ตอนที่ 187 อุ้มสาวกลับ
หลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จ อวิ๋นไป๋ก็ขับรถพามู่เถาเยา อาจารย์อาเล็ก และเจ้าถุงลมน้อยไปที่เมืองโบราณอันดับหนึ่งของประเทศเหยียนหวงด้วยตัวเอง
เมืองโบราณอันดับหนึ่งแห่งนี้เรียกอีกชื่อว่าตลาดซื้อขายของเก่า มีพื้นที่มากถึงห้าแสนตารางเมตร
ไม่ต่างจากห้างสรรพสินค้า มีของขายละลานตา อีกทั้งยังมีร้านริมทางสารพัดที่รายล้อมอยู่ด้านนอกอาคาร
ทั้งหมดนี้เป็นร้านถูกกฎหมาย ไม่มีทางมีหน่วยงานท้องถิ่นมาไล่ที่อะไรทำนองนั้น
ของโบราณที่ราคาแพงสุดมีมูลค่าถึงหลายพันล้าน ของเล็กๆ อย่างเครื่องประดับราคาไม่กี่หยวนก็มี นอกจากนี้ยังมีพวกของมือสองต่างๆ เช่น เครื่องเรือน
ขอบเขตธุรกิจหลากหลาย
เมืองโบราณก็เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่คนมาเที่ยวเมืองหลวงต้องมา
“เสี่ยวเยาเยา วันนี้เป็นวันสุดสัปดาห์ เมืองโบราณจะครึกครื้นกว่าปกติมาก”
“ค่ะ พวกเราแค่ลองมาดูเล่นๆ” มีเวลาแค่ช่วงบ่ายไม่มีทางเดินเที่ยวได้ทั่วเมืองโบราณอยู่แล้ว
“เดี๋ยวน้าอุ้มอันเหยี่ยเอง พวกเธอค่อยๆ เดินดูไปนะ อยากได้อันไหนก็ซื้อเลย น้าเล็กพกเงินมาเยอะ”
อวิ๋นไป๋เป็นคนขับรถมา อาจารย์อาเล็กนั่งข้างคนขับ เด็กน้อยนั่งด้านหลังกับมู่เถาเยา แต่เขาผล็อยหลับไประหว่างทาง มู่เถาเยาก็เลยอุ้มเขาลงมา
เด็กน้อยหลับสบายมาก ออกจากมู่เถาเยาไปอยู่ในอ้อมอกของอวิ๋นไป๋ก็ยังไม่ตื่น มีขยับปากเล็กน้อย ราวกับกำลังฝันถึงของอร่อย
อวิ๋นไป๋หลุดขำ “เด็กคนนี้ติดหนูขนาดนี้เลยเหรอ ไปไหนก็ตามติดหมด!”
“หรือหนูจะถูกโฉลกกับเด็กก็ไม่รู้นะคะ”
“หนูไม่ได้ถูกโฉลกแค่กับเด็กนะ กับคนแก่ก็ด้วย ถูกโฉลกกับทุกคน ไม่มีใครไม่ชอบหนู”
มู่เถาเยายิ้ม “หนูไม่ใช่เงินนะคะ ที่ใครเห็นต่างก็ชอบ”
“หนูน่ารักกว่าเงินอีก”
“…น้าเล็กก็ปากหวานกับอาของหนูแบบนี้ด้วยเหรอคะ”
“อาของหนูเหรอ ไม่ชอบฟังหลายคำพูดเลยล่ะ” ถ้าเธอเหมือนคนอื่น ป่านนี้เขาคงอุ้มกลับบ้านสำเร็จไปแล้ว
แต่ถ้าเธอเหมือนคนอื่น เขาก็อาจไม่มีทางชอบหรือเปล่า
เย่ว์เลี่ยงมีเอกลักษณ์ ความรักของเขาอยู่แค่ที่เธอเท่านั้น
“อาของหนูไม่ใช่ไม่ชอบฟังคำหวานหรอกค่ะ ก็แค่รู้สึกว่าเป็นแค่ลมปาก เพราะอาของหนูคิดว่าผู้ชายส่วนใหญ่ทำไม่ได้อย่างที่พูด ถ้าดีแต่พูดแล้วไม่ทำ แบบนั้นก็คือความรักจอมปลอม”
เสด็จพ่อพูดคำหวานๆ ใส่เสด็จแม่เป็นกระบุง สุดท้ายเป็นไงล่ะ
“หลานน้า ความรู้สึกของน้าจริงแท้แน่นอน! เย่ว์เลี่ยงเป็นคนฉลาด ไม่มีทางสัมผัสไม่ถึง”
“หนูเชื่อน้าเล็กค่ะ พยายามเข้านะคะ”
“ขอบใจนะ”
เขาได้รับการสนับสนุนจากคนตระกูลเย่ว์ทั้งหมดแล้ว ยกเว้นเย่ว์เลี่ยง
ต้องพยายามมากขึ้นไปอีก! เชื่อว่าสุดท้ายแล้วเขาจะได้หญิงงามมาครอบครองแน่นอน!
อาจารย์อาเล็กยิ้มพูด “คุณอวิ๋น คุณทำให้ผมนึกถึงตัวเองสมัยก่อน แต่ว่าของผมมันกลับกัน ศิษย์พี่ใหญ่เลี้ยงผมมาจนโต นิสัยความเคยชินส่วนใหญ่ก็เลยติดมาจากเขา ก่อนจะมีภรรยาคนนี้ ผมไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานมาก่อน”
“คุณนายเจียงโชคดีมากครับ”
อาจารย์อาเล็กยิ้มหน้าบาน “ผู้ชายน่ะนะ บางครั้งใจอ่อนง่ายกว่าผู้หญิงเสียอีก อ่อนไหวง่ายกว่าด้วย”
อวิ๋นไป๋ “ไม่เหมือนผู้หญิง ต่อให้ชอบแค่ไหนก็ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย”
เย่ว์เลี่ยงมากน้อยน่าจะมีใจให้เขาอยู่บ้างหรือเปล่า
เธอไม่ใช่คนใจแข็งดุจเหล็ก ตรงกันข้าม กลับใจอ่อนมากด้วยซ้ำ
ก็แค่เขาไม่เข้าใจว่าเธอคิดมากเรื่องอะไรอยู่ ทำไมถึงได้ปิดกั้นตัวเองขนาดนั้น
ถ้าเธอแค่ไม่ชอบเขาจริงๆ เขาจะไม่อะไรเลย แต่ไม่ใช่ เธอเล่นไม่เปิดโอกาสให้ผู้ชายคนไหนเลย
อาจารย์อาเล็กพยักหน้า “ความคิดของผู้ชายกับผู้หญิงแทบไม่เหมือนกันเลยจริงๆ”
“เสี่ยวเยาเยา ว่างๆ ช่วยตะล่อมถามอาของหนูหน่อยสิว่ากลัวอะไรอยู่ในใจกันแน่”
“ได้ค่ะ”
มู่เถาเยาย่อมรู้ แต่เธอบอกไปตรงๆ ไม่ได้
อาของเธอไม่ได้กำลังกลัว แต่ไม่ไว้ใจผู้ชายคนไหนทั้งนั้น แม้จะมีเย่ว์หลั่งที่เป็นพี่ชายกับพี่สะใภ้เป่ยซีเป็นตัวอย่างความรักที่มั่นคงก็ตาม
อวิ๋นไป๋ทอดถอนใจ “เรื่องนี้รีบร้อนไม่ได้หรอก พวกเราไปเดินเที่ยวก่อนดีกว่า”
“ค่ะ”
มู่เถาเยากับอาจารย์อาเล็กเดินอยู่ข้างหน้า ตั้งใจดูเฉพาะแผงที่ขายหนังสือ
เดินมาได้ครึ่งของชั้นหนึ่ง แต่ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือเลยสักชิ้น
มู่เถาเยา “อาจารย์อาเล็กคะ ไม่งั้นพวกเราไปดูด้านนอกดีกว่า ร้านค้าด้านนอกน่าจะมีหนังสือมากพอสมควร”
“ได้ เสี่ยวเยาเยา ไม่มีหนังสือโบราณก็เป็นเรื่องปกติ พวกเราได้มาเยอะขนาดนั้นแล้ว จะโลภมากไม่ได้” หนังสือโบราณไม่ใช่ผักกาดขาวที่จะซื้อเมื่อไรก็ได้
“ค่ะ”
“อธิการบดีเจียง หลานน้า ชั้นบนก็มีหนังสือนะ” อวิ๋นไป๋เตือนพวกเขา
“พวกเราไปเดินด้านนอกก่อนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวต้องกลับเย่ว์ตูอีก มีเวลาไม่มาก ไว้ค่อยมาใหม่ก็ได้ค่ะ”
อวิ๋นไป๋พยักหน้า
เจ้าถุงลมน้อยรีบพูดขึ้น “พี่สาวอยากซื้ออะไรเหรอ เดี๋ยวอันเหยี่ยซื้อให้”
เขามีเงิน ได้แต๊ะเอียมาเยอะเลย
มู่เถาเยาหยิกแก้มเด็กน้อยเบาๆ “ไว้อันเหยี่ยโตแล้วค่อยซื้อให้พี่นะจ๊ะ”
เจ้าถุงลมน้อยพยักหน้า จากนั้นก็บิดตัวอยากลงพื้น
“อันเหยี่ย ที่นี่คนเยอะ ตาเล็กอุ้ม หนูจะได้ไม่ถูกเหยียบหรือพลัดหลงนะ”
เจ้าถุงลมน้อยเลิกดิ้น
เขาจะพลัดหลงไม่ได้!
มู่เถาเยากับอาจารย์อาเล็กตั้งใจสังเกตโดยรอบอีกครั้ง
“เถ้าแก่คะ ของพวกนี้ไปรับซื้อมาใช่ไหมคะ”
มู่เถาเยาหยิบชามลายครามใบหนึ่งจากร้านข้างทางขึ้นมาดูแล้วถามเจ้าของร้าน
“สาวน้อยคนนี้ตาแหลมจริงๆ! ของในร้านลุงเป็นของโบราณที่ลุงไปเที่ยวเสาะแสวงหาซื้อตามหมู่บ้านต่างๆ มาเองเลยนะ”
“ของโบราณ…เอาที่สบายใจแล้วกันค่ะ” มู่เถาเยาวางชามลง
อืม ชามที่เธอหยิบขึ้นมาดูเมื่อครู่จะว่าเป็นของโบราณก็ได้ แต่มันไม่ได้เก่ามาก แถมยังเคยถูกซ่อมแซมมาก่อน
เธอไม่สนใจของผุผัง
ต่อให้เป็นของโบราณจริงก็ยังไม่มีค่าขนาดนั้น
“ไอ๊หยา แม่หนู ลองดูอีกหน่อยสิ ร้านลุงมีแต่ของดีทั้งนั้นเลยนะ”
เด็กสาวคนนี้อายุไม่มาก แต่ใช้คำพูดแบบคนในวงการ แถมด้านข้างยังมีคนบุคลิกดีสองคน หน้าตาคมคาย ดูก็รู้ว่าเป็นคนรวย
เขาอยากเชือดแกะ
“หนูเรียนมาน้อย อย่าหลอกกันดีกว่าค่ะ” นี่มันของเกรดต่ำชัดๆ!
อวิ๋นไป๋กับอาจารย์อาเล็กหลุดหัวเราะพร้อมกัน
เสี่ยวเยาเยาเนี่ยนะเรียนมาน้อย
แบบนั้นใครยังจะกล้าพูดว่าเรียนมาเยอะอีก
“ไอ๊หยา แม่หนู สร้อยข้อมือของลุงมันสวยไม่พอเหรอ หยกแขวนไม่แวววาวพอเหรอ”
เจ้าของร้านหยิบสร้อยข้อมือสีแดงกับหยกประดับขึ้นมาโชว์ตรงหน้ามู่เถาเยา
มู่เถาเยาพูดด้วยความไม่แคร์ “มีอย่างอื่นอีกไหมคะ ถ้าไม่มีหนูไปดีกว่า”
“เอ๊ะๆ อย่าเพิ่งไปสิ เดี๋ยวลุงเอาของล้ำค่าตกทอดออกมาให้ดู”
อวิ๋นไป๋กับอาจารย์อาเล็กฟังแล้วก็หมดคำจะพูด
สมบัติตกทอดก็จะเอามาขายเหรอ สมบัติตกทอดไม่ได้เอาไว้ให้ลูกหลานเหรอ
เจ้าของร้านปลดกระเป๋าผ้าใบยาวที่ติดตัวออกมาแล้วเปิดออกทีละชั้น เผยให้เห็นของที่อยู่ภายใน เป็นดาบสั้นที่เก่ามาก
คล้ายดาบโบราณ แต่ก็มองไม่ออกว่าทำจากวัสดุอะไร
“เถ้าแก่เอาดาบนี่มาจากไหนคะ ของเถื่อนเหรอ”
เจ้าของร้านสะดุ้ง
“แม่หนู อย่าพูดส่งเดชสิ ดาบนี้เป็นสมบัติตกทอดของบ้านลุงจริงๆ ลุงไม่ทำเรื่องผิดกฎหมายหรอกนะ!”
“งั้นนี่เป็นโบราณวัตถุหรือเปล่า แอบเอาโบราณวัตถุมาขายแบบนี้ก็ผิดกฎหมายเหมือนกัน เดี๋ยวหนูจะเดือดร้อนไปด้วย”
“ไม่ใช่ๆ มันไม่ใช่โบราณวัตถุ ลุงเคยเอาไปตรวจดูที่สำนักโบราณวัตถุแล้ว”
“ค่ะ ในเมื่อเป็นสมบัติตกทอดของตระกูล ทำไมถึงจะขายล่ะคะ”