ตอนที่ 297 พลังวิญญาณในระดับสีส้ม (1) ตอนที่ 298 พลังวิญญาณในระดับสีส้ม (2)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 297 พลังวิญญาณในระดับสีส้ม (1)

ในวันที่สองที่จวินอู๋เสียเข้ามาที่ยอดเขาเร้นเมฆา นางและเฉียวฉู่ก็ได้สวมชุดของลูกศิษย์ยอดเขาเร้นเมฆา เพื่อไม่สร้างความสงสัยที่ไม่จำเป็น พวกเขากลับไปที่ลานที่พักที่เหล่าลูกศิษย์พักอาศัยอยู่

เมื่อพวกเขาสวมชุดลูกศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นที่ใหม่เอี่ยมปรากฏตัวขึ้นที่ลาน เหล่าคนหนุ่มสาวทั้งกลุ่มนั้นที่ถูกทรมานมาสองวันต่างก็จ้องมองมาที่พวกเขาตาเขม็ง

ตั้งแต่คืนแรกที่เข้ามาที่ยอดเขาเร้นเมฆา เจ้าเด็กสองคนนี้ก็เกียจคร้านมาโดยตลอด ตอนที่พวกเขาแบกน้ำด้วยความเหน็ดเหนื่อย ไม่รู้ว่าไอ้สารเลวสองตัวนี้แอบหนีงานไปไหน และเมื่อเช้าวันรุ่งขึ้นตอนที่พวกเขาไปรดน้ำสมุนไพร ไอ้สารเลวสองคนนี้ยิ่งน่ารังเกียจยิ่งกว่า

หลับตาแล้วหมดสติไปเฉยเลย

จากนั้นพวกเขาก็ถูกส่งตัวไปที่ผู้อาวุโสเคอเพื่อรับการรักษาจากผู้อาวุโส

ผ่านไปหนึ่งวันพวกเขาก็กลับมา

ดีจริงๆ

พวกเขาสวมชุดของลูกศิษย์แล้วปรากฏตัวที่นี่ด้วยใบหน้าที่ระรื่น

“ล้อข้าเล่นใช่หรือไม่ เสื้อผ้าของพวกเขามาจากไหนกัน” ชายหนุ่มที่เหนื่อยล้าจนแทบลุกไม่ขึ้นจ้องไปที่จวินอู๋เสียและเฉียวฉู่ที่มีใบหน้าสดชื่น เขาเพ่งมองไปที่เสื้อผ้าของพวกเขา

ไม่มีเหตุผลเลย คนขยันนั้นเหนื่อยแทบเป็นแทบตาย คนขี้เกียจกลับสบาย ยังมีความยุติธรรมอยู่หรือไม่

กลุ่มคนหนุ่มสาวที่อิจฉาริษยากัดฟันด้วยความโกรธ มีไม่กี่คนที่หดหู่ใจ พวกเขาวิ่งตรงเข้าไปฟ้องศิษย์พี่ที่เดินผ่านมาทันที

“ศิษย์พี่ เจ้าสองคนนี้ไม่ใช่คนดี…” บอกเล่าการกระทำที่เกียจคร้านของจวินอู๋เสียและเฉียวฉู่ออกมาทั้งหมด

ลูกศิษย์ของยอดเขาเร้นเมฆาที่ถูกชายหนุ่มขวางทางไว้ ขมวดคิ้วมองชายคนหนึ่งที่พูดไม่หยุดแล้วกล่าวด้วยความหงุดหงิดว่า “หุบปากซะ! ผู้อาวุโสเคอสงสารพวกเจ้าที่มีร่างกายอ่อนแอจึงลดงานของพวกเจ้า เพื่อให้พวกเจ้ามีเวลาฝึกฝนพลัง ไม่ใช่ให้พวกเจ้ามาพูดจาไร้สาระ ข้าบอกพวกเจ้าคนที่เป็นลูกศิษย์ของยอดเขาเร้นเมฆาจริงๆ คือคนที่สวมใส่ชุดนี้ จวินเสียและเฉียวฉู่เป็นลูกศิษย์ที่ได้รับการยอมรับจากผู้อาวุโสเคอแล้ว ห้ามผู้ใดว่ากล่าวอะไรทั้งสิ้น! หากผู้ใดกล้าสงสัยในการกระทำของผู้อาวุโสเคอก็ออกไปจากยอดเขาเร้นเมฆาเสีย”

หลังจากพูดจบ ลูกศิษย์คนนั้นก็ผลักชายหนุ่มที่เดินมาฟ้องทันทีแล้วเดินจากไปด้วยสีหน้าไม่พอใจ

เจ้าแกะอ้วนกลุ่มนี้ยังกล้าแข่งขันกันอีกหรือ ถ้าไม่ใช่เพราะความเมตตาของผู้อาวุโสเคอที่ลดการทรมานส่วนใหญ่ในวันธรรมดาลง เกรงว่าในกลุ่มนี้คงไม่มีใครสามารถมีชีวิตรอดจากยอดเขาเร้นเมฆาไปได้

เมื่อวานเคอฉังจวีเรียกศิษย์สายในของตัวเองไปพบแล้วสั่งการพวกเขาว่าตอนนี้ยังไม่ต้องเพิ่มจำนวน ‘แกะอ้วน’ ในยอดเขาเร้นเมฆา เพราะเขาต้องการทดลองสิ่งใหม่ในช่วงเวลานี้จึงไม่มีเวลาไปจัดการเด็กหนุ่มกลุ่มนั้น ดังนั้นให้ลูกศิษย์ทุกคนลดการทรมาณชายหนุ่มกลุ่มนั้นลง

เมื่อมีคำสั่งของเคอฉังจวี ลูกศิษย์ของยอดเขาเร้นเมฆาก็ลดการทรมาณลงมาก อย่างน้อยพวกเขาก็หยุดสนุกกับการทรมาน ‘แกะอ้วน’ เหล่านี้

เจ้าคนโง่เขลากลุ่มนี้ยังไม่รู้ตัวอีกว่าพวกเขารอดชีวิตแล้วยังมีหน้ามาวุ่นวายที่นี่อีก

ชายหนุ่มที่ถูกศิษย์พี่ดุว่ายืนนิ่งอยู่ที่เดิม มองดูศิษย์พี่ที่เดินจากไปแล้วก้มมองเสื้อผ้าบนร่างกายของตัวเอง ในใจของเขาก็ยิ่งไม่ยินยอมมากขึ้นเรื่อยๆ

“เพราะเหตุใดไอ้สองสวะคนนั้นถึงได้รับการยอมรับจากผู้อาวุโสเคอ! มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ” ชายหนุ่มบางคนที่ยืนอยู่ด้านข้างแล้วได้ยินเรื่องราวทั้งหมดต่างไม่ยินยอม ในความคิดของพวกเขาคือเฉียวฉู่และจวินอู๋เสียเป็นขยะที่ไร้ประโยชน์ นอกจากขี้เกียจและอวดฉลาดแล้ว พวกเขาจะทำอะไรได้อีก เพราะเหตุใดขยะแบบนี้จึงเป็นลูกศิษย์ของยอดเขาเร้นเมฆาก่อนพวกเขา!

ตอนที่ 298 พลังวิญญาณในระดับสีส้ม (2)

“ทำไมพวกเขาถึงถูกเลือก” ชายหนุ่มกลุ่มนี้เต็มไปด้วยความแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม จนแทบอยากจะพุ่งเข้าไปหาเคอฉังจวีเพื่อสอบถามว่าเด็กสองคนนั้นด้อยกว่าพวกเขาทุกอย่าง เพราะเหตุใดพวกเขาจึงกลายเป็นลูกศิษย์ที่ผู้อาวุโสยอมรับได้

ชายหนุ่มกลุ่มนี้อึดอัดคับแค้นใจ แต่ไม่กล้าไปหาเคอฉังจวี ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงหาเรื่องจวินอู๋เสียและเฉียวฉู่เท่านั้น

หลังจากที่ได้เห็นพลังที่โหดร้ายของเฉียวฉู่แล้ว พวกเขาจึงใช้ ‘ความฉลาด’ เลือกจวินอู๋เสียที่ดูผอมบาง

จวินอู๋เสียเพิ่งกลับมาที่ห้องเพื่อวางแผนว่าช่วงนี้นางจะทำอะไร แต่เสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างกะทันหันขัดจังหวะความคิดของนาง

นางลุกขึ้นเปิดประตู ทันทีที่ประตูถูกเปิดออกชายหนุ่มหลายคนที่มีท่าทางดุดันดุร้ายก็พุ่งเข้ามาด้วยความไม่พอใจ

“ปิดประตูเร็ว!” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้นทันที

จวินอู๋เสียที่ถูกผลักออก ขมวดคิ้วมองไปยังกลุ่มชายหนุ่มที่เข้ามาด้วยท่าทางไม่พอใจและมองดูพวกเขาปิดประตูด้วยสายตาเย็นชา

ชายหนุ่มหกเจ็ดคนทำให้ห้องเล็กที่แคบอยู่แล้วยิ่งแออัดมากขึ้นไปอีก

จวินอู๋เสียยืนอยู่ข้างๆ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเยือกเย็น

“เจ้าหนู เสื้อผ้าชุดนี้ของเจ้ามาจากไหน” ชายหนุ่มคนหนึ่งจ้องจวินอู๋เสียด้วยท่าทางที่มีเจตนาไม่ดีแอบแฝงอยู่ พวกเขารู้ดีว่าเสื้อผ้าชุดนี้ของจวินอู๋เสียมาจากไหน แต่จุดประสงค์ที่พวกเขามาก็เพื่อหาเรื่อง พวกเขาจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้แล้วใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างในการจัดการเจ้าเด็กที่โชคดีคนนี้

เพราะเหตุใดเจ้าเด็กคนนี้ถึงเป็นที่ชื่นชอบของผู้อาวุโสสองท่านในวันนั้น และเพราะเหตุใดเจ้าเด็กคนนี้จึงกลายเป็นลูกศิษย์อย่างเป็นทางการภายในเวลาไม่ถึงสองวันหลังจากเข้ามายอดเขาเร้นเมฆา

แค่คิดก็ทำให้ชายหนุ่มกลุ่มนี้อิจฉาริษยาเป็นอย่างมาก

จวินอู๋เสียมองด้วยสายตาเย็นชาโดยไม่พูดจาอะไร

“โอ้ ยังวางท่าอยู่อีก เจ้าแอบขโมยเสื้อผ้าของศิษย์พี่ เจ้ามันเนรคุณ หากตอนนี้เจ้ายอมถอดเสื้อผ้าอย่างเชื่อฟังแล้วขอโทษพวกข้า พวกข้าก็จะยอมให้อภัยเจ้า มิฉะนั้นพวกข้าจะถอดเสื้อผ้าให้เจ้าแล้วลากเจ้าไปหาศิษย์พี่ให้ศิษย์พี่ทำโทษเจ้า” เมื่อชายหนุ่มกลุ่มนี้เห็นจวินอู๋เสียนิ่งเงียบก็ต่างคิดว่าจวินอู๋เสียกลัวพวกเขาจึงยิ่งกำเริบเสิบสานมากขึ้น

พวกเขาแค่ต้องการระบายความคับแค้นในใจโดยไม่กังวลผลที่จะตามมา

แค่เด็กน้อยคนหนึ่งที่เพิ่งได้เป็นลูกศิษย์ ทุบตีนางหนึ่งรอบแล้วปิดปากนาง นางก็ไม่กล้าไปฟ้องผู้อาวุโสเคอแล้ว

สายตาของจวินอู๋เสียยิ่งเยือกเย็นมากขึ้น ดวงตาของนางหรี่ลงเล็กน้อย ความเยือกเย็นในสายตาของนางเพิ่มมากขึ้นอย่างเงียบๆ

“ไม่ยอมใช่หรือไม่ พี่น้อง ถอดเสื้อผ้าของเจ้าเด็กหัวขโมยคนนี้กัน! ข้าจะดูว่าไอ้เด็กขยะคนนี้จะทนได้นานแค่ไหน”

ชายหนุ่มหลายคนที่มีร่างกายแข็งแรงใช้ส่วนสูงของตัวเองพุ่งเข้าหาจวินอู๋เสียที่มีร่างกายผอมบาง

ดวงตาของจวินอู๋เสียเยือกเย็นขึ้นมาทันทีและพลังวิญญาณที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของนางก็ระเบิดขึ้น

พลังในระดับปราณสีส้มระเบิดแสงสว่างออกมาและรวมอยู่ในฝ่ามือของจวินอู๋เสีย นางขยับเท้าหลบการโจมตีของชายหนุ่มคนหนึ่ง ฝ่ามือของนางรวบรวมพลังวิญญาณแล้วพุ่งเข้าที่กรามของชายคนนั้น เพียงแค่ครั้งเดียวก็ทำให้คนนั้นปลิวในทันที! จากนั้นนางก็เอนตัวไปข้างหน้าและหมุนขาไปรอบๆ จนทำให้คนเหล่านั้นล้มลงกับพื้นทันที พลังวิญญาณในฝ่ามือเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน ทันทีที่นางขยับฝ่ามือ พลังวิญญาณสีส้มก็พุ่งตรงเข้าหาชายหนุ่มเหล่านั้นที่ล้มอยู่กับพื้นราวกับสายฟ้า

เสียงคร่ำครวญอันน่าสังเวชดังขึ้นต่อเนื่องในห้อง

พลังวิญญาณสีส้มระเบิดลงบนตัวชายหนุ่มเหล่านั้น ทำให้พวกเขาดูน่าเวทนา

แต่เมื่อพวกเขาสังเกตเห็นแสงสีส้มที่เปล่งออกมาจากพลังวิญญาณ ดวงตาของชายหนุ่มเหล่านั้นก็ต่างตกใจจนตาโต

พวกเขาเห็นอะไร!

เจ้าเด็กคนนี้มีพลังวิญญาณในระดับสีส้ม!