ตอนที่ 247 แผนการของจวินอู๋เสีย (1) ตอนที่ 248 แผนการของจวินอู๋เสีย (2)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 247 แผนการของจวินอู๋เสีย (1)

เช้าวันถัดมาจวินอู๋เสียตื่นขึ้นมาบนเตียงนุ่มของนางอย่างสงสัย นางเองก็จำไม่ได้ว่านางขึ้นมานอนบนเตียงได้อย่างไร และเมื่อนางก้มสำรวจตัวเอง ก็พบกับเสื้อคลุมตัวหนึ่งที่คอยให้ความอบอุ่นแก่นางเมื่อคืน

เมื่อถึงเวลารับประทานอาหารเช้า สกุลจวินทั้งสามรุ่นก็มารวมตัวกันที่โต๊ะ ส่วนจวินอู๋เย่าก็ยังคงเป็นเช่นเดิมทำตัวเป็นเหมือนเทพมังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง

ใช้ประโยชน์จากเวลาอาหารเช้า จวินอู๋เสียบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวังหลวงเมื่อวานให้กับสองพ่อลูกสกุลจวินฟังอย่างง่ายๆ แต่กระชับ กล่าวจบ โดยไม่สนใจสีหน้าของทั้งคู่ว่าจะตกใจกับสิ่งที่นางบอกมากแค่ไหน เด็กสาวทำเพียงก้มหน้าแล้วจิบชาต่ออย่างสบายอารมณ์

“เจ้าหมายความว่า ฝ่าบาทยามนี้กำลังนอนประชวรอยู่บนแท่นบรรทมขยับไปไหนไม่ได้ ส่วนฉินอวี่เยียนอะไรนั่นก็ถูกเจ้าจับขังไว้ในท้องพระโรงใช่หรือไม่” จวินชิงเกือบจะถูกหลานสาวของตัวเองทำให้ตกใจตายแล้ว สิ่งที่นางทำนี้มันก็ช่างน่าทึ่งและชวนให้กุมขมับอย่างพูดไม่ออกจริงๆ เขาก็รู้อยู่หรอกว่าต่อหน้าจวินอู๋เสียมั่วเฉี่ยนยวนไม่เคยวางมาดสูงส่งของฮ่องเต้เลย แต่นี่นางปัดความรับผิดชอบไม่พอ ยังทิ้งฮ่องเต้ไว้กับทหารองครักษ์สองคนราวกับเป็นหมาแมวแบบนั้น หมอหลวงก็ไม่ยอมเรียกให้…นี่มันจะเลินเล่อเกินไปหน่อยหรือไม่

แถมยังมีคุณหนูใหญ่แห่งสำนักชิงอวิ๋นผู้นั้นอีก จวินอู๋เสียขังนางไว้ในท้องพระโรงแบบนั้น แม้ว่ามั่วเฉี่ยนยวนจะไม่อาจออกว่าราชกิจไปได้สักพัก แต่นั่นมันใช่สิ่งที่เหมาะสมรึ

แต่จวินอู๋เสียไม่คิดสักนิดว่าสิ่งที่นางทำลงไปนั้นมันไม่เหมาะสม

“มั่วเฉี่ยนยวนไม่หรอกเจ้าค่ะ แต่ฉินอวี่เยียนจะตายในอีกสองสามวันนี้แหละ” จวินอู๋เสียกล่าว

“…” จวินชิงยกมือขึ้นทาบอก รู้สึกยอมแพ้กับหลานสาวตัวน้อยของเขาแล้วจริงๆ

“เจ้าคิดจะเก็บฉินอวี่เยียนไปจนถึงเมื่อไหร่เหรอ ท้องพระโรงให้ปิดแบบนั้นตลอดคงก็ไม่ได้กระมัง”

“ข้าจะให้ไป๋อวิ๋นเซียนจับนางโยนไปที่คุกหลวงใต้ดินวันนี้แหละเจ้าค่ะ” อย่างไรเสียอดีตฮ่องเต้ยังอยู่ในนั้ มีสหายใหม่เข้าไปเพิ่มอีกคน บรรยากาศจะได้คึกคักขึ้น

หลังจากดื่มชาเสร็จ จวินอู๋เสียก็เปิดใจแล้วเริ่มพูดคุยกับท่านอาเล็กและท่านปู่ของนางอย่างจริงจัง

“ฉินอวี่เยียนช้าเร็วอย่างไรก็ต้องตาย พวกท่านอย่าได้เป็นกังวลกับคนที่ตายไปแล้วอย่างนางเลย ข้ามีสิ่งหนึ่งอยากจะปรึกษาท่านปู่กับท่านอาเล็กเจ้าค่ะ”

จวินเสี่ยนกับจวินชิงมองหน้ากัน รอฟังจวินอู๋เสียอย่างเงียบๆ

“ข้าวางแผนว่าจะออกเดินทางไปยังสำนักชิงอวิ๋นเจ้าค่ะ” จวินอู๋เสียเปิดปากก็พูดในสิ่งที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงออกมา

“อะไรนะ!”

“เหลวไหล!”

เมื่อเห็นการแสดงออกที่ไม่เห็นด้วยชัดเจนของญาติสนิททั้งสอง จวินอู๋เสียก็ขยับมุมปาก ขบคิดว่าจะอธิบายจุดประสงค์ของการเดินทางไปยังสำนักชิงอวิ๋นครั้งนี้ให้พวกเขาฟังว่าอย่างไรดี

สำนักชิงอวิ๋นทำเรื่องพวกนั้นกับสกุลจวินของนาง จวินอู๋เสียจะลืมมันลงได้อย่างไรกัน แม้ว่ากลุ่มศิษย์ที่มาเยือนรัฐชีในครั้งนี้จะถูกฆ่าตายจนหมดแล้ว แต่ผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลังก็ยังคงอยู่สุขสบายดีในสำนักชิงอวิ๋น หากท่านเจ้าสำนักชิงอวิ๋นรู้ว่าบุตรสาวของตัวเอง ผู้อาวุโสของสำนัก และเหล่าศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นถูกฆ่าตายจนหมดแล้วล่ะก็ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าสำนักชิงอวิ๋นจะต้องเปิดศึกกับสกุลจวินอย่างแน่นอน และถ้าเป็นเช่นนั้นพวกเขาก็ยากที่จะยืนหยัดและต่อกรกับขุมกำลังที่มากมายมหาศาลเช่นนี้ได้

ลงมือก่อนได้เปรียบ ลงมือทีหลังเสียเปรียบ จวินอู๋เสียไม่มีทางย่ำไปบนเส้นทางเดียวกันกับมั่วเฉี่ยนยวนแน่

นอกจากนี้จวินอู๋เสียยังมีอีกจุดประสงค์หนึ่งที่ต้องไปเยือนสำนักชิงอวิ๋น

นั่นก็คือเรื่องของหยกสงบวิญญาณ!

เห็นได้ชัดว่าสำนักชิงอวิ๋นมีทรัพยากรมากมายอยู่ในมือ แต่พวกเขาก็ยังพยายามเป็นอย่างมากเพื่อจะได้หยกสงบวิญญาณไปครอบครอง มิหนำซ้ำยังระดมคนจำนวนมากมาเพื่อเอาหยกวิญญาณเพียงสองชิ้นจากดินแดนไกลปืนเที่ยงเช่นนี้ มันย่อมต้องมีเหตุผลของมัน นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่นางจะไปเยือนที่นั่นให้ได้ เจ้าดอกบัวขาวน้อยเคยบอกกับนางว่าหยกวิญญาณหรือหยกสงบวิญญาณนั้นเป็นของหายาก เป็นหนึ่งในเจ็ดสมบัติวิเศษจากโลกภูติวิญญาณ ไม่แน่นางอาจจะหาข้อมูลใดๆ เพิ่มเติมจากที่สำนักชิงอวิ๋นได้ นางรู้ว่าหยกสงบวิญญาณจากโลกภูติวิญญาณ อาจจะทำให้ท่านพ่อของนางฟื้นกลับมามีชีวิตได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนี่เป็นความเสี่ยงที่คุ้มค่าจะลองดู

เพียงแต่นางไม่ได้บอกเหตุอย่างหลังแก่สองพ่อลูกสกุลจวินรับรู้ เพราะนี่อาจเป็นเพียงแค่การคาดเดาของนางเองก็เป็นได้ นางไม่อยากให้พวกเขาผิดหวังและตั้งความหวังไว้กับเรื่องนี้

จวินอู๋เสียจึงปกปิดเหตุผลนี้เอาไว้และบอกเพียงแต่ว่านางต้องไปจัดการศัตรูให้กับพวกเขา

แต่สองพ่อลูกสกุลจวินกลับคิดในใจว่าสำนักชิงอวิ๋นคือสถานที่ใดกัน…พวกเขาคือสำนักอันดับหนึ่งในใต้หลัา!

แล้วเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างนาง คิดว่าจะสามารถล้มล้างสำนักอันดับหนึ่งนั้นให้หายไปจากแผ่นดินได้หรืออย่างไร!

ตอนที่ 248 แผนการของจวินอู๋เสีย (2)

แต่หลังจากลองพิจารณาดูอย่างถี่ถ้วนแล้ว ความคิดของจวินอู๋เสียก็ไม่ผิด พวกเขาฆ่าคนของสำนักชิงอวิ๋นไปมากมายในวันนี้ แถมหนึ่งในนั้นยังเป็นบุตรีแท้ๆ ของเจ้าสำนักชิงอวิ๋นด้วย หากเขารู้ไม่สำนักชิงอวิ๋นก็รัฐชีคงได้ตายกันไปข้างหนึ่ง

ขืนรอจนกว่าสำนักชิงอวิ๋นได้สติขึ้นมาแล้วเอาคืนรัฐชี ถึงเวลานั้นสถานการณ์ทางฝั่งของพวกเขาก็ตกอยู่ในอันตรายแล้ว!

สำนักชิงอวิ๋นไม่เพียงแต่มีความแข็งแกร่งในตัวของมันเอง แต่พวกเขายังมีขุมอำนาจใหญ่และเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งมากมายคอยหนุนหลัง ถ้าหากว่าสำนักชิงอวิ๋นระดมคนเหล่านั้นมาทั้งหมด ต่อให้มีรัฐชีเป็นสิบๆ รัฐ ก็ไม่พอให้พวกเขาบดขยี้

“อู๋เสีย ข้ารู้ว่าเจ้ามีความสามารถมาก แต่การเดินทางไปที่สำนักชิงอวิ๋นเพียงลำพังนั้นมันก็ยังเสี่ยงเกินไป” จวินเสี่ยนถอนหายใจหนัก คลื่นแต่ละลูกประดังเข้ามาไม่หยุด ไม่มีเวลาให้พักหายใจเลย

“ท่านปู่วางใจเถิดเจ้าค่ะ ข้าย่อมมีวิธีของตัวเอง ข้าจะไม่เผชิญหน้ากับพวกเขาตรงๆ หรอก อีกอย่างไม่ใช่ว่ายังมีท่านอาจารย์ของข้าเดินทางไปกับข้าด้วยเหรอเจ้าคะ เขาต้องช่วยข้าอย่างแน่นอน” จวินอู๋เสียไม่มีทางเลือกอื่น จึงได้ยกชื่อปรมาจารย์ผู้ลึกลับที่นางอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อหลอกพวกเขา สีหน้าของจวินเสี่ยนจึงดีขึ้นบ้าง

“อีกอย่าง ด้วยสถานการณ์ของพวกเราในตอนนี้ก็ไม่มีทางเลือกแล้ว ไม่ช้าก็เร็วสำนักชิงอวิ๋นจะต้องสืบพบอย่างแน่นอน เมื่อเทียบกับการถูกบังคับให้หนีหัวซุกหัวซุน ข้าเลือกชิงลงมือก่อนจะดีกว่า เล่นงานให้พวกมันตอบโต้กลับไม่ทันไปเลย”

“อู๋เสีย เรื่องนี้ใหญ่หลวงนัก หากว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเจ้า เจ้าห้ามปิดบังพวกเราเป็นอันขาดสัญญาได้หรือไม่” จวินชิงเน้นย้ำด้วยความเป็นห่วง

จวินเสี่ยนพยักหน้าตอบรับ

การเดินทางไปยังสำนักชิงอวิ๋นนั้นจะต้องใช้เวลาเดินทางแรมเดือน ไปกลับก็ไม่ใช่เวลาน้อยๆ นางจะต้องหายไปไม่ได้เห็นหน้ากันหลายเดือน ในสายตาของท่านปู่และท่านอาเล็กของนางนั้นยากที่จะทำใจได้ อย่างไรก็ตามการยกชื่อท่านอาจารย์ปรมาจารย์ผู้ลึกลับขึ้นมาอ้างก็ทำให้พวกเขาวางใจลงได้บ้างจริงๆ

ในบ่ายวันนั้น จวินอู๋เสียเดินทางเข้าวังหลวง ฉินอวี่เยียนถูกลากเข้ามาในท้องพระโรงด้วยสภาพกึ่งมีสติ ดวงตาที่เคยงดงามมีเสน่ห์ของนางยามนี้กลวงโบ๋และดูเลื่อนลอย ร่างของนางชักกระตุกไม่หยุด

ไป๋อวิ๋นเซียนเมื่อเห็นจวินอู๋เสียเข้ามา นางก็รีบหลบไปอีกฟากหนึ่งของท้องพระโรงอย่างสงบเสงี่ยม มองดูทหารองครักษ์ลากตัวฉินอวี่เยียนในสภาพหมดสติออกไป กลุ่มนางกำนัลและขันทีก็รีบเข้ามาทำความสะอาดท้องพระโรง ของเหลวสีแดงและน้ำเหลืองที่กระจัดกระจายตามพื้นทำเอาพวกเขาแทบขย้อน กระนั้นทุกคนก็ยังคงขะมักเขม้น เช็ดถูท้องพระโรงจนสะอาดเอี่ยมไม่เหลือร่องรอยให้เห็นเลยสักจุด

“ตามข้ามา” จวินอู๋เสียมองไปที่ไป๋อวิ๋นเซียนแล้วบอกให้นางตามตัวเองไปที่ตำหนักหลินยวน

ก่อนหน้านี้มั่วเฉี่ยนยวนได้ให้มั่วเซวี่ยนเฝ่ย ‘ยืม’ ใช้ตำหนักหลินยวนแห่งนี้เป็น ‘ที่พักได้ชั่วคราว’ ตอนนี้มั่วเซวี่ยนเฝ่ยตายไปแล้ว ความเงียบสงบจึงกลับสู่สถานที่นี้อีกครั้ง

ไป๋อวิ๋นเซียนเดินก้มหน้าตามหลังจวินอู๋เสียไปอย่างเงียบๆ ตลอดทาง ไม่กล้าพูดอะไรสักคำ

จวินอู๋เสียนั่งลงในห้อง มองไป๋อวิ๋นเซียนที่เป็นกังวลและพูดว่า “ข้าต้องการข้อมูลทุกอย่างที่เจ้ารู้เกี่ยวกับสำนักชิงอวิ๋น”

ไป๋อวิ๋นเซียนเงยหน้าขึ้น มองไปที่จวินอู๋เสียด้วยความประหลาดใจ

แม้ว่าจวินอู๋เสียจะไม่ได้พูดอะไร แต่นางก็พอเดาเจตนาของจวินอู๋เสียได้

เด็กสาวที่ลงมือได้อย่างไร้ช่องโหว่คนนี้ ก่อนที่สำนักชิงอวิ๋นจะมาเยือนรัฐชี นางคงวางแผนกวาดล้างสำนักชิงอวิ๋นไว้ล่วงหน้าแล้วกระมัง!

นางรู้ว่าสำนักชิงอวิ๋นจะไม่ปล่อยนางไป ดังนั้นนางจึงวางแผนชิงลงมือก่อนอย่างนั้นหรือ!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ไป๋อวิ๋นเซียนก็อดไม่สบายใจไม่ได้ นางต้องกินยาชะลอพิษทุกๆ สามเดือน ถ้าหากว่าจวินอู๋เสียไปสำนักชิงอวิ๋นแล้วนางจะทำอย่างไรเล่า

“นี่คือเม็ดยาชะลอพิษในส่วนของครึ่งปี ข้าจะให้มันไว้กับท่านอาเล็กของข้า หลังจากที่ข้าจากไปแล้ว เขาจะส่งเม็ดยาให้กับเจ้าทุกๆ สามวัน ในช่วงที่ข้าไม่อยู่ เจ้าต้องอยู่แต่ในวังหลวงเท่านั้น” เหมือนกับจะอ่านความคิดของไป๋อวิ๋นเซียนออก จวินอู๋เสียหยิบขวดกระเบื้องสีขาวออกมาเปิดฝาอย่างช้าๆ กลิ่นยาหอมหวนสายหนึ่งก็กระจายออกไปทันที