ตอนที่176ทากัตซูกิมาโกโตะคุยกับออราเคิลแห่งโชคชะตา

เคลียร์อิเซไกกับเทพธิดาผู้ศรัทธาศูนย์

176 ทากัตซูกิ มาโกโตะ คุยกับออราเคิลแห่งโชคชะตา

 

“ทิ้งสหายของนายไว้จะโอเคเหรอ?” (เจเน็ต)

 

เจเน็ต-ซังมองผมอย่างกังวล

 

“ชั้นไม่คิดว่าเราจะคุยได้อย่างใจเย็น เมื่อดูจากสิ่งต่างๆ” (มาโกโตะ)

 

เมื่อผมบอกลูซี่ ซา-ซัง และฟูเรีย-ซังว่าผมจะไปเจอออราเคิลแห่งโชคชะตา พวกเธอต่อต้านมัน

 

“มาโกโตะ! ไปเจอคนแบบนั้น นายคิดอะไรอยู่?!” (ลูซี่)

 

“ทากัตซูกิ-คุง ชั้นจะไปด้วย ถ้าฮีโร่อเล็กซ์ก่อนหน้านั้นโจมตี ชั้นจะซัดเค้าให้น่วม!” (อายะ)

 

“อัศวินของชั้น มันได้ถูกเปิดเผยแล้วว่านายเป็นสาวกของเทพมาร รู้มั้ย?! อยู่นิ่งๆ!” (ฟูเรีย)

 

พวกเธอมีท่าทางที่ข่มขู่อย่างเหลือเชื่อ

 

“มันโอเค” (มาโกโตะ)

 

ผมกล่อมสหายที่กระวนกระวายของผม และเจเน็ต-ซังและผมได้เดินไปรอบซิมโฟเนีย

 

พวกเราจะไปที่อยู่ที่ออราเคิลแห่งโชคชะตาควรจะอยู่

 

มันเห็นว่าเป็นศูนย์กลางของขุนนางใหญ่ของคาเมลอน

 

“พูดถึงแล้ว…ชั้นไม่ได้อยู่ที่นั่น แต่ชั้นได้ยินมาว่าออราเคิลเอสเธอร์ค่อนข้างถือความเกลียดชังกับพวกนาย มันจะโอเคเหรอ?” (เจเน็ต)

 

แม้แต่เจเน็ต-ซังก็ถามผมอย่างรู้สึกไม่ปลอดภัย

 

“คนที่มีความเกลียดชังสาวกเทพมารสูงคือโป้ป-ซามะ” (มาโกโตะ)

 

ตาแก่นั่นจ้องผมด้วยเจตนาฆ่า

 

มันจะดีที่สุดที่จะไม่เข้าหาเขา

 

แต่ผมไม่ได้รู้สึกว่าออราเคิลเอสเธอร์สนใจผมขนาดนั้น

 

ผมจะพูดว่าเป้าหมายของเธอคือฟูเรีย-ซัง

 

ยังไงซะ แต่มีโอกาสที่ผมจะผิดและเธอจะโยนฮีโร่นั่นมาให้ผมนะ…

 

ผมอยากจะให้บางคนที่มีจุดยืนสูงมาด้วยกันเป็นประกัน

 

ผมคิดเกี่ยวกับซากุไร-คุงและนายพลทาริสก้า แต่เลดี้ของตระกูลวาเลนไทน์ก็ไม่แย่ด้วย

 

“พวกเขาอยู่ที่นี่แล้ว นี่เป็นที่อยู่ของครอบครัวหมายเลขหนึ่งของคาเมลอน ตระกูลเบิร์กลีย์” (เจเน็ต)

 

“ใหญ่…” (มาโกโตะ)

 

ที่อยู่ได้มอบตัวตนที่เด่นชัดออกมาแม้ว่าจะอยู่ในเขตขุนนางของซิมโฟเนีย

 

สวนใหญ่เกินไป

 

น้ำพุขนาดยักษ์และงานแกะสลัก

 

มีคนสวนมากมายดูแลสิ่งต่างๆอยู่

 

ค่าซ่อมบำรุงมันรู้สึกจะเหลือเชื่อ…

 

“ชั้นมีนัด ไปกันเถอะ” (เจเน็ต)

 

“โอเค ขอบคุณมาก” (มาโกโตะ)

 

ผมขอบคุณเจเน็ต-ซังและข้ามประตูรั้วเข้าไปในที่อยู่

 

เมื่อเจเน็ต-ซังบอกชื่อของเธอกับนายประตู เราได้ถูกอนุญาตให้เข้าไปได้ง่ายๆ

 

อย่างที่คาดกับเลดี้สาวของตระกูนวาเลนไทน์

 

พวกเราได้ถูกนำไปโดยพ่อบ้านและเข้าไปในที่อยู่

 

◇◇

 

“สาวกเทพมาร มาโกโตะ พอมาคิดว่านายจะมาที่นี่อย่างโจ่งแจ้ง น็อตในหัวโอเคมั้ย?”

 

คำพูดที่รุนแรงได้บินมาทางผม

 

ในห้องรับแขกที่เราอยู่ ออราเคิลแห่งโชคชะตาได้รออยู่ที่นั่นให้ผมตกใจ

 

สายตาที่เย็นชาเหมือนเดิม

 

“ขอบคุณที่ให้เวลากับเราแม้ว่าเรามาเยี่ยมเยียนกระทันหัน” (เจเน็ต)

 

“ชั้นไม่ถือ เจเน็ต-ซัง แต่เธอควรจะเรียนรู้ที่จะเลือกผู้ชายนะ รู้มั้ย?” (เอสเธอร์)

 

“ชั้นทำนี่เพราะว่าชั้นอยากทำ” (เจเน็ต)

 

“อย่างนั้นเหรอ… รสนิยมเธอแย่” (เอสเธอร์)

 

สองคน หยุดนั่นตอนที่ผมยังอยู่ได้มั้ย

 

“……”

 

“ฟุฟุ” (เอสเธอร์)

 

ออราเคิลเอสเธอร์ต้องสังเกตการจ้องของผม เธอแสยะยิ้มให้ผม

 

ผู้หญิงคนนั้น…เธอมีนิสัยที่แย่จริงๆ

 

“ไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลากันการคุยไร้สาระ บอกธุระเธอมา” (เอสเธอร์)

 

เสียงของเอสเธอร์นั้นเบาอย่างไม่จบไม่สิ้น

 

ไม่ เธอเป็นคนที่เริ่มคุยไม่มีสาระ รู้มั้ย?

 

ยังไงซะ โอเค

 

มาเติมเต็มวัตถุประสงค์เถอะ

 

“‘ออราเคิลแห่งความมืด ฟูเรีย-ซัง จะนำพาภัยพิบัติมาให้โลกนี้’ นั่นคือที่เทพธิดาแห่งโชคชะตาพูด ใช่มั้ย?” (มาโกโตะ)

 

ผมพูดสิ่งที่เอสเธอร์พูดออกมาที่ห้องประชุม

 

“ใช่ นั่นใช่แล้ว นั่นทำไมนายควรจะขังออราเคิลแห่งความมืดทันที” (เอสเธอร์)

 

“นั่นชั้นทำไม่ได้” (มาโกโตะ)

 

ผมพูดนั่นระหว่างที่เตรียมคำต่อไป

 

คนตรงหน้าผมคือออราเคิลของเทพธิดาแห่งโชคชะตา

 

คนที่ได้ยินเสียงของเทพธิดาไอรา-ซามะ ที่พูดว่าสามารถจะเห็นอนาคตทั้งหมดบนโลกนี้

 

ความหมายของคำพูดของเธอนั้นหนัก

 

“ชั้ันอยากให้เธอบอกชั้นอย่างละเอียดว่านั่นเป็นภัยพิบัติอะไร” (มาโกโตะ)

 

นี่เป็นวัตถุประสงค์ของการมาเยี่ยมของผม

 

การขังฟูเรีย-ซังนั้นแน่นอนว่าไม่อนุญาต

 

แต่ถ้ามันเป็นอนาคตที่เรารู้อยู่แล้วว่าจะเกิดขึ้น มันควรจะหยุดได้

 

“…”

 

ออราเคิลเอสเธอร์ไม่ตอบ

 

“เอสเธอร์-ซามะ? ชั้นก็จะถามท่านด้วย ได้โปรดบอกเรา” (เจเน็ต)

 

เจเน็ต-ซังและผมรออย่างใจเย็น

 

“…เทพธิดาทั้ง 7 ที่คุมคุมธาติของโลกนี้ นายรู้ว่ามีข้อยกเว้นในพวกเธอมั้ย?” (เอสเธอร์)

 

““?””

 

เธอเริ่มพูดเกี่ยวกับอะไรบางอย่างที่ไม่เกี่ยวข้อง

 

“มันเกี่ยวข้อง แต่ตอบได้แล้ว” (เอสเธอร์)

 

“ท่านพูดเกี่ยวกับเทพธิดาแห่งความมืด ไนอา-ซามะเหรอ?” (เจเน็ต)

 

เจเน็ต-ซังตอบคำถามของเอสเธอร์

 

“นั่นใช่แล้ว ออราเคิลแห่งความมืดไนอาไม่ได้มาจากโลกนี้ แต่มาจากโลกภายนอก เธอเป็นสิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ์ที่ต่างออกไป ที่ใช้พระจันทร์เป็นดินแดน” (เอสเธอร์)

 

“…ชั้นไม่รู้” (มาโกโตะ)

 

วิหารไม่ได้สอนผมอย่างถูกต้องเกี่ยวกับเวทมนตร์ความมืด และเทพธิดาแห่งความมืด

 

จุดของพวกเขาคือมันดีกว่าที่เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมัน

 

“ตาทิพย์ของเทพธิดาแห่งโชคชะตาไอรา-ซามะแค่เชื่อมต่อกับสิ่งที่อยู่บนโลกนี้ เธอไม่เห็นอนาคตของออราเคิลแห่งความมืด ฟูเรีย” (เอสเธอร์)

 

“เฮ้ย ไม่ใช่ว่านั่นหมายถึง…” (มาโกโตะ)

 

แลั้วที่บอกว่า ‘ออราเคิลแห่งความมืดจะนำพาภัยพิบัติและ’?

 

นั่นมันคำโกหกก้อนโต

 

“เอสเธอร์-ซามา งั้นที่ท่านพูดว่าออราเคิลจะนำพาภัยพิบัติ—” (เจเน็ต)

 

เจเน็ต-ซังถามเหมือนจะวิจารณ์เธอและถูกตัดด้วยคำพูดต่อไป

 

“หลังจากที่เจ้าปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ฟื้นคืนชีพ ฮีโร่แห่งแสงจะตาย และเป็นอีกครั้งที่โลกจะเปลี่ยนไปเป็นคนรับใช้” (เอสเธอร์)

 

““?!””

 

เจเน็ต-ซังเปิดตาของเธอกว้าง

 

ผมก็คงมีหน้าแบบเดียวกัน

 

เออร์-ซามะก็พูดบางอย่างคล้ายๆกัน

 

ว่าโอกาสที่จะแพ้สงครามกับปีศาจนั้นสูงกว่า

 

แต่ เมื่อออราเคิลแห่งที่ธิดาพูดมันอย่างชัดเจน…

 

“น-นั่น…เป็นอนาคตที่เลี่ยงไม่ได้เหรอ?” (เจเน็ต)

 

เสียงของเจเน็ต-ซังสั่น

 

ได้ยินสิ่งนี้ เอสเธอร์ยิ้มเบาๆ

 

“อนาคต{ถูกเปลี่ยนได้}” (เอสเธอร์)

 

ออราเคิลเอสเตอร์แถลงออกมาอย่างทรงพลัง

 

“นั่นคือที่ทำไมชั้นอยู่ที่นี่ เหตุผลที่ชั้นเสนอการเดินทางทางเหนือเพราะมันเป็นการเข้าไปเดินในทางแห่งชัยชนะ ชั้นจะไม่ปล่อยให้เจ้าปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ทำตามใจ” (เอสเธอร์)

 

“งั้นเธอเป็นคนที่เสนอการเดินทางทางเหนือ” (มาโกโตะ)

 

ผมคิดอย่างมั่นใจว่ามันเป็นบางคนจากประเทศแห่งแสง

 

“ทั้งหมดมันก็เพื่อมนุษยชาติ” (เอสเธอร์)

 

รอบยิ้มที่อ่อนโยนของออราเคิลเอสเธอร์เต็มไปด้วยความเสน่หาเหมือนเทพธิดา

 

เธอควรจะมีหน้านั้นตลอดเวลา

 

ไม่นานเอสเธอร์ก็กลับไปหน้าตาเย็นชา

 

“ยังไงก็ตาม ชั้นเห็นอนาคตที่ฮีโร่แห่งแสงจะถูกแทงที่อกด้วยดาบ ชั้น…{ไม่เห็นคนที่ทำมัน}” (เอสเธอร์)

 

“ไม่เห็น…” (มาโกโตะ)

 

จุดเริ่มเชื่อมต่อเป็นภาพ

 

สิ่งมีชีวิตที่เทพธิดาแห่งโชคชะตามองไม่เห็น

 

มีโอกาสสูงที่มันจะเกี่ยวข้องกับคนที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าของโลกภายนอก

 

พูดอีกอย่าง มีความเป็นไปได้สูงว่ามันจะเป็นบางคนที่เชื่อมต่อกับเทพธิดาแห่งความมืด หือห์…

 

“แต่ฟูเรีย-ซังและซากุไร-คุงชอบกันนะ รู้มั้ย? ชั้นจินตนาการไม่ได้จริงๆว่าฟูเรีย-ซังจะทำอะไรแบบนั้น” (มาโกโตะ)

 

ความคิดเห็นของผมถูกหัวเราะโดยออราเคิลเอสเธอร์ ดั่งจะล้อผมเล่น

 

“{นั่นแหละว่าทำไม} ปัญหาทางความรักมันหาเจอได้ง่าย ใช่มั้ยล่ะ?” (เอสเธอร์)

 

“ไม่ นี่มันไม่ใช่ละครตอนเช้านะ…” (มาโกโตะ)

 

“มันคล้ายกัน” (เอสเธอร์)

 

“อย่างนั้นเหรอ?” (มาโกโตะ)

 

“อืม…พวกนายคุยกันเรื่องอะไร?” (เจเน็ต)

 

เจเน็ต-ซังตอบโต้กับที่เราคุยกัน

 

แน่นอนว่าเธอจะไม่รู้ว่าละครตอนเช้าคืออะไร

 

ทำไมเอสเธอร์เข้าใจมัน?

 

“และดังนั้น นายจะทำอะไร? นายจะฟังที่ชั้นพูดมั้ย?” (เอสเธอร์)

 

“แบบนี้ชั้นพูด ชั้นปฏิเสธ” (มาโกโตะ)

 

“ช่างเป็นชายที่ดื้อด้าน -สำหรับสาวกเทพมารเวร” (เอสเธอร์)

 

“…พูดถึงแล้ว โอกาสมากแค่ไหนที่ชั้นจะเป็นผู้ก่อเหตุ?” (มาโกโตะ)

 

เธอได้ถูกดันไปด้วยตรรกะที่ว่าฟูเรีย-ซังเป็นผู้ก่อเหตุซักพักแล้ว แต่ถ้ามามองกันอย่างเป็นกลาง ไม่ใช่ว่าผมก็น่าสงสัยด้วยเหรอ?

 

บรรพบุรุษของผมเป็นฮีโร่ผู้บ้าคลั่งที่ชื่อดังในการเป็นนักฆ่าฮีโร่

 

“สาวกที่อ่อนแอของโนอาห์จากรุ่นนี้ สร้างความเสียหายให้กับฮีโร่แห่งแสงไม่ได้ตั้งแต่ทีแรก นายแม้แต่เหวี่ยงดาบดีๆยังไม่ได้เลย ใช่มั้ย?” (เอสเธอร์)

 

“…เธอพูดถูกต้องที่สุด” (มาโกโตะ)

 

สแตทของผมต่ำมาก ผมใช้ดาบไม่ได้

 

“มากกว่านั้น ไทฟอนหลอกโนอาเมื่อ 1,000 ปีก่อน ถ้าเธอจะเข้าข้างเจ้าปีศาจผู้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง เธอจะค่อนข้างเป็นอีงี่เง่า แต่ยังไงซะ โนอาห์งี่เง่าก็ไม่ใช่เรื่องใหม่” (เอสเธอร์)

 

“…ไม่ใช่ว่าเธอพูดแรงเกินไปเหรอ?” (มาโกโตะ)

 

เธอใส่ร้ายท่านอยู่น่ะ โนอาห์-ซามะ

 

(กกกี้ห์! อะไรของผู้หญิงคนนี้?!) (โนอาห์)

 

น่า น่า ใจเย็น

 

“งั้น เธอจะพูดว่าชั้นไม่ใช่คนคนก่อเหตุเหรอ?” (มาโกโตะ)

 

“ใช่ มากกว่านั้น เออร์-เน่ซะ—เออร์-ซามะได้ดูโนอาห์อยู่ในวิหารทะเลลึก ถ้ามันมีการเคลื่อนไหวที่น่าสงสัยจากเธอ เธอจะบอกได้ทันที” (เอสเธอร์)

 

“แต่มันดูเหมือนว่าเธอไม่ได้อยู่ที่วิหารทะเลลึกหลังๆนะ รู้มั้ย?” (มาโกโตะ)

 

“…เอ๋? นั่นไม่ดีเลย คนเฝ้าระวังนั้นต้องมีสำหรับโนอาห์ ชั้นจะยืนยัน” (เอสเธอร์)

 

หืม? ผมพูดบางอย่างไม่จำเป็น?

 

(ไม่ว่ายังไง ออราเคิลนี้…) (โนอาห์)

 

ตัดสินจากวิธีที่เธอพูด เป็นไปได้มั้ยว่า…

 

“ไม่ว่ายังไง การกระทำของชั้นก็เพื่อที่จะให้มนุษยชาติชนะเจ้าปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ ถ้านายเข้าใจแล้ว ก็ไปได้แล้ว” (เอสเธอร์)

 

เธอทำท่าทางชิ่ว ชิ่ว

 

ผู้หญิงคนนี้…

 

“งั้น ชั้นจะไปแล้ว ขอบคุณสำหรับข้อมูล” (มาโกโตะ)

 

ผมตัดสินใจที่จะขอบคุณเธอแล้วจากไป

 

“โอ้? นายเชื่อฟังนี่ งั้น อย่างสุดท้าย ถ้านายหยุดเป็นสาวกของโนอาห์ แล้วมาตามเทพธิดาแห่งโชคชะตาไอรา-ซามะ ชั้นจะใจดีกับนายได้มากกว่านี้นิดหน่อย” (เอสเธอร์)

 

น้ำเสียงเหมือนกับจะล้อผม

 

มันน่าจะเป็นเรื่องตลก

 

“ชั้นซื่อสัตย์กับโนอาห์-ซามะน่ะ เห็นมั้ย” (มาโกโตะ)

 

“โอ้ นั่นน่าสงสาร” (เอสเธอร์)

 

เธอพูดโดยไม่มีสัญญานของความสงสารแม้แต่เสี้ยวเดียว

 

แม้ทุกอย่างจะเป็นอย่างนั้น ผมสามารถได้ข้อมูลมากมาย

 

ผมขอบคุณกับสิ่งนั้น

 

พวกเราขอบคุณออราเคิลเอสเธอร์แล้วออกมาจากที่อยู่

 

◇◇

 

เจเน็ต-ซังและผมมองกลับไปที่การสนทนาก่อนหน้าขณะที่เราเดิน

 

“มันจริงมั้ย…ที่ว่าฮีโร่แห่งแสงจะล้ม?” (เจเน็ต)

 

เสียงของเจเน็ต-ซังบูดบึ้ง

 

“ชั้นว่ามันยากจริงๆนะที่จะจินตนาการว่าซากุไร-คุงแพ้” (มาโกโตะ)

 

ผมไม่อยากจะจินตนาการภาพที่ว่าเพื่อนในวัยเด็กของผมตาย

 

“ยังไงซะ มาวางความหวังของเราไว้บนออราเคิลแห่งโชคชะตาเถอะ มันดูเหมือนว่าเธอจริงจังเกี่ยวกับเจ้าปีศาจผู้ยิ่งใหญ่” (มาโกโตะ)

 

“เกี่ยวกับนั่น ในครึ่งหลัง มันแม้แต่รู้สึกว่าเธอสนิทกัน -เธอและเอสเธอร์-ซามะ” (เจเน็ต)

 

“จริงเหรอ?” (มาโกโตะ)

 

เจเน็ต-ซังพูดด้วยการชำเลืองมองเล็กน้อย

 

เจเน็ต-ซังและผมได้เดินอย่างช้าๆในเขตขุนนางของซิมโฟเนีย

 

“พูดถึงแล้ว ทากัตซูกิ มาโกโตะ อย่างน้อยนายจะพาชั้นไปกินข้าวด้วยกัน ใช่มั้ย?” (เจเน็ต)

 

“เอ๋?” (มาโกโตะ)

 

แต่ผมอยากจะกลับไปที่โรงแรมเร็วๆถ้าเป็นไปได้ เพื่อที่จะบอกทุกคนว่าผมได้เรียนรู้อะไรมานะ…

 

“ไม่มีทางที่นายจะใช้ชั้นเป็นบันได และจบมันแบบนั้น ใช่มั้ย?” (เจเน็ต)

 

การจ้องของเธอทรงพลังขึ้น

 

“น-แน่นอนว่า ไม่” (มาโกโตะ)

 

“ดี” (เจเน็ต)

 

เธอพยักหน้าซ้ำๆ

 

เธอน่ากลัว เจเน็ต-ซัง

 

เธอน่ากลัวต่างไปจากเกรา-ซัง

 

“ตอนนี้ ไปกันเถอะ” (เจเน็ต)

 

“โอเค~” (มาโกโตะ)

 

เจเน็ต-ซังดึงแขนผม และถูกพาเข้ามายังร้านอาหารที่ดูแพง

 

ที่นี่ที่ผมถูกพามาต้องเป็นร้านประจำของตระกูลวาเลนไทน์ เมื่อพวกเขาเห็นหน้าของเจเน็ต-ซัง พวกเราได้ถูกมอบโตะที่ดีที่สุด

 

“รอเดี๋ยวนึงนะ” คือที่เจเน็ต-ซังพูดขณะที่เธอเข้าไปลึกกว่านั้น

 

มันมีอะไร?

 

“ขอโทษที่ทำให้รอ” (เจเน็ต)

 

เจเน็ต-ซังกลับมา…และเปลี่ยนเป็นชุดของขุนนาง

 

ทำไมเธอมีเสื้อผ้าไว้เปลี่ยน…?

 

เธอเตรียมมันมาเหรอ?

 

ผมปล่อยเมนูไว้ให้เจเน็ต-ซังระหว่างที่ประหม่าและรออาหารมา

 

เจเน็ต-ซังที่มองมาทางนี้ด้วยรอยยิ้ม เป็นภาพของเลดี้สาวจากครอบครัวที่รุ่งเรือง

 

และมันเป็นอย่างนั้นเลย

 

“เฮ้ ทากัตซูกิ มาโกโตะ…” (เจเน็ต)

 

“ม-มีอะไรเหรอ?” (มาโกโตะ)

 

เจเน็ต-ซังพักคางอยู่บนมือระหว่างที่ส่งร้อยยิ้มที่ซุกซนมาให้ผม

 

มันต่างจากฝั่งอัศวินผู้หญิงที่ตรงไปตรงมาและจริงจังของเธอ และมันทำให้หัวใจของผมเต้นข้ามจังหวะ

 

“ชั้นได้ตัดสินใจจากก่อนหน้านี้นานแล้ว ว่าถ้าชั้นจะแต่งงานกับบางคน มันต้องแข็งแกร่งมากกว่า นี่-ซัง” (เจเน็ต)

 

“…ผู้สมัครมันจะน้อยไปนะ” (มาโกโตะ)

 

พี่ชายของเจเน็ต-ซัง เกราลท์วาเลนไทน์เป็นระดับ 3 ขอทวีป

 

ที่ 2 คือโอลก้าและที่ 1 คือซากุไร-คุง

 

ถ้าพวกเราไม่นับฮีโร่ คนที่เก่งจะเป็นปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่-ซามะและแมดมดสีแดง โรซาลี-ซัง…ผู้หญิงทั้งหมด

 

ผู้หญิงในโลกนี้แข็งแกร่ง

 

“งั้นไม่มีใครนอกจากซากุไร-คุง” (มาโกโตะ)

 

เมื่อผมพูดอย่างนี้ เจเน็ตซักห่อหน้าไปด้วยความไม่พึงพอใจ

 

“อย่าโง่น่า เค้าเป็นชายที่ขโมยโนเอล-เน่ซามะจากนี่-ซังนะรู้มั้ย? …มากกว่านั้น ชั้นไม่อยากจะมีสามีคนเดียวกันกับโนเอล-เน่ซามะ” (เจเน็ต)

 

“…ชั้นผิดเอง” (มาโกโตะ)

 

ผมขาดไหวพริบ

 

ผมได้ยินว่าเจ้าหญิงโนเอลและเธอสนิทเหมือนพี่สาวน้องสาว แต่พวกเธอได้ห่างกันหลังๆ

 

มันเศร้านิดหน่อย

 

“ปรกติแล้ว ธรรมชาตมันจะเป็นอายุที่ชั้นจะมีคู่หมั้นนะ…”

 

เจเน็ต-ซังพึมพำสิ่งนี้ บูดบึ้ง

 

มันดูเหมือนเธอไม่มีใครเพราะมาตรฐานที่สูงของเธอ แต่แรงกดดันจากพ่อแม่ของเธอก็แรง

 

…ฟังดูเหมือนเรื่องราวที่ผมได้ยินจากโลกของผมด้วย

 

“ฟุฟุ มีผู้คนที่ล้อเลียนชั้นหลังชั้น เรียกชั้นว่า ‘อัศวินหมดอายุ’…” (เจเน็ต)

 

“ม-มีผู้คนที่น่ากลัวอยู่ข้างนอกนั่น หือห์…” (มาโกโตะ)

 

ผมตกใจที่พวกเขาแม้แต่พูดอย่างนั้นกับเลดี้สาวของขุนนางศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าได้

 

“ยังไงซะ แต่นั่นมาจากอัศวินเพกาซัสกองพลที่สองนะ” (เจเน็ต)

 

เจเน็ต-ซังเป็นกับตันของกองพลที่หนึ่ง

 

อัศวินเพกาซัสจำเป็นต้องน้ำหนักเบา ดังนั้นมันเปลี่ยนเป็นผู้หญิงทั้งหมดโดยธรรมชาติ

 

เห็นว่ากองพลที่หนึ่งและสองอยู่ในความสัมพันธ์แบบเป็นศัตรูกัน และไม่สนิทกัน

 

ที่ทำงานที่มีแต่ผู้หญิง…นั้นน่ากลัว

 

ระหว่างที่ผมสั่นในความกลัวอย่างเงียบๆ เจเน็ต-ซังพูด ‘พูดถึงแล้ว…’ ในน้ำเสียงที่ราเริงเหมือนจะเปลี่ยนบรรยากาศ

 

“มีชายที่อยู่ตรงหน้าชั้นที่เอาชนะพี่ชายชั้นได้ รู้มั้ย” (เจเน็ต)

 

เจเน็ต-ซังมองมาทางนี้แบบที่ตาควันขึ้น

 

น-นี่มัน…

 

“นั่นเป็นการต่อสู้ไม่เป็นทางการ และ…เขาไม่มีดาบศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นมันไม่นับ ใช่มั้ย

 

“มันโอเค แม้มันจะไม่ใช่ทางการ นายเอาชนะพี่ชายชั้น พี่ชายชั้น ที่ไม่รู้จักคำว่ายั้งมือในพจนานุกรม” (เจเน็ต)

 

“…ไม่ใช่ว่าควรจะใส่มันเข้าไปเหรอ?” (มาโกโตะ)

 

เพราะทั้งหมดตอนแรกผมได้ถูกซัดจนน่วม

 

เกรา-ซังเค้าบ้าการต่อสู้มากเกินไป

 

“ทากัตซูกิ มาโกโตะ” (เจเน็ต)

 

“ครับ?” (มาโกโตะ)

 

เจเน็ต-ซังเรียกชื่อผมด้วยสีหน้าตรงๆ

 

“ชั้นรู้สึกชอบนาย เป็นสามีของชั้น” (เจเน็ต)

 

“…อะ?” (มาโกโตะ)

 

การขอแต่งงานกระทันหัน

 

 

 

เป้าหมายเดือน 4/66

ค่าเน็ต 150/200

กาแฟ 0/300

ค่าไฟ 20/1000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

กสิกรไทย

 

แปลโดย: wayuwayu

ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”

pdfไว้อ่านตอนกลางคืน  สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord