บทที่ 157 กลายเป็นแฟนคลับของเขา
เจียงหยุนเอ๋อส่ายหัว และไม่ได้หยุดการกระทำ : “ไม่ได้หรอก ของของถวนจื่อถ้าให้คนอื่นจัดให้แทนฉันไม่วางใจ ให้ฉันเป็นคนจัดการให้จะดีกว่า อีกอย่างฉันก็ไม่ใช่เพิ่งท้องเป็นครั้งแรกนะ ฉันรู้อยู่แก่ใจ นายไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”
เจียงหยุนเอ๋อคิดถึงตอนที่ตัวเองตั้งท้องครั้งแรก ก็ทำทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งนั้น ซักผ้าทำกับข้าว ไม่มีใครคอยช่วยตัวเองแม้แต่คนเดียว ดังนั้นตอนนี้ก็เหมือนเธอมีประสบการณ์มาแล้ว
ลี่จุนถิงได้ยินอย่างนี้ก็ยิ่งเอ็นดูมากขึ้นไปอีก เข้าไปโอบเอวของเจียงหยุนเอ๋อ : “งั้นเธอก็ต้องระวังตัวเองหน่อย อย่าหักโหมมากเกินไป และอย่าให้เหนื่อยไปถึงลูกในท้อง”
เจียงหยุนเอ๋อยิ้มออกมา : “รู้แล้วน่า”
ถวนจื่อมองไปที่ท่าทางของลี่จุนถิงกับเจียงหยุนเอ๋อตาปริบ ๆ แล้วเดินเข้าไปแย่งเสื้อผ้าที่อยู่ในมือของเจียงหยุนเอ๋อทันที
เจียงหยุนเอ๋อเห็นเสื้อผ้าในมือหายไป ก็มองไปยังถวนจื่อนิ่ง ๆ
ปรากฏว่าถวนจื่อเอามือสองข้างยืนเท้าสะเอวอยู่ ทำท่าทางราวกับผู้ใหญ่แล้วเอ่ยพูด : “แด๊ดดี้พูดถูกแล้ว หม่ามี้จะทำให้น้องสาวผมเหนื่อยไปด้วยไม่ได้นะ ผมจะเก็บของเอง”
เมื่อได้ที่ถวนจื่อพูด เจียงหยุนเอ๋อและลี่จุนถิงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกอบอุ่นใจ : “ลูกรู้ได้ยังไงว่าเป็นน้องสาว?”
ถวนจื่อทำปากจู๋ เงยหน้าขึ้น : “ท้องของหม่ามี้บอกผมครับ”
เจียงหยุนเอ๋อก้มลงลูบหัวถวนจื่อ : “แต่ถวนจื่อ ลูกรู้เหรอว่าต้องเตรียมของอะไรบ้าง?”
“ผมไม่รู้ครับ แต่หม่ามี้สามารถนั่งบอกผมอยู่ข้าง ๆ ว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง” ถวนจื่อพูดอย่างจริงจัง
ลี่จุนถิงลูบหัวเจียงหยุนเอ๋อไปมา : “เธอเห็นไหม ถวนจื่อยังรู้เรื่องกว่าเธออีก”
เจียงหยุนเอ๋อไม่มีทางเลือก เลยได้แต่ตอบตกลงถวนจื่อไป ถือว่าฝึกฝนเขาไปในตัว
ลี่จุนถิงบางครั้งก็ช่วยถวนจื่อจัดการของพวกนั้น จากนั้นก็ให้ถวนจื่อจัดเก็บเข้ากระเป๋าเดินทาง ส่วนเจียงหยุนเอ๋อคอยชี้บอกอยู่ข้าง ๆ
ทั้งสามคนมีความสุขกันมาก
วันถัดมา เจียงหยุนเอ๋อได้พาถวนจื่อไปยังเมืองหลิน
“หม่ามี้ คนเยอะจังเลยครับ” ถวนจื่อเห็นคนมากมาย ก็อุทานออกมา
แต่ตัวเล็ก ๆ ของเขาก็คำนึงถึงเจียงหยุนเอ๋ออยู่ตลอด คอยปกป้องเจียงหยุนเอ๋อไม่ให้คนอื่นมาชนเธอได้
ถึงแม้ถวนจื่อปกป้องแบบนี้ไม่มีประโยชน์อะไร แต่เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกซาบซึ้งใจมาก ที่ลูกของตัวเองมีใจนึกถึง
“ใช่ ถวนจื่อรู้สึกกลัวหรือตื่นเต้นบ้างไหม?”
ถวนจื่อส่ายหน้า : “ไม่ครับ ผมรู้สึกว่าคนยิ่งเยอะก็ยิ่งมีแรงกระตุ้น เพราะมันทำให้ผมได้เรียนรู้ทักษะจากคนอื่น มาพัฒนาตัวเอง”
ถวนจื่อคิดว่าจุดประสงค์ที่ตัวเองมาแข่งขันก็คือได้รับรางวัล และอีกจุดประสงค์หนึ่งก็คือได้ฝึกฝนตัวเอง ยังไงที่นี่ก็มีคู่แข่งมากมาย
“ถวนจื่อของหม่ามี้กล้าหาญมากเลย” เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกภาคภูมิใจในตัวลูกชายของตัวเอง
“หม่ามี้ พวกเราไปดูคู่แข่งของพวกเราก่อนเถอะครับ” ถวนจื่อดึงมือเจียงหยุนเอ๋อ เดินไปยังบอร์ดปิดประกาศ
ผู้เข้าแข่งขันที่ลงแข่งในแต่ละครั้ง จะมีโปสเตอร์แปะประกาศเอาไว้
“ได้สิ”
สองคนเดินเบียดเสียดเข้าไปในฝูงชน เพื่อมายังข้างบอร์ดปิดประกาศ
“อันนี้เหรอ?” เจียงหยุนเอ๋อชี้ไปยังรายชื่อของสโมสรที่อยู่หลังกระจก
ถวนจื่อชะเง้อมอง เพ่งมองอย่างละเอียดแล้วพยักหน้า : “ใช่ครับ นี่คือทีม AY”
“ชื่อของทีมนี้คุ้นหูจังเลย เหมือนเมื่อก่อน……” เจียงหยุนเอ๋อกำลังนึก
ถวนจื่อพยักหน้า : “ใช่ครับ เมื่อก่อนพวกเราเคยแข่งกันแล้วครั้งหนึ่ง”
ขณะที่สองแม่ลูกกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น คนของทีม AY ก็กำลังยืนอยู่ไม่ไกลจากบอร์ดปิดประกาศนัก
“นั่นใช่เด็กที่เคย PK กับพวกเราครั้งก่อนหรือเปล่า?” โค้ชของทีม AY ชี้นิ้วไปยังถวนจื่อที่อยู่ไม่ไกลนัก
คนในทีมมองตามไป เมื่อดูจนแน่ใจแล้วก็เอ่ยพูด : “ใช่ครับ เป็นเขา”
โค้ชหรี่ตาลง : “ดีมาก ครั้งนี้พวกเราต้องชนะทีมของเด็กคนนั้นให้ได้”
คนในทีมก็ตั้งใจแน่วแน่มากขึ้น
“ถวนจื่อ ลูกว่าพวกเขากำลังมองพวกเราอยู่หรือเปล่า?” เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกเหมือนมีคนกำลังมองมาทางตัวเอง
ถวนจื่อมองตามเจียงหยุนเอ๋อไปทางนั้น ก็เห็นคนคุ้นเคยหลายคน
จึงพยายามนึกว่าเป็นใคร แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าพวกเขาเป็นคนของทีม AY
“หม่ามี้ครับ นั่นคือคู่แข่งของพวกเรา”
“เหรอ?” เมื่อได้ยินที่ถวนจื่อพูด เลยอดไม่ได้ที่จะมองไปยังคนของทีม AY อีกครั้ง “งั้นถวนจื่อต้องสู้ ๆ นะ อย่าแพ้พวกเขาเด็ดขาด”
ถวนจื่อตบหน้าอกตัวเอง : “มันแน่นอนอยู่แล้วครับ หม่ามี้วางใจเถอะ ผมต้องฆ่าพวกเขาให้สิ้นซากไม่เหลือแม้แต่เศษชุดเกราะ”
ไม่นานก็ถึงเวลาเริ่มเกมแล้ว
กติกาการแข่งขันครั้งนี้คือสองรอบแรกให้ผู้แข่งขันต่างอาชีพกันขึ้นไปแข่งเดี่ยวก่อน หลังจากนั้นค่อยแข่งเป็นทีม
ทีม AY ถือว่าเป็นทีมที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงมากภายในประเทศ การฝึกฝนของสมาชิกในทีมก็เข้มงวดมาก ดังนั้นประสิทธิภาพในการแข่งขันจึงแข็งแกร่งมาก
เพิ่งเริ่มต้นก็เข่นฆ่ากันอย่างดุเดือดมาก
แต่ทีมของถวนจื่อก็ไม่เลว ทักษะของทั้งสองทีมสูสีกันมาก
การแข่งขันดุเดือดมาก ทำให้ผู้พากย์ตะโกนจนปากแห้งหมดแล้ว
ถวนจื่อแข่งร่วมกับทีมครั้งนี้ จัดการฝ่ายตรงข้ามได้อย่างสบาย ๆ
สุดท้ายเป็นการแข่งขันแบบทีม ถวนจื่อเป็นหัวหน้าทีม จึงได้เข้าแข่งขันต่อ
ถวนจื่อในฐานะหัวหน้าทีม อายุก็น้อยมาก แถมยังหล่ออีกต่างหาก ทักษะการเล่นก็ยอดเยี่ยมมาก ในสนามแข่งจึงมีแฟนคลับวัยรุ่นผู้หญิงมากมายให้ความสนใจเขา
“เธอดู เธอดูสิ” หญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งตีแขนผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างตัวเองไม่หยุด
“ทำไมกัน?” หญิงสาววัยรุ่นคนนั้นยังไม่ทันได้สังเกตสถานการณ์ทางนี้ เพราะกำลังจ้องมองหนุ่มหล่อคนหนึ่งของทีม AY อยู่
“เธอดูหนุ่มน้อยสุดหล่อคนนั้นสิ” สาววัยรุ่นชี้นิ้วไปที่ถวนจื่อที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาฆ่าฟัน
เพราะถวนจื่อยังเด็กมาก และยังไม่ค่อยสูง นั่งอยู่ตรงนั้นจึงถูกบังไว้
“ตรงไหน?” ผู้หญิงคนนั้นยังมองไม่เห็น
หญิงสาววัยรุ่นชี้ไปยังถวนจื่อ : “หนุ่มน้อยคนนั้นหล่อมากจริง ๆ อีกทั้งทักษะการเล่นก็ยอดเยี่ยมมากเลย ฉันจะกลายเป็นแฟนคลับของเขาแล้วเนี่ย เธอว่าเขาอายุกี่ปี?”
ครั้งนี้ผู้หญิงคนนั้นมองเห็นแล้ว ตอนที่เห็นหน้าเต็ม ๆ ของถวนจื่อ ก็ร้องเสียงแหลมออกมา : “ว้าย…หล่อจังเลย เท่มากเลยอ่ะ”
ผู้หญิงคนนั้นจับแขนผู้หญิงอีกคนเอาไว้แน่น
สองสาวมองกันและกัน : “ฉันไม่สน ตอนนี้ฉันจะเชียร์ทีมของพวกเขา”
ทั้งสองคนเดิมทีเชียร์ทีม AY แต่เมื่อเห็นถวนจื่อก็เปลี่ยนเป้าหมายทันที
“ใช่ ฉันก็ด้วย หนุ่มน้อยสู้ ๆ นะ!”
หญิงสาวทั้งสองคนตะโกนออกมาอย่างคลั่งไคล้
ถวนจื่อตั้งใจแข่งขันอยู่ จึงไม่ได้ยินเสียงตะโกนเรียกด้านข้าง เขาจดจ่ออยู่กับการแข่งขันเท่านั้น
แต่ไม่เหมือนกับเจียงหยุนเอ๋อ เธอสนใจถวนจื่อบ้าง หันไปมองผู้คนรอบตัวที่คอยเชียร์ลูกชายตัวเองอยู่บ้าง
เมื่อสักครู่เธอนั่งอยู่ไม่ห่างจากหญิงสาวทั้งสองคนมากนัก จึงได้ยินพวกเธอตะโกนเรียก เธอจึงรู้สึกภูมิใจไม่น้อยเลย