หลิวฮ่วนตกตะลึง!

หลังออกจากเขตหวงห้ามเจียงเว่ยก็มุ่งตรงไปยังคฤหาสน์ของจ้าวเฟิงที่ตั้งอยู่ในส่วนที่พักของอาวุโสฝ่ายในทันที

ไม่นานมันก็ได้รับทราบจากข้ารับใช้ในคฤหาสน์ ว่าจ้าวเฟิงพึ่งออกจากการปิดด่านมาได้ไม่นาน อาวุโสหลิวฮ่วนก็มาหา สุดท้ายจ้าวเฟิงก็ออกไปข้างนอกจนป่านนี้ยังไม่กลับมา…

เจียงเหว่ยได้ฟังก็รู้ดีในใจว่าจ้าวเฟิงไม่มีวันได้กลับมาอีกต่อไป

เพราะคนได้ตายไปแล้ว!

“หลิวฮ่วน…”

หลังออกจากคฤหาสน์จ้าวเฟิง เจียงเว่ยก็ไปเยือนคฤหาสน์ของหลิวฮ่วนต่อทันที ทว่าพอเดินมาใกล้ถึงด้านหน้าคฤหาสน์มันก็เห็นร่างคุ้นตาหนึ่งเดินออกมา

“อาวุโสป๋ายลี่?!”

เจียงเว่ยค่อนข้างแปลกใจไม่น้อยที่เห็นอาวุโสป๋ายลี่เดินออกมาจากคฤหาสน์ของหลิวฮ่วน

ตอนนี้ป๋ายลี่หงไม่ควรมาอยู่ที่คฤหาสน์ของหลิวฮ่วนไม่ใช่รึไร?

เพราะมันจำได้ว่าคนที่ป๋ายลี่หงยอมรับเป็นศิษย์น้อง เป็นคนของจวนเจ้าเมืองชงซันมาก่อน

และความบาดหมางระหว่างจวนเจ้าเมืองชงซันกับหลิวฮ่วน เจียงเว่ยก็รู้ดีแก่ใจ

มันยังเผลอคิดไปว่าใช่ป๋ายลี่หงบุกมาฆ่าหลิวฮ่วนหรือไม่?

หากป๋ายลี่หงมาฆ่าหลิวฮ่วนจริงๆ มันก็ไม่อาจทำอะไรได้

ถึงแม้หลิวฮ่วนจะเป็นอาวุโสฝ่ายใน แต่ก็ไม่นับเป็นตัวอะไรหากเทียบกับป๋ายลี่หง!

กล่าวกันตามตรงในสำนักจันทร์จรัสแสงนี้ หากจะเปรียบเทียบแล้วล่ะก็…หลิวฮ่วนยังไม่คู่ควรจะถือรองเท้าให้ป๋ายลี่หงด้วยซ้ำ!

ป๋ายลี่หงเป็นใคร?

ปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาว!

มองทั่วพื้นที่ปกครองของ 9 พันธมิตร หากไม่นับตลาดมืดหยินชาน ปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาวก็มีอยู่แค่ 2 คนเท่านั้น!

ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะเป็นใครในสำนักจันทร์จรัสแสงกระทั่งมันเอง ยามเจอป๋ายลี่หงก็ต้องมีมารยาททั้งให้ความเคารพต่ออีกฝ่าย ด้วยเพราะกลัวจะผิดใจ จนอีกฝ่ายออกจากสำนักไป

ต้องทราบด้วยว่าป๋ายลี่หงเป็นที่ต้องการของอีก 8 สำนักมาก กระทั่งตลาดมืดหยินชานเองก็ไม่เว้น

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา 8 สำนักรวมถึงตลาดมืดหยินชานเองก็หยิบยื่นข้อเสนออันดีให้ป๋ายลี่หง เพื่อชักชวนให้เข้าร่วมขุมกำลัง แต่ป๋ายลี่หงเลือกจะปฏิเสธพวกมันทั้งหมด เพราะได้มีมิตรภาพอันดีกับสำนักจันทร์จรัสแสงก่อน นอกจากนั้นป๋ายลี่หงยังรู้สึกพึงพอใจกับการดูแลปฏิบัติอันดีที่สำนักมีให้

ด้วยเหตุนี้ระดับสูงทั้งหมดในสำนักไม่เว้นเจ้าสำนักอย่างเจียงเว่ย จึงสำรวมตัวยามพบกับป๋ายลี่หง

ดั่งเช่นตอนนี้ เจียงเว่ยปั้นหน้ายิ้ม กล่าวทักทายป๋ายลี่หงอย่างมากไมตรี

“เจ้าสำนัก?”

ด้านป๋ายลี่หงที่เดินออกมาเจอเจ้าสำนักหน้าคฤหาสน์ก็แปลกใจเช่นกัน “เจ้าสำนักมาหาหลิวฮ่วนรึ?”

“เป็นเช่นนั้น”

เจียงเหว่ยยิ้มตอบพร้อมพยักหน้า

“เช่นนั้นข้าไม่อยู่รบกวนเจ้าสำนักแล้ว”

ป๋ายลี่หงกล่าวลาเจียงเว่ยและเดินจากไป

ตอนนี้มันผ่านไปเป็นวันแล้ว มันไม่กลัวว่าหลิวฮ่วนจะลงมือออกไปตามล่าต้วนหลิงเทียน ศิษย์น้องของมันที่เดินทางกลับบ้านเกิดอีกต่อไป

ตัดกลับมาที่คฤหาสน์ของหลิวฮ่วน หลังจากที่หลิวฮ่วนเดินออกมาป๋ายลี่หงหน้าประตู มันก็เดินย้อนกลับเข้าไปในคฤหาสน์ทันที ทว่าเดินไปไม่กี่ก้าวมันก็ได้ยินเสียงตื่นตระหนกดังขึ้นจากด้านหลัง “ทะ…ท่านเจ้าสำนัก!”

เสียงตื่นตระหนกทั้งติดอ่างนั้น กลับเป็นของศิษย์ที่มันมอบหน้าที่ให้เฝ้าประตูเอาไว้

ศิษย์ผู้นี้เป็นเพียงข้ารับใช้เท่านั้น ไม่ใช่ศิษย์ของมันแต่อย่างไร

“เจ้าสำนัก?”

ได้ยินเสียงติดอ่างจากด้านหลัง หลิวฮ่วนก็แปลกใจไม่น้อย จึงรีบหันตัวกลับมาทันที

มองไปไม่ไกลมันก็แลเห็นชายวัยกลางคนร่างสูง ใบหน้ากระจ่างปานหยกเสลา อีกฝ่ายมองทักมันอย่างสงบ “อาวุโสหลิวฮ่วน”

“ท่านเจ้าสำนัก…ไฉนท่านมาถึงที่นี่ได้”

เห็นหน้าเจียงเว่ยโผล่มาแบบนี้ หลิวฮ่วนอดไม่ได้ที่จะตะลึง

ต้องทราบด้วยว่าเจียงเว่ยไม่เคยมาเหยียบคฤหาสน์มันมาก่อนเลย

ถึงแม้มันจะเป็นผู้อาวุโสฝ่ายใน แต่มันก็มีศักดิ์ฐานะไม่ได้สูงส่งอะไรในบรรดาผู้อาวุโส มันไม่แม้แต่จะเคยเข้าร่วมประชุมสำนักเพื่อออกเสียงตัดสินใจเรื่องราวอะไรของสำนักด้วยซ้ำ กระทั่งหน้าเจ้าสำนักมันยังแทบไม่ได้เห็น

ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่เจ้าสำนักมาหามันถึงบ้านเลย!

แม้จะตกตะลึง แต่หลิวฮ่วนก็เร่งกล่าวต้อนรับเจ้าสำนักด้วยรอยยิ้ม

ตอนนี้หลิวฮ่วนก้มหน้างุดๆ มองไปคล้ายสุนัขเชื่องๆ

เรียกว่าหลิวฮ่วนตอนนี้แทบจะเป็นคนละคนกับหลิวฮ่วนที่เชิดหน้าถือดียามไปบุกเมืองชงซันและเดินอวดบารมีที่เมืองหานเหอ

แตกต่างราวกับสวรรค์และโลก

ในห้องโถงรับรอง หลิวฮ่วนต้อนรับเจียงเว่ยอย่างดี ควักใบชาล้ำค่าที่มีเหลือน้อยนิดออกมาชงให้เจ้าสำนักดื่ม

เจียงเว่ยเองก็ไม่เกรงใจอะไร นั่งลงบนโต๊ะ ลิ้มรสชาทันที

“ท่านเจ้าสำนัก ท่านมาหาข้าเช่นนี้มีอันใดให้ข้าหลิวฮ่วนรับใช้หรือ?”

หลิวฮ่วนที่รอเจ้าสำนักจิบชาเสร็จ ก็กล่าวถามออกมา

เจ้าสำนักมาหามันถึงที่แบบนี้แม้ในใจจะลอบปลื้มปิติ แต่มันก็รู้ดีว่าท่าทางเรื่องราวจะไม่ได้ราบรื่นดั่งตาเห็น…

เจ้าสำนักมาหามันแบบนี้ สมควรมีเรื่องใดผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว!

กระทั่งอาจจะไม่ได้มาสนทนาด้วยดี!

แว่บแรกหลิวฮ่วนพลันฉุกคิดถึงต้วนหลิงเทียน และเป็นไปได้สูงที่ป๋ายลี่หงจะไปกดดันเจ้าสำนักให้มาเล่นงานมัน!

พอคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ใจหลิวฮ่วนก็สั่นสะท้านทันที

มันกลับไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน แล้วหลังจากนี้มันจะทำอย่างไรดี?

ออกจากสำนักจันทร์จรัสแสง?

ทว่ามันหลิวฮ่วนอยู่ในสำนักจันทร์จรัสแสงมาชั่วชีวิต ทุกสิ่งอย่างของมันอยู่ที่นี่ แล้วจะให้มันออกไปตั้งต้นชีวิตใหม่นอกสำนักได้อย่างไร? ไหนเลยมันจะเต็มใจ!

ด้วยเหตุนี้มันจึงรู้สึกโชคดีมาตลอด ที่ป๋ายลี่หงไม่เคยลงมือแบบนี้กับมัน

หลังจากทั้งหมดแล้ว ป๋ายลี่หงก็แค่มากล่าววาจากดดันมัน และมาเฝ้าจับตาดูมันไว้ไม่ได้ลงมือรุนแรงอะไร

‘น่าจะมาเพราะเรื่องอื่น’

หลิวฮ่วนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ลอบปลอบใจตัวเอง

“ทันทีที่อาวุโสจ้าวเฟิงออกจากการปิดด่าน เจ้าก็ไปหาทันทีเลยใช่หรือไม่?”

เจียงเว่ยมองหลิวฮ่วนค่อยกล่าวถามเสียงเรียบ

“ใช่”

แม้มันจะไม่ทราบว่าไฉนเจียงเว่ยกล่าวถามเรื่องนี้ แต่มันก็พยักหน้าตอบไปตามตรง

นี่ไม่ใช่ความลับอะไร

มีคนมากมายในคฤหาสน์ของจ้าวเฟิงที่รู้ว่ามันไปเยือน

‘ไม่ใช่ว่าจ้าวเฟิงออกไปตามฆ่าต้วนหลิงเทียนหรือไร? ไฉนจ้าวสำนักมาถามข้าเรื่องนี้?’

หลิวฮ่วนรู้สึกว่าเรื่องราวไม่ชอบมาพากลขึ้นมาแล้ว

“แล้วเจ้ารู้เรื่องที่อาวุโสจ้าวเฟิงออกไปข้างนอกเมื่อวานหรือไม่?”

เจียงเว่ยกล่าวถามออกมาอีกรอบ

“ข้ามิรู้”

หลิวฮ่วนส่ายหน้าไปมา แววตาเผยความไม่เข้าใจ “ท่านเจ้าสำนัก มิทราบว่านี่มันเรื่องอะไรกันหรือ?”

มันย่อมรู้ดีว่าจ้าวเฟิงออกไปเมื่อวาน อีกทั้งมันยังเป็นคนมายุยงอีกฝ่ายโดยตรง

แต่จะให้มันยอมรับได้อย่างไรว่ามันรู้?

สุดท้ายแล้วเรื่องที่มันคิดยืมมีดฆ่าคนให้จ้าวเฟิงฆ่าต้วนหลิงเทียน ก็ไม่อาจเผยในที่แจ้งได้

“อาวุโสจ้าวเฟิงตายแล้ว”

เจียงเหว่ยมองสบตาหลิวฮ่วนค่อยกล่าวสืบต่อเสียงเรียบ

อาวุโสจ้าวเฟิงตายแล้ว!?

วาจานี้ของเจียงเว่ยยามดังเข้าหูหลิวฮ่วน ประหนึ่งฟ้าผ่าดังเปรี๊ยงก็ไม่ปาน ทำให้มันตะลึงลานไปด้วยความตกใจทันที

“อาวุโสจ้าวเฟิง…ตายแล้ว?”

ทันทีที่หลิวฮ่วนคืนสติ สีหน้ามันก็ซีดลง แววตาล่อกแล่กเต็มไปด้วยความสับสนไม่เข้าใจ

แน่นอนว่านี่เป็นท่าทีตอบสนองตามสัญชาตญาณของหลิวฮ่วน

ทว่าพอเจียงเว่ยได้เห็นท่าทีสับสนตื่นตระหนกของหลิวฮ่วน มันก็คิดว่าหลิวฮ่วนไม่รู้เรื่องราวมาก่อนแน่ๆ

ทั้งยังคิดว่าหลิวอ่วนตกใจกับการตายของจ้าวเฟิง เพราะท่าทางอีกฝ่ายนั้นแลดูตกใจไม่เบา ไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำแม้แต่น้อย

จ้าวเฟิงตายแล้ว!

มันรู้ดีว่าจ้าวเฟิงออกไปทำอะไร

ในสายตาของมันป่านนี้จ้าวเฟิงน่าจะฆ่าต้วนหลิงเทียนได้แล้ว และขจัดหนามยอกออกของมันได้เสียที

มันยังเฝ้ารอให้จ้าวเฟิงกลับมา และคิดเลี้ยงฉลองกับอีกฝ่ายด้วยซ้ำ!

ทว่าไม่ทันที่จ้าวเฟิงจะกลับมา เจ้าสำนักกลับมาบอกข่าวอันน่าตื่นตระหนกกับมัน

‘จ้าวเฟิงออกไปฆ่าต้วนหลิงเทียน…ป๋ายลี่หงก็มาจับตาดูข้าไว้ เช่นนั้นคนที่ฆ่าจ้าวเฟิงย่อมไม่ใช่ป๋ายลี่หง แล้วจ้าวเฟิงถูใครฆ่ากัน?’

คิดถึงเรื่องนี้หลิวฮ่วนอดไม่ได้ที่จะหวาดกลัว

แน่นอนมันไม่เคยคิดเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนจะฆ่าจ้าวเฟิงได้เลย

ถึงแม้พรสวรรค์ต้วนหลิงเทียนจะน่ากลัว และบรรลุถึงขอบเขตสู่เซียนได้ในเวลาอันสั้น

ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบมันก็เห็นต้วนหลิงเทียนเป็นแค่ ‘เหลือบไร’

หากไม่ใช่เพราะมีป๋ายลี่หงคุ้มกะลาหัว ต้วนหลิงเทียนคงตกตายไปเนิ่นนานแล้ว ถึงไม่ใช่เพราะฝีมือมันแต่ก็ต้องถูกมือสังหารของตลาดมืดหยินชานฆ่า!

‘จ้าวเฟิงตายแล้ว…หรือมันไปทำให้ยอดฝีมือระหว่างทางขุ่นเคืองจนถูกฆ่ากัน? ไม่รู้ว่ามันฆ่าต้วนหลิงเทียนได้ก่อนตายหรือไม่’

ตอนนี้หลิวฮ่วนไม่ได้สนใจความตายของจ้าวเฟิงเลย

เพราะจ้าวเฟิงจะตายก็ตายไป ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมัน

ที่มันสนมีแต่เรื่องที่ต้วนหลิงเทียนยังอยู่หรือตายแล้วกันแน่

หากต้วนหลิงเทียนยังอยู่ มันก็ยากจะมีคืนวันอันดี ไม่อาจกินอิ่มนอนหลับ!

ตั้งแต่ต้นจนจบหลิวฮ่วนไม่เคยสงสัยว่าจ้าวเฟิงตายด้วยน้ำมือต้วนหลิงเทียนหรือไม่ กระทั่งไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะมียอดฝีมือคุ้มครอง และยอดฝีมือคนนั้นก็ได้ลงมือฆ่าจ้าวเฟิงเลย

ในสายตาของมันต้วนหลิงเทียนก็เป็นแค่ ‘เด็กบ้านนอก’

หากไม่ใช่เด็กบ้านนอก ไหนเลยจะไปยอมรับนับถือชนชั้นสวะอย่างฟางฮุ่ยเจ้าเมืองชงซันเป็นครู?

เด็กบ้านนอกพรรค์นั้น จะไปมียอดฝีมือลอบคุ้มครองได้อย่างไร?

แน่นอนว่ามันก็เคยคิดว่าอาจเป็นป๋ายลี่หงส่งยอดฝีมือไปคุ้มกันต้วนหลิงเทียน ทว่านั่นก็เป็นไปไม่ได้

หากป๋ายลี่หงส่งยอดฝีมือไปคุ้มกันต้วนหลิงเทียนถึงขั้นมีพลังมากพอฆ่าจ้าวเฟิงได้จริง แล้วไฉนป๋ายลี่หงต้องมาเฝ้าจับตาดูมันไว้ไม่ให้ออกไปลอบฆ่าต้วนหลิงเทียนแบบนี้?

ดังนั้นมันจึงตัดความเป็นไปได้ข้อนี้ทิ้งไป

ด้วยเหตุนี้ก็เหลือเพียงความเป็นไปได้ประการเดียว จ้าวเฟิงถูกยอดฝีมือที่ไม่เกี่ยวข้องกับต้วนหลิงเทียนสังหาร

“เรื่องนี้เจ้ารู้แล้วก็เงียบไว้ อย่าได้แพร่งพรายออกไป”

เจียงเว่ยมองหลิวฮ่วนค่อยกำชับเสียงเรียบ ก่อนที่ร่างจะอันตรธานหายไปทันทีหลังได้รับคำตอบรับจากหลิวฮ่วน

ขณะเดียวกันหลิวฮ่วนก็ลอบเช็ดเหงื่ออย่างตื่นตระหนก

“หวังว่าจ้าวเฟิงจะฆ่าต้วนหลิงเทียนได้ก่อนที่จะถูกผู้ใดไม่รู้ฆ่าตาย…หาไม่แล้วข้าก็ต้องหาโอกาสฆ่าต้วนหลิงเทียนด้วยตัวเองอีกครั้ง”

หลิวฮ่วนบ่นพึมพำ

‘อย่างไรเสียจ้าวเฟิงนั่นนับว่าโชคร้ายนัก ปิดด่านบ่มเพาะมานานปี แต่กลับถูกฆ่าทันทีที่ออกมา…ยังดีนักที่ข้าไม่ได้ลงมือเอง หาไม่แล้วคนที่ตายอาจเป็นข้า!’

คิดถึงเรื่องนี้หลิวฮ่วนอดไม่ได้ที่จะเสียวสันหลัง..