บทที่ 232 กับดัก
บทที่ 232 กับดัก
ฉู่เหินเจอเรื่องมากมายระหว่างเดินทาง หลังจากถูกไล่ล่าต่อมาเขาต้องหนีไปพักฟื้นจนไม่มีเวลาที่จะสนใจโทรศัพท์เลยแม้แต่น้อย มาวันนี้จู่ๆ ฉู่เหินก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเพื่อรายงานความปลอดภัยของเขาให้พี่สะใภ้กับพี่ชายและโทรไปหาเสี่ยวชิง หลังจากที่ไม่ได้การติดต่อกันมาครึ่งเดือน เขาก็กลัวว่าครอบครัวจะเป็นห่วงเขา
โทรศัพท์ปิดเครื่องมาโดยตลอด ทันทีที่เขาเปิดโทรศัพท์ขึ้นข้อความวีแชท ก็เด้งอย่างต่อเนื่อง มันเยอะมากจนฉู่เหินคิดว่าโทรศัพท์ของเขากำลังจะระเบิด ผ่านไปกว่าสิบนาทีในที่สุดเสียงแจ้งเตือนก็หยุดลง
จากนั้นฉู่เหินก็หาสถานที่ที่ค่อนข้างเรียบนั่งลง เขาเริ่มอ่านข้อความอย่างระมัดระวัง ข้อความแรกมาจากยัยเด็กโม่เจียว เด็กหญิงตัวน้อยถามว่าเขาอยู่ที่ไหนและบอกว่าเธอจะไปเทียนซานกับฉู่เหิน อีกทั้งยังบอกฉู่เหินว่าถ้าเขากล้าหนีเธอ เธอจะไม่มีวันยกโทษให้เขาแน่
เมื่อเห็นข้อความนั้นฉู่เหินก็ขี้เกียจจะสนใจเด็กผู้หญิงคนนี้ เขาตอบกลับเธอไปสั้นๆ ตามมารยาทเท่านั้น จากนั้นก็เริ่มดูข้อความของพี่สะใภ้ พวกเขาติดต่อฉู่เหินไม่ได้มาครึ่งเดือนทำให้พวกเขาเริ่มเป็นห่วงฉู่เหินมาก
เพื่อไม่ให้พวกเขาเป็นห่วงเกินไปฉู่เหินเลยโทรกลับ พวกเขาพูดคุยกันสักพักก่อนที่จะวางสายไป
พี่ชายของเขาบอกให้เขากลับมาก่อน 15 สิงหาคม เพราะว่าจะมีการแข่งขันระหว่างหมู่บ้านใกล้เคียง ดังนั้นเขาจึงหวังว่าฉู่เหินจะมาร่วมงานกับพวกเขา ฉู่เหินเองก็เห็นด้วยแต่ 15 สิงหาคม ก็เหลือเวลาอีกแค่ครึ่งเดือนเท่านั้น เขาคิดว่าถ้าเร่งเดินทางตอนนี้ก็น่าจะกลับไปทันงานแข่งพอดี
หลังจากนั้นผู้อาวุโสจางของตระกูลซ่างกวนส่งข้อความมากมายมาหาเขา ทว่าหลังจากฉู่เหินโทรตอบกลับไปพูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง ใบหน้าของฉู่เหินก็จริงจังขึ้นมาจากการพูดคุยกับตระกูลซ่างกวนและผู้อาวุโสจาง พวกเขาพบว่ามีกองกำลังกลุ่มหนึ่งที่สงสัยว่าถูกสร้างขึ้นโดยซอมบี้ที่พวกเขาเคยเจอครั้งก่อน
เพียงแต่ว่ากองกำลังนี้มันซ่อนตัวจนพวกเขาไม่สามารถหาตัวได้เจอ นอกจากนั้นผู้อาวุโสจางก็เตรียมให้ฉู่เหินกลับมาแลกเปลี่ยนสินค้าจากทะเล สินค้าจะถูกบางส่วนมาขายโดยรัฐบาล เพื่อทำเงินจำนวนมาก ด้วยวิธีนี้มันเป็นผลดีต่อความเป็นอยู่ของประชาชน
แต่ในขณะที่พูดคุยกับฉู่เหิน ผู้อาวุโสจางบอกกับฉู่เหินว่ามีกลุ่มโจรปรากฏตัวขึ้นในท้องทะเลเมื่อเร็วๆ นี้ โจรกลุ่มนี้ไปมาอย่างไร้ร่องรอย แม้จะใช้การค้นหาดาวเทียมระยะไกล ก็ไม่พบร่องรอยอะไรเลย ดังนั้นพวกเขาจึงหวังว่าฉู่เหินจะกลับมาโดยเร็วที่สุด เพื่อคลี่คลายปัญหานี้ ซึ่งเหตุผลว่าทำไมต้องเป็นฉู่เหินก็เพราะว่าพวกเขาไม่มีความรู้เรื่องท้องทะเลเลยแม้แต่น้อย
สิ่งที่ทำให้ฉู่เหินเป็นกังวลก็คือข้อความของโป๋อีกู่และโจวหู่ ว่ากันว่าในช่วงเวลานี้มีขุมอำนาจลึกลับ หมายหัวคนในครอบครัวของฉู่เหิน ฉู่เหินไม่พูดอะไรมากเขาส่งข้อความไปหาหวงลี่ลี่ เธอบอกว่านกขมิ้นของเธอถูกคนนับสิบทำลาย เช่นเดียวกับโจวหู่ที่อาศัยอยู่ในบ้านของฉู่เหินก็ถูกใครก็ไม่รู้บุกเข้ามาทำร้าย แต่ว่าในบ้านมีโป๋อีกู่อยู่พวกมันจึงต้องกลับไปมือเปล่า
ข่าวดีก็คือโรงงานอาหารของพี่รองนั้นในเบื้องต้นสร้างเสร็จแล้ว สามารถดำเนินการผลิตได้ตลอดเวลา ควบคู่ไปกับการโฆษณาและโปรโมตด้วยวิธีต่างๆเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นวงกว้าง แม้ว่าสินค้าจะยังไม่ได้ผลิต แต่ก็ขายแฟรนไชส์ได้เยอะทีเดียว ข่าวนี้ถือว่าเป็นข่าวที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้
นอกจากนี้โป๋อีกู่ดูเหมือนจะมีเรื่องให้คิดมาก เมื่อพูดคุยกับฉู่เหิน ฉู่เหินถามอยู่สักพักถึงได้รู้ว่าเพราะในบ้านมีปีศาจน้อยที่ร้ายกาจอยู่นั่นเอง
ปีศาจน้อยนั้นก็ตือตงโกวจีหยาง เขามีความสามารถพิเศษ ตำราที่ฉู่เหินเคยให้อีกฝ่ายเอาไว้ ตอนนี้เด็กน้อยสามารถจำทุกอย่างได้หมดแล้ว เดิมทีความสามารถด้านการเกษตรของเด็กคนนี้ก็ไม่ธรรมดาอยู่แล้วพอฉู่เหินให้ม้วนยาตันฉูไปเด็กน้อยก็กลายเป็นปีศาจน้อยที่เก่งกาจขึ้นมา
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเข้าใจเนื้อหาการปรุงยา โดยเฉพาะเจ้าตัวน้อยที่ไม่เคยได้รับคำแนะนำจากอาจารย์มาก่อนการที่เด็กน้อยคนนี้เข้าใจเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก มีคืนหนึ่งขณะที่ชาวบ้านชาวช่องกำลังนอนหลับ จู่ๆ พวกเขาก็ได้ยินเสียงระเบิดราวกับแผ่นดินไหว ในตอนแรกทุกคนก็ต่างตื่นตกใจ แต่ต่อมาพวกเขาก็เริ่มรู้แล้วว่า ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือเจ้าตัวน้อย
ถ้าแค่นั้นก็แล้วไปเถอะ แต่มีอยู่วันหนึ่งยาที่เด็กน้อยเป็นคนปรุงอยู่ๆ ก็ส่งควันดำหนาออกมา ปกคลุมไปทั่วหมู่บ้าน ทั้งยังมีกลิ่นเหม็นจากควันสีดำนั่นอีกด้วย ต้องใช้เวลาถึงหนึ่งวันเต็มกว่ากลิ่นจะจางหายไป
ในสายตาของคนในหมูบ้านเจ้าเด็กนี้ก็คือปีศาจตัวน้อยตนหนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่ปากของเจ้าเด็กนี้ก็หวานไม่ใช่น้อย เพราะทุกครั้งที่เขาสร้างปัญหาเขาก็มักจะออกไปขอโทษเพื่อนบ้านทุกคน แล้วอย่างนี้ชาวบ้านจะกล้าถือสาเด็กน้อยได้ยังไง พวกเขาได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนต่อไปเท่านั้น!
เมื่อฉู่เหินได้ยินเรื่องนี้มุมปากของเขาก็กระตุกไม่หยุด เขารู้สึกว่ามีเส้นสีดำพาดอยู่บนหน้าผาก ทว่าเรื่องนี้มีแต่ต้องกลับไปจัดการเท่านั้น เครียดไปก็ไม่มีประโยชน์ เมื่อสรุปได้ดังนั้น ฉู่เหินก็ตัดสินใจโทรหาเสี่ยวชิงต่อทันที
“พี่เฉิน ในที่สุดพี่ก็รับโทรศัพท์เสียที พี่คะ มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแล้ว!” เสี่ยวชิงพูดอย่างร้อนใจกับฉู่เหินทันทีที่รับโทรศัพท์
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ ฉู่เหินก็งุนงง ยังไม่ทันถามอะไรอีกฝ่ายก็โพล่งพูดออกมาเสียก่อนนี้ มีอะไรที่เขาไม่รู้เหรอ? เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เขาก็รีบถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“พี่เฉินค่ะ พี่เฉินเจียนเกิดเรื่องแล้ว ตอนฉันเตรียมตัวสอบเมื่อครึ่งเดือนก่อน พี่เฉินเจียนส่งข้อความมาให้ฉัน แต่เพราะฉันปิดเครื่องอยู่เลยไม่ได้ดู จนหลังจากจสอบเสร็จ ฉันถึงได้รู้ว่าพี่เฉินเจียนส่งข้อความหาฉัน แต่ว่าฉันโทรไปยังไงก็โทรไม่ติดเลย!” หญิงสาวพูดด้วยความร้อนรน
“ไม่ต้องห่วงนะๆ ฉันรู้เรื่องของเฉินเจียนแล้ว ตอนนี้ฉันกำลังหาทางช่วยเธออยู่ ไม่ต้องห่วง!” ฉู่เหินรีบพูดปลอบใจ
“พี่เหิน พี่ฟังฉันนะไม่ว่ายังไงพี่ก็ห้ามไปช่วยเธอเด็ดขาด”
ฉู่เหินอดคิ้วขมวดไม่ได้ ในความรู้สึกของเขาเสี่ยวชิงไม่น่าใช่คนที่จะพูดอะไรแบบนี้ เขารู้ว่าเสี่ยวชิงเป็นคนใจดีและมีน้ำใจเสมอ หากเธอได้ยินว่าเฉินเจียนเป็นอันตราย ตามนิสัยปกติของเธอ เธอจะต้องรีบเข้าไปช่วยทันที แต่ทำไมตอนนี้เธอถึงได้ห้ามเขากันนะ
“พี่เหิน เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาพี่เฉินเจียนโทรมาหาฉันอีกครั้ง เธอบอกบางอย่างกับฉัน เธอรู้สึกว่ามีคนจงใจเล็งเป้าไปที่พี่ พี่เฉินเจียนบอกฉันว่าตอนนี้เธออยู่ต่างประเทศ มีคนตั้งใจล่อพี่ไปที่เทือกเขาเทียนซาน และซุ่มโจมตีพี่ที่นั่นเพื่อรอให้พี่เข้าไปติดกับ”
เสี่ยวชิงเล่าข้อมูลที่เธอรู้ออกมาสั้นๆ เมื่อฉู่เหินได้ยินก็ตกใจมากเขาลอง คิดย้อนกลับไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ถ้าบอกว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญตีให้ตายเขาก็ไม่เชื่อ
ที่สำคัญที่สุดก็คือในตอนแรกเขาคิดว่าคนเหล่านี้เป็นพวกเม่ยซานเหนียงแต่หลังจากนั้นเขาก็พบว่าคนเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเม่ยซานเหนียงเลย แต่ถึงอย่างนั้นฉู่เหินก็ยังไม่ได้สงสัยอะไร เขาคิดว่าคงเป็นนักฆ่าที่เม่ยซานเหนียงจ้างมาฆ่าเขาก็เท่านั้น
แต่หลังจากได้ยินคำพูดของเสี่ยวชิงแล้วจู่ๆ เขาก็ตาสว่างเขาคิดถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น นั่นก็คือซอมบี้ในวันนั้น หลอกให้เขาคิดว่าเป็นพรรคพวกของเม่ยซานเหนียง มันเป็นแผนซ้อนแผนเพื่อล่อให้เขามาติดกับ
“เสี่ยวชิง เฉินเจียนบอกไหมว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน สรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้น?” หลังจากคิดไปพักหนึ่งแล้วฉู่เหินก็คิดว่า กุญแจสำคัญของเรื่องนี้ก็คือเฉินเจียน!