บทที่ 144 พงศกรสารภาพรัก

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

เห็นเขาจ้องตัวเองไม่ละสายตาออก วารุณีก็กังวลเล็กน้อย หลังจากรีบยิ้มให้เขาเสร็จ ก็รีบหันหน้ากลับไป

งานแต่งดำเนินการไปอย่างราบรื่น แป๊บเดียวก็ถึงตอนโยนช่อดอกไม้

ผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงานหลายคนก็ล้อมรอบเข้าไปทันที อยากรับช่อดอกไม้ไว้

วารุณีไม่มีความเห็นนี้ ยืนอยู่ด้านนอกกลุ่มคน มองทั้งหมดนี้ด้วยรอยยิ้ม

พงศกรเดินไปด้านหลังของเธอ“ไม่ไปแย่งเหรอ?”

วารุณีส่ายหน้า“ไม่ดีกว่า แย่งไม่ได้หรอก”

พงศกรมองเจ้าสาวที่ถูกคนล้อมรอบไว้“ถ้าผู้ชายไปแย่งช่อดอกไม้ได้ ผมก็จะไปแย่งมาให้คุณ ได้ยินว่าผู้หญิงที่รับช่อดอกไม้ไว้ได้ ก็จะเป็นเจ้าสาวคนถัดไป”

พูดถึงตรงนี้ เขาก็ดันแว่นมองสำรวจตัวเธอ แววตาเปล่งประกาย“ที่จริงการแต่งตัวของคุณตอนนี้ ก็เหมือนเจ้าสาวมาก”

“เหรอ”วารุณีก้มหน้าลงมองตัวเอง

พงศกรพยักหน้า“จริงๆ”

วารุณีถูกหยอกก็หัวเราะ กำลังจะพูดอะไร ก็เห็นเจ้าสาวหันกลับ หลังชนเข้ากับทุกคน ยกช่อดอกไม้ขึ้นสูงทิ้งแล้วโยนออกไป

ทุกคนต่างเงยหน้าขึ้นแล้วยกมือ อยากจะคว้าช่อดอกไม้ไว้

อย่างไรก็ตามช่อดอกไม้กลับข้ามผ่านหัวของพวกเธอ ตกลงไปในอ้อมแขนของชายหนุ่มที่เดินผ่าน

ชายหนุ่มที่โดนช่อดอกไม้ตกลงมากระแทกอย่างกะทันหัน ฝีเท้าก็หยุดลงทันที

ฉากนี้ ทำให้ผู้หญิงทุกคนต่างตะลึง

พวกเธอต่างคิดไม่ถึงว่า ช่อดอกไม้จะถูกผู้ชายคนหนึ่งรับไว้

วารุณีก็ตะลึงไปด้วย มองสภาพนัทธีที่ตกใจหน่อยๆ ก็ทนไม่ไหวจริงๆ เอามืออุดปากแล้วหัวเราะออกมา

เสียงหัวเราะของเธอ ทำลายความเงียบที่แปลกประหลาดนี้

ตอนที่ผู้หญิงพวกนี้กำลังคุยกันว่าจะเอาช่อดอกไม้กลับมาหรือไม่ แล้วโยนไปใหม่อีกครั้ง ก็เห็นชายหนุ่มที่รับช่อดอกไม้ไว้ จู่ๆก็เดินมาทางพวกเธอ

ชายหนุ่มดูทรงพลัง เดินไปทุกที่ พวกผู้หญิงก็จะแยกออก หลีกทางให้เขาเอง

ดังนั้นนัทธีจึงมาตรงหน้าวารุณีอย่างไร้อุปสรรค ท่ามกลางสายตาที่งุนงงของวารุณี ก็รับช่อดอกไม้มา“ให้คุณละกัน”

“ให้……ให้ฉันเหรอ?”วารุณีอ้าปากอย่างตกใจ

พงศกรที่อยู่ข้างเธอหรี่ตาลง จ้องมองนัทธีอย่างร้ายกาจ

นัทธีรู้สึกได้ แต่ไม่ได้สนใจ เอาช่อดอกไม้วางไว้ในมือวารุณี“คนอื่นๆ ผมไม่รู้จัก ให้พวกเธอไปคงไม่เหมาะสม คุณรับไว้เถอะ”

พูดจบ เขาก็หันกลับจะออกไป

วารุณีกอดช่อดอกไม้ไว้ ตะโกนไปที่แผ่นหลังของเขา“ประธานนัทธี ขอบคุณค่ะ”

ริมฝีปากบางๆของนัทธียกขึ้น ไม่ได้หยุดฝีเท้าลง

วารุณีเห็นเขาไปแล้ว ก็ก้มหน้าลงลูบช่อดอกไม้ในอ้อมแขน

เธอคิดไม่ถึงว่า จู่ๆจะมีความคืบหน้าเหมือนในละครขึ้นมาได้ เธอไม่อยากไปแย่งช่อดอกไม้ แต่สุดท้ายช่อดอกไม้ก็มาเป็นของเธอเอง

มองวารุณีรู้สึกต่อดอกไม้ที่นัทธีให้ ด้วยสภาพที่ทะนุถนอมอย่างรักใคร่แบบนี้ พงศกรก็รู้สึกแค่ว่าข้างในใจเดือดพล่าน

เขาอยากจะแย่งดอกไม้ในอ้อมแขนเธอ ทิ้งลงพื้นแล้วเหยียบย่ำมาก

แต่สติของเขา ให้เขาอดทนความคิดนี้ไว้

งานแต่งงาน จึงเสร็จสิ้นไปแบบนี้

หลังจากวารุณีเปลี่ยนเสื้อผ้าคืนกลับมา ก็ไปห้องน้ำ

ตอนออกมา เธอตกใจที่ถูกชายหนุ่มเอนพิงอยู่ที่กำแพงนอกห้องน้ำ

“พงศกร คุณรอฉันที่นี่เหรอ?”วารุณีได้สติคืนมา ก็ถามออกไปเบาๆ

พงศกรมองมือเธอที่ยังถือช่อดอกไม้ไว้ สายตามีความโมโหแวบเข้ามา

แม้แต่เข้าห้องน้ำ เธอก็ยังไม่ยอมวางลง เธอชอบของที่นัทธีให้มาก!

รู้สึกถึงความเยือกเย็นที่แพร่ออกมาจากตัวพงศกร วารุณีจึงเอียงหัวอย่างสงสัย“พงศกร คุณเป็นอะไร?”

พงศกรยืนตรงเดินมาตรงหน้าเธอ มือข้างหนึ่งกดเธอแนบกับผนัง ก้มหน้าลงเล็กน้อยมองไปที่เธอ“วารุณี คุณชอบนัทธีขนาดนี้เลยเหรอ?”

“อ๋า?”รูม่านตาวารุณีหดลง ใจเต้นแรง ละสายตาจากเขาอย่างไม่รู้ตัว“พงศกร คุณกำลังพูดอะไรน่ะ?”

“ไม่ต้องเสแสร้งแล้ว คุณรู้ว่าผมกำลังพูดอะไร”พงศกรบีบคางของเธอไว้ เอาหน้าของเธอหันกลับมา

วารุณีไม่ชอบการกระทำแบบนี้ของเขา หลังจากขมวดคิ้วแล้ว ก็ยกมือขึ้นอยากจะปัดมือของเขาออก

แต่พงศกรจู่ๆกลับออกแรงมากขึ้น บีบคางของเธอจนเจ็บ

วารุณีเจ็บจนส่งเสียงฮึดฮัดออกมา“พงศกร ปล่อยมือนะ!”

พงศกรไม่ปล่อย ก้มหน้าลงเข้าใกล้เธอ พร้อมกับลมหายใจที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆรวยรินใส่ที่ใบหน้าเธอ ถามไปว่า“ทำไม?ทำไมคนที่คุณรักถึงเป็นนัทธีไม่ใช่ผม?”

วารุณีตะลึงกับคำพูดของเขานี้ เธอมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ“พงศกรคุณ……”

“ห้าปีแล้ว”พงศกรตัดบทเธอ เอาหน้าซุกไปที่คอของเธอ“ผมอยู่ข้างกายคุณมาห้าปีแล้ว ปมคิดมาตลอดว่า คุณจะค่อยๆพบความรู้สึกที่ผมมีต่อคุณ ดังนั้นผมจึงไม่เคยบังคับคุณ และก็ไม่ได้สารภาพรักกับคุณ แต่ผมคิดไม่ถึงว่า คุณกลับประเทศมาไม่ถึงสองเดือน ก็จะรักนัทธีเข้าให้แล้ว!”

ริมฝีปากวารุณีขยับ ในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์ แต่ก็ยังรู้สึกขอโทษมากกว่า“ขอโทษนะพงศกร ฉันไม่รู้จริงๆว่าคุณจะชอบฉัน!”

เธอเห็นเขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สดมาตลอด ดังนั้นไม่เคยคิดว่าเขาจะชอบเธอในทางนี้เลย

ยิ่งไปกว่านั้น ปาจรีย์ชอบเขา เธอจะไปแย่งกับปาจรีย์ได้อย่างไรกันล่ะ!

“คุณไม่รู้จริงๆ แต่ผมกลับคิดมาตลอดว่า คุณแค่ยังไม่เปิดใจ จะต้องมีสักวันที่เข้าใจ ดังนั้นผมเลยยอมรอ แต่ผมรอมาห้าปี กลับรอจนสุดท้ายคุณไปรักนัทธีเข้าให้ วารุณี ผมผิดหวังมากจริงๆ!”พงศกรเงยหน้าขึ้นมาจากคอของเธอ ใช้ดวงตาแดงก่ำมองเธอ

วารุณีตกใจกับสายตาบ้าระห่ำของเขา ร่างก็รู้สึกเกร็งขึ้นมา

เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นพงศกรแบบนี้ แปลกตามาก ไม่มีความอ่อนโยนเหมือนเคยเลย

“วารุณี คุณกำลังกลัวผมใช่ไหม?”พงศกรจับเส้นผมวารุณีขึ้นมาหนึ่งปอย ถึงแม้เสียงจะอ่อนโยน แต่กลับไม่มีความอบอุ่น ทำให้คนฟังอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

วารุณีฝืนฉีกยิ้มไปให้ เลี่ยงคำถามของเขา“พงศกร คุณเมาแล้ว ปล่อยฉันก่อนโอเคไหม?”

พงศกรหัวเราะเสียงทุ้ม“ผมไม่ได้เมา ผมรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร”

หัวแม่มือเขาลูบไล้ริมฝีปากของเธอ สายตาล็อกไปที่ริมฝีปากเธอ

“วารุณี ผมรอคอยคุณมานานมากแล้ว คุณกลับรักคนอื่น ผมไม่ปล่อยไปแบบนี้หรอก ผมจะลงโทษคุณอย่างดี!”

พูดไป เขาก็ก้มหน้าลงจูบริมฝีปากของวารุณี

วารุณีตะลึงงันไปหมด สักพักได้สติคืนมา สองมือคู่นั้นก็ดิ้นรน อยากจะผละเขาออก

แต่พงศกรกลับจับเธอไว้แน่น ไม่ให้เธอสลัดออกไปเลย

ตอนที่ลิ้นพงศกรเกือบจะเข้าไปในฟันวารุณี หมัดที่มาพร้อมลมจู่ๆก็ตีเข้ามา ชกไปที่หน้าพงศกร ต่อยเขาออกไป เซออกไปหลายก้าว แล้วล้มลงไปที่พื้นที่อยู่ไม่ไกล จากนั้นก็หมดสติทันที

“พงศกร!”วารุณีร้องด้วยความตกใจ จะเข้าไปดูสถานการณ์ของพงศกร

นัทธีดีงข้อมือเธอไว้ด้วยสายตาเย็นชา“เขาทำแบบนั้นกับคุณ คุณยังจะสนเขาอีก?”

วารุณีชะงักทันที อ้าปาก อยากพูดอะไร สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

นัทธีมองริมฝีปากที่เธอถูกพงศกรจูบจนแดง หน้าอกก็กระเพื่อมขึ้นมาด้วยความโมโห อดไม่ได้ที่จะออกแรงจับข้อมือของเธอไว้แน่น“ตามผมมา!”

พูดไป เขาก็ดึงเธอเดินไปข้างหน้า

ฝีเท้าของเขาใหญ่มาก วารุณีสวมรองเท้าส้นสูง ได้แต่วิ่งเหยาะถึงจะตามทันที

เธอวิ่งไป ก็มองไปด้านหลังอย่างกังวล“ประธานนัทธี ทิ้งพงศกรคนเดียวไว้ที่นี่ไม่ได้”

ถึงแม้เธอจะโกรธที่พงศกรทำแบบนี้กับเธอ

แต่พงศกรเป็นผู้มีพระคุณต่อครอบครัวเธอทั้งห้าคน เธอทิ้งเขาและไม่สนใจไม่ได้

“เดี๋ยวมารุตจะไปดูแลเขา”สายตานัทธีมองไปตรงหน้า ตอบกลับวารุณีด้วยน้ำเสียงไร้ความรู้สึก

พอวารุณีรู้ว่าพงศกรจะมีคนดูแล จึงโล่งอกเล็กน้อย แต่วินาทีถัดมาใจก็เต้นขึ้นมาอีกครั้ง“ประธานนัทธี คุณจะพาฉันไปที่ไหน?”