ตอนที่ 164 คำแนะนำจากลูกค้าชาวเมือง

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่ 164 คำแนะนำจากลูกค้าชาวเมือง

เมื่อโจวฉายอวิ๋นเอาของกินเล่นและเปิดเบียร์กับโซดาให้ลูกค้าโต๊ะนั้น หล่อนก็ลอบฟังบทสนทนาของพวกเขานิดหน่อย

คนเป็นพี่กลับมาที่ห้องครัวแล้วทำหน้าบึ้งใส่หลินม่ายที่กำลังยุ่งอยู่กับการทำอาหารเย็น “คนเมืองพวกนั้นดูขี้โอ่ชะมัด เห็นบอกว่าหาเงินได้หลายพันหยวนจากการรับเสื้อผ้าที่กวางตุ้งมาขาย พวกนั้นเข้าใจจริง ๆ หรือเปล่าว่าเงินหลักหมื่นมันเป็นยังไง ถ้ามีขนาดนั้นคงต้องเอาใส่กระเป๋าได้ใบใหญ่พกไปด้วยแล้ว มีคนนึงอวดว่าเพิ่งทำงานได้ปีเดียวก็ซื้อบ้านเดี่ยวแบบมีสวนราคาสามหมื่นหยวนได้ที่ปักกิ่ง บ้านเดี่ยวมีสวนแบบนั้นราคาตั้งเท่าไร ต้องมีเงินขนาดไหนถึงจะซื้อได้ ขนาดในชนบทยังไม่มีใครสร้างบ้านแบบมีสวนเลย ต้องเศรษฐีเลยมั้งถึงจะมีบ้านหลังใหญ่แบบนั้นได้”

หลินม่ายไม่คิดว่าเรื่องที่พวกเขาพูดจะเกินจริง

ในยุคนี้เป็นช่วงเวลาของการทำเงินของนักลงทุนจริง ๆ

อย่าว่าแต่พวกเขาเลย เพียงแค่ร้านขายเสื้อผ้าในตลาดมืดที่เธอเจอก็ขายเสื้อผ้าได้หลายสิบชิ้น หาเงินได้สองสามร้อยหยวนในคราวเดียว

ขายหลาย ๆ ครั้งต่อเดือนจะได้เงินเป็นหลักพันก็ไม่น่าแปลกใจเลยซักนิด

พอคิดแบบนั้นหญิงสาวก็เกิดความคิดน่าสนใจขึ้นมา ถ้าเธอไปซื้อเสื้อผ้าที่กว่างโจวมาขายต่อ ก็น่าจะรวบรวมเงินหมื่นหยวนให้ทันตามเวลาที่กำหนดได้หรือเปล่านะ

คิดไปพลางหยิบจานสลัดเย็นสองจานที่เพิ่งทำเสร็จพร้อมมะเขือม่วงย่างไปให้ลูกค้าผู้ร่ำรวย

ลูกค้าจากเมืองใหญ่มองอาหารที่ได้รับมาอย่างประหลาดใจ “คือเราไม่ได้สั่งนะครับ”

หลินม่ายยิ้มแล้วตอบพวกเขา “ฉันเลี้ยงค่ะ”

พวกเขามองเธอนิดหน่อยแล้วเข้าเรื่อง “ไม่ได้ให้กันฟรี ๆ แน่ บอกมาเลยดีกว่าอยากให้เราช่วยอะไร”

หลินม่ายเห็นว่าพวกเขารู้จุดประสงค์ของเธอจึงไม่ได้อ้อมค้อม

เริ่มเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “ฉันอยากไปกว่างโจวเพื่อซื้อเสื้อผ้ามาขายในเจียงเฉิง แต่คุณก็เห็นว่าฉันเป็นเจ้าของร้านอาหาร ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการค้าขายทางนั้นเลย ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นยังไง”

พวกเขาเข้าใจเหตุผลได้ในทันที “ถ้างั้น ของกินเท่านี้ก็ไม่พอสำหรับคำแนะนำที่จะได้รับหรอกนะครับ”

หลินม่ายยิ้มเล็กน้อยไม่นานก็มีอาหารมาเสิร์ฟอีก ทั้งไส้กรอกร้อน ๆ กึ๋นเป็ดไก่ตุ๋น เซาเข่าและของหวานหลายอย่าง

ละลานตาเต็มโต๊ะไปหมด

เขาเพียงแค่พูดล้อเล่น พอเห็นว่าเจ้าของร้านสาวเอาจริงก็แอบเขินไปเล็กน้อย

เขากับเพื่อน ๆ ให้คำแนะนำกับเธอว่าจะทำอย่างไรถึงจะทำเงินจากการรับเสื้อผ้าที่กว่างโจวได้

หลังจากเล่าจบก็อดไม่ได้ที่จะเตือนเธอ “แต่ผมคิดว่าธุรกิจร้านอาหารของคุณก็ดีอยู่แล้วนะ กว่างโจววุ่นวายมาก ไม่ใช่ที่ที่สาวน้อยอย่างคุณจะรับมือได้ง่าย ๆ เลย บางคนก็ไปแล้วหมดตัวก็มี”

หลินม่ายยิ้ม “ฉันแค่ลองถามเป็นความรู้ไว้ดูก่อนค่ะ พอมาคิดดูแล้วก็ยังขาดเงินทุนที่จะเอาไปซื้อของกลับมาอยู่”

เมืองหลวงมีเม็ดเงินไหลเวียนอยู่เป็นจำนวนมหาศาล พวกเขาทำธุรกิจกันครั้งละสองสามพันไปจนถึงหมื่น ๆ เพราะแบบนี้การหาเงินหลายพันหยวนในครั้งเดียวถึงเป็นไปได้

ถ้าอยากจะทำเงินได้เยอะ ๆ ก็ต้องมีต้นทุกสูงมากเช่นกัน

หลังจากลูกค้ากลุ่มนั้นจากไป โจวฉายอวิ๋นก็เข้ามาถามด้วยสีหน้ากังวล “เธออยากจะไปกว่างโจวจริง ๆ เหรอ”

แม้จะได้ยินว่าหลินม่ายตอบพวกเขาไปว่าแค่ลองถามดู แต่ฉายอวิ๋นรู้สึกได้ว่าคนเป็นน้องตัดสินใจไปแล้ว

หลินม่ายพยักหน้าแทนคำตอบ

โจวฉายอวิ๋นเกลี้ยกล่อมอย่างเป็นห่วง “ตอนนี้โต้วโต้วก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เธอไปซื้อของจากชนบทกลับมาขายทำเงินก็ได้นี่ ขายทุกวันก็ได้รายได้เดือนละสองสามพันแล้ว จะเสี่ยงไปกว่างโจวทำไมกัน คนพวกนั้นยังบอกเลยว่ากว่างโจววุ่นวายมาก ไม่น่าจะปลอดภัยเท่าเจียงเฉิงหรอก”

หลินม่ายถามกลับไป “ตอนนี้ทั้งลูกท้อกับลูกไหนก็ขายหมดแล้ว คิดว่าจะเหลืออะไรให้เอามาขายอีกล่ะ”

เหตุผลนั้นทำให้โจวฉายอวิ๋นตอบไม่ถูก

เดือนนี้ไม่มีผลผลิตอะไรให้เอามาขายได้จริง ๆ

ในตอนนั้นเองก็มีลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่มานั่งกินอาหารเริ่มคุยกัน

หนึ่งในนั้นถามเพื่อนของตัวเองว่า “ได้ยินข่าวเกี่ยวกับโรงพยาบาลผู่จี้บ้างไหม เหมือจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นซักอย่าง”

อีกสองสามคนส่ายหน้าพร้อมกัน “ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”

“มีปัญหาอะไรกัน” พวกเขาเริ่มซุบซิบกัน

“ฉันได้ยินมาว่ามีคนป่วยที่ผ่าตัดอะไรซักอย่างแล้วเสียหลังจากผ่าไม่นาน สามีหล่อนโทษว่าเป็นเพราะหมอศัลยกรรม เขาบอกว่าภรรยาคงจะไม่ตาย ถ้าไม่ได้เข้าผ่าตัด บอกว่าเป็นความผิดพลาดทางการรักษา ถ้าไม่ได้เงินชดเชยจะเอาเรื่อง โรงพยาบาลก็หาหลักฐานมายืนยันแล้วว่าไม่ใช่ความผิดพลาดของการรักษา แต่ฝ่ายนั้นก็ไม่ยอม เอาแต่บอกว่าเสียภรรยาไปทั้งคน เลยหาข้อสรุปไม่ได้ซักที ผู้ชายคนนั้นจ้างอันธพาลมาจากไหนก็ไม่รู้เข้าไปก่อเรื่องที่แผนกศัลยกรรม จนถึงขั้นนองเลือดเลยนะ”

แผนกศัลยกรรมที่โรงพยาบาลผู่จี้?

หญิงสาวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ฟางจั๋วหรานจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ

เธอทิ้งงานที่ทำอยู่ บอกโจวฉายอวิ๋นไว้แค่สั้น ๆ แล้วตรงไปที่โรงพยาบาลผู่จี้อย่างรวดเร็ว

ระหว่างที่ออกวิ่ง ในหัวก็เต็มไปด้วยภาพมากมายวนมาไม่หยุด

ฟางจั๋วหรานจะถูกทำร้ายหรือเปล่า

หวังว่าถ้าเขาถูกทำร้ายก็ขอให้ไม่เป็นอะไรมาก อย่าให้อันตรายถึงชีวิตเลย

คุณหมอฟางช่วยเหลือคนไข้วิกฤติอยู่ทุกวัน ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะมีวันที่ต้องเดือดร้อนเพราะการงานแบบนี้เลย

คิดแบบนั้นน้ำตาของเธอก็พลันจะไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้

หญิงสาวมาถึงที่เกิดเหตุก็ใจหายกับภาพที่เห็น

พนักงานทำความสะอาดหลายคนกำลังทำความสะอาด มีเลือดจำนวนมากอยู่ที่พื้น

และยังมีรอยเท้าเปื้อนเลือดนั่นอีก เห็นแบบนั้นก็พอจะจินตนาการได้ว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นมันรุนแรงขนาดไหน

หลินม่ายมองไปรอบ ๆ แต่ไม่เห็นร่างของคุณหมอฟาง

เธอวิ่งไปที่ห้องทำงานของเขา แต่ก็ไม่เจอ นั่นทำให้หญิงสาวชาวาบไปทั้งตัวราวกับกระโจนลงไปในน้ำเย็นเฉียบ

เธอพยายามบอกตัวเองให้ตั้งสติก่อนแล้วคว้าตัวนางพยาบาลคนหนึ่งที่เดินผ่านมาถึงอย่างเคร่งเครียด “อาจารย์ฟางจั๋วหรานอยู่ที่ไหนเหรอคะ”

แต่พยาบาลคนนั้นไม่มีเวลาจะตอบคำถาม อีกฝ่ายผลักเธอออกแล้วจากไปโดยยังไม่ได้ตอบ

หลินม่ายข่มความตื่นตระหนกเอาไว้อย่างมาก และเริ่มไปถามกับคนไข้และญาติ ๆ แทน

เหล่าคนไข้และญาติ ๆ ยังอยู่ในอาการตื่นตกใจ

เธอได้รับรู้แค่ว่าเกิดเรื่องน่ากลัวอะไรที่นี่ แต่ไม่มีใครให้คำตอบเรื่องฟางจั๋วหรานได้เลย

บางคนก็ไม่รู้จักคุณหมอฟาง บ้างก็ไม่ได้สังเกตว่าเขาอยู่ไหน

ร่างบางของหญิงสาวสั่นไหวรายกับใบไม้ต้องลม ดวงตาจ้องมองไปที่แอ่งเลือดสีเข้มบนพื้น

ฟางจั๋วหราน…ฉันชอบคุณ ฉันยังไม่ได้บอกคุณเลย คุณจะเป็นอะไรไปตอนนี้ไม่ได้นะ

ต่อให้ต้องแยกจากกันแล้ว อย่างน้อยก็ควรจะได้บอกเขาเรื่องนี้ก่อน

เธอหยุดเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคนหนึ่งเอาไว้ เพื่อถามว่าฟางจั๋วหรานอยู่ไหนอีกครั้ง ในที่สุดก็มีคนว่างตอบเธอ

แต่คนถูกถามอยู่ในอาการตกใจมากไม่สามารถตอบออกมาได้เสียทีว่าหมอหนุ่มอยู่ที่ไหน

เธอตอบอย่างตะกุกตะกัก “คนเจ็บทั้งหมดถูกส่งไปที่ห้องผ่าตัด ไม่ก็แผนกศัลยกรรมทั่วไป ถ้าไปสองที่นั้นแล้วไม่เจอก็น่าจะอยู่ที่ห้องดับจิต”

หลินม่ายรีบตรงไปยังที่ที่พยาบาลแนะนำ ค้นหาอยู่หลายรอบก็ไม่เจอคนที่ตามหา

หรือว่าเขาอาจจะอยู่ระหว่างการผ่าตัด?

เธอรีบตรงไปที่ห้องผ่าตัดที่มีคนอยู่มากมายรวมตัวกันอยู่ นักข่าวกำลังสัมภาษณ์คนในที่เกิดเหตุ

ผอ. โรงพยาบาลมีสีหน้าเคร่งเครียดขณะให้สัมภาษณ์ เขาเอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ทุกอย่างกะทันหันมากครับ มีศัลยแพทย์บาดเจ็บสาหัส สถานการณ์ตอนนี้แย่มาก เรากำลังให้การช่วยเหลือคนเจ็บอยู่ และต้องการเลือดกรุ๊ป A หรือ O อย่างเร่งด่วน เลือดในธนาคารเลือดตอนนี้ไม่เพียงพอ ขอความร่วมมือจากประชนช่วยบริจาคเลือดให้เราด้วยครับ ตอนนี้ผมให้ข้อมูลทุกคนได้เท่านี้”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

มีหนทางทำเงินใหม่แล้ว ม่ายจื่อจะยอมเสี่ยงไหมนะ

เกิดอะไรขึ้นกับพี่หมอหรือเปล่า ขออย่าให้พี่หมอเป็นอะไรมากเลยนะคะ

ไหหม่า(海馬)