ตอนที่ 196 เรื่องราวโลลิถูกกฎหมายที่น่าสนใจมากขึ้น

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

196 เรื่องราวที่น่าสนใจมากขึ้น

 

“ที่พูดนั้นหมายความว่ายังไงกันคะ?”

 

ในห้องพักของโรงแรม

 

เป็นเหมือนกับเหตุบังเอิญ ที่เราทุกคนถูกพามายังห้องพักของโรงแรมนั้น สถานที่แรกที่ฉันเลือกมาเยือนเป็นแห่งแรกหลังจากที่มาถึงประเทศแห่งนี้ ที่จบลงเหลือเพียงความรู้สึกแย่ ๆ เท่านั้น และยามราตรีกำลังจะจบลงแล้ว

 

การโจมตีเมื่อคืนนี้ ยุติลงอย่างกะทันหันจากการเข้ามาแทรกแซงของสารวัตรทหารที่ได้ยินเสียงความโกลาหลที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือจะบอกว่าควรต้องเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว 

 

นั่นจึงเป็นเหตุผลให้พวกโจรที่เข้ามาโจมตี ล่าถอยกลับไป

มีหลายคนที่ยังสามารถวิ่งหนีไปได้ มีหลายคนที่โดนฉันซัดจนขยับตัวไม่ได้ และได้ยืนยันแล้วว่ามีทหารจักรกลสามเครื่องจากทั้งหมดห้าเครื่อง ที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกแล้ว

 

พวกสารวัตรทหารยังได้เป่านกหวีดเพื่อเรียกกำลังเสริม และออกไล่ล่าผู้ที่หลบหนี สถานการณ์เปลี่ยนเป็นตรงกันข้ามกับสถานการณ์เข้าโจมตีโดยสิ้นเชิง

 

จากนั้น พวกฉันก็ได้รับคำสั่งให้ออกจากที่เกิดเหตุซึ่งเริ่มตึงเครียดขึ้น และสารวัตรทหารก็นำทางพวกเรามายังโรงแรมแห่งนี้ เรื่องก็เป็นแบบนั้น

หลังจากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารยืนคุมอยู่ที่หน้าประตูจนไม่สามารถออกไปไหนได้แม้แต่ก้าวเดียว

 

――หลังจากยามราตรีผ่านพ้น รุ่งเช้าก็มาเยือน

 

“ก็อย่างที่พูดไป”

 

ชายหนุ่มกับหญิงสาวคู่หนึ่งมาถึงพร้อมกับสารวัตรทหารหลายนาย

เมื่อเชิญเข้ามาในห้อง และฉันกำลังจะเริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น ทว่า……

 

“ไม่มีทหารจักรกล ไม่มีโจร มีการโจมตีเกิดขึ้นจริง ๆ อย่างงั้นรึ? นี่ไม่ใช่เรื่องตลกขบขันที่เธอแต่งขึ้นอย่างงั้นรึ?”

 

ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับฉัน เป็นชายหนุ่มที่มีรูปร่าง หน้าตาดี และสง่างาม ยังไงก็ตาม เขามีบรรยากาศของทหารที่เข้มงวด

 

เขาแนะนำตัวเองว่า「ข้าคือลิวิเซล ผู้บัญชาการของภาคีนักรบจักรกลสุนัขปีศาจ และเจ้าชายลำดับที่หนึ่งของประเทศนี้ 」เขาพูดอะไรที่น่าสนใจมากเลยล่ะ

 

ไม่มีทหารจักรกล?

ไม่มีโจร?

มีการโจมตีจริงไหม?

ไม่ใช่แค่เรื่องตลกขบขัน?

 

――น่าสนใจ น่าสนใจจริง ๆ เลยไม่ใช่เหรอ

 

“ฉันมั่นใจว่า สารวัตรทหารยุ่งวุ่นวายกับการที่มีโจรจำนวนหนึ่งถูกจับได้ และคิดว่าทหารจักรกลไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างแน่นอน แต่แน่ใจแล้วหรือคะ ว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นจริง ๆ?”

 

“เมื่อพวกเราไปถึงที่เกิดเหตุก็ไม่มีใครเหลืออยู่ที่นั่นแล้ว และที่สำคัญก็ไม่มีทหารจักรกลด้วย?”

 

โหโห

 

“เช่นนั้น คฤหาสน์ที่ถูกทำลายล่ะคะ? ทำไมจึงถูกทำลายได้ล่ะคะ?”

 

“ไม่ใช่ว่าพวกเธอทำกันเองรึ?”

 

“เพื่ออะไรล่ะคะ?”

 

“ก็เพื่อสร้างเหตุข้ออ้างใส่ร้ายมาเวเลียไงล่ะ

เนีย・ลิสตัน เห็นได้ชัดว่าเธอได้พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกี่ยวกับการล้อเลียนมาเวเลียที่โรงเรียนทหารจักรกล หากเป็นเช่นนั้น ก็พูดได้ยากว่าเธอจะไม่เป็นคนทำเช่นนั้นเอง”

 

ฟุมุ เข้าใจล่ะ

 

“น่าจะมีเศษชิ้นส่วนของทหารจักรกลที่ถูกทำลายกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่โดยรอบ นั่นน่าจะเป็นข้อพิสูจน์ว่ามีทหารจักรกลปรากฎตัวจริงไหมคะ?”

 

“พวกเรามองหาแล้ว แต่ไม่พบสิ่งใด สิ่งที่พบมีเพียงทางเดินหิน กำแพง และคฤหาสน์ที่ถูกทำลายโดยบางสิ่งบางอย่างเท่านั้น ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นทหารจักรกลที่เป็นสาเหตุ”

 

งั้นเหรอ งั้นสินะ งั้นสิน๊า

 

“แล้ว? ในกรณีนั้น คุณวางแผนที่จะจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้อย่างไรดีคะ ลิวิเซลซามะ?”

 

“――ให้แกล้งทำเป็นว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น”

 

ลิวิเซลพูดอย่างชัดเจน

 

“ข้าสงสัยด้วยซ้ำว่านี่เป็นเรื่องตลกร้ายของเธอ แต่ก็ไม่มีหลักฐาน ยังไงก็ตาม ก็ไม่มีหลักฐานเช่นกัน ว่าคำให้การของเธอเป็นเรื่องโกหก

 

โดยปกติแล้ว ข้าคงสั่งให้สอบปากคำพวกเธอเพื่อค้นหาความจริง แต่การสอบสวนที่รุนแรงซึ่งกินเวลานานหลายวันจะต้องเป็นเรื่องยากสำหรับเด็ก ๆ อย่างแน่นอน นอกจากนี้ การถูกกล่าวหาด้วยเรื่องแบบนี้ ในขณะที่ศึกษาอยู่ต่างประเทศอาจทำให้ชื่อเสียงของอาณาจักรอาร์ตัวร์ต้องเสื่อมเสีย จริงไหม

 

“――หากเธอยอมรับว่านี่เป็นเรื่องตลกของเธอเอง ตอนนี้ข้าจะยอมปิดตาลงสักครั้ง เวลานี้คงไม่มีคำถามแล้วใช่ไหม ว่ายังไง?”

 

เขาพูดสิ่งที่น่าสนใจจริง ๆ

 

“ก็คือ คุณกำลังบอกว่า หากฉันแกล้งทำเป็นว่าการโจมตีเมื่อคืนไม่เคยเกิดขึ้น และยอมรับว่าเป็นเรื่องโกหกของฉันเอง คุณจะยอมถอยเหมือนกัน? แม้ว่าจะมีพยานจำนวนมาก และมีสารวัตรทหารเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย ก็ให้ทำเป็นว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ให้จบลงด้วยการตีตราอัปยศใส่ฉันเพียงคนเดียวเท่านั้น กำลังพูดแบบนั้นสินะคะ?”

 

“――ระวังปากไว้ด้วย ที่นี่คือมาเวเลีย”

 

ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างลิวิเซล พูดด้วยท่าทีข่มขู่

 

“ถึงแม้ว่าอาร์ตัวร์จะมีพันธมิตรอยู่มากมาย แต่พวกเขาก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ตอนนี่ มีคนเพียงน้อยนิดที่จะปกป้องคุณ แม้แต่ศาลก็ไม่มีทางเข้าข้างคุณหรอกนะ

 

……ถึงจะเห็นอกเห็นใจ แต่จงแกล้งทำเป็นว่าครั้งนี้ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นซะ นั่นจะเป็นผลดีที่สุดสำหรับพวกเราทั้งสองฝ่าย”

 

ฟู้ว

เข้าใจล่ะ เธอคือ แคลนอลล์สินะ พวกเขาถึงได้ดูคล้ายกัน

 

“――ก็ได้สิคะ เรามาแสร้งทำเป็นว่าเรื่องในคราวนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกันเถอะค่ะ”

 

ริโนกิสที่อยู่ข้างหลังโกรธจัดเอามาก ๆ จนไม่แม้แต่จะพยายามซ่อนเจตนาที่ต้องการจะฆ่า

 

ฉันเข้าใจดีว่าเธอรู้สึกยังไง

สำหรับฉัน การโจมตีระดับนั้นก็เหมือนกับแค่ของว่างยามท้องหิว แต่ว่าฉันไม่พอใจเอามาก ๆ เพราะความจริงที่ว่าพวกเด็ก ๆ ต้องหวาดกลัว

 

แต่ว่า หากมาบ่นเอาที่นี่ เธอก็น่าสงสารล่ะน๊า

 

 

 

หลังจากที่ฉันได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงคำให้การอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรว่า「ไม่มีการโจมตีเกิดขึ้น」 พวกลิวิเซลก็จากไปอย่างรวดเร็ว

 

“คุณหนูค่ะ……”

 

“ครั้งนี้ดีแล้วล่ะ”

 

ครั้งนี้ล่ะนะ

 

เรื่องเมื่อคืนกลายเป็นเพียงเรื่องโกหก

 

เป็นเรื่องตลกที่ตลกร้ายมากเลยว่าไหม ยิ่งไปกว่านั้น ลิวิเซลที่เป็นดังความจริงแท้เป็นดังตัวตนเกาะแห่งนี้จริง ๆ ก็ค่อนข้างน่าสนใจเช่นกัน

 

จริง ๆ เลย ตรงตามข้อมูลที่ได้มาก่อนหน้านี้

 

“――เนีย・ลิสตัน เราต้องขอโทษด้วยจริง ๆ”

 

ซิลเลน เจ้าหญิงลำดับที่สี่ ที่ดูมีรูปร่างเล็กซึ่งทำให้ดูเหมือนกับว่ามีอายุเท่ากัน หรือมากกว่าสักปีสองปี กับ อาคาชิที่เป็นทั้งเพื่อนทั้งข้ารับใช้ รวมถึงพวกเด็ก ๆ ที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดในห้องข้าง ๆ ปรากฎตัวเข้ามาช้า ๆ

 

มิโตะกับคาลัวเข้ามากอดฉัน ไม่เป็นไรไม่เป็นไร คงกลัวสิน๊า แต่ว่าในท้ายที่สุดแล้ว พวกเธอจะสามารถเอาชนะทั้งทหารจักรกลทั้งลิวิเซลได้ด้วยนิ้วก้อยของตัวเองได้เหมือนกันน๊า ฉันจะฝึกจนพวกเธอทำแบบนั้นได้เลยล่ะ

 

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ครั้งนี้ ฉันสัญญาแล้วว่าจะรักษาหน้าของคุณกับอาคาชิ”

 

เด็กที่พึ่งปรากฎตัวพร้อมกับอาคาชิ แนะนำตัวว่า「เราคือเจ้าหญิงลำดับที่สี่ ซิลเลน อีกอย่าง เราอายุสิบหกปีแล้ว」ขณะที่ฉันกำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็ได้บอกฉันล่วงหน้าถึงสิ่งที่ลิวิเซลจะพูด แล้วก็ทั้งที่รูปร่างแบบนี้แต่อายุสิบหกปีแล้วก็น่าประหลาดใจจริง ๆ แม้ว่าดวงตาของเธอจะฉายประกายความฉลาด แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาแล้วก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าเธออายุเท่ากัน

 

จากนั้น เธอก็ขอร้องให้ยกโทษให้ นอกจากนี้ยังก้มหัวด้วย

อาคาชิก็ทำด้วยเช่นกัน

 

ริโนกิสโกรธมาก แต่ฉันก็ยอมรับไว้

 

――ก็ขึ้นอยู่กับวิธีคิดล่ะนะ

 

เมื่อพิจารณาว่าฉันเป็นหนี้ซิลเลนกับอาคาชิในเรื่องนี้ ก็ถือว่าไม่น่าจะเลวร้ายอะไรในระยะยาว

 

เป้าหมายสูงสุดของฉันคือการแนะนำเมจิกวิชั่นให้กับอาณาจักรมาเวเลีย

นั่นต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล แม้แต่จำนวนเงินระดับพันล้านก็ยังไม่มากพอ

 

ตามใดที่สามารถทำให้พวกเขาจ่ายได้ เราก็ควรหลีกเลี่ยงการสร้างความเสียหายให้ประเทศนี้ให้มากที่สุด ทหารจักรกลก็ดูเหมือนจะมีราคาแพงเช่นกัน ดังนั้นคงไม่ดีหากจะทำลายทิ้งเล่น ๆ

 

ไม่สิ ม๊า ก็อยากทำลายล่ะเน๊

 

ทหารจักรกลที่ขับโดยลิวิเซล「สุนัขปีศาจ เรดแลนด์」 เป็นรุ่นสั่งผลิตพิเศษที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นผลงานชั้นเยี่ยมที่เกิดจากการตกผลึกของเทคโนโลยีทหารจักรกลทั้งหมด ว่ากันว่าเป็นเพียงเครื่องเดียวที่สามารถติดตั้งดาบศักดิ์สิทธิ์ รูจออเดอร์(ประกาศิตสีแดง) ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นในอาณาจักรมาเวเลีย

 

ฉันจะทำลายเจ้านั่น ให้เกินกว่าที่จะซ่อมได้เลย

ในเวลาเดียวกัน ฉันก็จะหักดาบศักดิ์สิทธิ์ด้วย

 

ความภาคภูมิใจของชาติ?

ใครสนกัน เพราะมีบางอย่างให้ยึดติดแบบนั้น เลยทำให้ยุ่งยากมากไงล่ะ

 

มาทำให้ทหารจักรกลตระหนักว่า พวกเขายังห่างไกลจากอาวุธที่เรียกว่า「ร่างกายมนุษย์」ที่เป็นดังดาบศักดิ์สิทธิ์กันดีกว่า

 

ถึงนั่นจะดูเป็นปัญหาส่วนตัว แต่เหนืออื่นใดเลย หากราชาคนต่อไปเป็นแบบนั้น ทั้งชาวต่างชาติและประชาชนของประเทศนี้จะเดือดร้อนอย่างแน่นอน

พวกเราอยู่ในยุคที่การยิ่งใหญ่ขึ้นมาจากความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว ใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว พวกเราอยู่ในยุคที่แม้แต่ขุนนางก็ยังถูกล้อเลียนได้ พวกเราอยู่ในยุคที่แม้แต่ราชาก็ตกหลุมพรางได้ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปประเทศนี้จะถูกประเทศรอบข้างทิ้งไว้เบื้องหลัง

 

ฉันจะทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครกล้าพูดว่า 「เพราะเป็นชาวต่างชาติ」อีกเลยในอนาคต ฉันจะทำลายความภาคภูมิใจและดาบศักดิ์สิทธิ์ของมาเวเลียบนเวทีที่เหมาะสม ฉันตัดสินใจแล้ว …….ไม่สิ ดาบศักดิ์สิทธิ์ก็คงขึ้นอยู่กับสถานการณ์และพฤติกรรมล่ะนะ เพราะเราไม่สามารถคืนสิ่งที่ถูกทำลายไปแล้วได้

 

――ม๊า เดาว่าฉันจะต้องทำเรื่องนั้น

 

ยิ่งไปกว่านั้น ฉันได้ยินเรื่องราวที่น่าสนใจอีกเล็กน้อยจากซิลเลน

ตอนนี้ ฉันกังวลเรื่องนั้นมากกว่าเหตุการณ์การโจมตีนี้

 

“แล้ว เรามาสานต่อสิ่งที่คุยค้างกันไว้เมื่อกี้กันดีไหม?”

 

“เอ๊ะ? ตอนนี้เลยเหรอ? แต่ใกล้ได้เวลาไปโรงเรียนแล้ว……..”

 

“จะไม่สานสัมพันธ์กันอีกสักหน่อยงั้นเหรอคะ? ฉันอาจจะตัดสินใจที่จะไม่ทำตามคำขอของคุณก็ได้นะ?”

 

“……..เข้าใจแล้ว จะถามอะไรมาก็ได้”

 

ดีล่ะ ก็ต้องเรื่องนั้นล่ะนะ

 

ฉันบอกให้ซิลเลนนั่งลงฝั่งตรงข้ามที่ลิวิเซลเคยนั่งอยู่ก่อนหน้านี้ ก่อนเริ่มถาม

 

 

 

“ถ้าอย่างงั้น? มาเวเลียต้องต่อสู้กับอะไรมาเป็นเวลานานงั้นเหรอคะ?”

 

นี่คือ ประวัติศาสตร์ของประเทศนี้ที่ยังสืบเนื่องมาจากเมื่อหลายร้อยปีก่อนมาจนถึงทุกวันนี้ ก่อนที่ทหารจักรกลจะถือกำเนิดขึ้น

ถึงทหารจักรกลจะไม่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าฉัน แต่ก็ยังแข็งแกร่งมากเพียงพอในมุมมองของมนุษย์ธรรมดา ถึงอย่างงั้นการต่อสู้ก็ยังดำเนินมาเป็นเวลาหลายร้อยปี

 

――พูดอีกอย่าง หมายความว่ามีคนที่แข็งแกร่งมากอยู่

 

 

 

 

 

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

 

คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ 

{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}

 

คุณTI****IT CHAI

คุณนิรนาม

คุณนิรนาม

ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ

 

ขอบคุณงับ