บทที่ 160 คุณแน่ใจเหรอว่าไม่ได้ล้อเล่น

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า

บทที่ 160 คุณแน่ใจเหรอว่าไม่ได้ล้อเล่น?

บทที่ 160 คุณแน่ใจเหรอว่าไม่ได้ล้อเล่น?

“เกิดอะไรขึ้น?”

โจวอี้วางกล่องอาหารลง ก่อนจะลุกขึ้นและเดินตามจินหมิงไป

เขาเป็นเพียงตัวประกอบเท่านั้น หากมีอะไรเกิดขึ้นกับการถ่ายทำ จินหมิงในฐานะโปรดิวเซอร์ก็ไม่จำเป็นต้องมองหาเขาเลย แต่ตอนนี้เขาคิดว่าน่าจะเป็นเพราะมีใครกำลังป่วย

นั่นไง!

หลังจากฟังคำอธิบายของจินหมิง โจวอี้ก็ได้รู้ว่าหลิวเสวียนเสวี่ยน ซึ่งเป็นนักแสดงนำหญิงลำดับสองรู้สึกปวดท้องขึ้นมา เวลานี้เธอทนความเจ็บปวดไม่ไหวและต้องการให้เขาไปดูสถานการณ์

โจวอี้รู้ว่าหลิวเสวียนเสวี่ยนเป็นผู้หญิงที่มีอารมณ์เย็นชา

แม้ว่าเธอจะอายุ 25-26 ปี แต่เธอก็ยังดูสวยงามมากหากเทียบกับหลี่เป่าเอ๋อร์นักแสดงนำหลักลำดับหนึ่ง

ในไม่ช้าพวกเขาก็เข้าไปในอาคารฉากที่สร้างเลียนแบบอาคารยุคโบราณ

โจวอี้เห็นคนจำนวนมากมารวมตัวกัน เมื่อเขาแทรกตัวเข้าไป เขาเห็นหลิวเสวียนเสวี่ยนนั่งอยู่บนพื้น และกำลังมือกุมท้องของเธอด้วยความเจ็บปวด

“น้องโจว ช่วยดูที ผมอยากรู้ว่าเธอเป็นอะไร” ผู้กำกับถังจี้โจวกล่าวอย่างเร่งรีบ

“กระจายออกไปก่อน อย่ามุง!” โจวอี้นั่งยอง ๆ ลงที่ด้านข้างของหลิวเสวียนเสวี่ยน

“ทุกคนออกไป” ถังจี้โจวตะโกนทันที

ทันใดนั้นผู้คนที่รวมตัวกันข้างในก็เดินออกไปด้วยสีหน้าแปลก ๆ ก่อนจะไปหยุดยืนมุงกันที่หน้าประตูเพราะความอยากรู้อยากเห็น

“คุณล้อเล่น?”

“มันต้องเป็นเรื่องตลกแน่ ๆ!”

พวกเขาคิดกับตัวเอง

ทุกคนรู้จักโจวอี้และเชื่อว่าโจวอี้เป็นเพียงนักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ที่มารับบท ‘มารพิณหกนิ้ว’ เท่านั้น

พวกเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกที่ถังจี้โจวผู้กำกับชื่อดังกำลังให้นักแสดงตัวประกอบมารักษาคนป่วย

โจวอี้เอื้อมมือไปจับชีพจรของหลิวเสวียนเสวี่ยน และสังเกตการแสดงออกของเธอในเวลาเดียวกัน จากนั้นจึงยื่นมือไปกดกลางท้องและหน้าท้องทั้งสองข้างของเธอตามลำดับ

“มันเจ็บ…!”

เมื่อโจวอี้กดลงที่ด้านล่างขวาของช่องท้อง หลิวเสวียนเสวี่ยนก็ร้องออกมา

โจวอี้พยักหน้า หันมองไปที่ถังจี้โจวและพูดว่า “คุณถัง จาการวินิจฉัยของผม เธอมีอาการไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน และผมสามารถบรรเทาความเจ็บปวดของเธอได้ชั่วคราว ไม่สามารถรักษาที่นี่ได้ หลังจากนี้เธอต้องถูกส่งไปที่ โรงพยาบาลใกล้เคียงเพื่อผ่าตัดโดยด่วน”

“ไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน?” ทันใดนั้นใบหน้าของถังจี้โจวก็เปลี่ยนเป็นมืดหม่นลง

ในช่วงแรกของละครเรื่องนี้มีฉากของตัวเอกหญิงหมายเลขสองเกือบทุกวัน แต่หลิวเสวียนเสวี่ยนมีอาการไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลันในเวลานี้ เขาควรทำอย่างไรต่อไป?

หากขาดเธอ ทางกองละครต้องหยุดถ่ายทำเพื่อรอเธอหรือไม่?

“หมอโจว ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของเธอก่อน!” ถังจี้โจวกล่าวอย่างช่วยไม่ได้

“ได้!”

โจวอี้ขอให้หลิวเสวียนเสวี่ยนนอนลง จากนั้นก็หยิบเข็มเงินที่เขาพกติดตัวออกมาฆ่าเชื้อด้วยสำลีแอลกอฮอล์ และเริ่มแทงเข้าไปทีละจุดประมาณห้าหรือหกจุดเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของเธอ

“เอ๋? ก็ไม่เจ็บเท่าไหร่แล้ว”

ความเจ็บปวดของหลิวเสวียนเสวี่ยนพลันหายไป และแววตาของเธอก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ

ก่อนหน้านี้ที่ถังจี้โจวเรียกให้โจวอี้มาดูอาการ เธอรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ถ้าไม่ใช่เพราะความเจ็บปวดที่ช่องท้องด้านขวาล่างของเธอ เธออยากจะปฏิเสธออกไปตรง ๆ

แต่!

ตอนนี้อีกฝ่ายกลับสามารถใช้เข็มเงินบรรเทาความเจ็บปวดของเธอได้อย่างฉับพลัน นี่มันไม่เก่งเกินไปหน่อยเหรอ?

“ผมแค่ใช้เข็มเงินบรรเทาความเจ็บปวดของคุณชั่วคราว เนื่องจากอาการของคุณร้ายแรงมาก ดังนั้นคุณต้องเข้ารับการผ่าตัดทันที” โจวอี้พูด เขามองใบหน้าที่เปลี่ยนสีไปของอีกฝ่าย “อันที่จริง คุณน่าจะรู้สึกปวดท้องด้านขวาล่างมาก่อนแล้ว และพยายามอดทนมาถึงตอนนี้ใช่ไหม?”

“อืม” หลิวเสวียนเสวี่ยนพยักหน้า

เธอรู้สึกหดหู่ใจมาก ไม่สิ… เธอเสียใจต่างหาก

ถ้าไปโรงพยาบาลก่อนหน้านี้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เธออาจจะไม่ต้องถูกผ่าตัดเพื่อเอาไส้ติ่งออก

แต่ตอนนี้ เมื่อต้องได้รับการผ่าตัด บทบาทที่ได้รับในละครเรื่อง “Crossing the Jianghu” ก็จะหลุดจากเธอไป ทีมงานมากมายย่อมไม่สามารถรอเธอได้

ถังจี้โจวถอนหายใจ เขาตบไหล่หลิวเสวียนเสวี่ยนแล้วพูดว่า “รักษาตัวเองให้ดีก่อนเถอะ! ผมหวังว่าเราจะมีโอกาสร่วมงานกันอีกในอนาคต”

“อืม…”

หลิวเสวียนเสวี่ยนถอนหายใจ เธอฝืนยิ้มและพูดว่า “คุณถัง ฉันขอโทษ”

“ไม่เป็นไร สุขภาพสำคัญที่สุด” ถังจี้โจวยืนขึ้นและบอกกับโปรดิวเซอร์จินหมิงว่า “พาหลิวเสวียนเสวี่ยนไปโรงพยาบาล และขอให้โรงพยาบาลช่วยผ่าตัดโดยเร็วที่สุด”

“ตกลง” จินหมิงพยักหน้า

เมื่อหลิวเสวียนเสวี่ยนถูกส่งตัวออกไป ถังจี้โจวก็ถอนหายใจอย่างหนักหน่วงและมองไปที่เกาชง หลี่เป่าเอ๋อร์ และเจียงเสี่ยวฉวนซึ่งเป็นตัวเอกชายคนที่สอง

“คุณถัง คุณต้องการเปลี่ยนคนจริง ๆ เหรอ?” เกาชงถาม

“ก็คงต้องเปลี่ยน อย่างน้อยหนึ่งอาทิตย์หลังผ่าไส้ติ่ง ถ้าพักฟื้นไม่ดีอาจใช้เวลานานกว่านั้น ซึ่งเรารอไม่ไหวหรอก” ถังจี้โจวกล่าวด้วยอารมณ์ที่ทั้งดีและแย่ผสมกันไป เขารู้โล่งใจที่ว่าวันนี้เป็นวันแรกของการถ่ายทำ เพราะไม่งั้นหากหลิวเสวียนเสวี่ยนต้องเข้าโรงพยาบาลระหว่างการถ่ายทำไปไกลแล้ว แบบนั้นคงจะปวดหัวน่าดู!

“คุณมีตัวเลือกที่เหมาะสมอยู่ในใจไหม?” เกาชงถาม

“ในเวลาอันสั้นแบบนี้ ผมยังนึกไม่ออกเลย!” ถังจี้โจวหยิบบุหรี่ออกมาด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยวแล้วส่งให้เกาชงและโจวอี้ จากนั้นเขาก็ถามคนอื่น ๆ ว่า “คุณคนไหนที่มีเหมาะสมที่จะเล่นบทตัวเอกหญิงคนที่สอง แต่พวกคุณต้องแสดงภาพลักษณ์ที่เย็นชา เย่อหยิ่ง หรือแม้แต่โหดร้ายในบทตงฟางเฉียนเฉียนได้ด้วย มีไหม?”

หลายคนมองหน้ากันและไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร

ทว่าจู่ ๆ เกาชงก็พูดขึ้นว่า “ผมรู้จักผู้หญิงที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ซึ่งเธอมีภาพลักษณ์และนิสัยใจคอที่เหมาะสมกับบทตงฟางเฉียนเฉียน แต่…”

“แต่อะไร?” ถังจี้โจวถามขึ้นมาทันที เพราะเขาต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

“เธอไม่ใช่นักแสดง แต่เป็นนักร้อง” เกาชงตอบ

“ใครล่ะ?”

“ถังหว่าน!”

“แค่ก ๆ…”

โจวอี้ซึ่งกำลังสูบบุหรี่ถึงกับสำลักควันทันทีและไอออกมาหลายครั้ง

อาการของเขาดึงดูดสายตาที่สับสนของบางคน

“ไม่มีอะไร ผมสบายดี” โจวอี้โบกมือ

ถังจี้โจวไม่ได้มองไปที่โจวอี้อีกต่อไป แต่ขมวดคิ้วและพูดว่า “ครั้งหนึ่งผมเคยเห็นนักร้องหญิงถังหว่านคนนั้น เธอสวยมาก ภาพลักษณ์และบุคลิกของเธอเหมาะกับบทบาทของตงฟางเฉียนเฉียนจริง ๆ แต่ถ้าเธอไม่มีทักษะการแสดง การถ่ายทำจะลำบากมาก”

“เธอมีทักษะการแสดงนะ…”

เกาชงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วเปิด MV เพลงหนึ่งยื่นให้ถังจี้โจวดูแล้วพูดว่า “MV ที่เธอเคยร่วมถ่ายทำมีภาพลักษณ์เย็นชา และทักษะการแสดงของเธอก็ยอดเยี่ยม แม้ว่ามันจะไม่ดีเท่าพวกนักแสดงรุ่นเก๋า แต่ผมคิดว่าเธอสามารถรับมือกับบทบาทของตงฟางเฉียนเฉียนได้”

ถังจี้โจวยังไม่ได้ตอบอะไร แต่กำลังดูวิดีโออย่างเงียบ ๆ และเปิดวนดูอยู่หลายครั้ง

สุดท้ายเขาก็พยักหน้าช้า ๆ และพูดว่า “ค่อนข้างดี ผมจะติดต่อค่ายของถังหว่านด้วยตนเองหลังจากนี้ เพื่อดูว่ามีคิวว่างสำหรับถ่ายละครให้เราไหม”

แน่นอนว่าตอนนี้นั้นในหัวของโจวอี้ค่อนข้างปั่นป่วน

พวกคุณต้องการที่จะเชิญถังหว่านมาเล่นละครเรื่องนี้เนี่ยนะ?

ถังจี้โจวและเกาชงมีปัญหาเกี่ยวกับสมองรึไง?

แม้ว่าแม่ของลูกเขาจะแสดงได้ดี แต่เธอมีหน้าที่ต้องดูแลลูกสาว! เธอจะมีเวลาว่างมากขนาดนั้นได้ยังไง?

“แค่ก ๆ…”

โจวอี้ไออยู่สองสามครั้งและพูดแทรกขึ้นมา “คุณถัง คุณแน่ใจเหรอว่าไม่ได้ล้อเล่น?”