บทที่ 31 ฉันมีแฟนแล้ว

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

เฉินฮวนฮวนเงียบไปสักพัก

เวลานี้ มีผู้หญิงสองคนเดินมาที่เคาน์เตอร์จะสั่งเมนู เธอรีบตอบโทรศัทพ์อย่างขอไปทีว่า ” ตอนนี้ฉันยุ่งมาก ไม่มีเวลาตอบคำถามของคุณ”

เมื่อพูดจบ เธอไม่ได้รอคำตอบจากเฟิงหานชวน เธอวางสายทันทีแล้วก็รีบทำงานต่อ

“ตู๊ดๆ……”เสียงวางสายดังออกมาจากหูฟังโทรศัพท์

เฟิงหานชวนชำเลืองดูหน้าจอที่ปิดลงทีหนึ่ง สีหน้าแย่ลงทันที รู้สึกผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก

เขาเข้าไปถามเฉินฮวนฮวนด้วยตัวเอง แต่ผู้หญิงคนนี้กลับ….กลับไม่เห็นคุณค่าของเขาเลยสักนิด

ยังบอกว่าไม่มีเวลาตอบอีก

เฟิงหานชวนกำมือถืออย่างแน่น จากนั้นก็ขับรถออกจากที่จอดรถ

หลิ่วเยว่เอ่อร์ได้ยินเฟิงหานชวนบอกว่าต้องใช้เวลาครึ่งชั่วโมง เธอจึงไปรอที่หน้าประตูใหญ่แต่เนิ่นๆ เอางานเบ็ดเตล็ดพวกนั้นให้หวางเสิ่นเอ่อร์เป็นคนจัดการเอง

หวางเสิ่นเอ่อร์เป็นคนที่ซูอวี่ส่งมาดูแลเธอ และก็เป็นคนที่เฟิงหานชวนออกเงินค่าจ้างให้ แน่นอนว่าเธอต้องใช้หล่อนทำงานอยู่แล้ว

เธอรอเขาด้วยความคาดหวัง ในที่สุดเฟิงหานชวนก็มาถึง

ทันทีที่เฟิงหานชวนลงจากรถ ก็เห็นหลิ่วเยว่เอ่อร์ที่แต่งตัวสวยอย่างมาก เป็นเดรสทอมือเข้ารูป ซึ่งเข้ากันได้กับเธออย่างไม่มีที่ติ บนใบหน้าก็แต่งหน้าบางๆอย่างประณีต

“รอนานแล้วเหรอ” เฟิงหานชวนพูดด้วยน้ำเสียงที่เรื่อยเฉื่อย แล้วก็เดินตรงเข้าไปยังห้องรับแขก

เขาตั้งใจจะทานอาหารที่เรียบง่าย แล้วก็พูดคุยกับหลิ่วเยว่เอ่อร์ให้เข้าใจตรงกัน ไม่ได้ตั้งใจจะอยู่นาน

แต่หลิ่วเยว่เอ่อร์นั้นมีความสุขอย่างบ้าคลั่ง รีบเดินตามหลังเฟิงหานชวนเข้าไป แทบจะเอาตัวเองติดเข้าไปกับเขาแล้ว

เฟิงหานชวนถูกหลิ่วเยว่เอ่อร์จัดให้นั่งหัวโต๊ะ และเธอก็นั่งที่นั่งข้างซ้ายของเขา แล้วก็ตั้งใจเอาเก้าอี้เอียงเข้าไปหาเฟิงหานชวนด้วย

“คุณชายสาม คุณลองชิมดู อันนี้เป็นผัดไข่ใส่มะเขือเทศที่ฉันทำเอง ฝีมือของฉันไม่ดีนัก แต่คุณอย่าถือสาเลยนะ” หลิ่วเยว่เอ่อร์ยิ้มอย่างมีเสน่ห์ กับน้ำเสียงตุ้งติ้ง เหมือนกับกำลังพูดคุยกับแฟนของตัวเองอยู่อย่างนั้น

ใบหน้าของเฟิงหานชวนไร้ซึ่งความรู้สึก เขาส่งเสียงตัดบทพูดของของหลิ่วเยว่เอ่อร์ พูดอย่างหนักแน่น “ก่อนทานข้าวเย็น ฉันมีเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งอยากจะปรึกษากับเธอหน่อย”

“อ๋า คุณชายสาม คุณอยากจะปรึกษากับฉันเรื่องอะไรหรอ” ใจของหลิ่วเยว่เอ่อร์เกิดความกังวลทันที ในใจลึกๆเหมือนกับว่ามีความรู้สึกที่ไม่ดีอะไรสักอย่างหนึ่ง

เฟิงหานชวนหยิบกระเป๋าเงินออกมา แล้วก็เอาบัตรเครดิตธนาคารออกมาใบหนึ่ง ยื่นไปตรงหน้าของหลิ่วเยว่เอ่อร์ พูดว่า “คฤหาสน์นี้ฉันจะโอนเป็นชื่อของเธอ บัตรเครดิตนี้มีเงินฝากอยู่สิบล้าน เพียงพอกับการใช้ชีวิตต่อจากนี้ของเธอ”

เขาคิดว่าเงื่อนไขที่ตัวเองให้นั้นดีพอแล้ว

แต่คิดไม่ถึงว่า เมื่อหลิ่วเยว่เอ่อร์ฟังเขาพูดจบ กลับเป็นเสียงร้อง”ฮือฮือ “พร้อมน้ำตาตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย

“เธอเป็นอะไรหรอ ถ้าคิดว่ายังน้อยเกินไป ฉันให้เธออย่างไม่มีเงื่อนไขได้นะ”เฟิงหานชวนขมวดคิ้วเล็กน้อย เรื่องเงินสำหรับเขาแล้วไม่ใช่ปัญหา

“ฉันไม่ได้เห็นว่ามันน้อยเกินไป ฉันไม่ได้มองว่ามันน้อยจริงๆ” อาการร้องไห้ของเธอหนักกว่าเดิม เธอมองไปยังเฟิงหานชวนด้วยสายตาที่ปั่นป่วนและน้ำตาคลอ เอ่ยถามเขา “คุณชายสาม คุณเป็นคนบอกว่าจะรับผิดชอบฉันไม่ใช่หรอ คุณจะใช้เงินไล่ฉันออกไปแบบนี้จริงๆหรอ เรื่องที่คุณทำกับฉันแบบนั้น ก็จะให้มันจบง่ายๆแบบนี้เลยหรอ”

แม้ว่าดูจากสีหน้าแล้วหลิ่วเยว่เอ่อร์เป็นคนที่อ่อนแอและน่าสงสาร แต่ในใจลึกๆแล้วนั้นเธอกำลังโกรธเป็นไฟ เธอคิดไม่ถึงว่าเฟิงหานชวนจะปฏิเสธความรับผิดชอบอย่างไร้เยื่อใยอย่างนี้

“ที่ฉันบอกว่าจะรับผิดชอบ ก็หมายถึงอย่างนี้ไง”สีหน้าของเฟิงหานชวนยังคงเย็นชาเหมือนเดิม

“แต่ว่า แต่เยว่เอ่อร๋คิดว่าเป็นความหมายแบบนั้น คุณพาฉันเข้ามายังคฤหาสน์ของคุณ แล้วยังได้เตรียมพี่เลี้ยงให้ฉันอีก ฉันคิดว่าคุณจะให้ฉันเป็นผู้หญิงของคุณ……”ตอนนี้หลิ่วเยว่เอ่อร์เหมือนกับหมาจนตรอก ใช้แรงทั้งหมดควบคุมอารมณ์แล้วก็เรียกร้อง

ตอนแรกเธอตั้งใจจะใช้กลยุทธแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่อยากเปิดโปงตัวเองตรงๆ อยากให้เฟิงหานชวนเป็นคนเอ่ยขึ้นมาก่อน

แต่ว่าในสถานการณ์ข้างหน้านี้ เธอจำเป็นต้องพูดออกไปตรงๆแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นเฟิงหานชวนต้องไม่คิดจะรับผิดชอบเลยสักนิด อย่างแน่นอน

“ขอโทษ”เฟิงหานชวนมองดูผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้า เต็มไปด้วยความรู้สึกที่เหมือนกับไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เขาพูดอย่างเย็นชา ” ตอนนี้เธอมีแฟนแล้ว ใช้ชีวิตกับเขาดีๆ ฉันสามารถให้ชีวิตที่ดีกว่านี้กับพวกคุณได้”

สีหน้าของหลิ่วเยว่เอ่อร์เปลี่ยนไปชั่วขณะหนึ่ง แต่เธอก็คาดเดาได้แต่แรกแล้วว่า คนอย่างเฟิงหานชวนจะต้องส่งคนไปสืบเรื่องราวของเธอแน่นอน ฉะนั้นเธอจึงได้เตรียมคำอธิบายไว้ก่อนแล้วว่าจะพูดยังไง

“คุณชายสาม ฉันกับแฟนเลิกกันไปตั้งนานแล้ว”หลิ่วเยว่เอ่อร์ร้องไห้ฟูมฟายออกมาอีกครั้ง เธอเอามือสองข้างปิดหน้าไว้ พูดอย่างอนาถว่า “วันนั้นหลังจากที่ฉันหนีออกมาจากห้องเก็บของ เพราะความกลัว ฉันจึงไปสารภาพกับแฟน แต่ว่าเขา……”

“เขารู้ว่าฉันถูกคนอื่นขืนใจ ก็รังเกียจฉันที่ไม่ได้บริสุทธ์อีกต่อไปแล้ว เลยคบซ้อนกับผู้หญิงคนอื่น ดังนั้นเราสองคนเลยแยกทางกัน”

เมื่อเฟิงหานชวนได้ยินอย่างนั้น ขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิม

เขาได้ดูเอกสารของหลิ่วเยว่เอ่อร์แค่หน้าแรก ไม่ได้ดูทั้งหมด เขาก็คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเพราะเรื่องนี้ ทำให้ต้องเลิกกัน

พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือว่า เขาเป็นคนที่ทำให้หลิ่วเยว่เอ่อร์ถูกทิ้งหรอ

“เธอจะตั้งเงื่อนไขอะไรก็ได้”เฟิงหานชวนอึ้งไปสักพักแล้วพูดตอบอย่างอ่อนโยน

เมื่อหลิ่วเยว่เอ่อร์ได้ยิน ใจถูกแช่แข็งไปครึ่งหนึ่ง เธอน่าสงสารขนาดนี้แล้ว ถึงแม้ว่าหลิ่วเยว่เอ่อร์ถูกทิ้ง แต่ผู้ชายคนนี้กลับไม่รู้สึกเห็นใจสักนิดเลยหรอ

เป็นเพราะเธอไม่มีเสน่ห์ หรือว่าเป็นเพราะเฟิงหานชวนเย็นชาเกินไป

“คุณชายสาม ฉัน……ฉันมีแค่เงื่อนไขเดียวเท่านั้น”หลิ่วเยว่เอ่อร์รวบรวมความกล้าทั้งหมด นัยต์ตาสองข้างจ้องไปที่เขา จากนั้นก็ลุกขึ้น แล้วกอดไปยังเฟิงหานชวน

เฟิงหานชวนนั้นตาเร็วมือไว ขยับตัวทีหนึ่ง ทำให้หลิ่วเยว่เอ่อร์กอดกับความว่างเปล่า แล้วล้มลงไปกับพื้น

“เธอจะทำอะไรน่ะ”

กลิ่มที่ไม่คุ้นเคยผ่านหน้าไป สีหน้าของเฟิงหานชวนเต็มไปด้วยความโกรธ

“คุณชายสาม ในเมื่อคุณเอาจากฉันไปแล้วครั้งหนึ่ง จากนี้ไปฉันจะเป็นผู้หญิงของคุณ คุณว่าดีไหมล่ะ” หลิ่วเยว่เอ่อร์พูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา ตั้งใจใช้น้ำเสียงที่เย้ายวน “ฉันไม่ต้องการเงิน ฉันไม่ต้องการบ้าน ฉันแค่ต้องการให้คุณรับผิดชอบฉัน จากนี้ไปเยว่เอ่อร์ก็จะรักเดียวใจเดียวกับคุณแน่นอน”

“หลิ่วเยว่เอ่อร์ ฉันมีแฟนแล้ว “สีหน้าของเฟิงหานชวนค่อยๆเคร่งขรึมขึ้น แต่ในความคิดกลับมีใบหน้าของเฉินฮวนฮวนโผล่ออกมา

เป็นใบหน้าที่เหมือนกับกระต่ายขาวตัวน้อย ที่ทำให้คนอยากจะแกล้ง และทำให้คนเกิดความรู้สึกอยากจะปกป้องด้วย

“อะไรนะ”หลิ่วเยว่เอ่อร์ร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนกคำหนึ่ง

หล่อนคิดไม่ถึงเลยว่า เฟิงหานชวนจะมีแฟนแล้ว แต่ว่า ดูจากภายนอกเห็นได้ชัดว่าเขายังเป็นโสดไม่ใช่หรอ

แล้วแฟนสาวนี้ เป็นใครกันแน่

“ฉันกับหล่อนเพิ่งจะคบหากันได้ไม่นาน ดังนั้นฉันไม่อยากให้หล่อนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้” เฟิงหานชวนคิดว่าตัวเองทำได้ดีพอแล้ว เขาพูดอย่างเย็นชา “เธอกลับไปคิดดีๆแล้วกันว่าต้องการเงื่อนไขอะไร”

พูดจบ เขาก็ก้าวออกไปจากห้องรับแขกด้วยก้าวที่ยาว เดินออกไปหน้าประตู

หลิ่วเยว่เอ่อร์ยังนั่งอยู่บนพื้น เธออยู่ในสภาพที่งุนงง ยังตกใจเพราะเรื่องที่ได้ยินเมื่อกี้ เพียงเวลาสั้นๆแบบนี้เธอยังทำใจไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

รอเธอทำใจได้แล้ว ลุกขึ้นมาจากพื้น รีบวิ่งตามออกไป อยากจะถามเฟิงหานชวนให้มันชัดเจนกว่านี้

แต่ว่าตอนที่เธอพุ่งออกไปนั้น เฟิงหานชวนกำลังขับรถออกไปพอดี

หลิ่วเยว่เออร์มองไปยังรถที่ค่อยๆห่างออกไปเรื่อยๆ จนกระทั้งหายไป เธอกระทืบเท้าทั้งสองข้างอย่างแรง โกรธจนต้องขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

เธอได้ทุ่มเทแรงใจมากขนาดนี้ เพื่อจะได้อยู่ข้างกายเฟิงหานชวนแทนเฉินฮวนฮวน แต่เฟิงหานชวนกลับไร้เยื่อใยต่อเธออย่างนี้