ตอนที่ 186 ไม่หาเรื่องทรมานตัวเอง
เช้าตรู่วันอาทิตย์
หลังอาหารเช้า ครอบครัวตี้ฮ่าวเทียนสามคนก็มาที่วังตระกูลตี้อีกครั้ง
อวิ๋นเหอเรียกให้ทุกคนไปยืนดูตรงที่ที่เหมาะสม เพื่อจะได้ไม่เป็นการรบกวนการฝังเข็มของมู่เถาเยา
ผู้มีบทบาทหลักในเวลานี้ได้หยิบเข็มทองออกมาจากกล่องยาใบเล็กแล้ว
“ตี้อู๋เปียน รีบถอดเสื้อผ้าสิ รู้ตัวหน่อย อย่าให้ฉันต้องเร่งทุกครั้ง”
ตี้อู๋เปียน “…”
ถึงเขาจะชินแล้วกับการถูกปักเข็มจนเหมือนต้นตะบองเพชรต่อหน้าคนมากมาย แต่ก็ยังเขินรูปร่างตัวเองอยู่ดี
ทุกครั้งที่ซาลาเปาน้อยบอกให้เขาถอดเสื้อผ้า เขาจะรู้สึกอายจนแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี
แถมเธอยังมองเขาด้วยสายตาเหมือนมองหนูทดลอง…
ถ้าไม่ใช่เพราะซาลาเปาน้อยร้อนใจรีบตามหาหมอลู่เพื่อมารักษาเขา เขาคงคิดไปเองแล้วว่าเธอก็ชอบเขาเหมือนกัน
ตี้อู๋เปียนถอนหายใจจากใจ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกท่ามกลางสายตาของทุกคน
มู่เถาเยาเริ่มทำการฝังเข็ม ทำให้หุยหยางยิ่งราบรื่น
ไม่มีใครพูดอะไรตลอดการฝังเข็ม
หลังจากเสร็จแล้วคนตระกูลตี้ก็มีสีหน้ายินดี
ตี้ฮ่าวเทียนสังเกตสีหน้าของตี้อู๋เปียน เขาพยักหน้าพลางพูด “อาการป่วยของอู๋เปียนเห็นได้ชัดเลยนะว่าดีขึ้น”
สวีชูเหยียนอาสะใภ้มองมู่เถาเยาที่กำลังเก็บกล่องยาพลางพูด “ฝีมือการรักษาของเสี่ยวเยาเยาสุดยอดมากๆ”
มู่เถาเยาเงยหน้า ยิ้มบาง “อาสะใภ้ชมเกินไปแล้วค่ะ ต้องมีคนเก่งอยู่อีกไม่น้อยแน่นอนค่ะ”
นี่ไม่ใช่การถ่อมตัว แต่มีจริงแน่นอน
ลู่จือฉินอาจารย์ของเธอก็คือหนึ่งในนั้น อย่างไรเสียก็คงมีคนที่พวกเขาไม่รู้จักอีก
อวิ๋นเหอเห็นด้วย “ยอดฝีมืออยู่ในหมู่ชาวบ้าน ประเทศเหยียนหวงของเรากว้างใหญ่อุดมสมบูรณ์ ผู้คนฉลาดปราดเปรื่อง มีคนเก่งๆ อยู่ในแต่ละวงการจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน ในชีวิตคนเราได้เจอคนเก่งสักคนก็โชคดีมากแล้ว”
ถ้าไม่ได้ลุงหยวน เธอกับท่านผู้เฒ่าอาจตายไปแล้ว
ถ้าไม่ได้เสี่ยวเยาเยา ลูกชายคนเล็กของเธอก็คงใกล้ตายแล้ว
สวีชูเหยียนอาสะใภ้ยิ้มพลางพูด “พี่สะใภ้ใหญ่พูดถูกค่ะ ในหมู่ชาวบ้านมีคนเก่งมากมาย แต่ต่อให้เก่งแค่ไหนก็ไม่มีทางรู้จักหมดทุกคน ได้รู้จักแค่สักคนก็เป็นเรื่องที่โชคดีมากแล้ว”
“คนที่โชคชะตาต้องกันย่อมได้รู้จักกัน” มู่เถาเยาปิดฝากล่องยา เตรียมกลับห้องเอาเข็มทองไปฆ่าเชื้อ
“คุณหมอเทวดาครับ คุณชายเล็กของพวกเราไม่ต้องใช้ยาแล้วเหรอครับ” หมอประจำตระกูลตี้ถาม
“ถ้าเอาตามจริง การฝังเข็มรักษาได้สารพัดโรค ยาเป็นเพียงตัวช่วยในการรักษาสำหรับแพทย์แผนโบราณ เพื่อให้หายเร็วขึ้น ร่างกายของตี้อู๋เปียนดูเหมือนป่วยแต่ก็เหมือนไม่ป่วย จากสถานการณ์ในตอนนี้การกินยาไม่ได้ช่วยเท่าไรค่ะ”
“ผมกับทีมรักษาวิเคราะห์ศึกษาสภาพร่างกายของคุณชายเล็กมาตลอด แต่ก็ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกครับ” หมอประจำตระกูลมีสีหน้ารู้สึกผิด
“สุขภาพร่างกายของตี้อู๋เปียนเกินขอบเขตของวิทยาศาสตร์ไปแล้วค่ะ โลกธรรมชาติมีหลายสิ่งหลายอย่างที่วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ แต่กลับมีอยู่จริง ถ้าไม่ได้เห็นกับตาหรือประสบด้วยตัวเองก็ยากที่จะมีคนเชื่อ”
ทุกคนต่างพยักหน้า
มู่เถาเยายืนขึ้น “ฉันขอกลับห้องเอาเข็มทองฆ่าเชื้อก่อนนะคะ แดดก็แรงแล้วด้วย ทางที่ดีอย่าให้ตี้อู๋เปียนตากแดดแรงๆ แดดเช้าตรู่กับแดดเย็นพอได้ค่ะ”
ย่าตี้ก็ยืนขึ้น ยิ้มพูด “ทุกคนก็กลับเข้าข้างในเถอะ”
เมื่อไปถึงห้องรับแขกมู่เถาเยาก็ไม่ได้หยุด แต่ตรงกลับห้องเอาแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อเข็มทอง
เมื่อลงมาอีกครั้งก็ได้เวลากินข้าวกลางวันแล้ว
“ซาลาเปาน้อย พวกเรากลับเย่ว์ตูกี่โมง”
“ไม่ได้กำหนดเวลา อีกเดี๋ยวฉันกับอาจารย์อาเล็กจะไปเที่ยวเมืองโบราณกัน”
อวิ๋นเหอมองเด็กสาวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเอ็นดู “เสี่ยวเยาเยา พวกหนูไปเที่ยวเมืองโบราณอยากซื้ออะไรฝากคนอื่นเหรอจ๊ะ ป้ามีของโบราณที่พอฝากคนได้ไม่อายใครอยู่หลายชิ้น ถ้าหนูอยากได้ป้าจะให้ จะว่าไปหนูรักษาอู๋เปียนพวกเรายังไม่เคยให้ค่าตอบแทนอะไรเลย”
มู่เถาเยาส่ายหน้า “ไม่ได้จะฝากใครหรอกค่ะ พวกเราแค่อยากไปเดินเที่ยว ดูว่าจะมีหนังสืออะไรให้ซื้อไหม เมื่อหลายวันก่อนหนูได้ของดีมาจากเมืองโบราณของเย่ว์ตู ได้ตำราโบราณที่ถูกเก็บรักษาอย่างดีมาหลายเล่ม ตำราแพทย์เยอะที่สุด ส่วนเรื่องค่าตอบแทน ขนาดอาจารย์ใหญ่ของหนูยังไม่เคยเก็บ หนูก็ไม่มีทางรับไว้ค่ะ”
คนตระกูลตี้ต่างยิ้มให้
ตี้อู๋เปียน “ซาลาเปาน้อย ตำราแพทย์โบราณประเมินราคาไม่ได้ พวกเธอต้องเก็บให้ดีนะ”
“อืม พวกเราปรึกษากันแล้ว ถ่ายหนังสือแต่ละหน้าออกมาก่อน ทำเป็นฉบับคัดลอก จากนั้นจะเอาตำราจริงไปเก็บไว้ที่หมู่บ้านเถาหยวน”
“อาจารย์ใหญ่ของหนูคงดีใจจนแทบเป็นบ้าแน่” ย่าตี้จินตนาการสีหน้าและท่าทางของเพื่อนตัวเองตอนกอดตำราแพทย์โบราณออก
มู่เถาเยายิ้มดวงตาโค้งมน
ตี้อู๋เสีย “เสี่ยวเยาเยา เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อนเธอกับอธิการบดีเจียงนะ”
“พี่อู๋เสีย สถานะของพี่มีความพิเศษ อย่าไปเลยค่ะ ที่นั่นคนเยอะวุ่นวาย นักท่องเที่ยวก็เยอะ ไม่เหมือนสนามฝึกม้า ฉันไปกับอาจารย์อาเล็ก เหลียงจี เฟิงเหมียน แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ”
อวิ๋นไป๋ “เดี๋ยวน้าไปเป็นเพื่อนอธิการบดีเจียงกับพวกเสี่ยวเยาเยาเอง”
เจ้าถุงลมน้อยยกมือขึ้นทันที “อันเหยี่ยไปด้วย”
ตี้อู๋เปียนมองหลานชาย “ทำไมนายมีเอี่ยวทุกเรื่องเลยนะ”
ดวงตากลมโตของเจ้าถุงลมน้อยกะพริบตาปริบๆ “อันเหยี่ยไปเป็นเพื่อนพี่สาว”
กู้เนี่ยนเอานิ้วจิ้มหน้าผากลูกชาย พูดด้วยความจนปัญญา “เราน่ะเห็นพี่สาวมาอันดับแรกเลยนะ”
แม่จะหึงแล้วนะ
เจ้าถุงลมน้อยทำสีหน้าไร้เดียงสา
อวิ๋นไป๋ “งั้นน้าจะพาเสี่ยวอันไปเที่ยวเมืองโบราณกับพวกเสี่ยวเยาเยา น้ามีเพื่อนที่นั่นพอดี”
อวิ๋นเหอ “เสี่ยวเยาเยา งั้นให้น้าเล็กไปเป็นเพื่อนนะ”
มู่เถาเยากับอาจารย์อาเล็กไม่ว่าอะไร
เจียงเฟิงเหมียนพูดด้วยความเกรงใจ “พ่อคะ พี่เยาเยา หนูอยากไปดูวิทยาลัยวิจิตรศิลป์”
เหลียงจี “เสี่ยวเยาเยา งั้นเดี๋ยวพี่ไปวิทยาลัยวิจิตรศิลป์กับเสี่ยวเฟิงเหมียนแล้วกัน”
มู่เถาเยาพยักหน้า
มีเหลียงจีอยู่กับเฟิงเหมียน เธอกับอาจารย์อาเล็กก็ไม่ต้องกังวลแล้ว
ตี้อู๋เว่ย “เดี๋ยวผมให้คนขับรถไปส่งครับ”
ตี้อู๋เปียน “ซาลาเปาน้อย ฉัน…”
มู่เถาเยาพูดขัดจังหวะเขา “คุณอยู่บ้านพักผ่อน ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น”
อากาศของเมืองหลวงสู้เย่ว์ตูไม่ได้ ยิ่งเทียบกับหมู่บ้านเถาหยวนไม่ได้เลย
สถานที่ที่คนเยอะอย่างเมืองโบราณ ตี้อู๋เปียนไปไม่ได้เด็ดขาด
ตี้อู๋เปียน “…”
ถูกปฏิเสธต่อหน้าคนในครอบครัว เขารู้สึกอายนิดหน่อย
อวิ๋นเหอ “อู๋เปียน อาการเพิ่งดีขึ้นอย่าเพิ่งคิดจะไปเที่ยวเล่นเลย ไว้หายดีเมื่อไรอยากไปไหนพวกเราไม่ห้ามหรอก”
ตอนนี้แค่คิดก็ไม่ได้!
ตี้อู๋เปียน “…”
ตี้อู๋เสีย “น้องเล็ก เดี๋ยวพี่เล่นเดินหมากเป็นเพื่อนนะ”
“พี่เล่นไม่เก่ง” น้ำเสียงรังเกียจสุดขีด
ตี้อู๋เสีย “…”
น้องเล็กก็ยังคงเป็นน้องเล็กอยู่วันยังค่ำ
ตี้อู๋โยว “อยู่เฉยๆ ดีกว่าครับพี่”
จะทำกิจกรรมอะไรกับอู๋เปียนก็เท่ากับเอาตัวเองไปแพ้ เขาไม่ขอทรมานด้วยหรอก
ตี้อู๋เสีย “ได้ งั้นอู๋เปียนก็อยู่กับปู่ย่า พ่อแม่ แล้วก็พวกอาๆ ไปนะ นานๆ จะกลับมาที”
ตี้อู๋เปียนตอบอืม
ในเมื่อออกไปกับซาลาเปาน้อยไม่ได้ งั้นเขาอยู่กับใครก็เหมือนกัน ช่างเถอะ
อวิ๋นเหอ “เดี๋ยวแม่กับชูเหยียนจะไปเตรียมของให้ปู่ย่ากับอู๋เปียนเอาไปหมู่บ้านเถาหยวนนะ”
มู่เถาเยา “คุณป้าคะ อาสะใภ้ ไม่ต้องเตรียมของฝากหรอกค่ะ หมู่บ้านเถาหยวนมีครบทุกอย่าง”
“เป็นพวกของกินของใช้ ปู่ย่า อู๋เปียน อันเหยี่ย ชอบกินกันทั้งนั้นจ้ะ”
มู่เถาเยาไม่มีอะไรจะพูดต่อ
จะไม่ให้เอาของชอบของคนแก่ คนป่วย กับเด็กไปก็ไม่ได้ แม้จะรู้ว่านอกจากของพวกนี้แล้วยังมีของฝากอื่นๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วนก็ตาม
ราชาตี้ยิ้มพลางถาม “เสี่ยวเยาเยา อาจารย์ของหนูจะไปเมืองเย่ว์ตูเมื่อไรเหรอ ไว้ถึงตอนนั้นลุงจะไปเยี่ยมหน่อย”
“เดิมทีบอกว่าจะมาสุดสัปดาห์หน้าค่ะ แต่สุดสัปดาห์หน้าหนูยังต้องกลับหมู่บ้านเถาหยวนอีก ก็เลยเลื่อนเป็นสัปดาห์ต่อไปอีกค่ะ”
“เข้าใจแล้ว ถ้ามีเปลี่ยนแปลงอีกก็บอกลุงนะ”
“ได้ค่ะคุณลุง”