190 เมื่อผ่านไปหนึ่งเดือน
“ซิลซามะ! แม่นักเรียนต่างชาตินั้น มีอะไรที่ท่านสามารถทำได้บ้างเพคะ!?”
เรื่องนั้นอีกแล้วเหรอ ซิลเลนเลิกคิ้วอย่างโจ่งแจ้ง
เมื่อเร็ว ๆ นี้ เธอเริ่มได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับ「กรณีที่ทหารจักรกลถูกวิพากษ์วิจารณ์」ทำนองนี้ แต่ในที่สุดก็ถึงตาของพวกรุ่นพี่ที่มาแล้ว
รุ่นพี่หญิงสองคนที่มีทักษะของทหารจักรกลที่ไม่เลว แต่ยังพยายามไม่มากพอ ในวันนี้เอง ดูเหมือนว่าพวกเธอจะทุ่มเทความพยายามทั้งหมดไปที่สิ่งอื่นนอกเหนือจากการฝึกฝนอย่างหนัก
“เราบอกแล้วว่าไม่สนใจเรื่องของเธอ”
ซิลเลนไม่แม้แต่จะพยายามซ่อนความขุ่นเคืองต่อรุ่นพี่ที่เดินบุกเข้ามาหาถึงในห้องเรียน เธอลดขนมที่กำลังจะใส่เข้าปาก และพูดซ้ำคำที่เธอต้องพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก
ภาควิชาทหารจักรกลมีจำนวนทั้งหมด หกสิบสามคน
ด้วยปีการศึกษาที่น้อยจึงรวมกลุ่มกัน แต่ถึงแม้จะเป็นเอลีทของโรงเรียนก็ยังประกอบด้วยเจ็ดคลาสที่แบ่งคร่าว ๆ ตามเกรด
และแม้ว่าจะมีรุ่นพี่จากคลาสที่สูงกว่า แต่ซิลเลน・ซิลค์・มาเวเลียก็ได้รับการยกย่องอย่างสูงจากความสามารถของเธอในฐานะนักบินของทหารจักรกล และได้กลายมาเป็นตัวแทนของคลาสทหารจักรกลทั้งหมด โดยไม่สนว่าความปรารถนาของเธอเองจะเป็นอย่างไร
เธอเป็นสมาชิกของราชวงศ์ เป็นทหารจักรกลที่ยอดเยี่ยม และเส้นทางอาชีพของเธอหลังจากสำเร็จการศึกษาก็ได้รับการตัดสินใจไว้แล้วเช่นกัน
ด้วยสถานะ ความสามารถ และความงดงามของเธอ เธอจึงถูกจัดให้อยู่ในตำแหน่งนั้นโดยธรรมชาติ
นี่เป็นเรื่องน่ารำคาญอย่างยิ่งสำหรับซิลเลนที่ต้องการเพิกเฉยต่อสิ่งอื่น และแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น
“…….แล้ว?”
ซิลเลนเร่งเร้ารุ่นพี่ ในขณะที่รุ่นพี่ต่างชะงักที่ถูกปฏิเสธอย่างชัดเจน
“คราวนี้ ทำอะไรลงไปกันล่ะ?”
เป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนแล้วที่เนีย・ลิสตัน เด็กสาวผมขาวมาเรียนต่อต่างประเทศ
สัญญาณของฤดูใบไม้ร่วงกำลังเลยร่วงโรย และเริ่มเห็นเสี้ยวหนึ่งของฤดูหนาว
ปีนี้เอง อากาศก็ดูหนาวเช่นเคย ชาวมาเวเลียรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย
ปีนี้พึ่งเริ่มต้นเท่านั้น
ปีนี้ก็จะผ่านไปอย่างเงียบสงบ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ………และ นั่นคือสิ่งที่หลายคนคิด
การมีตัวตนของเนีย・ลิสตันเด่นชัดเพิ่มขึ้นทุกวัน
ในตอนแรก เป็นเพียงข่าวลือเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่มีหลักฐาน แพร่กระจายไปทั่วว่า「เป็นเด็กที่เรียกทหารจักรกลดัง ๆ ว่าของเล่น」
ต่อมาในภายหลัง เมื่อรู้ว่านี่เป็นเรื่องจริง ภาควิชาทหารจักรกลก็ไม่สนุกด้วย
สิ่งที่เธอเรียกว่า「ของเล่น」คือความภาคภูมิใจของมาเวเลีย เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าจะไม่พ่ายแพ้ให้กับประเทศใด การดูหมิ่นเช่นนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สนใจไม่ได้ โดยเฉพาะกับนักเรียนแลกเปลี่ยนจากต่างประเทศ
――ผลก็คือ ในเดือนที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียว มีสมาชิกประมาณยี่สิบคนของภาควิชาทหารจักรกลได้แสดงท่าทีคุกคามยุ่งเกี่ยวกับเนีย・ลิสตัน นำไปสู่เหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นเหมือนเรื่องตลก เมื่อทหารจักรกลที่ยืมมาถูกทำลายลงง
วันแล้ววันเล่า นักเรียนทหารจักรกลจากภาควิชาทหารจักรกลนำทหารจักรกลที่น่าภาคภูมิใจของพวกเขาออกมา และเข้าไปยุ่งเกียวกับเนีย・ลิสตัน ก่อนถูกโต้กลับอย่างงน่าสะพรึงกลัว
ในความเป็นจริงก็เหมือนกับการออกไปอวดของเล่นชิ้นโปรด แล้วกลับบ้านเพียงอย่างถูกดูหมิ่น
เด็กผู้หญิงที่มีเลือดเนื้อ ที่พึ่งอายุครบสิบขวบ สามารถทำลายอาวุธที่เป็นสัญลักษณ์ของมาเวเลียได้
เป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเชื่อ แต่ตอนนี้ก็เกิดขึ้นแทบทุกวัน
แค่ได้ยินเรื่องราว…….ไม่สิ ถึงจะได้เห็นกับตาตัวเอง บางคนก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี
แม้ว่าซิลเลนจะยังไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเองมาก่อน แต่หากเป็นเช่นนี้ต่อไปก็จะไม่มีข้อโต้แย้งอีกว่า
เนีย・ลิสตัน แข็งแกร่งกว่าทหารจักรกล
ทั้งยังแข็งแกร่งอย่างเหลือล้น
สุดท้ายแล้วเธอสามารถทำลายทหารจักรกลได้ด้วยปลายนิ้วเดียว ――มีข่าวลือแปลก ๆ เกิดขึ้นมากมายไปทั่วโรงเรียนว่าเธอใช้เทคนิคอะไรกันแน่
จากผลการสืบสวนโดยเพื่อนของเธอ อาคาชิ・ชิโนบาซ ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มกันไปด้วย กล่าวว่า「นั่นนะโคตรเลวร้ายเลยค๊า ฉ๊านคิดว่าถ้ายื่นมือเข้าไปยุ่งโดยบุ่มบ่าม มาเวเลียจะพินาศแน่นอน ไม่ไม่ ฉ๊านจริงจังนะค๊า」เธอพูดเรื่องอะไรบางอย่างที่ฟังดูเหมือนเรื่องตลกพร้อมรอยยิ้มจนน่าสงสัยว่ามีอะไรตลกเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง………..
ในที่สุดแล้ว มีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าคำเหล่านั้นไม่ผิด
” ――แต่ถ้าซีเกิร์นซามะเคลื่อนไหวต้องไม่เป็นไรแน่นอน!”
” ――ใช่แล้วใช่แล้ว! ไม่มีทางที่ยัยต่างชาติแบบนั้นจะเอาชนะซีเกิร์นซามะได้หรอก!”
ก่อนที่จะรู้ตัว การบ่นอันไร้เหตุผลกับซิลเลนก็เปลี่ยนไปกำลังพูดถึงซีเกิร์น・เกท
ซีเกิร์น・เกท
เขาเป็นรุ่นพี่ในชั้นปีที่เก้าของภาควิชาทหารจักรกล และได้รับการชื่นชมจากซิลเลนด้วย เนื่องจากฐานะทางตระกูลที่สูงส่ง และหน้าตาที่หล่อเหลา เขาจึงเป็นที่นิยมอย่างมากจากเหล่าเด็กสาวในโรงเรียน
แม้แต่ซิลเลยเองก็รู้ดีถึงความสามารถของเขา………แต่ที่เรื่องแรกเลยคือไอ้นั่น
ทหารจักรกลจะสามารถเอาชนะเนีย・ลิสตันที่แข็งแกร่งกว่าทหารจักรกลได้จริงหรือ?
หลังจากร้องเรียน กับพูดคุยเกี่ยวกับซีเกิร์นกันแล้ว พวกรุ่นพี่ก็ดูพอใจและออกจากห้องไป
ไม่ไหวไม่ไหว เธอถอนหายใจ แล้วหยิบขนมที่พลาดเอาเข้าปาก
เธอเก็บแซนวิชที่เป็นมื้อกลางวันออกไป เหลือไว้แต่เพียงของหวานเท่านั้น
เป็นขนมที่ชื่อว่านิตเต้ ซึ่งเป็นขนมขึ้นชื่อของมาเวเลีย ซึ่งทำโดยการฉีดคัสคาร์ดครีมเข้าไปในสปอนจ์เค้กรูปทรงรี และมีเนื้อสัมผัสที่อ่อนนุ่ม แต่เนื้อครีมจะหนักนิดหน่อย เมนูนี้สั่งพิเศษกับแม่ครัวของปราสาท ให้ใส่ครีมเนื้อบางเบาและแยมผลไม้เล็กน้อย ซึ่งเป็นเมนูโปรดของซิลเลน
ในเวลานี้ทุกคนไปที่โรงอาหาร ดังนั้นเธอจึงถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวในห้องเรียน
รอบ ๆ ตัวของซิลเลนมักจะมีผู้คนค่อยล้อมรอบเสมอ ดังนั้นการได้ทานอาหารกลางวันคนเดียวแบบนี้จึงทำให้เธอรู้สึกสงบ
การกินข้าวคนเดียวเป็นสิ่งที่เธอตั้งตารอที่จะทำเป็นครั้งคราว
แม้ว่าวันนี้จะถูกรบกวนไปแล้วก็ตาม
” ――จริงจังกันจังเลยเน๊ ซิลซามะก็ด้วย”
ก่อนที่เธอจะเอาของโปรดเข้าปาก เธอก็ถูกขัดจังหวะอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นอาคาชิ
“รายงาน?”
“ม๊า ก็ประมาณนั้นแหละค๊า”
ประมาณนั้นงั้นเหรอ
“ดูสบายดีมากเลยสินะ? ดูเหมือนจะสนุกมากเลยด้วยใช่ไหม”
เกือบหนึ่งเดือนแล้วที่เธอสั่งให้สืบสวนเรื่องของเนีย・ลิสตัน
ข้อมูลเสริมกำลังทยอยเข้ามา แต่งานปัจจุบันของอาคาชิคือ การสร้างมิตรภาพกับเนีย・ลิสตัน
――เราไม่ควรจะเป็นศัตรูต่อสิ่งนั้น สามารถชนะได้ไหม ต้องการเอาชนะ สิ่งนั้นไม่ปล่อยให้ได้คิดเรื่องแบบนั้นด้วยซ้ำ
เป็นเรื่องผิดปกติที่อาคาชิมีความคิดเห็นที่หนักแน่นเช่นนั้น ดังนั้นซิลเลนจึงได้ตัดสินใจที่จะปฏิบัติตาม นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าไม่ว่าคนอื่นจะพยายามแค่ไหน เธอก็คิดที่จะขยับเคลื่อนไหว
……..เธอมีลางสังหรณ์ว่าสักวันหนึ่ง เธอจะถูกบังคับให้จนมุมในเรื่องนี้ เนื่องจากตำแหน่งของเธอเอง
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม ส่วนหนึ่งขึ้นกับว่าจะสามารถกระชับมิตรภาพกับเนีย・ลิสตันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นได้หรือไม่ และอาคาชิจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะไปถึงจุดนั้น
“อะเรี้ย? หรือว่าบางทีจะเห็นซะแล้วเหรอค๊า?”
ใบหน้าขี้เล่นตามปกติเธอทำให้เธอดูน่าหงุดหงิดมากกว่าปกติ
ปัจจุบันอาคาชิใช้เวลาส่วนใหญ่กับเนีย・ลิสตันเพื่อเป็นการกระชับมิตรภาพระหว่างกันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงมีข้อมูลเสริมเข้ามา ดั้งแต่เรื่องเล็กน้อยไปจนถึงเรื่องสำคัญ
ในรถม้าระหว่างทางกลับปราสาท ซิลเลนมองเห็นหลายครั้ง
เธอเห็นอาคาชิกับเนีย・ลิสตันพูดคุยและทานอาหารร่วมกันที่ร้านห้า ดูเหมือนพวกเธอกำลังสนุกกันเต็มที่
ดูเหมือนว่าจะสนุกสนานยิ่งกว่าตอนที่อยู่กับเธอซึ่งรู้จักกันมาตั้งแต่เกิ ไม่สิ เธอเดาว่าเป็นอย่างงั้นจริง ๆ ซิลเลนเหมือนเชือกตึงเส้นตรง และอาคาชิที่ขี้เล่น เลยไม่เข้ากันได้ดีนั้ก
“อาเร๊ะ? บางทีอาจจะกำลังอิจฉาอยู่สิน๊า? หึง เพราะช่วงนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย? น่ารักกว่าที่คิดนะค๊า”
“เงียบซะ วันนี้มึรายงานว่าอะไรบ้าง
เธอกลบเกื่อนได้ไม่ดี และหากเป็นเช่นนั้นก็อาจจะถูกจับได้ ดังนั้นซิลเลนจึงกระตุ้นให้อาคาชิเล่าธุระต่อ
“อ้า ใช่ใช่ ได้ยินมาหนาหนูแล้วว่าซีเกิร์นซามะกำลังจะเคลื่อนไหวในเร็ว ๆ นี้ล่ะค๊า?”
“เป็นอย่างงั้นเหรอ?”
สิ่งที่พวกรุ่นพี่ก่อนหน้านี้คุยกันเป็นเพียงแค่การคาดเดาเท่านั้น การเปรียบเทียบคือถ้าซีเกิร์นเคลื่อนไหวจริง
“ไม่ว่าภาควิชาทหารจักรกลจะพยายามแค่ไหน ก็เป็นการโดนเล่นงานฝ่ายเดียวอยู่ดี ไม่สามารถนั่งเฉยได้อีกต่อไปแล้ว ในแง่ของสไตล์ เนียจัง แผนกต่อต้านทหารจักรกรเสร็จสมบูรณ์แล้วเหมือนกัน”
แน่นอน
คิดว่าทัศนคติของทหารจักรกลที่ไปไกลเกินขนาดนั้นดูไม่เหมาะสม แต่ความภาคภูมิใจของทหารจักรกลนั้นอยู่ในมือของซิลเลนอย่างแน่นอน
ทหารจักรกลที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ และเราไม่สามารถปล่อยให้ถูกเอาชนะได้อีกต่อไป
…….จากนั้นเท่าที่ได้ยินมาคือ มองยังไงก็ไม่มีอกาศชนะ
“กำลังพยายามบอกให้เราไปหยุดซีเกิร์นอย่างงั้นสินะ
“ม๊ายเลยค๊า ฉ๊านไม่คิดว่าจะฟังกันหรอกค๊า ―― ยังไงก็ตาม เมื่อเรื่องนั้นจบลง ฉ๊านคิดว่าคงจบลงอย่างรวเร็ว และคราวหน้าก็ถึงเวลาที่ซิลเลนซามะจะต้องปรากฎตัวใรรอบนี้
เรื่องราวดำเนินต่อไปโดยสันนิษฐานไว้ว่า ซีเกิร์นจะพ่ายแพ้ และซิลเวนก็ยอมได้โดยไม่รู้สึกลำบากใจ
เธอคิดไว้แล้วว่ายังไงก็คงต้องเกิดขึ้น
ซีเกิร์นคือหมายเลขสองในภาควิชาทหารจักรกล
หากเขาล้มเหลว คู่ต่อสู้คนต่อไปก็คงจะเป็น…………นั่นล่ะคำตอบ
ซิลเวนไม่มีความตั้งใจที่จะทำเช่นนั้น แต่ผู้คนรอบตัวเธอไม่มีทางนิ่งเงียบ
และหากปฏิเสธก็จะกลายเป็นคำกล่าวหาว่าอันดับที่หนึ่งของภาควิชาทหารจักรกลถูกเนีย・ลิสตันข่มขู่ และความภาคภูมิใจของทหารจักรกลก็จะล้มลง
เป็นเรื่องยุ่งจาก แต่ก็แน่ใจได้ว่าจะต้องมีอะไรเกิดขึ้น
“ยังไงก็แล้วแต่ ซิลซามะเกลียดการพ่ายแพ้ให้กับเนียจังหรือเปล่าล๊า?”
“มีอะไรมากมายที่สามารถเรียนรู้ได้จากความพ่ายแพ้ อันที่จริง เราเองก็มักจะแพ้ระหว่างการฝึกที่ปราสาทอยู่บ่อย ๆ ทุกวันนี้ เราก็ไม่ได้ต่อต้านความพ่ายแพ้ นอกจากในการต่อสู้จริง”
แต่ แต่ว่า
“แต่……เนีย・ลิสตัน ไอ้นั่นใช่ไหม?”
“นั่น น๊านสินะค๊า”
ตามที่คาดไว้ อาคาชิเอง รอยยิ้มของเธอจางลงเล็กน้อย
“เด็กนั้น เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังพยายามเลือกมี่จะสู้กับประเทศนี้แหละค๊า ……ไม่สิ เดาว่าชวนวิวาทมากกว่าล่ะมั้งน๊า”
เนีย・ลิสตัน ตอนนี้จุดประสงค์ของเธอน่าจะเป็นการกำลังแสดงพลัง และทำให้โดดเด่น
คงวางแผนที่จะดำเนินต่อไปจนกว่าสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าจะเข้ามา
และปลาใหญ่ที่ใกล้ตัว และคุ้มค่าที่สุดในตอนนี้ ก็คือ ซิลเลน
“เมื่อราชวงศ์เดินเข้าไปจัดการปัญหาเอง แล้วพ่ายแพ้ ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเนียจังจำทำอะไรต่อไปเน๊ แต่ถึงจะไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป แต่แน่ใจเลยว่าเธอจะไปสเต็ปต่อไปแน่ ๆ เน๊”
หากซิเกิร์นแพ้ ซิลเลนจะถูกผู้คนรอบข้างผลักออกไปเป็นรายต่อไปอย่างแน่นอน
โดยส่วนตัวแล้วเธอไม่รังเกียจที่จะพ่ายแพ้ แต่ถ้าเพื่อชาติ เธอก็ไม่สามารถพ่ายแพ้ได้
และเพราะเราไม่รู้ว่าความเคลื่อนไหวต่อไปของเนีย・ลิสตันจะเป็นยังไง
“คิดว่าแนวโน้มต่อไปที่จะเกิดขึ้นคืออะไร?”
“ก็ไม่รู้สิเน๊ วิธีสุดท้าย……..คือการลบออกในกรณีฉุกเฉิน แต่แน่ใจเลยว่าเป็นไปไม่ได้น๊า เป็นปัญหาปวดหัวเลยจริงไหมเน๊ะ”
“อย่าพูดแบบนั้นทั้งที่กำลังหัวเราะสิ”
――ช่างเป็นนักเรียนต่างชาติเจ้าปัญหาจริง ๆ