ตอนที่ 194 ในที่สุดก็คิดจับกดโลลิอย่างจริงจัง

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

194 ในที่สุดก็มาอย่างจริงจัง

 

ฉันยิ้มทันทีที่ต้องตื่นขึ้นมากลางดึก

 

“ดีดี ถึงเวลาเอาจริงแล้ว”

 

การโจมตีตอนกลางคืนจนถึงตอนนี้เป็นแค่การอุ่นเครื่อง

ฉันไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของพวกเขาคืออะไร แต่ดูเหมือนว่าจะมีนโยบายโง่ ๆ บางอย่างที่บอกว่า「มาทำเรื่องนี้แบบเงียบ ๆ กันดีกว่า」อยู่ ทำให้รู้สึกถึงขอบเขต

 

ไม่กระตือรือร้นกันเลยจริง ๆ

หากจริงจังที่จะจัดการกับฉัน ฉันก็อยากจะบอกให้เอาจริงไม่ต้องไปแคร์ภาพลักษณ์อะไรแล้ว

 

ฉันย่องลงจากเตียง แล้วกระโดดออกจากหน้าต่างลงไปยังสวนที่ชั้นหนึ่ง

 

“คุณหนูค่ะ”

 

ริโนกิสดูเหมือนจะรู้สึกตัวเช่นกัน และลุกมารออยู่แล้ว มีบางคืนที่เธอไม่รู้สึกตัว แต่ดูเหมือนคืนนี้จะรู้ล่ะ

 

――ทั้งหมดน่าจะเกินห้าสิบนิดหน่อยสินะ

 

พวกเขาล้อมคฤหาสน์แห่งนี้ไว้

ฉันมั่นใจว่าจะเป็นการโจมตีจากทุกทิศทางพร้อมกันล่ะมั้ง

 

“ริโนกิส ไปหลบที่ห้องใต้ดินกับพวกเด็ก ๆ”

 

ด้วยข้อจำกัดในการต้องจัดการกับคนจำนวนมากภายในบริเวณคฤหาสน์ อย่างที่คาดไว้ เรามีมือไม่พอจริง ๆ

หากสามารถควบคุมจังหวะเป็นผู้นำได้ก็จะเป็นตัวเลขที่น่าเหลือเชื่อ สิ่งที่ต้องทำก็คือเริ่มทำความสะอาดทั้งหมดตอนนี้เลย

 

แต่ สำหรับตอนนี้วิธีเดียวที่จะจัดการกับเรื่องนี้ได้ คือการต่อสู้แบบตั้งรับป้องกันตัว

ในกรณีนี้ จะลำบากสักหน่อยหากมีสิ่งที่ต้องปกป้องไปพร้อมกัน

 

“คนเดียวไม่เป็นไรเหรอคะ?”

 

“ก็แค่นิดหน่อยเองเน๊ะ”

 

ต่อให้ทุกคนจะเป็นนักฆ่าในระดับแนวหน้า ฉันก็ไม่รู้สึกว่าจะพ่ายแพ้

หากสามารถถูกตรวจเจอการมาถึงได้ตั้งแต่ระยะไกลแบบนี้ อย่างดีที่สุดก็คงเป็นพวกมือรอง ก็ยังเป็นแค่การออกกำลังกายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

“เช่นนั้น ดิฉันจะทำหน้าที่ปกป้องพวกเด็ก ๆ จนกว่าคุณหนูจะเรียกก็แล้วกันค่ะ”

 

“ดี”

 

“อีกอย่าง ตอนกลางคืนก็เริ่มจะหนาวแล้วนะคะ”

 

หืม? …….อืม ถึงจะเป็นแค่อุปสรรคแต่ ม๊า ก็ไม่เป็นไร

 

ฉันสวมแค่ชุดนอนบางเบาตัวเดียว แต่ก็มีแต่มีเสื้อคลุมขนสัตว์สีน้ำตาลเข้มพาดอยู่บนไหล่ ริโนกิสหายไปจากตรงนั้นอย่างเงียบ ๆ

 

――ซ้า มาเตรียมตัวต้อนรับแขกกันดีกว่าไหม

 

 

 

ก่อนอื่น เปิดประตูลูกกรงเหล็กด้านหน้าทิ้งไว้

บรรยากาศแตกต่างจากการโจมตีเมื่อคืนก่อน ดังนั้นหากปิดมันไว้ ก็อาจถูกทำลายได้

 

…….ถึงจะบอกว่าเตรียมตัว แต่ก็มีแค่นี้แหละที่ทำได้ล่ะ

 

พวกเขาอาจจะโจมตีจากทุกทิศทาง แต่ด้านหลังของคฤหาสน์อยู่ไกลเกินเอื้อม จึงเตรียมตัวสำหรับการบุกรุกได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น

 

ตัวคฤหาสน์ไม่ใช่สิ่งที่ควรได้รับการปกป้องอย่างสุดกำลัง

ต่อให้เกิดสกปรกหรือพังทลายไป ก็ยังใช้เงินจัดการได้

ทว่าพวกเด็ก ๆ ที่มีชีวิตคนหนึ่งไม่สามารถถูกแทนที่ได้ ริโนกิสก็เหมือนกัน ม๊า ไม่น่าจะมีปัญหาล่ะมั้ง

 

ที่เหลือก็เป็นแผนการ แต่นั่นคือสิ่งที่ฉันยังลังเล

 

จะลงมือแบบฉูดฉาดดีไหม

หรือควรทำความสะอาดอย่างเงียบ ๆ ดี

 

ก็ต้องจับโจรอีกแล้ว……ว่าไปแล้ว ไม่มีศิลปะกันซะเลยน๊า ค่าอาหารที่สูงขึ้น เป็นเรื่องยุ่งยาก

 

คราวนี้ลองอาละวาดไปเรื่อย ๆ รอพวกสารวัตรทหารมาดีไหมน่ะ

แม้ว่าสารวัตรทหารจะพึ่งพาไม่ได้ แต่เหตุการณ์ที่มีชาวต่างชาติถูกโจมตี อาจจะช่วยเร้าอารมณ์ให้ประเทศที่สงบนี้ได้บ้าง

 

จ๊า คืนนี้จะเล่นให้ฉูดฉาดขนาดไหนดี――ช่วงเวลาที่ฉันกำลังคิดแบบนั้นอยู่

 

แก๊งๆๆๆ เสียงโลหะหนัก ๆ ที่ไม่คุ้นเคยดังมาถึงหูของฉัน

 

พวกเขานำสิ่งที่เกินปกติ อย่าง ปืนใหญ่หรืออาวุธป้อมปราการออกมาหรือเปล่า――นั่นคือสิ่งที่ฉันคิด แต่เสียงแคร็กดังเป็นระยะ ๆ และใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ……..

 

มันมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูที่ฉันเปิดไว้ก่อนหน้านี้

 

วันนี้ท้องฟ้ามืดครึ้ม ไม่มีแสงจันทร์หรือแสงดาว

เป็นค่ำคืนที่มืดมิดล้ำลึก

 

ในความมือของยามราตรี มีเงาขนาดใหญ่เกินกว่าจะเป็นมนุษย์ปรากฎขึ้น

 

“――っ”

 

ทันทีที่ฉันเพ่งสายตา แสงวาบวับก็แวบเข้ามาที่ดวงตาของฉัน

 

มันทำให้ตาพร่า―― ไม่สิ อาจจะเป็นเพียงความบังเอิญของจังหวะเวลาเท่านั้น เป็นแสงแฟลชที่อ่อนเกินไปสำหรับแสงที่ทำให้มองไม่เห็น จึงน่าจะเป็นเพียงแสงสำหรับไล่ความมืด

 

ฉันยกมือขึ้นเพื่อสร้างเงาบังดวงตา ก่อนเหล่ตามองตรงข้างหน้ายังแสงสว่าง

ฉันหันสายตาอย่างรวดเร็ว เพื่อยืนยันว่ามีแสงส่องมาที่คฤหาสน์จากมุมอื่นด้วยเหมือนกัน

 

ไม่รู้ว่ามีกี่คน――ไม่สิ ไม่รู้ว่ามีกี่เครื่อง แต่โจรวันนี้จริงจังกันจังเลยน๊า

 

ฉันลดมือลง และหัวเราะ

คนที่ขับทหารจักรกลจะมองเห็นรอยยิ้มของฉันไหมนะ?

 

“แน่ใจเลยว่าต้องทำให้สนุกจริงไหม?”

 

ฉันไม่ได้ยินคำพูดใด ๆ

 

ทว่าพูดอะไรบางอย่าง คงเห็นที่ฉันพูดอะไรบางอย่างที่ยั่วยุสินะ?

จนถึงตอนนี้พวกเขาปรากฎตัวด้วยรูปลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ แต่ถ้าเล่นหนัก ๆ ด้วยไม่ได้ ก็ไม่ได้ดีไปกว่าของเล่นล่ะนะ?

 

 

 

ตู้ม!

 

มีแหล่งกำเนิดแสงจ้าประเภทอื่นกระพริบขึ้น และเสียงกระแทกที่ดังทำลายความเงียบ ทำให้อากาศสั่นไหว

 

บางสิ่งที่มีขนาดใหญ่และหนักกำลังพุ่งเข้ามาใกล้

กระสุนปืนใหญ่ล่ะ

 

เป็นอาวุธที่ดี

ไม่ว่าน้ำหนัก ความเร็ว และขนาดจะเป็นยังไง หากโดนคนตรง ๆ ก็อาจจะไม่แตกต่างเท่าไหร่

 

――ทว่า ถ้าไม่ใช่ฉันล่ะก็นะ

 

ลูกกระสุนปืนใหญ่ที่พุ่งเข้ามาจากทหารจักรกลที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ ฉันหมุนตัวเพื่อจับไว้แบบไม่ให้โมเมนตัมหายไป แล้วเพิ่มแรงผลักให้มากยิ่งขึ้น ก่อนโยนไปทางขวา

 

บรึ้ม!

 

ตามที่ตั้งใจไว้ มันชนเข้ากับทหารจักรกลทางด้านขวาที่กำลังลอยผ่านอากาศขณะกำลังพยายามกระโดดข้ามกำแพงคฤหาสน์

 

ลูกบอลโลหะหนักดูเหมือนจะจมลึกกว่าที่คาดไว้ แสงที่ส่องทะลุผ่านความมืดหายไป และทหารจักรกลทางขวามือก็ตกลงบนกำแพงโดยตรง พังในทันที ไว้เก็บค่าชดเชยทีหลัง

 

เหมือนเป็นสัญญาณ เหล่าโจรที่เหลือก็เริ่มเคลื่อนไหวพร้อมกันทันที

 

「「อุโออออออออออออออออออออออออ้!!」」

 

มีเสียงคำรามกลางดึก ฉันล่ะชอบจริง ๆ กับท่าทีที่ไม่แคร์ภาพลักษณ์ภายนอกอีกแล้ว

 

“กิ๊ว”

 

“อะ!?”

 

“กรี๊ด!?”

 

ฉันซัดพวกเขาด้วยความรู้สึกดี

 

ยังไงก็ตาม แม้ว่าจะสามารถจัดการเตะกลุ่มโจรบางส่วนที่มาจากแนวหน้าออกไปได้ แต่ฉันก็ไม่สามารถจัดการกับกลุ่มโจรที่มุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์จากพื้นที่โดยรอบได้

หลายคนแอบเข้าผ่านข้างฉันไป ก่อนจะเริ่มทำลายหน้าต่างของคฤหาสน์ทันที พวกเขากำลังทำลายที่ทำได้ ฉันจะให้ชดใช้อย่างแน่นอน

 

“――โออออออออออออออออ้!!”

 

จากนั้น ทหารจักรกลที่อยู่ข้างหน้าที่ฉันมองอยู่ ก็วิ่งเจ้ามาหา โดยร่วมมือกับทหารจักรกลด้ายซ้ายที่ยิงปืนใหญ่เข้ามาพร้อมกัน

ฉันได้ยินเสียงคำรามแผ่วเบา ดูเหมือนเขาจะใส่ความพยายามอย่างมาก

 

ช่างเป็นการเคลื่อนไหวที่ชักช้า

ยังไงก็ตาม น้ำหนักของชุดเกราะนั้นก็เป็นการโจมตีที่รุนแรงด้วยตัวเอง

 

ทหารจักรกลที่อยู่ข้างหน้าถืออาวุธเป็นแท่งโลหะขนาดใหญ่ ทหารจักรกลที่พุ่งเข้ามาจากด้านซ้ายถือเพียงท่อนไม้ เป็นการร่วมมือกันโจมตีมาที่ฉันอย่างเงอะงะงุ่มง่าม

 

“――ช้า เหนืออื่นใด เบา!!”

 

เนื่องจากฉันมีเวลาที่ได้ฝึกฝน「คิ」มาอย่างเพียงพอ เกราะด้านหน้าของทหารจักรกลตัวข้างหน้า……ฉันชกเขาอย่างรุนแรงแค่เล็กน้อยเข้าใส่แผ่นโลหะที่หนาที่สุดซึ่งปกป้องนักบิน

 

เปรี้ยงงงงงงงงง!!

 

ด้วยเสียงที่เสียงปืนใหญ่เมื่อกี้ก็ไม่อาจเทียบได้ ทหารจักรกลก็บินออกไปในแนวราบราวกับถูกดีด เหมือนกับก้อนหินก้อนหนึ่งที่โดนขว้าง

 

มันชนเข้ากับเสาประตูจนชะลอลงนิดหน่อย แล้วกลิ้งไปตามถนนข้างหน้าด้วยแรงมหาศาล ราวกับหินที่ตัดผ่านน้ำ ……อะ ชนกำแพงคฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามถนน นั่นถือเป็นการชดเชยด้วยแล้วกัน

 

ถึงฉันจะบอกว่ามันเบา น้ำหนักของทหารจักรกลก็ยังคงอยู่ในระดับสามัญสำนึก

 

ม๊า ที่ฉันจะซื้อก็มีแค่เรื่องความทนทานเท่านั้น

แม้ว่าฉันจะชกเข้าไปหนักขนาดไหนก็ตาม ก็ดูเหมือนว่านักบินจะยังไม่ตาย ถึงแม้จะตายขึ้นมาจริง ก็ถือซะว่าตายจากอุบัติเหตุแล้วกัน

 

“แล้ว? คุณไม่เข้ามาเหรอคะ?”

 

ทันทีที่เห็นทหารจักรกลข้างหน้าฉันลอยออกไป ทหารจักรกลทางด้านซ้ายก็หยุดลง แม้จะยังมีท่อนไม้ที่เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาอยู่ก็ตาม

 

“――เมื่อเริ่มโจมตีแล้ว ก็ต้องเข้ามาพร้อมกันโดยไม่ลังเลสิ!!”

 

ยังคงนิ่ง……ในขณะที่อาการสั่นของนักบินที่คล้ายกับความกลัวถูกส่งผ่านทางอากาศออกมา ทหารจักรกลทางด้านซ้ายก็ถูกฉันต่อยออกไปโดยไม่ลังเลใจ

 

“อะ”

 

ทว่า อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นตรงนี้

 

ทหารจักรกลที่ถูกต่อย ลอยออกไปโดนทหารจักรกลอีกตัวที่ดูเหมือนว่าจะมาเสริมกำลัง และมุมที่มันบินเข้ามาก็เปลี่ยนไป

 

ด้วยเหตุนี้ มันจึงชนเข้ากับคฤหาสน์

ได้ยินเสียงไม้แตกดังลั่น ตามที่คาดไว้ ฉันมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

 

 

 

…………

 

 

 

ม๊า นี่ไม่ใช่ความผิดของฉัน ตกลงไหม มาทำให้คนพวกนี้ต้องจ่ายทุกอย่างกันเถอะ

 

 

 

 

 

 

 

 

ขายของมาหลายวันเริ่มลงตัวบ้างแล้ว แต่วิธีคิดของคนในบ้านนี่สิทำปวดหัว อาจทำให้มีบางช่วงที่เว้นนานก็ได้มั้ง??