ตอนที่ 186 ยากลำบาก

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

ตอนที่ 186 ยากลำบาก

เฉินลั​่ว​เข้า​วัง​กะทันหัน​ ​จะ​เกี่ยวกับ​เรื่อง​ที่​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​ถูก​ระงับ​ไม่​ให้​ทำหน้าที่​ดูแล​วัง​หรือเปล่า​นะ​?

หวัง​ซีกัง​วล​เล็กน้อย

เนื่องจาก​ฮ่องเต้​ไม่ได้​ยก​กองพล​ทองคำ​ให้​เฉินลั​่ว​ด้วยใจจริง​ ​หาก​บังเอิญ​เจอ​เฉินลั​่ว​ใน​วัง​ขึ้น​มา​ ​ไม่รู้​ว่า​จะ​ชักสีหน้า​ใส่​เฉินลั​่ว​หรือไม่​ ​หรือ​อาจ​ทำให้​อารมณ์​ที่​เดิม​สงบ​ลง​ไป​แล้ว​กลับมา​ปะทุ​อีกครั้ง​ ​ตัดสินใจ​สร้าง​ความลำบาก​ต่างๆ​ ​ให้​เฉินลั​่ว

สรุป​แล้วก็​คือ​ ​เมื่อก่อน​ปฏิบัติ​กับ​เฉินลั​่ว​ประหนึ่ง​เป็นสมาชิก​คน​หนึ่ง​ของ​วัง​หลวง​ ​บัดนี้​เกรง​ว่า​คงจะ​ปฏิบัติ​กับ​เฉินลั​่ว​เสมือน​อยู่​ใน​ฤดูหนาว​อัน​หนาวเหน็บ​แทน​เสีย​แล้ว​ ​อย่า​พูดถึง​ความอบอุ่น​เลย​ ​แม้แต่​ความปลอดภัย​ก็​ไม่มี

หวัง​ซี​ให้​หวัง​สี่​นำ​ความ​ไป​แจ้ง​เฉินลั​่ว​ ​บอกว่า​เรื่อง​ใน​วัง​สำคัญ​กว่า​ ​ให้​เขา​เป็นห่วง​ตัวเอง​ก่อน​ ​กลับ​จาก​วัง​หลวง​แล้วก็​พักผ่อน​ดี​ๆ​ ​สัก​ตื่น​หนึ่ง​ ​ด้าน​นาง​ไม่มี​เรื่อง​เร่งด่วน​อะไร​ ​รอ​เขา​มี​เวลาว่าง​แล้ว​ค่อย​มาหา​ก็​ยัง​ไม่​สาย

หวัง​สี่​รับคำ​แล้ว​ออก​ไป

นับตั้งแต่​คราว​ที่​ได้​ผ่าน​เหตุการณ์​ที่​องค์​ชาย​ใหญ่​ถูก​ลอบสังหาร​ร่วมกับ​เฉินลั​่ว​เป็นต้นมา​ ​หวัง​สี่​ทำ​อะไร​ก็​ดู​สงบ​และ​ใจเย็น​กว่า​เมื่อก่อน​มาก​ ​นอกจากนี้​ได้ยิน​ว่า​เขา​ยัง​ได้​ผูกมิตร​กับ​องครักษ์​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​อีก​หลาย​คนที​่​ตอนนั้น​กระจาย​ตัว​แล้วก็​ซ่อนตัว​อยู่​ใกล้​ๆ​ ​องค์​ชาย​ใหญ่​ ​อย่า​มองว่า​คน​เหล่านี้​เป็น​เพียง​องครักษ์​ ​เพราะ​นั่น​ก็​อยู่​ภายใต้​การปกครอง​ของกอง​พล​ส่วนพระองค์​เช่นกัน​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ทุกคน​ล้วน​เป็น​คนรุ่นหลัง​ของ​ตระกูล​ขุนนาง​มือสะอาด​สาม​ชั่วโคตร​ทั้งสิ้น​ ​หวัง​สี่​พลัน​มี​เส้นสาย​เพิ่มขึ้น​มากกว่า​หนึ่ง​ชั้นใน​เวลา​อัน​รวดเร็ว​ ​แม้แต่​หลง​จู๊​ใหญ่​ยัง​กล่าว​ทีเล่นทีจริง​ว่า​ ​หาก​หวัง​ซี​เดินทาง​กลับ​สู่​จง​ ​ไม่​สู้​มอบ​หวัง​สี่​ให้​เขา​ใช้งาน​ ​ใน​จิง​เฉิง​นี้​ ​ตระกูล​หวัง​ยัง​ขาด​คน​เช่น​หวัง​สี่​อยู่

หวัง​ซียัง​เคย​ใคร่ครวญ​เรื่อง​นี้​อย่างละเอียด​เป็นเวลา​เนิ่นนาน​ ​รู้สึก​ว่า​ถ้า​หวัง​สี่​ได้​ติดตาม​อยู่​ข้าง​กาย​หลง​จู๊​ใหญ่​จริง​เขา​ก็​จะ​ได้​เรียนรู้​ทักษะ​บางอย่าง​ ​ซึ่ง​ดีกว่า​ติดตาม​นาง​ไป​เป็น​สิน​เจ้า​ให้​นาง​มาก​โข​ ​และ​หาก​หวัง​สี่​ได้รับ​ช่วงต่อ​จาก​หลง​จู๊​ใหญ่​ ​ไม่แน่​ว่านาง​เอง​ก็​จะ​ได้​อานิสงส์​ตาม​ไป​ด้วย​ ​เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​หวังห​มัว​มัว​จะ​รั้ง​อยู่​ที่​จิง​เฉิง​กับ​บุตรชาย​หรือไม่

ถ้า​นาง​ต้องการ​รั้ง​อยู่​ที่​จิง​เฉิง​ ​คน​ข้าง​กาย​ของ​หวัง​ซีก​็​คง​ไม่​ค่อย​เพียงพอ​แล้ว

ให้หา​คนที​่​จงรักภักดี​และ​มี​ความสามารถ​เหมือน​หวังห​มัว​มัว​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​ง่าย

หวัง​ซีคิด​โน่น​คิด​นี่​วุ่นวาย​ไป​หมด​ ​ไม่ได้​หลับ​ดี​ๆ​ ​เลย​ตลอดทั้ง​คืน​ ​กว่า​จะ​ได้​เจอ​เฉินลั​่​วอี​กค​รั้ง​ ​ก็​ผ่าน​มาสาม​วัน​แล้ว

เฉินลั​่ว​บอก​นาง​ว่า​ ​ที่​พวกเขา​ถูก​เรียกตัว​เข้า​วัง​เป็น​เพราะ​เทศกาล​วัน​ไหว้พระ​จันทร์​วันนั้น​ ​ถึงแม้​วัง​หลวง​ไม่ได้​จัดงาน​เลี้ยง​ ​แต่​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​ยังคง​เตรียมงาน​เลี้ยง​ภายใน​ของ​ครอบครัว​เอาไว้​งาน​หนึ่ง​ ​ผล​ปรากฏ​ว่า​ใน​งานเลี้ยง​ดังกล่าว​ ​ฮ่องเต้​เอาแต่​ทำ​หน้า​ไม่พอใจ​ ​สนใจ​แต่​พูดคุย​กับ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​เท่านั้น​ ​ไม่​ปรายตา​มอง​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​แม้แต่​ครั้ง​เดียว​ ​นอกจากนี้​ไม่รู้​องค์​ชาย​เจ็ด​ไป​ฟัง​ผู้ใด​ยุยง​มา​ ​โวยวาย​ขึ้น​มา​ว่า​ต้องการ​สู่ขอ​บุตรสาว​ของ​อวี​๋​จง​อี้​มา​เป็น​ชายา​ ​ยัง​บอก​ด้วยว่า​เพราะ​เขา​ไม่​ฉลาด​ ​จึง​อยาก​แต่ง​สตรี​ฉลาด​มา​เป็น​ชายา​ ​หาไม่​แล้ว​บุตร​ในอนาคต​ของ​เขา​คง​เบาปัญญา​เหมือน​เขา​หมด

ราชวงศ์​ปัจจุบัน​มี​กฎ​ว่า​ ​ข้า​ราชสำนัก​ใน​ไม่​ผูก​สัมพันธ์​กับ​ข้า​ราชสำนัก​นอก

องค์​ชาย​แต่งงาน​กับ​บุตรสาว​ของ​ขุนนาง​ใหญ่​ ​ยัง​เป็น​บุตรสาว​ของ​เสนาบดี​กรม​กลาโหม​ ​มหาบัณฑิต​พระที่นั่ง​อู่​อิง​ที่​ควบคุม​กรม​กลาโหม​อีกด้วย​ ​นี่​นับเป็น​เรื่อง​อะไร​กัน​?

อยาก​ให้​ฮ่องเต้​ลดขั้น​ของ​อวี​๋​จง​อี้​?​ ​หรือ​อยาก​ให้​ฮ่องเต้​ปลด​องค์​ชาย​หก​กัน​แน่​?

“​ฮ่องเต้​ทรง​กริ้ว​หนัก​”​ ​ตอนที่​เฉินลั​่​วก​ล่าว​ถ้อยคำ​นี้​ ​นัยน์ตา​เผย​ความ​ดูแคลน​ออกมา​สาย​หนึ่ง​ ​ทว่า​น้ำเสียง​กลับ​เยียบ​เย็น​ ​กล่าวว่า​ ​“​ชี้หน้า​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​แล้ว​ต่อว่า​ ​กล่าวโทษ​นาง​ว่า​สั่งสอน​บุตร​ไม่ดี​ ​จิตใจ​ชั่วร้าย​ ​ต้องการ​ใส่ร้าย​ขุนนาง​ใน​สภา​อย่าง​อยุติธรรม​ ​กำลัง​แสดง​ความไม่พอใจ​ที่​ตัวเอง​ถูก​ระงับ​ไม่​ให้​ทำหน้าที่​ดูแล​วัง​ออกมา​ ​ฮ่องเต้​จึง​ตะโกน​ก้อง​ว่า​ต้องการ​ปลด​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​!​”

หวัง​ซีปา​กอ​้า​ตาค้าง​ ​พลั้งปาก​ออก​ไป​ว่า​ ​“​นี่​ฮ่องเต้​ต้องการ​กล่าวโทษ​เพิ่ม​กระมัง​?​ ​ประชาชน​คน​ทั่วไป​ยัง​ยึดถือ​ ​‘​บุตรชาย​อกตัญญู​ถือเป็น​ความผิด​ของ​บิดา​ ​บุตรสาว​อกตัญญู​ถือเป็น​ความผิด​ของ​มารดา​’​ ​เลย​ ​นับประสา​อะไร​กับ​องค์​ชาย​?​ ​องค์​ชาย​ไม่ดี​ ​เกี่ยว​อัน​ใด​กับ​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​?​ ​นั่น​เป็นความ​รับผิดชอบ​ของ​ฮ่องเต้​มิใช่​หรือ​?​”

“​ผู้ใด​ว่า​ไม่ใช่​เล่า​”​ ​เฉินลั​่ว​แสยะ​ยิ้ม​ ​กล่าวว่า​ ​“​ฮองเฮา​แหนี​ยง​เหนียง​โกรธ​จน​ตัวสั่น​ ​กล่าวว่า​ รอ​วันใด​ที่เกิด​เรื่อง​กับ​ฟู่​หยาง​แล้ว​พระองค์​ค่อย​มาตำ​หนิ​หม่อมฉัน​ก็​ยัง​ไม่​สาย​ ​หรือไม่​ ​พระองค์​ก็​มอบ​เหล่า​องค์​ชาย​ให้​หม่อมฉัน​เป็น​คนดู​แล​แทน​ ทำให้​ฮ่องเต้​กริ้ว​จน​พูด​อะไร​ไม่​ออก​ ​ยัง​เตะ​ขันที​ ​ปา​ข้าวของ​อยู่​ที่นั่น​อีกด้วย​ ​ฮ่อง​เฮา​เหนียง​เหนียง​ตกใจ​มาก​ ​รีบ​เชิญ​มารดา​ข้า​กับ​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหว​เข้า​วัง​ไป​พูด​ให้​ฮ่องเต้​สงบ​ลง​…

…​มารดา​ของ​ข้า​คิด​ว่า​ ​ไม่​เหมาะ​ให้​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหว​เข้า​วัง​ ​เวลานี้​ ​การ​ที่​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหว​ยัง​ไม่​เข้า​วัง​ ​เรื่อง​ระหว่าง​ฮ่องเต้​กับ​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​ก็​เป็น​แค่​เรื่อง​ทะเลาะ​ของ​สามีภรรยา​ที่​ต่าง​คน​ต่าง​ไม่​พูดจา​ด้วย​ถ้อยคำ​ดี​ๆ​ ​เท่านั้น​ ​แต่​ถ้า​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหว​เข้า​วัง​ ​ราชา​กับ​ขุนนาง​มี​ความต่าง​ ​นั่น​อาจ​กลายเป็น​เรื่อง​ของ​แผ่นดิน​ได้​ ​องค์​ชาย​หก​กล่าว​วาจา​เหลวไหล​เช่นนี้​ ​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​ใน​ฐานะ​มารดา​เอก​ ​ย่อม​มีส่วน​ต้อง​รับผิดชอบ​ ​หาก​ฮ่องเต้​ต้องการ​เสนอ​ปลด​ฮองเฮา​ ​ไม่แน่​ว่า​อาจมี​ฝ่าย​ร้องเรียน​กระโดด​ออกมา​สนับสนุน​ก็​เป็นได้​ ​เพราะ​คิด​ว่า​สิ่ง​ที่​ฮ่องเต้​ทำ​มีเหตุผล​!​”​

“​เพราะเหตุนี้​เจ้า​จึง​เข้า​วัง​กับ​จ่าง​กง​จู่​?​”​ ​หวัง​ซี​ถาม

เฉินลั​่ว​พยักหน้า​ ​กล่าวว่า​ ​“​เพื่อ​ไม่​ให้​เรื่องราว​ยุ่งเหยิง​ซับซ้อน​ไป​กว่านี​้​ ​หลีกเลี่ยง​ไม่​ให้​พ่อ​ข้า​ฉวยโอกาส​เข้าไป​ร่วม​ด้วย​ ​พวก​ข้า​จึง​บอกกล่าว​คนภายนอก​ว่า​ถูก​เรียกตัว​เข้า​วัง​”

“​แล้ว​ตอนนี้​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​เป็น​อย่างไรบ้าง​”​ ​ถึงแม้​หวัง​ซี​ไม่เคย​เจอ​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​มาก​่อน​ ​แต่​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​ระยะนี้​ ​ทำให้​นาง​อด​รู้สึก​เห็นใจ​พระนาง​ไม่ได้

เฉินลั​่​วก​ล่าว​ ​“​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​เอง​ก็​ไม่มีทาง​เลือก​ ​ตอน​ข้า​ออกจาก​วัง​นาง​กำลัง​ดึง​มารดา​ข้า​ไว้​พรั่งพรู​ระบาย​ความ​อัดอั้น​ ​น่าจะ​ไม่มี​เรื่องใหญ่​อะไร​ ​แต่​ถ้า​ตระกูลปั​๋ว​ยัง​ไม่​ก้มหน้า​ยอมรับผิด​ ​เกรง​ว่า​คราวหน้า​คง​ไม่ใช่​แค่​เรื่อง​ประณาม​เพียง​ไม่​กี่​ประโยค​เท่านั้น​แล้ว​”​

ระยะนี้​หวัง​ซี​ได้​ติดต่อ​กับ​เหล่า​สตรี​ชั้นสูง​ใน​จิง​เฉิง​มามาก​ ​ได้ยิน​เรื่องราว​ใน​แวดวง​ขุนนาง​เหล่านี้​มาก​็​ไม่น้อย​ ​นาง​จึง​พอ​จะเข้า​ใจอยู่​บ้าง​ไม่​มาก​ก็​น้อย​ ​หัว​สมอง​ของ​นาง​ขบคิด​อย่างรวดเร็ว​ ​กล่าวว่า​ ​“​ใช่​เรื่อง​กองพล​ขนนก​หรือไม่​?​ ​สอง​วันก่อน​ข้า​ได้ยิน​ฉัง​เคอ​พูดว่า​ ​เวิน​จง​กำลัง​เตรียมตัว​ย้าย​ไป​ที่​ค่าย​เทียน​จิน​ ​เจียง​ชวน​ป๋อ​อยาก​ให้​เขา​ไป​หลบ​อยู่​ที่​ค่าย​เทียน​จิน​สักพัก​ก่อน​ ​รอ​ให้​ความจริง​เปิดเผย​ปัญหา​คลี่คลาย​แล้ว​ค่อย​กลับมา​ก็​ยัง​ไม่​สาย​ ​ข้า​กำลัง​คิด​ว่า​ ​คนที​่​มีทาง​ไป​และ​มีสติปัญญา​ยอดเยี่ยม​เหล่านั้น​ต่าง​กำลัง​ทยอย​ย้ายออก​ไป​อยู่​รอบนอก​แล้ว​ใช่​หรือไม่​?​ ​แม้น​กล่าวว่า​ยก​กองพล​ทองคำ​ให้​เจ้า​แล้ว​ ​แต่​ก็​อาจมี​คนที​่​คิด​เหมือน​เจียง​ชวน​ป๋อ​ที่​รู้สึก​ว่ายัง​ไม่ปลอดภัย​ ​จึง​หาทาง​ย้ายออก​ไป​”

เฉินลั​่​วก​ล่าว​ขึ้น​อย่าง​อด​ไม่อยู่​ว่า​ ​“​เจ้า​ช่าง​ฉลาด​จริงๆ​!​”

หวัง​ซี​ตะลึงงัน

นี่​ตน​คาดการณ์​ถูกต้อง​หรือ​?

เฉินลั​่ว​หันมา​พยักหน้า​ให้​หวัง​ซี​เป็นการ​ยืนยัน​ ​กล่าวว่า​ ​“​ช่วงนี้​ข้า​ยุ่ง​ตั้งแต่​เช้า​จรด​มืดค่ำ​ ​แม้แต่​บ้าน​ยัง​ไม่ได้​กลับ​ ​ไม่ใช่​แค่​เพราะ​เพิ่ง​มารับ​ช่วงต่อ​ที่​กองพล​ทองคำ​เท่านั้น​ ​แต่​เพราะ​คน​มี​ความสามารถ​จำนวนมาก​ต่าง​กำลัง​หาทาง​ย้ายออก​ไป​ ​ซึ่ง​ฝ่าย​คัดเลือก​ทหาร​กรม​กลาโหม​ก็​ไม่​ปฏิเสธ​คนที​่​มา​แสดง​เจตจำนง​ต้องการ​ย้าย​ ​ขอ​เพียง​เจ้า​หา​ที่​ไป​ลง​ได้​ ​พวกเขา​ก็​ออกคำสั่ง​ย้าย​ให้​ ​เป็นเหตุให้​กรม​ขุนนาง​ไม่พอใจ​กรม​กลาโหม​เป็นอย่างมาก​ ​แต่​ทั้งสอง​กรม​ก็​ไม่กล้า​เอา​คดีความ​นี้​ไป​เสนอ​ถึง​หน้า​บัลลังก์​ ​ได้​แต่​ส่ง​คน​มา​วุ่นวาย​กับ​ข้า​ทุกวัน​…

…​ข้า​คิด​ว่า​โดยมาก​แล้ว​ฮ่องเต้​น่าจะ​เห็นดีเห็นงาม​กับ​เรื่อง​นี้​…

…​เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​ฮ่องเต้​จะ​ย้าย​คน​จาก​กองพล​ใด​เข้ามา​แทนที่​?…

…​แม้น​กล่าวว่า​กองพล​ทองคำ​ทั้ง​สี่​อยู่​ใน​มือ​ข้า​ทั้งหมด​ ​ทว่า​แต่ละคน​ต่าง​มี​ความคิด​ของ​ตัวเอง​”

หวัง​ซีกัง​วล​ใจ​ยิ่ง​ ​กล่าวว่า​ ​“​เช่นนั้น​จะ​ทำ​อย่างไร​ ​ไม่อย่างนั้น​ ​เจ้า​ลองดู​ว่า​มี​ใคร​บ้าง​ที่​ต้อง​รั้ง​เอาไว้​ให้​ได้​ ​แล้ว​เชิญ​พวกเขา​ไป​กินข้าว​สัก​มื้อ​สอง​มื้อ​ ​ดื่ม​สุรา​กัน​สอง​สาม​จอก​ ​ดู​ว่า​พวกเขา​มี​ความยากลำบาก​อะไร​ ​โดยมาก​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​ใช้​เงิน​แก้ปัญหา​ได้​ ​หาก​เป็นเรื่อง​ที่​ใช้​เงิน​แก้​ไม่ได้​ ​เจ้า​ก็​ปล่อย​พวกเขา​ไป​ก็แล้วกัน​ ​ถือ​เสียว​่า​ไร้​วาสนา​ต่อกัน​”

เฉินลั​่ว​มอง​ท่าทาง​ของ​นาง​ที่​แสดง​ความหมาย​ออกมา​ว่า​ ​‘​สิ่ง​ที่​พวกเรา​มี​คือ​เงิน​’​ ​ใน​ระหว่าง​ที่นา​งกำ​ลัง​พูด​ ​มัน​ดู​หยิ่ง​ทะนง​เหลือ​จะ​กล่าว​ ​แต่​ใน​สายตา​ของ​เฉินลั​่ว​มัน​กลับ​ดู​น่ารักน่าเอ็นดู​ ​และ​น่าขบขัน​ยิ่ง​ ​เขา​หัวเราะ​เสียงดัง​อย่าง​ห้าม​ไม่อยู่​ ​ยัง​กล่าว​เย้า​นาง​ด้วยว่า​ ​“​ข้า​หา​ใช่​เจ้า​ ​ข้า​ยัง​ขาดเงิน​ทอง​อีก​มาก​ ​ไม่กล้า​คิด​และ​ไม่กล้า​ทำ​เช่นนั้น​หรอก​!​”

หวัง​ซีก​ล่าว​ ​“​เช่นนั้น​เจ้า​มากู​้​ยืม​เงิน​จาก​บ้าน​พวก​ข้า​ได้​ ​พี่ชาย​ใหญ่​ของ​ข้า​ผู้​นี้​ใจกล้า​และ​ตรงไปตรงมา​เป็น​ที่สุด​ ​ย่อม​ไม่​คิดดอกเบี้ย​จาก​เจ้า​แพง​แน่นอน​ ​ไม่แน่​ว่า​อาจ​ช่วย​คิด​หาทาง​ออก​ให้​เจ้า​ได้​ด้วย​”

ท่าน​ปู่​นาง​เคย​บอกว่า​ ​ไม่มี​มิตรแท้​ที่​ถาวร​ ​แต่​มีผล​ประโยชน์​ที่​ยืนยง​ ​หาก​เฉินลั​่ว​ยืม​เงิน​จาก​บ้าน​พวกเขา​ ​เช่นนั้น​ก็​ไม่​เท่ากับ​ว่านาง​ช่วยเหลือ​เขา​แล้ว​ ​ก่อนที่​เขา​จะ​คืนเงิน​พวก​นาง​ ​เขา​กับ​ตระกูล​หวัง​ของ​พวก​นาง​ก็​ถือเป็น​คู่​ค้า​ที่​ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​ได้ประโยชน์​ ​ยาก​ที่​ทั้งสองฝ่าย​จะ​แตกหัก​กัน​เพียงแค่​การ​ตบ​เบา​ๆ​ ​ครั้งหนึ่ง

เฉินลั​่ว​หัวเราะ​อย่าง​เคือง​ๆ​ ​กล่าวว่า​ ​“​เหตุใด​ข้า​ถึง​รู้สึก​ว่า​เจ้า​เหมือน​คนกลาง​ที่​กำลัง​โน้มน้าว​ให้​ข้า​กู้เงิน​ดอกเบี้ย​สูง​เหล่านั้น​เลย​เล่า​?​ ​เจ้า​คง​ไม่ได้​คิด​เอาเปรียบ​อะไร​ข้า​หรอก​กระมัง​”

หวัง​ซี​ได้ยิน​แล้ว​ขลาดกลัว​เล็กน้อย​ ​แสร้ง​แสดง​สีหน้าท่าทาง​ไม่พอใจ​ออกมา​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​มี​อะไร​ควรค่า​ให้​ข้า​ต้อง​คิด​เอาเปรียบ​ด้วย​?​ ​เจ้า​อย่า​ลืม​ว่า​ ​ข้า​เป็น​คน​ออก​เงิน​จ้าง​จอม​ยุทธ์​รับจ้าง​ที่อยู่​ข้าง​กาย​เจ้า​เหล่านั้น​ ​นี่​ก็​ใกล้​จะ​ครบ​อีก​หนึ่ง​เดือน​แล้ว​ ​ได้ยิน​ว่า​พวกเขา​ยัง​ไม่ได้​ออกจาก​เมืองหลวง​ ​นี่​ต้องการ​จะ​จ้าง​ต่อ​อีก​สัก​ระยะ​หรือ​ ​เช่นนั้น​ต้อง​ทำหนังสือ​สัญญา​ฉบับ​ใหม่​ถึง​จะ​ใช้ได้​”

“​ไม่ต้อง​แล้ว​!​”​ ​เฉินลั​่​วก​ล่าว​ด้วย​ความภาคภูมิใจ​เล็กน้อย​ว่า​ ​“​ตอนนี้​พวกเขา​ตัดสินใจ​มา​อยู่​กับ​ข้า​ ​คนที​่​เข้า​กองพล​ทองคำ​ได้​ ​ระหว่าง​นี้​ก็​ให้​เข้า​กองพล​ทองคำ​ไป​ก่อน​ ​ส่วน​ที่​เข้า​กองพล​ทองคำ​ไม่ได้​ ​ก็​ให้​เป็น​ผู้ติดตาม​ของ​ข้า​ไป​ก่อน​ ​เจ้า​ไม่จำเป็น​ต้อง​จ่าย​เบี้ย​รายเดือน​ให้​พวกเขา​แล้ว​”​ ​กล่าวถึง​ตรงนี้​ ​เขา​ปรายตา​มอง​หวัง​ซีค​รั้ง​หนึ่ง​ ​“​ยัง​มี​คน​คิด​จะ​แนะนำ​สหาย​หรือไม่ก็​พี่น้อง​ร่วม​สำนัก​ของ​พวกเขา​มาด​้วย​ ​ข้า​บอกว่า​ต้อง​เป็น​คนดี​ ​วรยุทธ์​ดี​ ​และ​ต้อง​ให้​ข้า​ดูก่อน​ ​หาก​รู้สึก​ว่า​ใช้ได้​ถึง​เข้ามา​ได้​”

ดู​เจ้า​คน​ใจแคบ​ผู้​นี้​ ​ไหน​เลย​จะ​ยัง​มี​ความหยิ่ง​ทะนง​เหมือน​ที่​เจอ​ตอนแรก​ๆ​ ​นั่น​อีก

หวัง​ซียู​่​ปาก

และ​นับตั้งแต่​ออกมา​จาก​เรือน​หวัง​ซี​ ​ดวง​หน้า​ของ​เฉินลั​่​วก​็​ยัง​ประดับ​ด้วย​รอยยิ้ม​อยู่​ ​เป็นเหตุให้​เฉิน​อวี​้​ต้อง​มอง​เขา​เพิ่ม​อีก​หลายครั้ง

เขา​อด​ถาม​อย่าง​สงสัย​ไม่ได้​ว่า​ ​“​ทำไม​หรือ​ ​เสื้อผ้า​หรือ​เครื่องประดับ​ข้ามี​ปัญหา​หรือ​”

เขา​คง​ไม่ได้​สงสัย​ว่า​ตน​ไม่ได้​ล้างหน้า​หรอก​กระมัง​?

ต่อให้​เขา​ไม่ได้​ล้างหน้า​ ​เฉิน​อวี​้​ก็​ไม่น่า​จะ​แสดง​สีหน้า​เช่นนี้​ออกมา

เฉิน​อวี​้​ก้มหน้า​ลง​ ​กล่าว​ติดๆ​ ​กัน​ว่า​ ​“​ไม่มี​ขอรับ​”​ ​หาคำ​พูด​หนึ่ง​มา​อธิบาย​พอเป็นพิธี​ให้​ผ่านพ้น​ไป

เมื่อ​กลับมา​ถึง​ห้อง​ ​เฉินลั​่ว​เงยหน้า​ขึ้น​กวาดสายตา​ไป​ที่​กระจก​บน​โต๊ะ​โดย​ไม่ได้ตั้งใจ​ ​ถึง​ได้​เห็น​สภาพ​ของ​ตัวเอง​ได้​อย่างชัดเจน

เหตุใด​เขา​ถึง​ยิ้ม​?​ ​มีเรื่อง​อะไร​ให้​ดีใจ​?​ ​รอยยิ้ม​นั่น​ ​แผ่ซ่าน​ออกมา​จาก​หัวใจ​ ​แค่​มอง​ก็​ทำให้​คน​สัมผัส​ได้​ถึง​อารมณ์​เบิกบาน​ของ​เขา

ไม่​แปลกที่​เมื่อ​ครู่​เฉิน​อวี​้​มอง​เขา​ด้วย​สายตา​เช่นนั้น

เขา​เอง​ก็​ไม่เคย​เห็น​สภาพ​เช่นนี้​ของ​ตัวเอง​มาก​่อน

เพราะ​ไป​เจอ​หวัง​ซี​มา​อย่างนั้น​หรือ​?

รอยยิ้ม​ใน​ตาของ​เฉินลั​่ว​ค่อยๆ​ ​เหือดหาย​ไป​ ​นัยน์ตา​เปลี่ยนเป็น​เคร่งขรึม​และ​คม​ปลาบ​แทน​

ด้าน​หวัง​ซีก​ลับ​ได้รับ​เทียบ​เชิญ​จาก​คุณหนู​พาน​ ​เชิญ​นาง​กับ​ฉัง​เคอ​ไป​เป็น​แขก​ที่​บ้าน

โหวฮู​หยิน​เป็น​คน​นำ​เทียบ​มาส​่ง​ให้​ ​ยัง​บอก​พวก​นางอ้อม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​สถานที่​ค่อนข้าง​คับแคบ​ ​ตระกูล​หลิว​ก็​ใกล้​จะ​มา​วาง​ของหมั้น​แล้ว​ ​จึง​ไม่​ทำ​เอิกเกริก​ ​เชิญ​เพียง​พวก​เจ้า​สอง​คน​ไป​แสดงความยินดี​กับ​บ้าน​ใหม่​เท่านั้น​”

อีกนัยหนึ่ง​ก็​คือ​ ​ไม่ใช่​แค่​ฉัง​เหยี​ยน​ ​แม้แต่ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​ซือ​จู​ ​นาย​หญิง​รอง​ ​นาย​หญิง​สาม​และ​คนอื่นๆ​ ​ก็​ไม่ได้​รับ​เทียบ​เชิญ

บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​ตระกูล​พาน​ไม่​อยาก​ใกล้ชิด​สนิทสนม​กับ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​มากเกินไป​?

ทั้งสอง​คน​คาดเดา​ ​พยักหน้า​ยิ้ม​ๆ​ ​ไป​เป็น​แขก​ที่​บ้าน​ตระกูล​พาน​ด้วยกัน

บ้าน​ที่​ตระกูล​พาน​เช่า​ห่าง​จาก​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​โดย​ใช้เวลา​เดินทาง​ประมาณ​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ​แม้น​เป็นบ้าน​สอง​ทางเข้า​ที่​ไม่​ใหญ่​นัก​ ​แต่ต้น​ไม้​ใบ​หญ้า​อุดมสมบูรณ์​ ​เก็บกวาด​ได้​สะอาดสะอ้าน​ ​ตำแหน่งที่ตั้ง​ดีมาก​ ​ค่อนข้าง​ใกล้​สำนัก​ศึกษา​หลวง​ ​พานฮู​หยิน​บอกว่า​ ​เมื่อ​คุณหนู​พาน​แต่งงาน​ออก​ไป​แล้ว​ ​คุณชาย​พาน​ยัง​อาศัย​อยู่​ที่นี่​ต่อ​ได้

คุณหนู​พาน​ได้ยิน​แล้ว​หน้าแดง​เรื่อ​ ​ดึง​หวัง​ซีกับ​ฉัง​เคอ​ไป​แอบ​คุย​กัน​ใน​ห้อง​ชั้นใน​ ​บอก​พวก​นาง​ว่า​ ​งานแต่ง​ของ​นาง​ก็​อาจจะ​ถูก​กำหนด​เป็น​เดือน​สิบเอ็ด​เช่นกัน​ ​“​มารดา​ข้า​อยู่​ที่นี่​นาน​นัก​ไม่ได้​ ​ข้า​ออกเรือน​เร็ว​ ​มารดา​ของ​ข้า​ก็​จะ​ได้​เดินทาง​กลับ​ไปดู​แลบิ​ดา​ข้า​เร็ว​ขึ้น​”

นาง​กังวลใจ​เล็กน้อย​ว่างาน​แต่ง​ของ​ตน​จะ​เป็น​วัน​เดียว​กับ​งานแต่ง​ของ​ซือ​จู​ ​ถึง​เวลา​สตรี​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ย่อม​ไป​ส่ง​ซือ​จู​ออกเรือน​กัน​หมด

ที่​จิง​เฉิง​ตระกูล​พาน​ไม่​ค่อย​มี​แขกเหรื่อ​เท่าไร​นัก​ ​หาก​สตรี​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ไม่​มาร​่วม​ ​คงจะ​เหงาหงอย​อย่าง​หลีก​เลียง​ไม่ได้

หวัง​ซี​ไม่ใส่ใจ​นัก​ ​กล่าวว่า​ ​“​ถึง​เวลา​ข้า​ย่อม​มาร​่ว​มงา​นข​อง​เจ้า​ ​เลวร้าย​ที่สุด​ก็​เชิญ​หลง​จู๊​ของ​ร้าน​พวก​ข้ามา​ร่วม​แสดงความยินดี​กับ​เจ้า​ด้วย​”

ส่วน​ฉัง​เคอ​ ​เบื้องบน​ของ​นาง​ยัง​มี​ผู้อาวุโส​อยู่​ ​หวัง​ซี​ไม่​อาจ​ตัดสินใจ​แทน​นาง​ได้

………………………………………………………………..