ตอนที่ 199 อาจารย์ตอนเด็ก
หลังกินข้าวเสร็จ มู่เถาเยากับพวกตี้อู๋เปียนก็ร่ำลาคนตระกูลอวิ๋น
อวิ๋นสุ่ยเหยาจับมือมู่เถาเยากับมู่หว่านด้วยความอาลัยอาวรณ์
“พี่เยาเยา พี่เสี่ยวหว่าน เสี่ยวเหมียน ไว้สอบเสร็จฉันค่อยมาเล่นด้วยอีกนะ”
มู่เถาเยายิ้มบาง “เหยาเหยา อันที่จริงเธอกับเสี่ยวเหมียนกลับหมู่บ้านเถาหยวนไปพร้อมเสี่ยวหว่านก่อนได้นะ เดี๋ยวไว้ค่อยให้เหลียงจีไปส่งพวกเธอกลับ”
มู่หว่านยกมือพูด “เสี่ยวเยาเยา สอบเสร็จฉันค่อยมาใหม่ รอเธอปิดเทอมกลับด้วยกัน”
เจียงเฟิงเหมียนกับอวิ๋นสุ่ยเหยาพยักหน้าพร้อมกัน
“งั้นพวกเธอสามคนก็เที่ยวเล่นด้วยกันนะ ฉันไม่มีเวลาอยู่ด้วยมากเท่าไร”
มู่หว่านส่ายหน้า “เสี่ยวเยาเยา เธอทำธุระตามสบายเลย แค่พวกเราได้เจอเธอหลังตื่นนอนกับก่อนเข้านอนก็พอแล้ว”
เจียงเฟิงเหมียนพยักหน้า “ใช่ค่ะใช่ พี่เยาเยา ฉันรู้ว่าพี่งานยุ่งกว่าพ่อฉันอีก ฉันไม่กวนใจพี่แน่นอน ฉันเล่นกับพี่เสี่ยวหว่านพี่เหยาเหยาก็ได้”
“ใช่! เสี่ยวเยาเยา ฉันกับเสี่ยวเหมียนยังต้องเรียนทำอาหารกับพี่เหลียงจีอีกนะ”
อวิ๋นสุ่ยเหยา “เรียนทำอาหารเหรอ ฉันก็อยากเรียนด้วย!”
พ่ออวิ๋นแม่อวิ๋น “…”
จิ๊กโฉ่กับซีอิ๊วแยกออกหรือเปล่าเถอะลูก!
“เอาที่สบายใจแล้วกันนะ”
มู่หว่านยิ้มมุมปากด้วยความพอใจ “งั้นก็ตามนี้ พวกเราสอบเสร็จมาเรียนทำอาหารด้วยกัน!”
ย่าตี้ยิ้มกว้างพูดกับพวกเด็กสาว “ตอนสอบก็ไม่ต้องเครียดนะ ทำไปตามปกติก็พอ”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณย่า”
“อืม รีบกลับเถอะ”
คนตระกูลอวิ๋นร่ำลาทุกคน อีกทั้งยังห้ามทุกคนไม่ให้ไปส่งที่ลานจอดเครื่องบิน ส่งขึ้นรถหน้าบ้านก็พอ
หลังจากรถออกไปแล้ว ปู่ตี้ก็มองคนอื่นๆ ยิ้มพลางพูด “พวกเราก็ไปเตรียมตัวกันเถอะ”
มู่เถาเยาพยักหน้า “งั้นเดี๋ยวพวกหนูกลับไปเอาของก่อนนะคะ”
ย่าตี้ส่ายมือ “พวกหนูออกจากตำหนักพระจันทร์ตรงไปที่ลานจอดเครื่องบินเลยก็ได้นะ เดี๋ยวพวกเราเอาสัมภาระตามไป”
“ก็ได้ค่ะ งั้นพวกเรากลับตำหนักพระจันทร์แล้วนะคะ”
สองผู้อาวุโสพยักหน้า
อาจารย์อาเล็กกับพวกศิษย์พี่ใหญ่ก็ตามพวกมู่เถาเยาไปตำหนักพระจันทร์ด้วย
ทุกคนหยิบสัมภาระลงมารวมตัวกัน
เจียงเฟิงเหมียนจับมือมู่เถาเยากับมู่หว่าน สีหน้าผิดหวังนิดหน่อย “ฉันก็อยากไปหมู่บ้านเถาหยวนด้วย”
กู่ย่าเข้าไปจับลูกสาว เพราะกลัวจะทำเสียเวลา
“เสี่ยวเหมียน พวกเสี่ยวเยาเยาต้องไปส่งผู้ใหญ่บ้านมู่ที่กังตูก่อนถึงกลับหมู่บ้านเถาหยวน เลิกคุยได้แล้ว”
“ค่ะ”
มู่หว่านเดินเข้าไปโอบปลอบเจียงเฟิงเหมียน “เอาน่าๆ อีกไม่กี่วันพวกเราก็เจอกันอีกแล้ว พอถึงตอนนั้นพวกเรามีเวลาเยอะแยะเลยนะ!”
เจียงเฟิงเหมียนอารมณ์ดีขึ้นมาอีกครั้ง
พวกผู้ใหญ่ต่างหลุดขำ
พวกเด็กสาวมีความผูกพันที่เรียบง่ายและบริสุทธิ์จริงๆ
คนที่ฐานะทางบ้านดีไม่มีเย่อหยิ่งไร้มารยาท คนที่ฐานะธรรมดาก็ไม่ได้น้อยเนื้อต่ำใจ ช่างเป็นความคิดและความตระหนักรู้ที่ล้ำค่ามาก
อาจารย์อาเล็กพูดเร่งอย่างอารมณ์ดี “พวกเราไปส่งพวกเสี่ยวเยาเยาที่ลานจอดเครื่องบินเสร็จก็กลับ”
เฉิงหราน “ครับ ข้าวเย็นไปกินที่บ้านผมแล้วกัน”
“ได้! ฉันกำลังอยากดูพอดีว่านายคัดลอกไปถึงไหนแล้ว!”
“ผมลอกไปได้หนึ่งในสาม”
“ฉันก็พอกัน…”
กู่ย่าขัดจังหวะพวกเขา “พอได้แล้ว ขืนคุยต่อพวกเสี่ยวเยาเยากับเสี่ยวหว่านไม่ต้องกลับกันพอดี”
มู่เถาเยายิ้มมุมปากมองคนที่อยู่รอบๆ
“อืม ไปลานจอดเครื่องบินกันค่ะ”
พวกผู้ชายที่อยู่ตรงนั้นช่วยผู้หญิงถือสัมภาระอย่างรู้งาน
ขึ้นรถมุ่งหน้าไปที่ลานจอดเครื่องบิน
เจียงเฟิงเหมียนร้องว้าว “พี่เยาเยา เครื่องบินของพี่เท่ห์จังเลย!”
มู่เถาเยาหลุดหัวเราะ
ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรไม่สวยหรือไม่เท่ห์ในสายตาของเสี่ยวเหมียน
มีแต่ความงดงามในสายตาเธอ
กู่ย่าเข้าไปดึงลูกสาวออกอีกครั้ง “เสี่ยวเหมียน อย่าบังประตูเครื่องบินสิลูก”
อาจารย์อาเล็กกับพวกศิษย์พี่ใหญ่เอาสัมภาระขึ้นเครื่องบิน
“อาจารย์อาเล็ก ศิษย์พี่ใหญ่ กลับไปเถอะค่ะ”
“เดี๋ยวรอเครื่องบินขึ้นก่อนพวกเราค่อยกลับ เสี่ยวเยาเยา รีบขึ้นเถอะ”
“ค่ะ”
เมื่อพวกอาจารย์อาเล็กถอยไปได้ระยะหนึ่งแล้วเครื่องบินก็ทะยานขึ้นฟ้า
สองชั่วโมงต่อมาลงจอดที่สนามบินกังตู
พอลุงของมู่หว่านมารับทั้งสามคนไปแล้วเครื่องบินก็ออกบินอีกครั้ง
“พี่สาว พวกเราจะไปไหนกันเหรอฮะ”
เจ้าถุงลมน้อยตื่นเต้นมากตั้งแต่ขึ้นเครื่องบิน
“ไปบ้านพี่สาวจ้ะ”
“บ้านพี่สาวอยู่ไหนเหรอ ไม่ใช่ตำหนักพระจันทร์เหรอฮะ”
“ไม่ใช่จ้ะ ญาติพี่สาวอยู่ที่หมู่บ้านเถาหยวน”
“หมู่บ้านเถาหยวนคืออะไรเหรอ”
“เป็นหมู่บ้านในเขาที่สวยงามมาก อันเหยี่ยเคยไปกับอาเล็กยังจำได้ไหม”
“ใช่ที่ที่มีเพื่อนๆ เล่นกับอันเหยี่ยเยอะแยะเลยใช่ไหมฮะ”
“ใช่จ้ะ แต่ตอนนี้เพื่อนๆ ไม่เยอะแล้วนะ พวกเขากลับบ้านไปเรียนกันแล้ว แต่เสี่ยวเฮยเฮยอยู่ที่นั่น”
“อันเหยี่ยชอบหมู่บ้านเถาหยวน!”
ย่าตี้ยิ้มพูด “เสี่ยวเยาเยา หนูเล่าชีวิตความเป็นอยู่ของอาจารย์ใหญ่ของหนูในหมู่บ้านเถาหยวนให้ฟังหน่อยสิ”
“หน้าร้อนอาจารย์ใหญ่จะตื่นหกโมง หน้าหนาวตื่นเจ็ดโมง จากนั้นก็จะฝึกหมัดมวยพร้อมอาจารย์เล็กและทุกคนเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงค่ะ ฝึกเสร็จไปกินอาหารเช้า…ถึงแม้ตอนนี้ต้องสอนวิชาให้ทุกคนจะงานยุ่งกว่าเดิม แต่อาจารย์ดูสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นค่ะ…”
มีงานทำยิ่งทำให้คนแก่รู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์ มีความสุข
มู่เถาเยาอมยิ้ม ใช้เสียงหวานๆ ของตัวเองเล่าชีวิตความเป็นอยู่ในหมู่บ้านเถาหยวนให้ฟัง
ทุกคนฟังอย่างเพลิดเพลิน
ขณะที่มู่เถาเยาเล่า เหมือนพวกเขาได้เห็นภาพสีน้ำมันที่มีสีสัน มีชีวิตชีวา
ย่าตี้พยักหน้าด้วยสีหน้าอ่อนโยนอยู่เรื่อยๆ
“ชีวิตของอาหยวนดีจริงๆ! เสี่ยวเยาเยา หนูรู้เรื่องของอาจารย์สมัยเด็กๆ ไหม”
มู่เถาเยาส่ายหน้า
ขนาดพวกศิษย์พี่ของเธอยังไม่รู้ แล้วนับประสาอะไรกับเธอที่อายุแค่นี้
แถมอาจารย์ใหญ่ก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องสมัยก่อนให้เธอฟัง
“บ้านสกุลเฉิงของย่าเคยอยู่ติดกับบ้านสกุลหยวนของอาจารย์ใหญ่หนู…”
มู่เถาเยากะพริบตาปริบๆ ถามด้วยความงุนงง “แล้วยังไงต่อคะ”
ทำไมแค่ขึ้นต้นไม่พูดต่อล่ะ
ย่าตี้หัวเราะ
“เสี่ยวเยาเยา เรื่องมันก็ตั้งเจ็ดสิบกว่าปีแล้ว อย่าไปพูดถึงเลย รู้แค่ว่าอาจารย์หนูก็เหมือนหนูก็พอแล้ว เป็นคนที่โชคร้ายแต่ก็โชคดีมากเช่นกัน”
“อ่อ” แอบอยากรู้
แต่ย่าตี้ไม่เล่าเธอก็ไม่ถาม
ต่อไปดีกับอาจารย์ให้มากขึ้นก็พอแล้ว!
ตี้อู๋เปียน “ย่าครับ ย่ากับปู่จะอยู่หมู่บ้านเถาหยวนนานแค่ไหนครับ”
“ดูก่อนแล้วกัน แผนเดิมคือกลับพร้อมเรานั่นแหละ เรากลับเย่ว์ตูเมื่อไรย่ากับปู่ก็กลับด้วย”
มู่เถาเยา “ปู่ตี้ย่าตี้คะ ถ้าไม่มีธุระอะไรอยู่ที่หมู่บ้านเถาหยวนนานหน่อยได้นะคะ พี่รองของหนูบอกว่าปิดเทอมหน้าร้อนจะพาคุณปู่คุณย่ากับคุณตาคุณยายมาค่ะ”
“พวกเขามากันหมดเลยเหรอ แล้วหนูไม่กลับเผ่าหมาป่าพระจันทร์เหรอ”
“ต้องกลับไปสักรอบค่ะ พี่รองบอกว่าจะพาหนูไปเก็บสมุนไพร แต่คงไม่นาน ยังมีเรื่องที่ต้องทำในหมู่บ้านเถาหยวนอีกเยอะค่ะ”
“อืม”
ตี้อู๋เปียน “ซาลาเปาน้อย งั้นฉันไปเผ่าหมาป่าพระจันทร์กับเธอด้วยดีไหม ไม่อย่างนั้นจะฝังเข็มยังไง”
“ไว้ฉันแน่ใจก่อนว่าจะพักที่เผ่านานแค่ไหนค่อยว่ากันอีกที”
“อ่อ” แอบผิดหวังนิดหน่อย
ไป๋เฮ่าอวี๋ถามด้วยความสนใจ “คุณหมอเทวดา พาผมไปเก็บสมุนไพรด้วยได้ไหมครับ”
“ไม่ได้ค่ะ คุณจะเป็นตัวถ่วงพวกเรา”
“…งั้นพี่รองของคุณหมอเก่งมากเลยเหรอครับ ไม่เป็นตัวถ่วงเลยเหรอ”
“ใช่ค่ะ”
ไป๋เฮ่าอวี๋ “…”
ก็ได้ เขายอมรับว่าตัวเองมันอ่อน!