ตอนที่ 23

Hell mode

บทที่ 23 ถอนมันฝรั่ง

ช่วงเวลาประมาณ 6 โมง เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่อเลนบอกว่าจะทำงานบ้าน เขาตื่นขึ้นมาและไปที่ห้องนั่งเล่น

“อรุณสวัสดิ์ครับคุณแม่”

“อรุณสวัสดิ์อเรน”

ตั้งแต่เมื่อวานก็เลิกเรียกว่าป๊ะป๋ะมาม้า และเรียกคุณพ่อกับคุณแม่แทน เขามุ่งหน้าไปห้องพื้นดิน หยิบถังไม้ขึ้นมา 2 อันและออกไปข้างนอก เนื่องจากเข้าสู่ช่วงปลายเดือนตุลาคมแล้ว ทำให้ตอนเช้าค่อนข้างหนาว

เขามุ่งหน้าไปยังที่ตักน้ำสาธารณะ โดยตรงนั้นเป็นบ่อน้ำที่ถูกขุดไว้หลายแห่งในหมู่บ้าน เพื่อให้ทาสติดที่ดินมาตักไปใช้ ซึ่งมันไม่ได้ไกลอะไรมากนัก

“อรุณสวัสดิ์ครับ”

“โอ๊ะ ลูกชายของโรดันเหรอ อรุณสวัสดิ์”

มีประมาณ 4 – 5 คนยืนต่อแถวอยู่ ทำให้อเลนไปยืนต่อหลัง พอมองดูคนที่อยู่ข้างหน้า ก็เข้าใจได้ทันทีว่าต้องดึงเชือกเพื่อทำการตักน้ำจากบ่อ ถึงจะเคยดูไกลๆ แต่เพิ่งจะเคยทำเป็นครั้งแรก

พวกผู้ใหญ่ส่งสายตามาทางนี้ราวกับสงสัยว่าทำไมมีเด็กมาอยู่ตรงนี้บ้าง หรือไม่ก็เพราะรู้ว่าโรดันบาดเจ็บสาหัสอยู่

พอมาถึงตาของฉัน ก็ทำการดึงเชือกเพื่อกวักน้ำในบ่อเข้าถัง

ซ่า

และเติมถังไม้ 2 ถังจนเต็มได้โดยไร้ปัญหา ซึ่งพวกผู้ใหญ่เฝ้ามองด้วยความสนใจอยู่

“นี่ๆ เจ้าหนู ใส่น้ำไปซะขนาดนั้นจะเอากลับบ้านได้เหรอ”

“เอ๊ะ? ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ”

พอพูดอย่างนั้นก็ยกถังน้ำที่แต่ละถังใส่น้ำไปประมาณ 30 ลิตรด้วยมือทั้งสองข้างกลับบ้าน สร้างความตกตะลึงใหกับพวกผู้ใหญ่ที่พบเห็น

(กะแล้วเชียวว่าพ่อต้องมีพลังมาก ถังเองก็ใหญ่กว่าคนอื่นด้วย)

ในระหว่างที่คิดอย่างนั้นก็กลับมาถึงบ้าน และปล่อยน้ำจากตุ่มเก่าออกทางรูระบายน้ำข้างบ้าน พอเอาโอ่งใส่น้ำกลับมาที่เดิมก็ทำการเทน้ำจากถังไม้เข้าไปแทนที่

“……”

เทเรเซียดูสภาพอย่างนั้นแต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา

“คุณแม่ วันนี้ตอนบ่ายคุณเกลด้าจะสอนวิธีถอนมันฝรั่ง ต้องเตรียมอะไรบ้างเหรอครับ?”

“นะ นั่นสินะ”

เนื่องจากเทเรเซียผู้เป็นแม่ท้องเริ่มโตต้องเฝ้าไข้โรดันกับดูแลมัชชู จึงขอไปเรียนรู้วิธีเก็บมันฝรั่งจากเกลด้า

เมื่อวานอเลนบอกว่าจะจัดการเรื่องงานที่บ้านเอง ทำให้งานบ้านที่ต้องช่วยเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงต้องทำงานสวนด้วย การเปลี่ยนน้ำในโอ่งที่โรดันทำทุกเช้าก็เป็นงานส่วนหนึ่งด้วย

เมื่อวานโรดันกับเทเรเซียรวมไปถึงเกลด้า ปรามไปว่ายังแค่อายุ 6 ขวบอยู่ แต่ความมุ่งมั่นของอเลนนั้นแน่วแน่ ถ้าพูดถึงขนาดนั้นเลยลงความเห็นว่าให้เจ้าตัวรู้ถึงความยากลำบากและทำไม่ได้ด้วยตัวเองจะดีกว่า

เทเรเซีเอาอาหารเช้าไปยังห้องที่โรดันอยู่ ถึงบ้านจะแคบแต่ไม่สามารถพามายังห้องนั่งเล่นที่อยู่ข้างๆห้องนอนได้ เทเรเซียเลยคอยป้อนอาหารให้กิน

พอกินข้าวเสร็จก็ทำการเก็บจาน และทำการซักผ้า ช่วงนี้การซักผ้ากลายเป็นกิจวัตรประจำวันไป และเลิกทำการปาหินที่ทำมาตลอดตั้งแต่ตอนอายุ 3 ขวบ

หลังจากกินอาหารกลางวันเสร็จเกลด้าก็มาหา เนื่องจากช่วงเช้าต้องทำงานสวนของตัวเองเลยมาตอนช่วงบ่าย

“อเลน ถ้าจะเก็บมันฝรั่งเอาตะกร้านี้ไปด้วย”

เพราะอยากจะให้ล้มเลิกเร็วๆหรือเปล่านะ เลยพูดด้วยท่าทางเข้มงวด

“ครับคุณเกลด้า”

ทำตามที่ชี้แนะอย่างจริงจังราวกับจะถ่ายทอดให้เห็นถึงความตั้งใจ ก่อนจะมุ่งหน้าไปที่สวน

สวนที่อยู่ข้างๆบ้านของอเลน เป็นสวนของโรดัน

(สวนถูกแบ่งเป็น 4 – 5 ส่วนด้วยคันนา รู้สึกว่าจะมีข้าวสาลี มันฝรั่ง ถั่ว แล้วก็ผัก พอดูอย่างนี้แล้วค่อนข้างกว้างนะเนี่ย)

เป็นสวนกว้างที่จัดการดูแลด้วยตัวคนเดียว

(กะแล้วเชียว เลเวลน่าจะเพิ่มเยอะอยู่นะเนี่ย ผลของการล่าหมู่ป่าสินะ)

โรดันทำการล่ามอนสเตอร์หมูป่าระดับ C มาตั้งแต่ก่อนที่อเลนจะเกิด คิดว่าเลเวลน่าจะเพิ่มและมีพลังมากกว่าชาวบ้านทั่วไป

แน่นอนว่ามันไม่ได้กว้างถึงขนาดที่จะต้องดูแลด้วยรถแทรกเตอร์ในโลกแห่งความเป็นจริง แต่สำหรับอารยธรรมที่ใช้จอบและเสียม มันถือว่าค่อนข้างกว้างสำหรับหนึ่งครอบครัว

สวนที่พ่อจะมาดูแลทุกวัน มีลำต้นเหี่ยวๆอยู่ตรงพื้นดิน

“ทำอย่างนี้ แล้วจะดึงมันฝรั่งออกมาได้”

เกลด้าอธิบายวิธีการทำงาน ในขณะที่อเลนมองสวนอย่างใจจดใจจ่อ เขาที่มีรูปร่างกำยำดึงลำต้นเหี่ยวๆด้วยมือข้างเดียวอย่างแรง ทำให้มันฝรั่งหัวเล็กหัวใหญ่โผล่ออกมา เกลด้าเองก็มีพลังมากจากการไปล่าหมู่ป่าเหมือนกับโรดัน

มันฝรั่งที่ถอนได้ในวันนี้ จากรสและรูปร่างน่าจะใกล้เคียงกับมันเทศ เนื่อจากมีรสหวานทำให้มัชชูชอบมาก

“อย่างนี้สินะ”

“โอ้ รากมันฝังค่อนข้างลึก ดึงให้เต็มที่เลยนะ”

ผมดึงขึ้นมาด้วยมือ้างเดียวเหมือนกับเกลด้า

“นะ นี่ มือข้างเดียวถอนไม่……”

ก่อนที่จะพูดจบ ก็ดึงมันฝรั่งออกมาเต็มแรงเหมือนอย่างเกลด้า

“เอามันฝรั่งทั้งหมดใส่เข้าไปในตะกร้าเลยเหรอครับ?”

“อะ อือ แยกเฉพาะส่วนที่จะเอากลับบ้านน่ะ ส่วนอันเล็กๆเอาไว้เป็นเมล็ดของปีหน้า”

ฉันใช้มือทั้งสองข้างจับลำต้นแล้วดึงออกมาเรื่อยๆ ก่อนจะสะบัดดินออกและใส่เข้าไปในตะกร้า จนมันค่อยๆเต็ม

(การจะถอนมันฝรั่งทั้งหมด แค่วันเดียวคงไม่จบแน่ๆ แล้วจะถอนแต่มันฝรั่งก็ไม่ได้ด้วย)

“เอาสิ่งนี้ไปไว้ที่สวนตรงบ้านเหรอครับ?”

“อ๊ะ? อ้อ ใช่แล้ว อเลนแรงเยอะนะเนี่ย”

“ครับ ลูกของคุณพ่อนี่ครับ”

ถึงจะเอามันฝรั่งใส่ในตะกร้า แต่ในดินยังมีเหลืออยู่เยอะ มันฝรั่งถือเป็นอาหารหลักของบ้านอเลนตลอดทั้งปี

ถ้าเก็บมาทั้งหมดจะเอาใส่ในห้องดินไม่พอ เลยต้องวางกองไว้ที่มุมหนึ่งของสวนในบ้าน ซึ่งสวนบ้านอเลนล้อมไว้ด้วยรั้วไม้ผุๆแต่ก็ไม่ได้แคบนัก มันกว้างพอที่จะวางของที่เก็บเกี่ยวหรือเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินกับคุเรนะได้อยู่

ตะกร้าที่ใส่มันฝรั่งจนเต็ม มันใหญ่และหนักกว่าเด็กอายุ 6 ขวบ เลยใช้มือทั้งสองข้างยกมันขึ้นมา ทำให้เกลด้าถึงกับตกตะลึงจนตาค้าง

ทั้งโรดัน เทเรเซียแล้วก็เกลด้าไม่มีใครคิดว่าอเลนไม่มีพลัง คงคิดแค่ว่าน่าจะมีพลังมากกว่าเด็กทั่วๆไปอยู่ และเคลื่อนไหวไม่เหมือนกับเด็กเพราะเห็นการเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินกับคุเรนะมา 3 ปี งานบ้านที่ปกติทำก็แสดงพลังให้เห็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

แต่ที่แสดงให้เห็นมันเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น ดินตรงคันนาที่อ่อนนุ่มเพราะได้รับการพรวนยุบลงไปเป็นรอยเท้าเล็กๆตามการเดิน

(เบานะเนี่ย ดีนะเนี่ยที่เพิ่มพลังโจมตีเอาไว้)

เดิมทีเพื่อที่จะเพิ่มพลังเวททำให้มีการ์ดพืช F มากกว่าสัตว์ เป็นการแบ่งสัดส่วนของการ์ดเพื่ออยู่ในโหมดฟาร์ม

อเลนเลิกที่จะสะกดและซ่อนสเตตัสของตัวเอง ทำการปลดทุกอย่างเพื่อทำงานบ้านและงานสวน ที่ไม่ได้บอกเพราะแม่กำลังตั้งท้องกับมีน้องชายอยู่ด้วย แต่แถวนี้มียอดนักดาบอยู่ด้วย ต่อให้สะดุดตาสักหน่อย แต่ถูกประเมินว่าเป็นทาสติดที่ดินซึ่งไม่มีพรสวรรค์คงไม่เป็นไรหรอก

(ถ้ายังต้องทำงานสวนอยู่ คงยากที่จะจัดการ์ดโดยให้ความสำคัญกับการ์ดพืช F คงต้องมาปรับการจัดแบ่งการ์ดให้ดีๆแล้วด้วยสิ)

มองไปยังมุมหนึ่งของสวน

“สวนนั้นเป็นสวนที่คุณพ่อดูแลเหรอครับ?”

ในระหว่างที่ถือตะกร้าซึ่งเต็มไปด้วยมันฝรั่ง ก็มองไปยังสวนที่มีต้นหญ้าสูงกว่าอเลนงอกขึ้นมา

“อ้อ ใช่แล้ว ปีหน้าจะทำการถอนหญ้าแล้วค่อยพรวนดินน่ะ”

ตรงนั้นเป็นที่ดินปล่อยร้างจนกว่าจะถึงปีหน้า

(โห กะแล้วว่าต้องเป็นสวนของคุณพ่อ ถึงจะมีหญ้างอก แต่ให้ความรู้สึกกว้างเอาเรื่องอยู่)

ถึงทาสติดที่ดินจะมีที่ดินเป็นของตัวเองไม่ได้ แต่มีการจัดสรรที่ดินให้อยู่ ซึ่งตามปกติแล้วจะสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น

พอวางมันฝรั่งไว้ที่มุมหนึ่งของสวน ก็มีใครสักคนมาที่บ้านของอเลนพอดี

“โทษทีนะ โรดันอยู่ไหม?”

“อ๊ะ? หัวหน้าหมู่บ้านนี่”

หัวหน้าหมู่เดโบจิมาหา ตอนพิธีประเมินหรืองานเลี้ยงเห็นใกล้ๆหลายครั้งจนจำหน้าได้ เกลด้าส่งเสียงค่อนข้างโกรธต่อหัวหน้าหมู่บ้านคนนั้น

“โอ้ เกลด้าเหรอ ได้ยินมาว่าโรดันฟื้นแล้วนี่ เอ้า เจ้าเองก็มาได้แล้ว”

“คะ ครับ”

หัวหน้าหมู่บ้านไม่ได้มาคนเดียว เขาพาเด็กหนุ่มมาด้วยอีกคน อายุน่าจะราวๆ 15 ปี ซึ่งอเลนไม่เคยเห็นหน้า

เขาลอดผ่านประตูเข้ามา คิดว่าการเข้ามาโดยไม่ลังเลอย่างนี้คงเป็นความแตกต่างของหัวหน้าหมู่บ้านกับทาสติดที่ดิน

ในระหว่างที่อเลกับเกลด้ามองอยู่ หัวหน้าหมู่บ้านก็เข้ามาใกล้โถงทางเดิน

“หัวหน้าหมู่บ้าน มีอะไรหรือคะ?”

เทเรเซียรู้สึกเสียงที่แปลกออกไปเลยออกมาจากห้องพื้นดิน อเลนเพิ่งเคยได้ยินน้ำเสียงอย่างนั้นเป็นครั้งแรก

(คุณแม่โกรธอยู่สินะ ก็นะ ถ้าหัวหน้าหมู่บ้านไม่บอกว่าให้ประชาชนเข้าร่วมด้วย คุณพ่อก็คงไม่เจออะไรอย่างนี้)

“ได้ยินมาว่าโรดันฟื้นแล้ว มาเยี่ยมที่บาดเจ็บหนักน่ะ”

พอบอกอย่างนั้น เด็กหนุ่มแสดงถังเล็กๆกับอาหารจำนวนนิดหน่อยให้เห็น

“อยู่ด้านในค่ะ”

คงบอกให้กลับไปไม่ได้ ก่อนจะพาทั้งคู่ไปยังห้องที่โรดันนอนอยู่

(เหมือนเด็กหนุ่มคนนี้กำลังสั่นอยู่เลย)

เด็กหนุ่มสั่นกลัวอยู่

“คุณคะ หัวหน้าหมู่บ้านมาเยี่ยมค่ะ”

“หือ? อ้อ”

เด็กหนุ่มวางของเยี่ยมไว้ตรงห้องรับแขก ก่อนจะมุ่งหน้าไปห้องนอน โรดันยันตัวขึ้นมาจากที่นอนเพื่อดูสภาพ

“ตะ ต้องขอโทษด้วยครับ เป็นเพราะผมแท้ๆ!!”

เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงพื้นก้มศีรษะลงมาขอโทษ ดูเหมือนจะเป็นประชาชนหนุ่มคนนี้จะเป็นต้นเหตุทำให้บาดเจ็บสาหัสอยู่

“อ๊ะ? นั่นสินะ ถ้ายังตั้งใจจะทำต่อแล้วละก็ครั้งหน้าระวังให้ดีล่ะ เพราะทุกคนเดิมพันด้วยชีวิต”

“เอ๊ะ? อ๊ะ ครับ”

เป็นคำตอบที่เกินคาดสำหรับเด็กหนุ่ม ทำให้เผลอแสดงหน้าที่แท้จริงไปครู่หนึ่ง

หัวหน้าหมู่บ้านบอกว่ารักษาตัวให้ดีก่อนจะกลับไป ดูเหมือนประชาชนหนุ่มจะไม่กล้ามาคนเดียวเลยตามมาด้วย แล้วทั้งคู่ก็ออกจากห้องดินเพื่อกลับไป

อเลนกับเกลด้ายังต้องถอนมันฝรั่ง เลยมองส่งก่อนจะกลับไปที่สวน

“คุณเกลด้า คนคนโน้นคือ?”

“หือ? อ้อนั่นสินะ”

แล้วเขาก็เล่าสถานการณ์ตอนโน้นให้ฟัง เขาเป็นประชาชนที่เข้าทีมคนใหม่ซึ่งรับหน้าที่กำแพง เขาเข่าอ่อนเพราะความกลัวจนทำให้หมูป่าพุ่งเข้าเข้ามาตะลุมบอน

“โรดันเข้าไปกันให้หมอนั่นเลยได้รับบาดเจ็บสาหัส อ้อ คิดว่าคงรู้อยู่แล้วแต่อย่าไปบอกกับคนอื่นล่ะ หมอนั่นไม่ชอบให้ใครพูดอะไรอย่างนั้นสักเท่าไรด้วยสิ”

พอเดินไปตามทางก็สวนกับทาสติดที่ดินหลายต่อหลายคน ดูเหมือนจะรู้ข่าวว่าโรดันฟื้นแล้ว เลยมาเยี่ยมพร้อมกับมีของติดไม้ติดมือมาด้วย

อเลนคิดว่าภาพที่เห็นนี้มันช่างน่าภาคภูมิใจมาก