บทที่ 157 คนวางยาพิษที่แท้จริง

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่157 คนวางยาพิษที่แท้จริง

ตอนที่นางแก้พิษให้คุณหนูสี่จากตระกูลหลี่ก็ตั้งใจไม่ตรวจดูว่าโดนพิษอะไร จุดประสงค์ก็เพื่อให้คนที่วางยาพิษมาทำลายหลักฐาน คิดไม่ถึงเลยว่าจะไม่มีคนมา……

เมื่อนึกถึงตรงนี้ หลานเยาเยาก็รีบเดินเข้าไปในห้อง

นางไม่ได้เดินไปดูอาการคุณหนูสี่จากตระกูลหลี่เป็นอันดับแรก แต่เดินไปตรวจหน้าต่างแต่ละบานหนึ่งรอบเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติจึงนั่งลงข้างเตียง

หลังจากตรวจสอบไปรอบ

ก็พบว่าสิ่งที่ทำให้คุณหนูสี่จากตระกูลหลี่ถูกพิษก็คือผ้าเช็ดหน้าในอ้อมแขนนาง

ผ้าของผ้าเช็ดหน้านั้นมีคุณภาพดีมาก งานฝีมือก็ประณีต ลายปักนกกางเขนบนนั้นก็ดูเหมือนจริง ไม่ว่าผู้หญิงที่ไหนได้เห็นก็ต้องชอบผ้าเช็ดหน้าผืนนี้

หลานเยาเยาหยิบกล่องออกมาเอาผ้าเช็ดหน้าใส่เข้าไป จากนั้นก็มองคุณหนูสี่จากตระกูลหลี่ที่นอนหน้าซีดอยู่บนเตียง

ดูแล้วไม่น่าจะตื่นในชั่วครู่ชั่วยาม

เรื่องวางยาพิษจะจัดการให้เร็ว ถึงอย่างไรจากนี้ก็ยังจะมีเรื่องวุ่นวายอีกมากรอเข้ามา

ดังนั้น!

หลานเยาเยารีบสั่งให้องครักษ์ค่อยๆเชิญเหล่าคุณหนูอื่นๆมายังห้องโถง ก่อนที่ยังไม่มีใครมา ฮัวหยู่อันถามอย่างไม่เข้าใจว่า:

“คุณหนู ของที่ท่านให้ข้าไปเตรียมใช้ไม่ได้ใช่ไหม?”

ดูของที่หลานเยาเยาให้นางเตรียมแล้วดูค่อนข้างน่าสนใจ น่าเสียดายที่หลานเยาเยาสามารถมองทะลุการแสดงของเหล่าคุณหนูพวกนั้นได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ของที่นางเตรียมมานั้นไม่ได้ใช้

“วันนี้ไม่ได้ใช้” พรุ่งนี้ไม่รู้

ยังไงกันไว้ก็ดีกว่าแก้ ต้องมีสักวันที่ต้องได้ใช้

เมื่อฟังสองคนคุยกัน จื่อซีก็ระแวง

เตรียมอะไรกันถึงดูลึกลับขนาดนี้? หรือสำหรับพระชายาแล้ว สถานการณ์วันนี้ไม่ถือว่าแย่?

ขณะกำลังคิดอยู่ เหล่าคุณหนูพวกนั้นก็ถูกเชิญมาถึงในห้องโถง

หลังจากพวกนางทยอยกันนั่งลง หลานเยาเยาก็ไม่พูดอ้อมค้อมถามทุกคนไปตรงๆว่า: “ในเมื่อพวกเจ้ากับคุณหนูสี่จากตระกูลหลี่เป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน เจ้าก็น่าจะรู้นิสัยนาง ไม่ทราบว่ามีใครรู้บ้างว่าฝีมือการปักของคุณหนูสี่จากตระกูลหลี่เป็นอย่างไร?”

เหล่าคุณหนูทุกคนต่างมองกันไปมา แล้วก็ก้มหัวลง

แต่คุณหนูรองถังลุกขึ้น เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางเหมาะสมว่า!

“เรียนพระชายาเย่ แม้น้องสี่หลี่จะเข้าใจทะลุปรุโปร่งทั้งเรื่องการดนตรี หมาก หนังสือ วาดภาพ แต่ฝีมือการปักนั้น……ธรรมดา”

คุณหนูรองถังไม่ได้พูดไร้สาระแต่ตอบตามความจริง

เมื่อได้ยิน หลานเยาเยาก็พยักหน้าเงียบๆจากนั้นก็สั่งให้จื่อซีหยิบกล่องที่ใส่ผ้าเช็ดหน้าออกมาและเปิดออก

“เจ้าบอกว่าฝีมือการปักนางธรรมดา แต่นกกางเขนที่ปักบนผ้าเช็ดหน้านางนั้นเหมือนจริงมาก สามารถปักของเช่นนี้ออกมาได้ ฝีมือการปักคงไม่ธรรมดาแล้ว”

หลานเยาเยาจ้องตาคุณหนูรองถังนิ่ง แต่คุณหนูรองถังกลับก้มหน้าลงอย่าอายๆ

“ผ้าเช็ดหน้านี้เดิมทีข้าเป็นคนปักเพิ่งเสร็จเมื่อวาน ตอนแรกคิดว่าจะใช้เอง วันนี้น้องสี่หลี่เห็นแล้วชอบมากข้าจึงให้นาง

ได้รับคำชมจากพระชายาทำให้ข้าดีใจมากจริงๆ”

พี่สาวของนางถังมู่หวั่น ไม่เพียงแต่เป็นผู้หญิงที่มีความรู้มีชื่อเสียงแต่ยังเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง แม้ตอนนี้ตำแหน่งสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงจะถูกพระชายาเย่ทำให้สั่นคลอน

แต่ไม่ว่าจะเป็นความงามหรือความสามารถ ถังมู่หวั่นก็ต่างครอบครองดังนั้นนางจึงไม่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองหลวง

วันนี้ได้รับคำชมจากพระชายาเย่ ทำให้นางซาบซึ้งอย่างมาก

เอ่อ……

หลานเยาเยาก็รู้สึกวุ่นวายทันที

แม่นาง เจ้ายังไม่เข้าใจสถานการณ์อีกนะ ตอนนี้จวนอ๋องเย่เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้คิดว่าจะมีกะจิตกะใจมาชมว่าฝีมือการปักดีอีกเหรอ?

แต่ว่า!

เมื่อเห็นการแสดงออกของคุณหนูรองถังตอนนี้ไม่ได้เสแสร้งแน่นอน

หรือว่าคนที่วางยาพิษที่แท้จริงจะไม่ใช่นาง?

หรือว่านางซ่อนได้แนบเนียนมาก แม้แต่นางผู้ที่อยู่มาสองชั่วชีวิตก็ไม่มีทางดูออก?

“ทุกคนลงไปก่อนเถอะ! ข้าต้องการเรียนรู้สิ่งสำคัญในการปักกับคุณหนูรองถังสักหน่อย”

ก่อนที่เรื่องราวความจริงยังไม่ปรากฏ

ถ้านางพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาว่าผ้าเช็ดหน้าที่คุณหนูรองถังเป็นเหตุทำให้คุณหนูสี่จากตระกูลหลี่โดนยาพิษ ถ้าอย่างนั้นสุดท้ายไม่ว่าคนที่เป็นฆาตกรจะใช่คุณหนูรองถังหรือไม่ ยังไงชื่อเสียงนางก็จะพังย่อยยับ

หลังจากที่ทุกคนลงไป

หลานเยาเยากล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า: “เจ้ารู้หรือไม่ว่าผ้าเช็ดหน้านี้เป็นตัวการที่ทำให้คุณหนูสี่จากตระกูลหลี่โดนยาพิษ?”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา

คุณหนูรองถังที่เดิมทีมีท่าทางดีอกดีใจก็แข็งทื่อทันที สีหน้าเปลี่ยนไปซีดราวกับกระดาษอย่างรวดเร็ว

หลังจากตกใจอยู่นานก็รีบคุกเข่าก้มหัวทันที

“พระชายาโปรดตรวจสอบให้ชัดเจน ข้าไม่ใช่ผู้วางยาพิษ ข้าเพียงแค่เห็นว่านางชอบจึงให้นางก็เท่านั้น ข้าไม่รู้เรื่องจริงๆ โปรดพระชายาท่านต้องตรวจสอบหาความจริง ข้าเป็นผู้บริสุทธิ์”

คุณหนูรองถังที่จิตใจร้อนรน ตอนนี้ได้ทรุดตัวลงแทบพื้นน้ำตาร่วง “แหมะแหมะ”ราวไข่มุกไม่ขาดสาย

มันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร?

นางก็แค่อยากมาที่จวนอ๋องเย่เพื่อเห็นอ๋องเย่ที่หน้าตาหล่อเหลาราวเทพบุตรก็เท่านั้นแล้วก็รวดพิสูจน์พระชายาเย่ไปเลยว่ามีการรักษาสูงส่งอย่างข่าวลือหรือไม่

แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะกลับกลายเป็นเช่นตอนนี้

ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ นางก็จะอยู่แต่ในห้องสงบๆแล้ว

“เป็นผู้บริสุทธิ์หรือไม่ยังไม่อาจสรุปได้ เจ้าต้องเล่าเรื่องตั้งแต่หลังจากที่ปักผ้าเช็ดหน้าเสร็จจนถึงก่อนที่คุณหนูสี่จากตระกูลหลี่จะโดนยาพิษออกมาให้ละเอียด”

ได้ยินดังนั้น!

คุณหนูรองถังพยักหน้าอย่างแรงเหมือนลูกไก่จิกข้าวจากนั้นก็เล่าเรื่องราวออกมาอย่างละเอียด

หลานเยาเยาเข้าใจคร่าวๆแล้ว

ปรากฏว่าหลังจากที่คุณหนูรองถังปักผ้าเช็ดหน้าเสร็จแล้วก็เอาไว้ในมือตลอด ระหว่างนั้นถังมู่หวั่นมาหาครั้งหนึ่งแล้วยุยงให้คุณหนูรองถังพาคุณหนูของแต่ละตำหนักมาจวนอ๋องเย่

คุณหนูสี่จากตระกูลหลี่เห็นว่าผ้าเช็ดหน้าสวย ตนเองก็ปักไม่เป็นจึงเอ่ยปากขอคุณหนูรองถัง เรื่องราวหลังจากนั้นก็คือคุณหนูสี่จากตระกูลหลี่แกล้งป่วยจนโดนยาพิษเข้าจริงๆ

หลังจากที่ฟังจบหลานเยาเยายกยิ้มพูดกับคุณหนูรองถังว่า:

“ยินดีกับเจ้าด้วยได้กลายเป็นหมากของคนอื่นแล้ว แถมยังหลบเลี่ยงจากยาพิษได้อีก”

“……”

คำพูดนี้ทำให้คุณหนูรองถังเสียใจมากขึ้นไปอีก

แต่แม้ว่าจะโง่อีกแค่ไหนนางก็เข้าใจแล้วว่าคนที่โดนยาพิษควรจะเป็นนางแต่กลับทำให้น้องสี่หลี่ต้องมารับเคราะห์แทน

หลังจากที่หลานเยาเยาให้นางลงไปก็สั่งให้คนพาคนอื่นๆมาสอบถามทีละคนๆ

เดิมทีนางไม่ได้คิดว่าคนที่วางยาพิษจะอยู่ในหมู่คุณหนู แต่กลับได้พบเบาะแสบางอย่างขณะทำการซักถาม จึงขู่ขวัญไปว่าคนวางยาพิษได้สารภาพออกมาแล้ว

สิ่งที่ทำให้นางผิดหวังก็คือคนที่วางยาพิษเป็นคนที่ไม่น่าสะดุดตาที่สุดในหมู่คุณหนู เจตนารมณ์ในการทำร้ายก็คืออิจฉาลำดับศักดิ์ของคุณหนูรองถังและคุณชายที่นางชอบดันมาชอบคุณหนูรองถัง

อ้า……

นี่มันคาดไม่ถึงจริงๆ!

นางคิดว่านี่น่าจะเป็นแผนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวของถังมู่หวั่นที่ใช้ประโยชน์จากการที่คุณหนูรองถังโดนยาพิษก็สามารถทำให้นางเสียหน้า ทำให้จวนอ๋องเย่อับอายอีกทั้งยังสามารถกำจัดคุณหนูรองถังด้วย

แต่คิดไม่ถึงว่าผลสุดท้ายจะเป็นเช่นนี้……

แม้จะผิดหวังแต่เรื่องราวก็คลี่คลายได้แล้ว คนวางยาพิษก็ส่งไปยังที่ว่าการแล้ว คุณหนูแต่ละตำหนักก็ปล่อยพวกนางกลับไปแล้ว

หลานเยาเยามองท้องฟ้า

ตายหล่ะ!

ดูท่าใกล้จะค่ำแล้ว วันนี้ผ่านไปไวเสียจริง!

ตอนนี้เองก็มีองครักษ์ลับคนหนึ่งปรากฏตัวมาคุกเข่าอยู่ตรงหน้านางรายงานว่า…