั้น​ย้าย​ไป​ยัง​ร้าน​เครื่องเขิน​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ให้​หมด

หลง​จู๊​ใหญ่​ของ​หอ​สายลม​วสันต์​รีบ​ก้าว​ออก​ไป​นำทาง​อย่างกระตือรือร้น

เมื่อ​ไม่มี​อะไร​ให้​ดูแล​้ว​ ​ผู้ชม​โดยรอบ​ต่าง​ก็​แยกย้าย​กัน​ไป​กว่า​ครึ่ง

เฉิน​อิง​ก้าว​ออกมา​กล่าว​ทักทายปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​วันนี้​ช่าง​บังเอิญ​ยิ่งนัก​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​ได้​พบ​เจ้าที่​นี่​”

เขา​ยึดถือ​หลักการ​ ​‘​ศัตรู​ของ​ศัตรู​คือ​มิตร​ของ​ข้า​’​ ​มาโดยตลอด​ ปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​กับ​เฉินลั​่ว​เหินห่าง​กัน​ ​ทุกครั้งที่​เขา​เจอปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​จะเข้า​ไป​ทักทาย​เขา​อย่างกระตือรือร้น​เสมอ

ปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​ได้​แต่​หัวเราะ​อยู่​ใน​ใจ

กำลัง​ตามหา​เจ้า​อยู่​พอดี​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​เจ้า​จะ​ส่ง​มา​ให้​ถึง​หน้า​ประตู​ด้วยตัวเอง​เช่นนี้

แต่​เขา​ก็​มิได้​แสดงออก​อย่างโจ่งแจ้ง​ ​แสดงอาการ​ประหลาดใจ​ที่​บังเอิญ​เจอ​อย่างกะทันหัน​แทน​ ​กล่าว​ทักทาย​เฉิน​อิง​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​นี่​ก็​ถือเป็น​วาสนา​!​”​ ​ยัง​ถาม​เขา​ด้วยว่า​ ​“​พี่ชาย​ใหญ่​เฉิน​ก็​มากิ​นข​้า​วที​่​นี่​หรือ​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​พวกเรา​จะ​บังเอิญ​เจอ​กับ​เรื่อง​อลหม่าน​เช่นนี้​”

อย่า​มองว่า​บัดนี้​ทั้ง​ใน​และ​นอก​ราชสำนัก​ต่าง​ทราบ​เรื่อง​ที่​ฮ่องเต้​มีพ​ระ​ประสงค์​แต่งตั้ง​องค์​ชาย​ใหญ่​เป็น​รัชทายาท​ ​เพราะ​ยัง​ไม่มี​ราชโองการ​ประกาศ​ออกมา​เลย​มิใช่​หรือ​ ​นอกจากนี้​ด้วย​ความเก่งกาจ​ของ​จวน​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหว​แล้ว​ ​ต่อให้​ฮ่องเต้​แต่งตั้ง​องค์​ชาย​ใหญ่​เป็นไท​่​จื่อ​จริง​ ​องค์​ชาย​คนเดียว​ที่​ไร้​ทั้ง​ครอบครัว​มารดา​และ​ครอบครัว​ภรรยา​คอย​สนับสนุน​เช่น​เขา​ ​ผู้ใด​จะ​รู้​ว่า​เขา​จะ​รอ​จนถึง​วันที่​ฮ่องเต้​เสด็จ​ไป​เยือน​แดน​สุขาวดี​ได้​หรือไม่

คนใน​จิง​เฉิง​ไม่กล้า​มีเรื่อง​ผิดใจ​กับ​จวน​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหว​มานาน​แล้ว​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​จะ​โจมตีปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​เลย

เฉิน​อิง​ตอบ​เขา​สอง​ประโยค​เสร็จ​แล้ว​ชวนปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​ไปรับ​ประทาน​อาหาร​ด้วยกัน

ตระกูลปั​๋​วอ​ยู่​ใน​ช่วง​ที่​รุ่งโรจน์​ที่สุด​ ​ผู้ใด​จะ​กล้า​พูด​เช่นนั้น​ต่อหน้า​เขา

อย่างไร​ก็​ไม่​เหมือนกัน​อยู่ดี

ปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​คิด​ ​แต่​สุดท้าย​ยังคง​ปฏิเสธ​เฉิน​อิง​ไป​เหมือนก่อน​หน้า​นี้

เพื่อ​ยั่วยุ​เฉินลั​่ว​แล้ว​ ​เฉิน​อิง​พยายาม​ประจบประแจง​เขา​มาโดยตลอด​ ​แต่​ใช่​ว่า​เขา​จะ​ชอบ​การ​ประจบสอพลอ​ประเภท​นี้

เขา​รู้สึก​ผิดหวัง​เล็กน้อย​ ​แต่​เขา​ก็​ไม่มีทาง​ไปรว​มก​ลุ่ม​กับ​เฉิน​อิง​เพียง​เพราะ​เขา​กับ​เฉินลั​่ว​เข้ากัน​ไม่ได้​อย่างแน่นอน

พวกเขา​คุย​กัน​อีก​สอง​สาม​ประโยค​แล้ว​ต่าง​คน​ต่าง​ก็​แยกย้าย​กัน​ไป

เฉิน​อิง​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​หอ​สุรา​ ​ครุ่นคิด​ว่า​ควร​ไป​กินข้าว​ต่อ​หรือไม่​ ​เมื่อ​เงยหน้า​ขึ้น​กลับ​เห็น​หลานชาย​ของ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​ยื่น​ศีรษะ​ออกมา​จาก​หลัง​ม่าน​ไผ่​นางสนม​ของ​ห้องส่วนตัว​บน​ชั้นสอง​หันมา​กวักมือ​เรียก​เขา​

เนื่องจาก​ถูก​เจอ​ตัว​แล้ว​ ​จึง​ไม่​อาจ​หลบเลี่ยง​ไม่​พบ​หน้า​ได้​อีก

เฉิน​อิง​ตรึกตรอง​แล้ว​เดิน​ขึ้นไป​บน​ชั้นสอง

หลานชาย​ของ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​ถาม​เขา​ว่า​ ​“​เจ้า​กับปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​มา​เจอกัน​ได้​อย่างไร​ ​เขา​นัด​ผู้ใด​มาดื​่ม​สุรา​ที่นี่​?​”

เจิ​้​นกั​๋​วกง​เป็น​ขุนนาง​ชั้นสูง​มานาน​หลาย​รุ่น​ ​เป็น​ตระกูล​ขุนนาง​ที่​คน​ชื่นชม​ปน​อิจฉา​และ​อยาก​ผูกมิตร​ด้วย​เป็น​ที่สุด​ ​แต่​เฉินลั​่ว​หยิ่ง​ทะนง​ ​คบหา​แต่​กับ​เหล่า​องค์​ชาย​และ​ซื่อ​จื่อ​เท่านั้น​ ​ตรงข้าม​กับ​เฉิน​อิง​ที่​เป็น​คน​จิตใจ​ดีมี​มารยาท​ ​เข้า​ได้​กับ​ทุกคน​ ​หลานชาย​ของ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​จึง​ชอบ​เฉิน​อิง​มากกว่า

“​ข้า​ไม่ได้​ถาม​!​”​ ​เฉิน​อิง​กล่าว​ ​“​ข้า​กับปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​บังเอิญ​เจอกัน​เท่านั้น​”

หลานชาย​ของ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​ขบคิด​ ​ให้​หลง​จู๊​นำ​สุรา​ดอก​หลี​ไป​มอบให้ปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​สอง​กา​ ​ยัง​กล่าว​ด้วยว่า​ ​“​บอกว่า​ทาง​นี้​ข้า​ยัง​มี​แขก​อยู่​ ​ประเดี๋ยว​ส่ง​แขก​เรียบร้อย​แล้ว​ค่อย​ไป​กล่าว​คำขอโทษ​เขา​อีกครั้ง​”

เขา​คำนวณ​มา​แล้ว​ว่าปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​ไม่มีทาง​สนใจ​เขา​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​เพียงพริบ​ตาเดียว​หลง​จู๊​ก็​ถือ​สุรา​ดอก​หลี​สอง​กา​เดิน​เข้ามา​ ​กล่าวว่า​ ​“​คุณชายปั​๋ว​มิได้​อยู่​รับประทาน​อาหาร​ที่​หอ​สุรา​ของ​พวก​ข้า​ ​เขา​ออก​ไป​แล้ว​ขอรับ​”

“​ออก​ไป​แล้ว​!​”​ ​ทั้งสอง​คน​ต่าง​ตะลึงงัน

ด่า​หลานชาย​ของ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​เสร็จ​ก็​จากไป​แล้ว​?​ ​ไม่​เหมือน​คน​ต้องการ​บันดาล​โทสะ​แต่​เหมือน​คน​กำลัง​ระบาย​โทสะ​มากกว่า

เฉิน​อิง​นึกถึง​ข่าวลือ​ต่างๆ​ ​ที่​ได้ยิน​ใน​ช่วงนี้​ ​เขา​รู้สึก​ว่า​จวน​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหวต​้​อง​มิได้​สงบ​เหมือน​ที่​แสดงออก​อย่างแน่นอน​ ​เขา​รู้สึก​ประหลาดใจ​ ​ถาม​หลง​จู๊​ว่า​ ​“​รู้​หรือไม่​ว่า​คุณชาย​เจ็ดปั​๋​วนัด​ผู้ใด​มาดื​่ม​สุรา​ที่นี่​?​”​ ​ยัง​กล่าว​อย่าง​คน​พยายาม​ปกปิด​แต่​เรื่องราว​กลับ​เด่นชัด​ยิ่งขึ้น​ว่า​ ​“​หาก​พวก​ข้า​รู้จัก​ ​ต้อง​ไป​อธิบาย​กับ​อีก​ฝ่าย​ด้วยตัวเอง​สัก​ประโยค​หนึ่ง​ถึง​จะ​ถูก​”​

อย่า​มองว่า​หลาย​ชาย​ของ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​ผู้​นี้​ทำตัว​เหลวไหล​ไป​วัน​ๆ​ ​เพราะ​เขา​ได้รับ​สืบทอด​ความสามารถ​ใน​การ​สังเกต​สีหน้า​และ​คำพูด​ของ​ผู้คน​มาจาก​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​ ​เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนั้น​แล้ว​หัวใจ​กระตุก​ตาม​ไป​ด้วย​ ​มอง​หลง​จู๊​ผู้​นั้น​ด้วย​แววตา​วาว​โรจน์

หลง​จู๊​ผู้​นั้น​ตัวสั่น​สะท้าน​ ​รีบ​กล่าวว่า​ ​“​ไม่ทราบ​จริงๆ​ ​ขอรับ​!​ ​คุณชายปั​๋ว​เป็น​คน​จอง​โต๊ะ​ ​หลง​จู๊​ใหญ่​ของ​พวก​ข้า​ก็​คิด​เช่นกัน​ว่าวั​นนี​้​คุณชายปั​๋ว​มิได้​รับประทาน​อาหาร​ดี​ๆ​ ​จึง​ให้​ข้า​นำ​สุรา​ไป​มอบให้​คุณชายปั​๋ว​สอง​ขวด​ ​แต่​ผู้ใด​จะ​รู้​ว่า​ข้า​ตามหา​ไป​ทั่วทั้ง​หน้า​และ​หลัง​กว่า​ครึ่ง​ค่อนวัน​ก็​หา​ตัว​คน​ไม่​เจอ​”

คนที​่​ทำให้ปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​มา​เลี้ยง​อาหาร​ได้​ ​หาก​มิใช่​คนที​่​สูงส่ง​กว่าปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​ก็​เป็น​คนที​่ปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​ต้องการ​ขอความช่วยเหลือ

หลานชาย​ของ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​รีบ​สั่งการ​บ่าว​ชาย​คนสนิท​โดย​ไม่ต้อง​คิด​ว่า​ ​“​เจ้า​ไป​สอบถาม​คนที​่​ดื่ม​สุรา​อยู่​ด้าน​ข้าง​สัก​คำ​ ​ดู​ว่า​มี​ใคร​เห็น​หรือไม่​ว่าวั​นนี​้ปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​มากับ​ผู้ใด​ ​หรือ​มี​ใคร​รู้​หรือไม่​ว่าวั​นนี​้ปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​เชิญ​ผู้ใด​มา​”

ขอ​เพียงตา​มหา​ตัว​คน​เจอ​ ​ก็​รู้​ได้​ว่า​เป็นเรื่อง​อะไร​แล้ว

บ่าว​ชาย​ผู้​นั้น​กลับ​ไป​แล้ว​ไม่​หวนกลับ​มา

เฉิน​อิง​จึง​สงสัย​ว่า​บ่าว​ชาย​ผู้​นั้น​อาจ​ไป​สืบ​เจอ​อะไร​เข้า​ ​แต่​บังเอิญ​ว่า​เขา​อยู่​ที่นี่​ด้วย​ ​จึง​ไม่​สะดวก​เข้ามา​รายงาน

เขา​รู้สึก​ว้าวุ่น​ใจ​ ​ฝืน​นั่ง​ต่อ​อีก​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​หา​ข้ออ้าง​กล่าว​อำลา​ไป​ด้วย​อีก​คน​ ​แต่​พอ​เขา​พ้น​จาก​ห้องส่วนตัว​ก็​รีบ​ลงมา​ชั้นล่าง​อย่างรวดเร็ว​ ​สั่งการ​บ่าว​ชาย​ของ​ตัวเอง​ไป​สืบ​เรื่อง​นี้​ด้วย​อีก​คน

ไม่นาน​ ​บ่าว​ชาย​ของ​เขา​ก็​กลับมา​รายงาน​ว่า​ ​“​คุณชายปั​๋ว​เชิญ​เว​่ย​ไหว​ของกอง​พลม้า​ทะยาน​มากิ​นข​้า​วที​่​หอ​สายลม​วสันต์​ ​แต่​ผู้ใด​จะ​รู้​ว่า​เมื่อ​ทั้งสอง​เข้ามา​ใน​หอ​สุรา​แล้วก็​พากั​นอ​อก​จาก​ประตู​หลัง​ไป​ตามลำดับ​ ​จากนั้น​ก็​ไม่มีใคร​รู้​แล้ว​ว่า​เปลี่ยนไป​กินข้าว​ที่ไหน​แทน​”

เว​่ย​ไหว​เป็น​คนสนิท​ของ​เฉินลั​่ว​ ปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​นัด​เขา​มา​เพื่อ​อัน​ใด

หรือว่า​เพื่อ​ตำแหน่ง​ซื่อ​จื่อ​แล้ว​ ​เฉินลั​่ว​คิด​จะ​อุทิศ​ตน​เพื่อ​องค์​ชาย​ใหญ่​ตามที่​ฮ่องเต้​วางแผน​เอาไว้​?

หาไม่​ด้วย​นิสัย​ของปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​แล้ว​ ​จะ​นัดพบ​เว​่ย​ไหว​ได้​อย่างไร

เฉิน​อิง​รู้สึก​ว้าวุ่น​ใจมา​กยิ​่ง​ขึ้น

หลานชาย​ของ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​ยิ่ง​แล้ว​ใหญ่​ ​นำ​ข่าว​ดังกล่าว​ไป​บอก​ป้า​ของ​ตัวเอง​ภายใน​วันนั้น​เลย

ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​เอง​ก็​กระสับกระส่าย​มาก​เช่นเดียวกัน

ฮ่องเต้​ไม่ขัดข้อง​ที่​ตระกูล​อู๋​ให้​คุณหนู​รอง​ของ​พวกเขา​แต่งงาน​กับ​ทหาร​ผู้​หนึ่ง​ ​และ​ไม่ขัดข้อง​ที่​องค์​ชาย​สี่​แต่ง​กับ​คุณหนู​สี่​ถาน​ ​ยัง​จัดแจง​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​ฟู่​หยาง​อีก

หากแต่ง​ตั้ง​องค์​ชาย​ใหญ่​เป็นไท​่​จื่อ​จริงๆ​ ​เช่นนั้น​ก็​เท่ากับ​ว่า​องค์​ชาย​สาม​กับ​องค์​ชาย​ห้า​ไม่มี​หวัง​อัน​ใด​อีกแล้ว

นาง​ถึงกับ​คิด​จะ​เดิน​บน​เส้นสาย​ของ​หนิง​ผิน​เพื่อ​หยั่งเชิง​ดู​ความคิด​ของ​ฮ่องเต้​ ​แต่​ประสบการณ์​หลาย​ปี​ใน​วัง​หลวง​ยังคง​ทำให้​นาง​สงบใจ​ลงมา​ได้​ ​สั่ง​ให้​ข้า​ราชสำนัก​สตรี​ฝ่ายใน​ไป​เชิญ​องค์​ชาย​สาม​กับ​องค์​ชาย​ห้า​เข้า​วัง

………………………………………………………………….

ตอนต่อไป