บทที่ 155 ต้องทำให้ฉันมีความสุข
ป้าจางเอาหูเข้าไปใกล้ตั้งใจฟัง แต่เมื่อฟังไปเรื่อย ๆ สีหน้าก็เปลี่ยนไป
เมื่อรอจนส้งหวั่นหวั่นพูดจบ ท่าทีของป้าจางก็เปลี่ยนไปอย่างมาก สีหน้าดูตื่นตระหนกและหวาดกลัว
“คุณ……คุณจะให้ฉันเอาเด็กที่อยู่ในท้องนั่น……แต่ว่า……แต่คุณชายลี่มีหนทางมากมาย ถ้าเกิดสืบจนรู้ว่าฉันเป็นคนทำ ฉันก็ไม่มีทางรอดได้แน่นอน!”
ป้าจางพูดออกมาอย่างหวั่นกลัว
ส้งหวั่นหวั่นปรายตามองเธอ ไม่พอใจกับท่าทีขี้ขลาดตาขาวของเธอ แล้วเอ่ยพูดอย่างมีเหตุผลว่า : “ใครใช้ให้เธอไปทำเรื่องแบบนี้อย่างเปิดเผยกันเล่า? ในเมื่อไม่อยากถูกจับได้ ก็ต้องใช้สติปัญญาหน่อยสิ”
ป้าจางตะลึงงัน จากนั้นก็ถามขึ้นมาว่า : “สติปัญญา? ไม่รู้ว่าสิ่งที่คุณหนูส้งหมายถึงคือ……”
“ก็ง่ายนิดเดียว เธอก็โยนความผิดให้คนอื่นแทนสิ หรือไม่ก็……สร้างสถานการณ์ให้เป็นอุบัติเหตุ แบบนี้ ลี่จุนถิงก็ไม่สงสัยในตัวเธอแล้ว คงแค่รู้สึกว่าเจียงหยุนเอ๋อดวงซวยเกินไปก็เท่านั้น” ส้งหวั่นหวั่นยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดออกมา
ป้าจางเม้มปาก แววตามีความลังเลปนอยู่
เรื่องอย่างนี้……เธอไม่รู้เลยว่าตัวเองจะทำได้สำเร็จไหม อีกทั้ง เจียงหยุนเอ๋อก็เป็นคนดี เธอต้องทำอย่างนี้จริง ๆ เหรอ?
เมื่อเห็นท่าทางของป้าจาง สายตาของส้งหวั่นหวั่นก็มีประกายความเย็นชาออกมา
คิดไม่ถึงเลย ว่าผู้หญิงคนนี้จะลังเล ไม่มีความกล้าหาญสักนิดเลย!
คิดไปคิดมา ส้งหวั่นหวั่นจึงได้พูดต่อ : “เธอคิดถึงลูกชายเธอเข้าไว้สิ เธอคงไม่อยากให้เขาอยู่ในคุกต่อไปเรื่อย ๆ หรอกนะ?”
ทันใดนั้น ในใจของป้าจางก็ยิ่งรู้สึกทรมานมากขึ้น หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก เธอก็พยักหน้าตอบรับ
“ตกลง ฉันรับปากทำตามคุณ คุณก็อย่าลืมเรื่องที่รับปากฉันไว้ล่ะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ปากของส้งหวั่นหวั่นก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างพอใจ : “เธอวางใจเถอะ ขอแค่เธอทำออกมาได้ดี เรื่องที่ขอร้องทุกอย่างฉันก็สามารถทำให้ได้”
เมื่อป้าจางจากไป เจียงหนิงเอ๋อก็เดินออกมาจากมุมหนึ่ง มองไปที่ส้งหวั่นหวั่นอย่างชื่นชม
“คุณหนูส้ง เธอช่างมีหนทางจริง ๆ”
ส้งหวั่นหวั่นที่กำลังนั่งกอดอกอยู่ เมื่อถูกชม รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยิ่งเห็นชัดขึ้น
“เรื่องหลังจากนี้ ต้องขอให้คุณหนูเจียงช่วยแล้วล่ะ” ส้งหวั่นหวั่นยิ้มและพูดกับเจียงหนิงเอ๋อ
เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ก่อนหน้านี้พวกเธอปรึกษาหารือกันแล้ว เจียงหนิงเอ๋อจึงรู้อยู่แล้วว่าเธอหมายถึงอะไร
“เธอวางใจเถอะ เรื่องเล็กแค่นี้ ฉันจัดการได้ดีอยู่แล้ว” เจียงหนิงเอ๋อท่าทางมั่นใจในตัวเอง
ส้งหวั่นหวั่นชำเลืองมองเธอ ถ้าเทียบกับลี่จีถองแล้ว ส้งหวั่นหวั่นเชื่อมั่นในตัวเจียงหนิงเอ๋อมากกว่าอีก
หลังจากที่ร่ำลาส้งหวั่นหวั่น เจียงหนิงเอ๋อก็เดินทางไปยังคุก
ก่อนหน้านี้ที่เธอถูกจับเข้าไป ก็ได้ทำความรู้จักกับนักเลงคนหนึ่งในนั้น
นักเลงคนนั้นเป็นคนโหดเหี้ยมมาก ไม่รู้มือเปื้อนเลือดมาเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว
ที่จริงเขาถูกจับข้อหาฆ่าคนตายต้องถูกตัดสินประหารชีวิต แต่เพราะมีคนคอยช่วยอยู่ด้านนอก สุดท้ายโทษจึงลดเหลือแค่จำคุกเท่านั้น
ตอนแรกโดนโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่ต่อมาหลังจากที่ใช้เส้นสาย ก็ถูกลดโทษลงเรื่อยมา
ตอนที่เจียงหนิงเอ๋อออกจากคุกนั้น ก็ได้รู้จากปากของคนนั้นว่า ยังเหลืออีกไม่กี่เดือน เขาก็จะได้ออกจากคุกแล้วเหมือนกัน
หลังจากออกจากคุก เจียงหนิงเอ๋อก็ไม่ได้กลับมาที่นี่อีก สำหรับเธอแล้ว คุกไม่ใช่ที่ที่ดีอะไรนัก
แต่ว่า ครั้งนี้เพื่อจัดการเรื่องที่ส้งหวั่นหวั่นรับปากป้าจางเอาไว้ เธอจึงจำเป็นต้องมาที่นี่อีกครั้ง
โชคดีที่ก่อนหน้านี้เธอได้ผูกมิตรกับนักเลงคนนั้นเอาไว้ ถ้าเธอไปพูดสักหน่อย ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร……
หลังจากที่รู้ว่าเจียงหนิงเอ๋อมาเยี่ยมตัวเอง นักเลงคนนั้นก็ไม่พูดอะไรรีบตอบรับพบเธอทันที
ถึงแม้นักเลงใหญ่จะใช้ชีวิตอยู่ในคุกตลอด แต่ท่าทางเขาไม่ได้ดูลำบากอะไร ราวกับว่าเขาไม่ใช่นักโทษ
“พี่หลงเซวียน ไม่ได้เจอกันตั้งนาน แต่พี่ดูไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิดนะ” เจียงหนิงเอ๋อเอ่ยเรียกอย่างสนิทสนม น้ำเสียงก็ฟังดูหวานเลี่ยน
บังเอิญพี่หลงเซวียนคนนี้ก็ชอบลูกไม้นี้ของเธอ เมื่อได้ยินที่เธอพูด รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยิ่งดูสดใสขึ้นมา
“ไอ้หยา พี่ก็คิดไม่ถึงว่าน้องหนิงเอ๋อจะกลับมาเยี่ยมพี่ แต่ว่า น้องดูสวยขึ้นเยอะเลยนะ”
พี่หลงเซวียนพูดพลาง มองเธอจนตาหยาดเยิ้ม
เมื่อเห็นอย่างนั้น ในใจของเจียงหนิงเอ๋อก็รู้สึกไม่ชอบใจ แต่ก็ต้องฝืนพูดออกไป : “พี่หลงเซวียนช่างรู้จักพูดเอาใจคนจังเลย”
หลังจากที่ทั้งสองคนทักทายกันเสร็จ เจียงหนิงเอ๋อก็พูดด้วยแววตาที่ลำบากใจ : “พี่หลงเซวียน ที่จริงแล้ว……ครั้งนี้ที่ฉันมา เพราะฉันมีเรื่องอยากจะขอให้พี่ช่วยหน่อย”
“น้องหนิงเอ๋อเอ่ยปากแล้ว มีเหตุผลอะไรที่พี่จะไม่ช่วยล่ะ? ต้องการให้พี่ทำอะไร พูดออกมาเถอะ”
พี่หลงเซวียนตบหน้าอกตัวเอง ถึงแม้เจียงหนิงเอ๋อจะยังไม่ได้พูดออกมา แต่เขาก็รับปากทันที
พี่หลงเซวียนรับปากเร็วอย่างนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเจียงหนิงเอ๋อก็ดูจริงใจขึ้นมาไม่น้อย
“งั้นก็ขอบคุณพี่หลงเซวียนนะคะ”
พี่หลงเซวียนโบกมืออย่างไม่คิดอะไร เมื่อได้ฟังเรื่องราวที่เจียงหนิงเอ๋อบอก ก็พูดด้วยสีหน้าแน่วแน่ : “น้องวางใจเถอะ เรื่องนี้พี่จัดการเอง!”
เจียงหนิงเอ๋อเพิ่งจะยิ้มออกมา แต่เมื่อได้ยินที่พี่หลงเซวียนพูดออกมาพร้อมรอยยิ้มชั่วร้ายว่า : “แต่ว่า เมื่อพี่ได้ออกไป น้องต้องทำให้พี่มีความสุขนะ จนถึงตอนนี้ พี่ยังจำกลิ่นหอมหวานของน้องได้อยู่เลย”
พี่หลงเซวียนพูดพลางรอยยิ้มดูเจ้าเล่ห์ชั่วร้ายขึ้นมา
ที่เขาพูดอย่างนี้ ทำให้เจียงหนิงเอ๋อนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ที่เกิดขึ้นกับเขาตอนอยู่ในคุก
แต่ว่า……ในเมื่อพี่หลงเซวียนยอมช่วยตัวเองอย่างนี้แล้ว เธอก็ต้องตอบแทนเขาอย่างสมน้ำสมเนื้อ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจียงหนิงเอ๋อก็ยิ้มแล้วพูดว่า : “เรื่องนั้นไม่มีปัญหาแน่นอน พี่หลงเซวียน”
……
ทางฝ่ายเจียงหยุนเอ๋อ เมื่อสุขภาพร่างกายดีขึ้นแล้วก็ได้ออกจากโรงพยาบาล
เดิมทีลี่จุนถิงอยากให้เธออยู่ที่โรงพยาบาลต่อสักพัก แต่โชคดีที่หลันเยว่เฉินพูดย้ำหนักแน่นว่า ตอนนี้สภาพของเจียงหยุนเอ๋อไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือที่โรงพยาบาลก็ไม่แตกต่างกัน ลี่จุนถิงจึงได้ยอมให้เธอออกจากโรงพยาบาล
ดังนั้น หลายวันมานี้เจียงหยุนเอ๋อจึงได้อยู่บ้านพักผ่อน
ลี่จุนถิงไม่ยอมให้เธอไปทำงาน ทำให้เธอได้มีเวลาว่างอยู่เป็นเพื่อนถวนจื่อ
พอดีกับที่ช่วงนี้ถวนจื่อต้องแข่งขันเกม เจียงหยุนเอ๋อก็มีเวลาว่างพอดี
สำหรับเจียงหยุนเอ๋อในตอนนี้ ชีวิตทุกวันของเธอคือกินดีอยู่ดี เรียกได้ว่าชุ่มฉ่ำมากเลยทีเดียว
ชีวิตที่แบบคุณนายอย่างนี้ ทำให้ช่วงนี้เธอรู้สึกไม่ค่อยคุ้นชินนัก
แต่ว่า การอยู่แต่บ้านทำให้รู้สึกเบื่อหน่ายเหลือเกิน เจียงหยุนเอ๋อจึงได้ให้ผู้ช่วยของตัวเองส่งเอกสารจำนวนหนึ่งมาให้
ช่วงนี้ผลิตภัณฑ์ชุดใหม่ของบริษัทจะวางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้แล้ว พูดตามตรงแล้ว ตอนนี้ควรจะเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งมาก ถ้าหากไม่ใช่เป็นเพราะสุขภาพร่างกายของตัวเอง……
แต่โชคดีที่ผู้ช่วยเป็นคนที่มีความสามารถมาก ดังนั้นจึงไม่ได้ทำให้เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกกังวลใจเลย
“ผลิตภัณฑ์ใกล้วางจำหน่ายแล้ว ต้องสนใจเรื่องการประชาสัมพันธ์ให้มากหน่อยนะ ต้องใช้โอกาสที่ดีและเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์ เพื่อรับประกันว่าสินค้าจะดังเป็นพลุแตกได้รับความนิยมในทันที” หลังจากที่เปิดอ่านเอกสารแล้ว เจียงหยุนเอ๋อก็ได้เอ่ยกำชับกับผู้ช่วย