บทที่ 183 เข้าสู่ความฝันอีกครั้ง

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 183 เข้าสู่ความฝันอีกครั้ง

บทที่ 183 เข้าสู่ความฝันอีกครั้ง

เหนือท้องนภาที่ปกคลุมทั่วแดนมัชฌิม หมู่เมฆสีขาวหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง แสงสว่างสีทองเคลื่อนผ่านทุกสรรพสิ่ง สาดส่องตรงมาที่ยอดเขาหอกของสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์

สายลมพัดพาอย่างช้า ๆ ขอเพียงมีคนกำลังบ่มเพาะอยู่ ย่อมสามารถสัมผัสได้ว่า กลิ่นอายพลังวิญญาณรอบข้างกำลังจางหายไปอย่างต่อเนื่อง มันกำลังเคลื่อนเข้าสู่ทิศทางหนึ่งของสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์

หลังจากผ่านไปหลายอึดใจ สายลมพลันพัดพาพลังวิญญาณมหาศาลราวกับคลื่นใหญ่ซัดเข้าหาชายฝั่ง มันเคลื่อนเข้าหาสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ ก่อนจะจมเข้าไปในนั้นอย่างไม่พบร่องรอยอีก

ลู่หยวนผู้อยู่ในห้องโถงสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ได้เช่นกัน จึงหันหลังทันที กางม่านพลังสีแดงออก ผนึกพลังมารในร่างกายของเขาเอาไว้ และปลดปล่อยหอคอยอสูรสวรรค์ออกมาสู่อาณาเขตดังกล่าว พลังมารยังคงไหลหลั่งออกมาดูดกลืนพลังวิญญาณรอบข้างอย่างต่อเนื่อง

มังกรเจินหลงน้อยปรากฏขึ้นจากจิตเทวะเช่นกัน มันอ้าปากออก พยายามดูดพลังวิญญาณทั้งหมดเข้าท้อง โอสถมังกรศิลาที่ถูกม้วนอยู่ที่หางของมันส่องแสงสว่างออกมา

ลู่หยวนนั่งขัดสมาธิอยู่ฝั่งตรงข้ามไป๋ชิวเอ๋อร์ ทะเลลมปราณแผ่กว้าง โคจรควบคู่ไปกับพลังวิญญาณ อากาศส่วนหนึ่งถูกดึงออกมา แลกกับการให้พลังวิญญาณเข้าสู่ร่างกาย

ทั้งสองเข้าสู่สภาวะบ่มเพาะ ห้วงภวังค์ตกอยู่ในการทำสมาธิ พลังวิญญาณโดยรอบเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ โอบล้อมพวกเขาทั้งสองคนไว้ในม่านพลัง

การเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้ผู้อาวุโสจำนวนมากที่ซ่อนอยู่ในกองกำลังต่าง ๆ ในแดนมัชฌิมพากันส่งข่าวด้วยความอยากรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น

ยอดฝีมือหลายคนทั่วทั้งแดนไหลหลั่งเข้าสู่สำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา บ้างต้องการผลประโยชน์ บ้างอยากรู้อยากเห็น จนเฉิงไท่ต้องเปิดค่ายกลพิทักษ์ทันที กันทุกคนเอาไว้

ฝ่ายอวี๋ฉู่นั่งอยู่พร้อมขวดน้ำเต้าสีม่วงทองขนาดใหญ่ เขาอยู่ไม่ไกลจากที่บ่มเพาะ สายตาจับจ้องฉากแปลกประหลาดในยอดเขาหอก

เขารู้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะต้องเกิดจากลู่หยวนแน่นอน

แต่ว่าเจ้าเด็กนี่ทำอะไรอยู่กันแน่?

ถึงกับทำให้พลังวิญญาณทั่วทั้งแดนมัชฌิมพรั่งพรูออกมา!

ต้องทราบก่อนว่า ต่อให้เป็นยอดฝีมือไม่กี่คนที่อยู่ในแดนมัชฌิมทะลวงเข้าสู่ขั้นจ้าวยุทธ์ พวกเขาก็ไม่เคยทำแบบนี้ได้มาก่อน!

ความผันผวนของพลังวิญญาณนี้ หากไม่ดีพอ ชะตาทั่วทั้งแดนมัชฌิมจะเปลี่ยนไปเช่นกัน ถึงตอนนั้น ความเป็นความตายของรากฐานการบ่มเพาะของผู้คนนับไม่ถ้วน แม้กระทั่งชะตาก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลง

เจ้าหนุ่มคนนี้เป็นปีศาจของจริง!

ลู่หยวนไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นที่ภายนอกบ้าง เขารู้เพียงแค่ว่าขณะเข้าสู่สภาพการทำสมาธิ ทั่วร่างของเขาคล้ายกับตกอยู่ในความฝัน

แสงสว่างสีขาวเจิดจ้ายิ่ง มันมากพอจะทำให้ดวงตาปวดแสบปวดร้อน จนยากที่จะลืมขึ้นมา

เมื่อแสงสว่างสีขาวสลายไป ปราณกระบี่แสงเล่มหนึ่งพลันเข้าโจมตี แต่ชายหนุ่มยกมือขึ้นโดยไม่รู้ตัว ปราณกระบี่สีดำปรากฏขึ้นในอุ้งหัตถ์ก่อนจะเข้าเผชิญหน้ากับปราณกระบี่แสง

เคร้ง!

ปราณกระบี่ฟาดฟันเข้าใส่กัน พื้นที่รอบข้างสั่นไหว ลู่หยวนหรี่ตา ขณะเงยหน้ามองขึ้นไป เห็นแค่ว่ากระบี่ตรงหน้าคือกระบี่แตกหัก มือที่กุมมันไว้ช่างคุ้นเคยยิ่ง มันน่าจะเป็นมือของสตรี

ก่อนจะทันได้รู้ว่าเป็นใคร กระบี่แตกหักก็ล่าถอยออกมา ก่อนจะหายไปในแสงสว่าง รอบข้างปกคลุมไปด้วยแสงสีขาวชั่วขณะ พลังมารนับไม่ถ้วนกระจายออกไป ปกคลุมร่างชายหนุ่มเอาไว้ ภาพจอมมารปรากฏขึ้นตรงหน้า ช่างดูคล้ายกับลู่หยวนนัก

“จอมมาร…”

เสียงเย็นชาของสตรีดังขึ้น เสียงนั้นคล้ายกับดังลงมาจากสวรรค์ชั้นเก้า ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่เป็นที่สุด เพียงไม่กี่ถ้อยคำก็เปี่ยมด้วยแรงกดดันของผู้ทรงอำนาจ “จุติพร้อมเจ้า โชคชะตาของวิญญาณสามสิบล้านดวงนี้คือสิ่งที่สวรรค์ประทาน”

หลังจากสิ้นเสียง ภาพจอมมารตรงหน้าลู่หยวนเริ่มสลายไป ในรูปลักษณ์มารดังกล่าวมีกระบี่สีดำขนาดใหญ่วางราบอยู่ในแนวนอน

ผ่านไปหลายอึดใจ กระบี่ขนาดใหญ่สลายไป กลายเป็นกลุ่มวิญญาณกระจัดกระจายในอากาศ

วิ้ง!

เกลียววิญญาณจำนวนมากพลันสั่นไหว พวกมันถูกจัดเรียงเป็นแผนที่ตรงหน้าลู่หยวน

ชายหนุ่มขมวดคิ้ว เขามองปราดเดียวก็รู้ว่าแผนที่ดังกล่าวเป็นของแดนมัชฌิม

ในแผนที่ สถานที่ที่ถูกทำเครื่องหมายด้วยพลังมารคล้ายกับเป็นราชวังจักรพรรดินีฉวนจง!

วิญญาณสลายไป ทุกสิ่งรอบข้างเริ่มพังทลาย ความมืดจางหายทีละน้อย ลู่หยวนเพียงรู้สึกว่าเขากลับมาอยู่ระหว่างการบ่มเพาะอีกครั้ง

ในหูของเขา เสียงของระบบดังขึ้นเช่นกัน

[ระบบแจ้งเตือน โอสถมังกรศิลาถูกมังกรเจินหลงกลืนกินแล้ว!]

[ระบบแจ้งเตือน หอคอยอสูรสวรรค์ได้รับการซ่อมแซม!]

[ระบบแจ้งเตือน ควรกลืนกินส่วนที่เหลือของพลังที่ยังไม่ถูกดูดกลืน!]

[ระบบแจ้งเตือน พลังมารของท่านเพิ่มขึ้น!]

ลู่หยวนไม่ได้ยินเสียงหลังจากนั้นอีก เขาไม่รับรู้ถึงสิ่งรอบข้างอีกต่อไป

เหนือยอดเขาหอก ทั่วโลกาสั่นไหว

เป็นเวลาสิบวัน พลังวิญญาณในแดนมัชฌิมยังคงพรั่งพรูมาที่สำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ พลังวิญญาณทั่วทั้งแดนมัชฌิมแทบจะเหือดแห้ง ผู้คนนับไม่ถ้วนร่วงหล่นกระแทกกับพื้นด้วยความเจ็บปวด เนื่องจากพลังวิญญาณที่เหลืออยู่ไม่เพียงพออีกต่อไป พวกเขาจึงทำได้เพียงอยู่กับที่เพื่อรอความช่วยเหลือ

เมื่อผู้ที่ยืนอยู่ในสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์เห็นดังนี้ สีหน้าของพวกเขาล้วนจริงจังขึ้นมา

ครั้งนี้ลู่หยวนกำลังทำอะไรกันแน่?!

ปรากฏการณ์การดึงพลังวิญญาณเกือบทั้งหมดในแดนมัชฌิม สำหรับยอดฝีมือที่มีรากฐานการบ่มเพาะแล้ว เรียกได้ว่าแทบจะเป็นวันสิ้นโลก!

บริเวณเหนือยอดเขาหอกยังคงดูดกลืนพลังวิญญาณรอบข้างคล้ายกับไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

จักรพรรดินีฉวนจงส่งสารบางส่วนมาเพื่ออยากทราบสถานการณ์ในตอนนี้

เมื่อวานนางออกคำสั่งว่า หากปรากฏการณ์นี้ยังเกิดขึ้นอีกสามวัน เฉิงไท่จะต้องลงมือหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงในยอดเขาหอกด้วยตัวเอง!

สำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ใจกลางแดนมัชฌิม แน่นอนว่ามันต้องอยู่ใต้อาณัติแดนมัชฌิม ครั้นมีคำสั่งถูกถ่ายทอดมาจากจักรพรรดินี หากเฉิงไท่ปฏิเสธขึ้นมา เช่นนั้นราชสำนักของจักรพรรดินีจะส่งใครบางคนมา เพื่อสะบั้นพลังวิญญาณทั่วทั้งสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์

ในฐานะเจ้าสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ เฉิงไท่ย่อมทราบถึงอำนาจที่ซ่อนอยู่ในวังจักรพรรดินี

หลังจากไตร่ตรอง เจ้าสำนักย่อมเชื่อฟังนาง

เพียงพริบตาก็ผ่านไปอีกหนึ่งวัน เฉิงไท่ยืนอยู่ข้างอวี๋ฉู่ เฝ้ามองทุกสิ่งตรงหน้าอย่างเรียบเฉย หากรุ่งสางอีกหนึ่งวันมาถึง แล้วลู่หยวนยังไม่ออกมา เช่นนั้นสิ่งเดียวที่เขาทำได้ก็คือการยุติปรากฏการณ์นี้ด้วยมือตัวเอง

เฉิงไท่อาจจะคาดเดาได้แล้วว่า ในปรากฏการณ์เช่นนั้น จะต้องมีใครบางคนทะลวงขั้นอยู่เป็นแน่ ไป๋ชิวเอ๋อร์ผู้เป็นศิษย์ล้ำค่าของเขาที่เพิ่งจะรับมาก็อยู่ในนั้นด้วย

ส่วนจะเป็นไป๋ชิวเอ๋อร์หรือลู่หยวนที่ทะลวง ย่อมเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้

หลังจากรออยู่พักใหญ่ ใบหน้าของเฉิงไท่สงบนิ่งราวกับผิวน้ำ พลังวิญญาณที่เอ่อล้นขึ้นมาทำให้ชุดคลุมของเขาปลิวไสว

อวี๋ฉู่ยังคงมีสีหน้าเกียจคร้าน เขาจิบสุราคำหนึ่ง ส่งเสียงสะอึกสามครั้ง จึงถามว่า “เฉิงไท่เอ๋ย เจ้าคิดว่าหลังจากลู่หยวนออกมาในครั้งนี้ เขาจะอยู่ขั้นไหนกัน?”

คนฟังหลุบตาลง หลังจากผ่านไปหลายอึดใจจึงตอบว่า “แค่รอดกลับมาได้ก็ดีแล้ว”

หากถึงรุ่งสางแล้วบุตรศักดิ์สิทธิ์ยังไม่ออกมา เช่นนั้นเขาต้องลงมือ ผู้ที่ถูกขัดขวางระหว่างทะลวงขั้นจะได้รับบาดเจ็บสาหัส อย่างน้อยที่สุดรากฐานการบ่มเพาะจะได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบตลอดชั่วชีวิต

ถึงตอนนั้นรากฐานของลู่หยวนจะถูกทำลาย…