ตอนที่ 184 อาศัยของโบราณร่ำรวย

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 184 อาศัยของโบราณร่ำรวย

เวลาห้าโมงเย็น มู่เถาเยากับอาจารย์อาเล็กเตรียมออกจากสนามฝึกม้า

“เหล่าเจียง เสี่ยวเยาเยา ไม่กลับบ้านไปกินข้าวเย็นกับฉันเหรอ เพราะเป็นห่วงเสี่ยวเฟิงเหมียนเหรอ หลานอยู่ที่ไหนล่ะ จะได้ไปรับมากินด้วยกัน!”

โค้ชเถียนรั้งทั้งสองคนไว้ไม่ให้กลับ

“เหล่าเถียน ตอนนี้พวกเราไปเป็นแขกบ้านคนอื่น ข้าวเย็นต้องไปกินกับพวกเขา ไว้วันหลังค่อยไปบ้านนายนะ”

“งั้นพรุ่งนี้ล่ะ”

“พรุ่งนี้บ่ายพวกเราก็กลับแล้ว ไว้ครั้งหน้าแล้วกัน”

“ในเมื่อจะกลับกันช่วงบ่าย งั้นทำไมตอนเช้าไม่มาสนามฝึกล่ะ”

โค้ชเถียนเสียดายมู่เถาเยา เสียดายเสี่ยวเหยี่ยยิ่งกว่า

มู่เถาเยากลับไปแล้ว เสี่ยวเหยี่ยก็ต้องกลับไปอยู่ที่เดิมแน่นอน

“พรุ่งนี้เช้าเสี่ยวเยาเยาต้องรักษาคนไข้ พอกินข้าวกลางวันเสร็จพวกเราจะไปเที่ยวเมืองโบราณกัน ไม่ว่างมาแล้ว เหล่าเถียน เสี่ยวเยาเยาลงแข่งงานกีฬาครั้งหน้า นายไม่ต้องรีบขนาดนี้ก็ได้”

“ไปเที่ยวเมืองโบราณเนี่ยนะ ที่นั่นมีอะไรให้เที่ยว”

“จุดประสงค์ของพวกเราคือไปล่าของดี” อย่างพวกตำราโบราณหรือของโบราณ!

“…นายยังอยากพึ่งของพวกนั้นเป็นเศรษฐีอีกเหรอ เหล่าเจียง อย่าหาว่าฉันว่าเลยนะ นายเป็นอาจารย์ เป็นหมอ ทำไมถึงมีความคิดแบบนี้ล่ะ”

“เหล่าเถียน นายไม่เข้าใจ”

โค้ชเถียน “…”

“เอาล่ะ รีบปล่อยมือ พวกเราจะกลับแล้ว ไม่อย่างนั้นปล่อยให้เจ้าบ้านรอแขกกินข้าวมันจะเสียมารยาท”

ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าบ้านที่ว่านี้ใช่ครอบครัวธรรมดาที่ไหน

“…ก็ได้ เสี่ยวเยาเยา พอถึงตอนนั้นหนูว่างไปดูการแข่งที่เมืองหลานตูไหม”

การแข่งขันขี่ม้าจัดที่เมืองหลานตู

“โค้ชเถียนคะ หนูอาจไม่ว่าง ปิดเทอมหน้าร้อนมีวางแผนไว้แล้วค่ะ พอถึงตอนนั้นเดี๋ยวดูก่อนนะคะว่าหนูหาเวลาไปได้ไหม”

“ก็ได้ เสี่ยวเยาเยา ว่างเมื่อไรมาขี่ม้าที่สนามฝึกได้ตลอดเวลาเลยนะ”

“ค่ะ”

“เสี่ยวเยาเยา เสี่ยวเหยี่ยของหนูก็กลับพรุ่งนี้เหรอ”

มู่เถาเยาพยักหน้า

“ให้มันอยู่ต่ออีกสักหน่อยไม่ได้เหรอ” เขายังมองไม่พอเลยนะ!

“มันอยู่ที่นี่ก็ไม่มีใครเอาอยู่” ม้าตัวอื่นกลัวมันกันหมด

“…ขอแค่ได้มองมากหน่อยก็กำไรแล้ว! ถ้าขี่ได้จะดีกว่านี้!”

มู่เถาเยายิ้ม “เสี่ยวเหยี่ยไม่ให้ใครขี่นอกจากหนู ขนาดพี่หยวนที่ดูแลมันยังขึ้นหลังมันไม่ได้เลยค่ะ”

โค้ชเถียน “…”

“เสี่ยวเยาเยา โรงม้าของหนูขายม้าหรือเปล่า”

ต่อให้ไม่ได้เกรดดีเลิศแบบเสี่ยวเหยี่ย ตัวอื่นก็ไม่แย่หรือเปล่า

มู่เถาเยาพยักหน้า “ค่ะ ถ้ามีผู้ซื้อที่เหมาะสมก็คุยกันได้ แต่พวกเราไม่เลี้ยงม้าเนื้อค่ะ”

ม้าเนื้อคือม้าที่เลี้ยงไว้เอาเนื้อโดยเฉพาะ เหมือนวัวกับแกะ

“ได้ ไว้พ้นการแข่งโค้ชจะไปดูนะ”

“ค่ะ ไว้ถึงเวลาบอกหนูล่วงหน้านะคะ ถ้าหนูว่างจะไปด้วย ไม่ว่างก็จะให้คนพาไปแทน”

“ได้ งั้น…รีบกลับกันเถอะ เดี๋ยวเจ้าของบ้านจะรอนาน” โค้ชเถียนปล่อยมือด้วยความเสียดาย

มู่เถาเยากับอาจารย์อาเล็กนั่งรถที่คนขับรถของตระกูลตี้ขับมากลับบ้านกัน

เมื่อทั้งสองคนกลับถึงวังตระกูลตี้ ทุกคนก็อยู่กันพร้อมหน้า รวมถึงตี้ฮ่าวเทียนอาของตี้อู๋เปียนกับสวีชูเหยียนอาสะใภ้

มู่เถาเยาเคยเจอสามีภรรยาคู่นี้มาก่อน แต่อาจารย์อาเล็กเพิ่งเคยเจอครั้งแรก

หลังจากทักทายตามมารยาทแล้ว ตี้ฮ่าวเทียนก็ถามเรื่องสุขภาพของหลานชาย

พอรู้ว่าอาการดีขึ้นเรื่อยๆ สองสามีภรรยาวัยกลางคนคู่นี้ก็ยิ้มกว้างกว่าเดิม

อวิ๋นไป๋รอพวกเขาพูดจบถึงเอ่ยปาก “หลานน้า น้ามีของฝากจากเมืองนอกให้หนูด้วย เดี๋ยวกินข้าวเย็นเสร็จเอาให้นะ”

“ขอบคุณน้าอวิ๋นค่ะ”

อวิ๋นไป๋ลูบศีรษะของมู่เถาเยาเบาๆ “ครอบครัวเดียวกันไม่ต้องเกรงใจ”

ตี้ฮ่าวเทียนตะลึง ถามด้วยความแปลกใจ “ไหนก่อนหน้านี้เสี่ยวไป๋บอกว่าอยากได้เสี่ยวเยาเยาเป็นลูกสาว ทำไมตอนนี้กลายเป็นหลานสาวแล้วล่ะ”

อวิ๋นไป๋ยิ้มกว้างเห็นฟัน “เพราะเสี่ยวเยาเยาเป็นหลานสาวของเย่ว์เลี่ยง”

สองสามีภรรยากระจ่างทันที

อวิ๋นไป๋นี่คลั่งรักจริงๆ

ชอบคนคนเดียวมาตั้งยี่สิบปี ทั้งที่อีกฝ่ายไม่แยแส

โลกนี้หาคนที่ยืนหยัดอดทนขนาดนี้ได้ยากจริงๆ

มู่เถาเยายิ้มถาม “น้าเล็กจะไปเผ่าหมาป่าพระจันทร์เมื่อไรคะ”

“พรุ่งนี้บ่ายน้ากลับเจียงตู เสาร์หน้าไปที่เผ่า เสี่ยวเยาเยาอยากกลับไปด้วยกันไหม”

“สุดสัปดาห์หน้าหนูยังต้องกลับหมู่บ้านเถาหยวนค่ะ”

ตี้อู๋เปียนพูดแทรก “ซาลาเปาน้อย พรุ่งนี้ฉันจะกลับเย่ว์ตูพร้อมพวกเธอด้วย วันจันทร์ฉันค่อยไปหมู่บ้านเถาหยวน”

ราชาตี้กับอวิ๋นเหอผู้เป็นพ่อแม่ “…”

เพิ่งกลับมาเมื่อวานพรุ่งนี้ก็จะไปแล้วเหรอ

ทำอย่างกับมีปีกบินได้!

แต่ถ้าบินไปที่เสี่ยวเยาเยา พวกเขาก็ยินดีให้เป็นอย่างนั้น!

เจ้าถุงลมน้อยวิ่งเตาะแตะไปเกาะขา “อันเหยี่ยไปด้วย”

ราชาตี้กับอวิ๋นเหอ “…”

หลานชายก็จะบินด้วย!

มู่เถาเยาก้มมองเด็กน้อย ลูบศีรษะพลางพูด “อันเหยี่ยต้องไปโรงเรียนอนุบาลหรือเปล่า”

เจ้าถุงลมน้อยหันไปมองพ่อแม่ สีหน้าคาดหวัง

ตี้อู่เว่ย “อันเหยี่ย ถ้าอยากไปงั้นก็ต้องเรียนกับอาเล็ก”

ใบหน้าน้อยๆ ที่แสนประณีตของเจ้าถุงลมน้อยบูดบึ้งขึ้นมาทันที

ตี้อู๋เปียนหยิกแก้มอวบๆ ของหลานชาย ทำเสียงหึหนึ่งทีแล้วพูดขึ้น “ไม่เต็มใจเหรอ อาควรไม่เต็มใจมากกว่า! เราสมองทึ่มเสียขนาดนั้น!”

เจ้าถุงลมน้อยตะโกนคัดค้าน “พี่สาวบอกว่าอันเหยี่ยฉลาด! อาเล็กนั่นแหละทึ่ม!”

ฉลาดกับทึ่มยังแยกไม่ออก แบบนี้ไม่เรียกทึ่มเหรอ!

“เอ๊ะ ใครนะที่เรียนๆ อยู่ก็หลับเฉย”

เจ้าถุงลมน้อยใกล้ร้องไห้โฮแล้ว

เขาเถียงไม่ออก เพราะเขาหลับขณะเรียน

คนตระกูลตี้ต่างหัวเราะ

อาจารย์อาเล็ก เจียงเฟิงเหมียน เหลียงจี ก็กลั้นไม่อยู่

เด็กน้อยแผดเสียงร้องไห้

มู่เถาเยาอุ้มเขาขึ้นมาหอมแก้ม พูดกล่อมอย่างคล่องแคล่ว “อันเหยี่ยของพวกเราฉลาดจะตาย! สิ่งที่อาเล็กสอนไม่เหมาะกับเด็กน้อย อันเหยี่ยถึงได้ง่วง”

เจ้าถุงลมน้อยสะอื้น “อันเหยี่ยไม่อยากเรียนกับอาเล็ก”

“…”

เขาก็มีวันที่ถูกรังเกียจเหรอเนี่ย! แถมยังต่อหน้าซาลาเปาน้อยด้วย!

ย่าตี้ยิ้มพูด “อันเหยี่ยอยากไปก็ให้ไปเถอะ อย่างมากก็พาอาจารย์ไปด้วย”

มู่เถาเยาคิดแล้วพูดกับคนตระกูลตี้ “แม่หนูอยู่หมู่บ้านเถาหยวน ไม่อย่างนั้นก็ให้แม่หนูดูอันเหยี่ยดีไหมคะ”

กู้เนี่ยนส่ายหน้า “เสี่ยวเยาเยา แม่หนูไปรักษาตัวที่หมู่บ้านเถาหยวน พาอันเหยี่ยไปกวนไม่ได้”

เจ้าถุงลมน้อยส่ายหน้ารัวๆ “แม่ฮะ อันเหยี่ยไม่กวน อันเหยี่ยเป็นเด็กดี”

มู่เถาเยายิ้มพูด “ใช่ค่ะ อันเหยี่ยของพวกเราเป็นเด็กดีมาก ไม่กวนใจเลยสักนิด”

เจ้าถุงลมน้อยพยักหน้าหงึกๆ

“พี่สะใภ้คะ แม่ฉันรักษาตัวก็จริง แต่อาการแบบนั้นไม่จำเป็นต้องรักษาตัวอย่างสงบ อีกทั้งแม่ฉันก็ชอบเด็กมากด้วย มีอันเหยี่ยเป็นเพื่อนอาจหายเร็วขึ้นนะคะ”

ย่าตี้พยักหน้า “ในเมื่อไม่ส่งผลอะไร งั้นอันเหยี่ยก็ตามไปด้วยแล้วกัน เอาแบบนี้ ย่ากับปู่จะไปด้วย ตอนอู๋เปียนกลับมาเห็นบอกว่าอาหยวนเชิญพวกเราไปเที่ยวหมู่บ้านเถาหยวนไม่ใช่เหรอ ไว้ถึงเวลาพวกเราค่อยกลับเย่ว์ตูพร้อมอู๋เปียน”

เดิมทีพวกเขาก็กะไปช่วงปิดเทอมหน้าร้อนอยู่แล้ว ตอนนี้ไปเร็วขึ้นก็ไม่เป็นไร

กู้เนี่ยนถามด้วยความลังเล “คุณปู่คุณย่าไปหมู่บ้านเถาหยวนจะเหมาะเหรอคะ”

ปู่ตี้ส่ายมือ “ไม่มีอะไรไม่เหมาะ จะให้ปู่กับย่าอุดอู้อยู่แต่ในบ้านไม่เจอใครก็ไม่ได้”

มู่เถาเยา “พี่สะใภ้ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ คนหมู่บ้านเถาหยวนไม่เหมือนคนข้างนอก พวกเขาไม่ปากเปราะ รู้ว่าอะไรควรพูดอะไรไม่ควรพูด หมู่บ้านเรามีกิจการมากมาย ไม่มีใครเคยเอาไปพูดพร่ำเพรื่อค่ะ”

อวิ๋นเหอพยักหน้า “เสี่ยวเยาเยา งั้นต้องให้มีคนตามไปดูแลด้วยไหม คนแก่ทั้งคู่ แถมยังป่วย ไหนจะเด็กอีก”

“ถ้าคุณป้าไม่วางใจ งั้นเอาไปคนสองคนก็ได้ค่ะ ก็แค่บ้านไม่ใหญ่พอให้พักหลายคน ถ้าอยากอยู่ด้วยกันต้องไปบ้านเพื่อนบ้าน ไม่อย่างนั้นต้องกระจายกันค่ะ”

ปู่ตี้ “เสี่ยวเยาเยา พวกเราไม่พาคนไป ปู่กับย่าอายุพอๆ กับอาจารย์ทั้งสองคนของหนู ขนาดพวกเขายังไม่ต้องให้มีคนดูแล สุขภาพของพวกเราก็ไม่ได้แย่มาก ไม่ต้องให้คนติดตามก็ได้”

“พ่อครับ พ่อกับแม่ไม่ได้แข็งแรงแบบลุงหยวนกับอาจารย์ซย่าโหวนะครับ” ราชาตี้จำต้องพูดเตือนพ่อ

ตี้อู๋เปียน “พ่อครับ คนของผมอยู่ในหมู่บ้านเถาหยวน ไม่ต้องส่งใครไปเป็นพิเศษหรอกครับ”

“งั้นก็ได้”

ย่าตี้ “ตามนี้ พวกเราไปกินข้าวเถอะ วันนี้เสี่ยวเยาเยาใช้กำลังไปมาก เสี่ยวเฟิงเหมียนก็อยู่ในช่วงกำลังโต คงหิวกันหมดแล้ว”