ตอนที่ 170 ร่วมมือ 1

สวี่หลิงอวิ๋นควบคุมร่างกายของวิกเตอร์ และทั้งสามคนก็วิ่งไปด้วยกันท่ามกลางลูกกระสุนทั้งหลายที่ไล่ตามพวกเขา พวกเขาเข้าไปในรถยนต์ ขณะที่หุ่นยนต์นาโนคอยช่วยเหลือพวกเขาด้วยการเร่งความเร็วของรถยนต์ และช่วยสกัดรถยนต์ด้านหลังที่กำลังไล่ตามมา

“ตอนนี้เราจะทำยังไงกันดี?” สวี่หลิงอวิ๋นดึงพลังจิตออกจากร่างกายของวิกเตอร์ ก่อนที่เธอจะหยิบอะไรบางอย่างที่พลิกคว่ำอยู่บนรถยนต์

“โอ้ มีเค้กอยู่กล่องหนึ่งด้วยล่ะ? หรือว่าเค้กชิ้นนี้จะมาจากร้านของฉันกันนะ? หึหึ จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกว่าวิกเตอร์คนนี้เป็นตัวแทนที่ทุ่มเทดีจังเลย”

หยวนซิวที่อยู่อีกด้านหนึ่งกำลังรู้สึกวิตกกังวล รถยนต์ที่อยู่ด้านหลังไล่ตามพวกเขามาอย่างกระชั้นชิด ขณะที่เสียงปืนยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ทว่าฝ่าบาทกลับเอาแต่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเค้กทั้งสองก้อน ต้องชื่นชมว่าเธอนั้นกล้าหาญเสียจริง

โอคาซีแปรสภาพพลังดวงดาวให้กลายเป็นเกราะป้องกัน ครอบคลุมรถยนต์อย่างแน่นหนาเพื่อไม่ให้คนที่ไล่ตามมาระเบิดยางรถยนต์ของพวกเขาได้

วิกเตอร์ค่อย ๆ ฟื้นขึ้นมา และทันทีที่ชายหนุ่มลืมตาขึ้น เขาก็พบเข้ากับหญิงสาวที่คุ้นเคย

เธอคือสวี่หลิงอวิ๋น เจ้าของร้านเค้กสาวน้อยสวี่

“โย่ ตื่นแล้วเหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองเขาตื่นขึ้นมา ขณะเคี้ยวเค้กที่อยู่ในปากของเธอ “เป็นยังไง ฟินเลยไหม?”

วิกเตอร์ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ทว่าเสียงปืนที่อยู่ด้านหลังเขาดังก้องมากจนยากที่จะละเลย

“พวกคุณทำอะไรลงไป?” วิกเตอร์ขมวดคิ้ว และจ้องมองหยวนซิวที่นั่งประหม่าอยู่ด้านข้างเขา “พวกคุณเป็นพวกเดียวกันเหรอ?”

“บิงโก! เป็นดาราที่ฉลาดจังนะ” สวี่หลงอวิ๋นพยักหน้า “ใช่แล้ว”

“ถ้าอย่างนั้น ผลการทดสอบยีนกรรมพันธุ์ของพวกคุณก่อนหน้าก็เป็นของปลอมเหรอ?”

“ใช่!” สวี่หลิงอวิ๋นยิ้ม “โอ้ แต่ว่าตอนนี้พวกเราทั้งหมดอยู่ข้างเดียวกันแล้ว เพราะงั้นไม่ต้องเกรงใจกันไปหรอก คุณน่ะ…ก็มาร่วมมือกันพวกเราเถอะ!”

“คุณทำบ้าอะไรลงไป?” วิกเตอร์รู้สึกราวกับว่าหัวสมองของเขากำลังหมุน สวี่หลิงอวิ๋นต้องทำอะไรที่ไม่ดีลงไปอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้น ทำไมพวกเขาถึงหลบหนีมาด้วยกันได้?

นอกจากนี้ พอเขามองดูเวลาบนรถยนต์แล้ว ความทรงจำของเขาหายไปเกือบครึ่งชั่วโมง

“พวกคุณแก้ไขความทรงจำของผมเหรอ?”

“ดูคุณพูดเข้า แก้ไขความทรงจำของคุณหมายความว่ายังไง? ฉันก็แค่ขอยืมร่างของคุณเท่านั้นเอง” สวี่หลิงอวิ๋นกล่าวและยกยิ้ม “ไม่ต้องห่วง การร่วมมือกับพวกเราจะมีแต่ผลประโยชน์ ไม่มีข้อเสียอะไรทั้งนั้น”

“ไม่มีข้อเสีย? แล้วทำไมตอนนี้ผมถึงถูกตามไล่ล่าและตามสกัดกั้นล่ะ?” วิกเตอร์เอื้อมมือออกไปกุมหน้าผาก

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อมองดูการไล่ล่าที่ยิงปืนใส่เขาจากด้านหลังโดยไร้ความปรานี เขาก็พอจะคาดเดาได้ว่าตอนนี้ตัวเองคงถูกขึ้นบัญชีดำของพ่อตนเองแล้ว

“แน่นอนว่ามีแต่ผลประโยชน์” สวี่หลิงอวิ๋นกล่าว “พวกเราเป็นมนุษย์ต่างดาวที่รู้จักกันดีว่ารักสันติภาพ พวกเราสามารถแลกเปลี่ยนการใช้เทคโนโลยีได้ แค่ให้มั่นใจว่าชีวิตของพวกเราจะปลอดภัยและไม่ถูกรบกวนเท่านั้น”

“คุณรู้ไหมว่าคำขอของคุณมันยากแค่ไหน? และตอนนี้ผมก็กลายเป็นคนทรยศไปแล้ว” วิกเตอร์ส่ายหัว

เขาไม่อาจกล่าวอะไรออกไปได้ ไม่ว่าจะมีเหตุผลมากแค่ไหน และตอนนี้กลับไม่สามารถอธิบายมันออกมาได้

“ไม่ต้องกังวล ในเมื่อฉันวางแผนจะร่วมมือกับคุณแล้ว ก่อนอื่นฉันจะรับประกันความปลอดภัยของคุณ และรับประกันสถานะของคุณ” สวี่หลิงอวิ๋นหลอกล่อเขา “คุณไม่อยากจะเป็นคณบดีคนถัดไปเหรอ?”

หัวใจของวิกเตอร์เต้นรัว!

ใครบ้างที่จะไม่อยากเป็นคณบดี? นั่นเป็นตำแหน่งที่ผู้คนปรารถนาและยังมีอำนาจมากที่สุด ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นบุตรนอกกฎหมาย เขาคงจะกลายเป็นนักวิจัยอาวุโสในสถาบันการวิจัยไปแล้ว หรือได้เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง

แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเขาเป็นบุตรนอกกฎหมายที่ทายาทตามกฎหมายต่างรู้สึกหวาดกลัว จนถูกบีบบังคับให้กลายมาเป็นนักแสดง

เมื่อคิดดูแล้วต่อให้จะล้มลุกคลุกคลานอย่างไร แท้จริงแล้วเขาก็ยังเป็นนักแสดงชายในสายตาของผู้มีเกียรติ

จะมีวิธีการอะไรอีก? ในเมื่อทายาททั้งหลายต่างรู้สึกหวาดกลัวเขา จนชายหนุ่มต้องทำให้ชีวิตของตนเองปลอดภัยและคอยทำให้ชีวิตของแม่ดีขึ้น ดังนั้นจึงต้องหลบซ่อนอยู่ในขอบเงาของตนเองและกลายเป็นนักแสดงที่ไร้พิษภัย

หากวิกเตอร์กลายเป็นคณบดี ไม่เพียงแต่จะทำให้ชีวิตของแม่สงบสุขมากขึ้น แต่ยังทำให้รู้ถึงการเติมเต็มความทะเยอทะยานของเขาอีกด้วย

“เฮ้ คุณพ่อก็มีลูกชายตั้งหลายคน ทำไมคุณไม่มองหาพวกเขาแทนล่ะ?” วิกเตอร์หรี่ตาลง ขณะรอคอยคำเสนอแนะที่พึงพอใจ “คุณคิดว่าผมจะควบคุมได้ง่ายใช่ไหม?”

สวี่หลิงอวิ๋นหันกลับมามองเขาด้วยท่าทีงุ่มง่าม และครุ่นคิด โดยที่วิกเตอร์ยังคงพูดต่อ “คุณไม่ต้องพูด เพราะดูจากสถานการณ์ของคุณ มันคงดีกว่านี้ถ้าคุณรีบสลับตัวผมกับใครสักคน สู้เปลี่ยนเป็นบ๊อบจะดีกว่าไหมครับ? หรือเปลี่ยนเป็นทายาทสักคนก็ได้? คุณคิดว่าไงครับ?”

วิกเตอร์กล่าวออกมาโดยสรุป สวี่หลิงอวิ๋นคิด ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงเหนือการคาดหมายนักล่ะ?

หยวนซิวพยักหน้าเห็นด้วย ไม่เลว แทนที่จะเปลี่ยนเป็นใครสักคน อย่างไรเสีย ชายคนนี้ก็ค้นพบพวกเขาแล้ว สู้ฆ่าปิดปากไม่ดีกว่าเหรอ?!

วิกเตอร์รู้สึกตกตะลึงกับท่าทางอาฆาตแค้น เขากำลังจะถูกฆ่าอย่างนั้นเหรอ?

“นี่ พวกเรามีมนุษยธรรมพอ ไม่เขี่ยใครทิ้งหลังจากใช้ประโยชน์หมดแล้วหรอก!” สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองวิกเตอร์ที่อยู่ในท่าทางหวาดกลัวเล็กน้อย และรู้สึกโล่งใจในท้ายที่สุด

ผู้ชายคนนี้ฉลาดเกินไป ถึงบางครั้งเขาจะดูเซ่อซ่า หรือว่าจะต้องขู่ให้เขารู้สึกหวาดกลัว เพื่อจะได้มาร่วมมือกับพวกเธอ!

วิกเตอร์เป็นคนที่เฉลียวฉลาด “บอกผมทีว่าพวกคุณกำลังจะทำอะไร?”

หากมีข้อบกพร่องหรือผิดพลาดก็แค่ปล่อยให้มันเป็นไป อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาไม่มีที่ให้หลบหนีอีกต่อไปแล้ว หากร่วมมือกับพวกเขา บางทีเขาอาจจะเอาชนะได้?!

“ก็ใช่น่ะสิ เวลาคุยกับคนฉลาดมันง่ายกว่ากันเยอะ” สวี่หลิงอวิ๋นพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “แต่ตอนนี้คุณต้องคาดเข็มขัดนิรภัยก่อน!”

“อะไรนะ?” วิกเตอร์ตกตะลึง จากนั้นเขาก็รู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขากำลังลอยอยู่ในอากาศ เมื่อเหลือบมองออกไปข้างนอก ไอ้เชี่ย! พวกบ้านี่ขับรถยนต์ตรงไปที่ทะเลสาบ!

“พวกคุณไม่อยากมีชีวิตรอดกันหรือไง?!” คำพูดดังกล่าวดังขึ้นพร้อมกับเสียงกรีดร้องอันน่าสะพรึงของเขา ขณะที่กระแสน้ำเย็นยะเยือกในทะเลสาบไหลเวียนเข้าสู่รถยนต์ สวี่หลิงอวิ๋นคว้าคอเสื้อของเขาเอาไว้ ส่วนหยวนซิวถีบประตูจนเปิดออก กลุ่มคนทั้งสี่คนว่ายน้ำจากก้นบึ้งทะเลสาบไปยังพื้นที่ที่ห่างไกลหลายกิโลเมตร

ทั้งสี่คนไต่ขึ้นมาบนฝั่งที่ว้าเหว่

บ๊อบที่ไล่ตามพวกเขาไม่รู้ว่านี่เป็นกลยุทธ์ของวิกเตอร์หรือเป็นกลยุทธ์ของมนุษย์ต่างดาว กระสุนทั้งหลายจึงไม่สามารถเจาะยางรถยนต์ได้ อีกทั้งมันยังกระเด้งกลับมาหารถยนต์ของพวกเขา จนทำให้รถยนต์หลายคันของพวกเขาเสียหาย

และเมื่อไล่ตามมาจนกระชั้นชิด รถยนต์กลับแล่นดิ่งลงไปในทะเลสาบ และจมลงสู่ก้นบึ้งทะเลสาบโดยไร้ปฏิกิริยาเคลื่อนไหว

“รีบไปเอาขึ้นมาจากน้ำซะ! จะอยู่ต้องเห็นคน จะตายต้องพบศพ!” บ๊อบกำลังลนลาน

หากพ่อของเขารู้ว่าเขาไล่ตามมนุษย์ต่างดาวจนตกลงไปในทะเลสาบและเสียชีวิต ไม่รู้ว่าเขาจะถูกปลดเครื่องแบบหรือไม่?!

บ๊อบรู้สึกประหม่าเล็กน้อย

โชคดีที่กะลาสีทั้งหลายดำลงไปและพบว่าไม่มีใครติดอยู่ในซากรถยนต์ แสดงว่ามนุษย์ต่างดาวพวกนั้นหนีไปได้

ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถช่วยชีวิตของตนเองเอาไว้ได้ ทว่าปัญหาอันใหญ่หลวงก็ยังคงเหลืออยู่ นั่นคือมนุษย์ต่างดาวหนีไปแล้ว พ่อจะไม่รู้สึกโกรธยิ่งกว่าเหรอ?!

ถึงจะเสียชีวิตลงแต่ก็ยังมีซากศพหลงเหลืออยู่ แต่ตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่ และจับไม่ได้แม้แต่ร่างกาย!

บ๊อบยังคงรู้สึกขุ่นเคือง!

อยากจะซ่อนเอาไว้แต่ก็ซ่อนไม่ได้ เพราะเขาเคลื่อนไหวอย่างเอะอะและเอิกเกริก หรือควรเอาหน้าด้วยการบอกพ่อว่าวิกเตอร์คือสายลับดี? อย่างไรเสีย ตอนนี้เขาก็สูญเสียทั้งภรรยาสูญเสียทั้งการงานแล้ว!