ตอนที่ 31-1 ไปตามคนมาช่วย

เมื่อตั้งสติได้เเล้ว ไป๋จือจึงหันไปมองหลี่เว่ยหยางด้วยความตื่นเต้น:

“คุณหนูมันเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร?”

หลี่เว่ยหยางตอบอย่างรวบรัด:

“มีบางคนต้องการทำลายข้า!”

ขณะนี้ฝนที่เทลงมาเมื่อครู่ได้หยุดตกแล้ว หลี่เว่ยหยางมองไปยังสายรุ้งที่ขอบฟ้า

ตอนนี้สาวใช้คนสนิทของนางกำลังอยู่ในท่าหดตัว และได้ยินเสียงทุ้มต่ำของนายหญิงกล่าวว่า:

“หากลงมือฆ่าเขาในตอนนี้ มันคงจะทำให้ข้ามีความสุขมาก แต่น่าเสียดายที่เขายังใช้ประโยชน์ได้อยู่

หรืออาจกล่าวได้ว่า สำหรับคนชั่วร้ายที่ต้องการทำให้ชื่อเสียงของผู้อื่นเสื่อมเสียเหล่านี้

การถูกแทงด้วยมีดพันเล่มนั้น นับว่ายังมิเพียงพอที่จะระงับความโกรธแค้นของข้าได้”

ไป๋จื่อยืนนิ่งด้วยอาการใจสั่น

หลี่เว่ยหยางเหลือบมองไปยังสาวใช้ผู้นี้ ขณะที่หัวเราะและกล่าวว่า:

“ไปกันเถิด…”

เนื่องจากฝนหยุดตกไปได้มินานแสงอาทิตย์จึงสะท้อนกับน้ำฝนบนพื้นที่เปียก

และเมื่อเท้าทั้งสองข้างแตะลงไปบนพื้น จึงมิสามารถหลีกเลี่ยงมิให้ชุดเปียกได้

เมื่อเห็นแม่นมจางยืนเฝ้าประตูและเว่ยหยางกำลังเน้นย้ำซ้ำ ๆ ในสิ่งที่แม่นมกล่าวอีกครั้ง:

“ฮูหยินใหญ่สั่งให้ปิดประตูตำหนักหยวนซีของเราเช่นนั้นหรือ?”

แม่นมจางที่ยืนเฝ้าประตูกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาตามเดิม:

“ฮูหยินใหญ่ได้ส่งคนมาที่นี่เพราะ คุณชายเกาจินถูกรุมทำร้าย และมิมีผู้ใดที่ได้รับอนุญาตให้ออกจากตำหนักหยวนซีแห่งนี้”

หลี่เว่ยหยางมองบนพรัอม กับเบ้ปาก และกล่าวว่า

“ข้าอยู่ในตำหนักมาทั้งวัน มิเห็นว่าจะมีผู้ใดที่น่าสงสัยเลย”

รอยย่นบนใบหน้าของแม่นมจางนั้นลึกมาก จนรอยยิ้มของนางนั้นเผยให้เห็นถึงเจตนาร้าย

“ข้าต้องขอโทษคุณหนูสามด้วย ผู้ใดเป็นผู้บงการเรื่องนี้ รออีกเพียงครู่เดียว ฮูหยินใหญ่จะเป็นผู้มาตัดสินเอง”

หลี่เว่ยหยางยิ้มอย่างเย็นชา เพราะได้คาดเอาไว้แล้วว่า

คู่ต่อสู้ของนางจะใช้กลวิธีนี้ คือการกักขังทุกคนเอาไว้ในตำหนักหยวนซี แล้วจะลงโทษทีละคน

เว่ยหยางเม้มริมฝีปากของตนเองและกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า:

“ข้าจะไปตำหนักเหอเซียงหยวนเจ้ากำลังจะกีดกันมิให้ข้าไปเยี่ยมท่านย่าหรือ?”

แม่นมจางหัวเราะออกมาเบา ๆ :

“คุณหนูสาม…ตอนนี้…ข้าเกรงว่าท่านคงไปหาผู้อาวุโสหลี่มิได้”

หลี่เว่ยหยางแสดงรอยยิ้มเล็กน้อย ขณะที่ซ่อนความหวังอันขมขื่นเอาไว้ในดวงตาของตนเอง

เป็นเพราะฮูหยินใหญ่มิยอมปล่อยให้ไป นางจึงพยายามคิดหาวิธีอื่น!

และนึกขึ้นได้ว่า จื่อเหยียนและโม่ฉูกำลังเดินตามหลังมา ดังนั้นจึงกระซิบไป๋จื่ิอให้ไปสั่งสองคนนั้นว่า

ให้ผู้หนึ่งไปตามบิดาของเว่ยหยางที่หัองหนังสือในตำหนักใหญ่

และอีกผู้หนึ่งรีบไปขอความช่วยเหลือจากท่านย่าที่ตำหนักเหอเซียงหยวน

ฮูหยินใหญ่ต้องคิดว่า เว่ยหยางเป็นผู้ที่โง่เขลา และคงจะทำเพียงแค่นั่งรอการลงโทษของนางอยู่ที่นี่?

“คุณหนูสามโปรดอย่าได้คิดที่จะฝ่าฝืนคำสั่งเลย!”

แม่นมจางได้โบกมือเรียกผู้ใดบางคนให้เข้ามาหานาง

จากนั้นได้มีแม่นมที่รูปร่างใหญ่สองสามคนเดินเข้ามาเพื่อจับตัวของหลี่เว่ยหยางเอาไว้

หลี่เว่ยหยางก้มหน้าและตะคอกเสียงดังว่า:

“หยุด! ข้าเป็นถึงคุณหนูสามของบ้านตระกูลหลี่ เหตุใดพวกเจ้าจึงกล้าทำกับข้าเช่นนี้?

มิต้องกล่าวถึงว่า ความจริงจะเป็นเช่นไร เพราะถึงอย่างไรพวกเจ้าก็มิมิสิทธ์ที่จะมาทำเช่นนี้กับข้าอยู่ดี!

รีบไปเรียกท่านแม่ แล้วเชิญนางมาสอบปากคำข้าด้วยตนเอง!”

ไป๋จื่อมีความเฉลียวฉลาดมาก ดังนั้นนางจึงรีบเตือนแม่นมที่กำลังยืนอยู่ด้านหลังพวกนางในทันที:

“หากคุณหนูสามได้รับบาดเจ็บ และผู้อาวุโสหลี่ทราบเรื่องเข้า พวกเจ้าทุกคนจะต้องระวังตัวเอาไว้ให้ดี ๆ !”

ทุกคนต่างก็จ้องหน้ากันอย่างว่างเปล่า

และอดมิได้ที่จะรู้สึกถึงแรงกระตุ้นที่จะปกป้องหลี่เว่ยหยางแทน เพื่อป้องกันมิให้นางได้รับบาดเจ็บ

แม่นมจางคิดว่า ทำเช่นนี้เท่ากับเป็นการขัดคำสั่งของฮูหยินใหญ่ เพราะนางสั่งเอาไว้ว่า ให้จับตัวคุณหนูสามมัดเอาไว้

แต่ตอนนี้คุณหนูสามเป็นนายหญิงของตำหนักหยวนซี

ผู้คนทั้งหมดนี้เป็นเพียงคนรับใช้จึงมิกล้าที่จะทำให้นายหญิงขุ่นเคือง

คิ้วของแม่นมจางขมวดมุ่น ขณะที่นางครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะกล่าวพร้อมกับยิ้มว่า :

“บ่าวทำตามคำสั่งของฮูหยินใหญ่เท่านั้น…“

หลี่เว่ยหยางกล่าวออกมาอย่างแผ่วเบาว่า

“แม่นมมิใช่ผู้ที่ไร้เหตุผล และคงจะเข้าใจดีถึงความสำคัญของสถานะ!

ต้องเป็นพวกเจ้าที่ประพฤติตัวมิสมเหตุสมผล! ออกไป!”

ด้วยถ้อยคำที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังเช่นนี้ หน้าผากของแม่นมจางจึงชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ:

“คุณหนูสาม บ่าวทำอันใดมิได้จริง ๆ บ่าวขอร้องให้คุณหนูสามได้โปรดเขัาใจด้วย…”

เมื่อเห็นนางมิมีท่าทีที่จะถอยออกไป หลี่เว่ยหยางจึงกล่าวออกมาอย่างเย็นชาว่า:

“เช่นนั้นก็มิเป็นไร ข้าจะรออยู่ตรงนี้เจ้าไปเอาชาร้อน เสื้อคลุม และเบาะรองนั่งมาให้ข้า

เมื่อท่านแม่มาถึง ข้าจะเป็นผู้อธิบายให้นางฟังเอง!”

การแสดงออกของคุณหนูสามนั้นมิได้เผยให้เห็นถึงความวิตกกังวลแต่อย่างใด

มิมีแม้แต่ความตื่นตระหนกในเรื่องที่กำลังจะถูกสอบสวนด้วยซ้ำ

แม่นมจางกล่าวอยู่เป็นเวลานาน แต่ท้ายสุดนางก็รู้สึกได้ถึงหลักของเหตุผล

จึงสั่งให้คนของนางไปเตรียมของ ทั้งหมดที่เว่ยหยางต้องการ

มินานนัก ทุกอย่างก็ได้ถูกนำมาวางเอาไว้ข้างหน้า และไป๋จื่อได้พาดเสื้อคลุมเอาไว้ที่ม้านั่งหิน