ตอนที่ 8 ผู้ที่อยู่ภายในของจอมวายร้าย 08

Akuyaku Reijou no Naka no Hito

ผู้ที่อยู่ภายในของจอมวายร้าย 08

ปัญหามลพิษและความบ้าคลั่งถูกแก้ไขไปพร้อมๆกัน โลกปีศาจเข้าสู้ยุคสมัยแห่งความสงบสุขเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ข้าแสดงความเป็นกังวลถึงมลพิษที่ยังตกค้างอยู่ในโลกปีศาจ และขออยู่ต่อที่นี่เพื่อชำระล้างพวกมัน แองเจิ้ลจึงบอกกับข้าว่า ‘เจ้าอย่าได้ลำบากเพื่อพวกเรามากไปกว่านี้เลย’ ข้าจึงตอบไปว่า ‘ถ้าอย่างนั้น ท่านช่วยข้าเรื่องหนึ่งได้ไหม’

หากต้องลงแรงเพียงเท่านี้เพื่อแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่ข้าต้องการได้ มันก็คุ้มค่า เภสัชศาสตร์ของเผ่าปีศาจแต่ต่างกับของมนุษย์อย่างมาก หากข้าต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองตั้งแต่ต้น มันจะใช้เวลานานกว่าจะเชี่ยวชาญจนผลิตของที่ต้องการออกมาเองได้สำเร็จ ในกรณีนี้ ข้าสามารถขอความร่วมมือจากเภสัชกรเผ่าปีศาจได้

ในเกมมีสิ่งที่เรียกว่า ‘ไอเทมลดค่าความชอบ’ เนื่องจากมีบางเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีค่าความชอบอยู่ในระหว่างช่วงที่กำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งบางส่วนถูกเพิ่มเข้ามาในภายหลัง จึงมีปัญหาตามมาว่า ‘สามารถดูเหตุการณ์ย้อนหลังผ่านหน้าข้อมูลตัวละครได้เลยถ้าค่าความชอบผ่านจุดนั้นมาแล้ว แต่ผู้เล่นก็อยากเก็บภาพเหตุการณ์เหล่านั้นโดยตรงมากกว่า’ จึงมีไอเทมชนิดนี้ตามออกมาเพื่อตอบสนองข้อเรียกร้องเหล่านั้น

ผู้เล่นที่สวมบทบาทระดับลึกบางคนนิยมใช้ไอเทมนี้หลายครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้ค่าความชอบสูงเกินไป เช่น ‘ดีลคุงตอนที่ยังซึน น่ารักกว่า’

ข้าต้องการใช้มันกับวิลเลียดและคนอื่นๆเพื่อทำให้ความรู้สึกที่พวกเขามีต่อพีน่าหายไป แต่ก็ไม่ต้องการให้ความรู้สึกต่อ ‘เรมิเลีย’ ที่เอมิสร้างไว้หายไปด้วย จึงต้องทำให้แองเจิ้ลเข้าใจก่อนว่า ‘ข้าอยากหยุดยังแผนการของคนผู้ชั่วร้ายที่กล่าวหาข้าอย่างผิดๆ’ แล้วจึงขอร้องกับเขา ‘ข้าต้องการยาที่ลบล้างผลจากยาของเผ่าปีศาจที่ชักนำความรู้สึกของมนุษย์’ หรืออะไรก็ตามที่ส่งผลแบบเดียวกัน

“…เรมิเลีย เจ้ายัง… มีความรู้สึกให้ผู้ชายที่ชื่อวิลเลียดนั่นอยู่หรือเปล่า?”

“ไม่… ต่อให้เขาถูกล่อลวงด้วยความรักที่ปลอมขึ้นมา แต่เขาก็ได้ปฏิเสธสายสัมพันธ์และความไว้ใจที่ได้สั่งสมกันมาช้านาน… ข้าก็แค่อยากให้อภัยพวกเขาที่ถูกควบคุมจิตใจ เพียงเท่านั้น…”

“งั้นหรือ”

ข้าไม่ได้มองหน้าเขาตรงๆแต่ก็เห็นด้วยหางตาว่าแองเจิ้ลถอนหายใจด้วยความโล่งอก ข้าพูดต่อไปเหมือนไม่เห็นถึงปฏิกิริยานั้นของเขา

 

“อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ทำการหลองลวงด้วยเจตนาร้ายคือหญิงสาวที่ชื่อพีน่า… ผู้ที่อ้างตนว่าเป็นหญิงสาวแห่งดวงดาว เริ่มจากขโมยหัวใจเจ้าชายวิลเลียดคู่หมั้นของข้า จากนั้นก็น้องชายของข้า และบุรุษคนอื่นๆก็ตกอยู่ในมือของนาง ข้ายินดีรับการถอนหมั้นหากนั่นเป็นความต้องการของวิลเลียด แต่ผู้หญิงคนนั้นยังอยู่ข้างกายของมกุฎราชกุมารในขณะที่ติดพันกับบุรุษมากหน้าหลายตาไปพร้อมๆกัน เพื่ออนาคตของประเทศแล้ว ข้าจะปล่อยให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้…”

“เรมิเลีย ข้ายกย่องในความใจกว้างของเจ้าจริงๆ แม้ว่าจะผ่านเรื่องร้ายๆมาขนาดนั้น”

ดวงตาของแองเจื้ลมีแต่ความเห็นใจ ข้ายิ้มอย่างเศร้าสร้อยโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า จากมุมมองของอแงเจิ้ลจะดูเหมือนข้ายิ้มด้วยความเหงา

ใจกว้าง? งั้นหรือ? ใช่แล้ว ข้าจะปล่อยให้ผู้หญิงที่ทำร้ายเอมิมีชีวิตอยู่ต่อไป ไม่ฆ่าให้ตายและไม่ปล่อยให้เป็นอิสระ ข้าจะลงโทษมันให้เจียนตาย และเฝ้าดูความทุกทรมานของมันไปตราบนานเท่านาน

ในตอนที่ข้าขอให้เขาคิดค้นสิ่งที่ถอดถอนผลจาก ‘ยาเสน่ห์’ ข้าเตือนเขาไปว่า ให้ระวังไอเทมที่มีผลต่อจิตใจของเผ่าปีศาจ โดยอ้างว่า ‘สิ่งนั่นมีอยู่ในความทรงจำของหญิงสาวผู้กอบกู้…’ ในรายระเอียดของไอเท็มสำหรับเพิ่มความชอบของเผ่าปีศาจจะมีข้อความว่า ผลิตจากส่วนผสมต้องห้าม ข้าบอกเขาไปโดยอ้างว่ารู้มาจากความทรงจำที่ได้รับมาอีกเช่นกัน สิ่งนั้นจะทำให้จิตใจของเผ่าปีศาจเปลี่ยนไปจนอาจเป็นอันตรายต่อตนเอง แองเจิ้ลรู้ได้ทันทีว่าข้าไม่ได้โกหก เขาจึงรับฟังคำแนะนำของข้าอย่างจริงจัง

มีวัตถุดิบบางอย่างที่ใช้ผลิตยาที่ส่งผลแบบนั้นอยู่จริง และแองเจิ้ลออกคำสั่งห้ามขายสิ่งนั้นออกนอกประเทศเพราะมันสามารถสร้างจุดอ่อนให้กับเผ่าปีศาจได้ เท่านี้พีน่าก็หมดหนทางที่จะตีสนิทกับเผ่าปีศาจได้แล้ว ข้าพูดขอบคุณจากใจจริงด้วยรอยยิ้มอันสดใสให้กับแองเจิ้ล ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความยินดี

นอกจากนั้น ข้าได้ฝึกเวทมนตร์เฉพาะของเผ่าปีศาจจนเริ่มเชี่ยวชาญ จึงทำการช่วยสอดส่องไปยังหลักฐานในการเอาผิดเรมิเลียที่ยังเก็บไว้ที่พระราชวัง อา เธอคนนั้นจัดฉากได้เก่งจนข้าต้องยอมรับ ยกตัวอย่างเช่น ‘บุตรีดยุกเรมิเรีย ตบหน้าหญิงสาวแห่งดวงดาว พีน่า ที่สวน จากนั้นก็หยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดมือข้างนั้นด้วยท่าทางขยะแขยงก่อนจะโยนมันทิ้งไป’

จากหลักฐานและคำให้การจากพยานฝั่งหญิงสาวแห่งดวงดาว มีทั้ง ‘จดหมายเรียกตัวหญิงสาวแห่งดวงดาวไปที่สวนในวันนั้น’ ‘เห็นบุตรีดยุกเรมิเรียเดินไปหาหญิงสาวแห่งดวงดาวจากทางเดิน’ ‘เดินสวนกับบุตรีดยุกเรมิเรียที่ดูท่าทางหงุดหงิดอย่างรุนแรงด้านหน้าของสวน’ ‘ผ้าเช็ดหน้าของบุตรีดยุกเรมิเรียตกอยู่ข้างพีน่าที่นั่งร้องไห้อยู่กับพื้น’ ในมุมมองของคนนอก เรื่องนี้มีพยานและหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจน

มีแต่ข้าที่ยืนยันได้ว่าเอมิไม่เคยทำเช่นนั้น เพราะข้าเฝ้ามองจากภายในอยู่ตลอดเวลา

“เรื่องการทำร้ายเป็นที่แน่นอนแล้ว แต่มีใครเห็นกับตาว่าคุณหนูกราปเนอร์อยู่ที่นั่นบ้าง…?”

“อื่ม ผมคิดว่าเห็นคนที่คล้ายกับคุณหนูกราปเนอร์เดินไปแถวนั่น” (คนอื่นที่เห็นการทำร้ายก็มี แค่นี้ไม่ถือว่าโกหก)

“มีหลักฐานเป็นฝ้าเช็ดหน้าที่เธอบอกว่า ‘สกปรก’ จึงได้ทิ้งไว้หลังการทำร้าย แต่ตอนนี้ต้องการพยานที่เห็นว่าเธอตบหน้าจริงๆ… สาวใช้ของท่านเรมิเลียยืนยันแล้วว่าท่านเรมิเลียให้ส่งจดหมายเรียกตัวฉบับนั้น… แล้ว ‘คนที่อยู่บนระเบียงในเวลานั้น’ มองลงมาเห็นอะไรบ้างไหม?’”

“ตอนนั้นช่วงย้ายห้องเรียนพอดี ไม่มีใครเห็นอะไรบ้างเลยเหรอ?”

“อื่ม ฉันเหมือนจะเห็นท่านเรมิเลีย หรือเปล่านะ?” (แม้แต่สาวใช้ส่วนตัวยังกล้ามาเป็นพยานให้ แสดงว่าผู้ทำการสืบสวนคือเบื้องบน ในเมื่อเรื่องมันชัดเจนขนาดนี้แล้ว เข้าข้างทางนี้จะมีประโยชน์กว่าสินะ?)

“คุณหนูกราปเนอร์! โปรดรอก่อนค่ะ!”

“หืม นั่น… ท่านพีน่า หญิงสาวแห่งดวงดาว…?”

“ท่านไลฟอร์ดจากตระกูลเคานต์…”

“ผมได้ยินท่านเรียกคุณหนูกราปเนอร์ เกิดอะไรขึ้น?”

“เมื่อกี้นี้ เธอทำผ้าเช็ดหน้าที่ดูราคาแพงตกไว้… จากสัญลักษณ์ที่ปักอยู่ มันน่าจะเป็นของตระกูลกราปเนอร์ใช้ไหม…?”

“ใช่แล้ว ในโรงเรียนนี้มีแต่ท่านเรมิเลียจากตระกูลดยุกกราปเนอร์เท่านั้นที่มีสิทธิ์ใช้สัญลักษณ์นี้… แล้วทำไมท่านถึงลงไปนั่งกับพื้น นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

“เอ่อ… ไม่มีอะไร… ฉันผิดเองที่เป็นแค่สามัญชนแล้วยังไม่เจียมตัว… อึก”

“! แก้มของท่านมีรอยแดงอยู่นี่นา”

“เพราะฉันใกล้ชิดกับมกุฎราชกุมารกับคนอื่นๆมากเกินไป ฉันมันไร้มารยาท สมควรถูกสั่งสอน… เพราะฉะนั้น คุณหนูกราปเนอร์ก็เลย…”

“! เรื่องนี้จะปล่อยผ่านไปไม่ได้… ไปรายงานด้วยกัน ผมจะเป็นพยานให้เอง”

“อย่านะ… ท่านไลฟอร์ดไม่ได้เห็นเหตุการณ์จริงๆ และผ้าเช็ดหน้าผืนเดียวก็ใช้เป็นหลักฐานกล่าวหาคนตระกูลดยุกว่าทำร้ายร่างกายไม่ได้…”

“แต่เรื่องนี้…”

“เพราะฉะนั้น หากท่านถูกสอบถามก็ควรพูดแต่ความจริง… เช่น ท่านยืนยันได้ว่าผ้าเช็ดหน้าผื่นนี้เป็นของที่คุณหนูกราปเนอร์ทึ้งเอาไว้…”

“แค่นั้นไม่พอ… อย่างน้อยผมต้องบอกไปว่าผมเก็บหลักฐานชิ้นสำคัญนี้ได้ในที่เกิดเหตุ…”

“ท่านไลฟอร์ด… แบบนี้จะไม่เป็นไรเหรอ?

“ถ้าผมมาเร็วกว่านี้สักสามก้าว ผมก็จะเป็นคนที่เก็บผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ต่อหน้าท่านพีน่าที่เพิ่งถูกทำร้าย และอาจจะได้เดินสวนกับคุณหนูกราปเนอร์จริงๆอีกด้วย” (ก่อนหน้านี้เหมือนจะเดินผ่านผู้หญิงผมสีทอง…? ถ้าอย่างนั้นคุณหนูกราปเนอร์ก็ทำลงไปจริงๆ ทั้งที่องค์ชายแค่ดูแลหญิงสาวแห่งดวงดาวตามหน้าที่เท่านั้น ความหึงหวงของผู้หญิงนี่มันรุนแรงจริงๆ ผมจะไม่โกหกถึงขั้นบอกว่าเห็นการตบหน้ากับตาก็ได้ แต่จะปล่อยเอาไว้แบบนี้ก็ไม่ได้เหมือนกัน)

“เข้าใจล่ะ…”

การจัดฉากใส่ร้ายทั้งหมดเกิดขึ้นภายในโรงเรียน ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง หากข้าจับตาดูความเป็นไปในอดีตเฉพาะที่โรงเรียน ก็จะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นได้ทุกอย่าง เป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นน่าจะไปเป็นนักแสดงมากกว่าเป็นหญิงสาวแห่งดวงดาวเสียอีก

ในตอนแรก ข้าคิดจะสอดส่องอดีตของตัวบุคคลผู้ที่เป็นพยานเท็จโดยตรง แต่แองเจิ้ลบอกเอาไว้ว่า ‘หากใช้กับคน ถ้าไม่มีความเข้ากันได้ วิญญาณของอีกฝ่ายจะเสียหาย’ เอมิที่ไม่ต้องการให้มีคนอื่นต้องรับเคราะห์ย่อมไม่คิดทำเช่นนั้น

ขอบคุณสวรรค์ ที่ข้าได้เรียนรู้เวทมนตร์ ‘กระจกน้ำสะท้อนอดีต’ ของเผ่าปีศาจ ไม่อย่างนั้นข้าต้องทำขั้นตอนยุ่งยากอีกมากมายหากไม่มีมัน

เป็นเรื่องปรกติของปีศาจที่จะสร้างเขตแดนป้องกันพื้นที่ส่วนตัวเอาไว้เพื่อไม่ให้เวทมนตร์นี้ลุกล้ำความเป็นส่วนตัวของพวกเขา หรือเพื่อเก็บบางอย่างให้เป็นความลับ แต่มนุษย์ไม่สามารถป้องกันมันได้ ไม่รู้ถึงตัวตนของเวทมนตร์ชนิดนี้ด้วยซ้ำ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนจึงถูกข้าบันทึกไว้ราวกับภาพยนตร์

เวทมนตร์ชนิดนี้ไม่มีในแฟนบุ๊คของเอมิ โชคดีที่แองเจิ้ลแนะนำมันให้กับข้า

ภาพฉากสำคัญเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นทั้งหมดถูกข้าบันทึกไว้ในอัญมณีเวทมนตร์ทีละก้อน หลายก้อนถูกเขียนชื่อกำกับไว้ด้วยชื่อเดียวกัน พวกมันเป็นของสาวใช้กับคนคุ้มกันที่ทรยศ ‘เรมิเลีย’ คนร้ายผู้ที่จงใจทำเรื่องเลวร้าย ขโมยของใช้ส่วนตัวของเรมิเลียไปปลอมแปลงเป็นหลักฐาน ผู้ที่สนับสนุนการกระทำอันชั่วช้าของพีน่าโดยอ้างเวลาที่เรมิเลียจะอยู่คนเดียว เหตุการณ์เหล่านั้นของพวกเขามีมากเกินกว่าที่จะถูกบันทึกได้ในครั้งเดียว

หากจัดเก็บในกล่องที่แบ่งเป็นช่อง และเขียนชื่อลงแต่ละช่องให้สวยงาม มันก็จะเหมือนกับของสะสมราคาแพง ด้วยสิ่งนี้ ทุกคนที่ช่วงชิงความสุขของเอมิ… ‘ความสุขของจอมวายร้ายเรมิเลีย’ ของเอมิ จะถูกลากคอมารับโทษทัณฑ์ที่พวกมันก่อ ช่างน่ายินดีเหลือเกิน

“เรมิเลีย เจ้าดูร่าเริงจังนะ”

“ค่ะ… เพราะในที่สุด ข้าก็มีวิธีปลดปล่อยเจ้าชายวิลเลียด น้องชายผู้น่ารัก และเพื่อนสมัยเด็กของข้า ให้หลุดพ้นจากการความรักปลอมๆนี่ได้สักที”

“จริงสิ… มีรายงานมาว่ายาถอนยาเสน่ห์พร้อมใช้งานแล้ว”

“จริงหรือคะ…?”

“ใช่แล้ว …และต้องขอบคุณเจ้าด้วย เรมิเลีย ข้าคนเดียวไม่สามารถติดตั้งประตูเคลื่อนย้ายได้หากไม่ได้เรมิเลียช่วย การประชุมครั้งนี้จะไม่มีทางเกิดไปได้ถ้าไม่มีเจ้า เรมิเลีย”

ประตูเคลื่อนย้ายที่มีไว้เพื่อส่งผ่านคนและสิ่งของได้อย่างไม่จำกัด แต่พิกัดของมันจะคงที่เสมอ แตกต่างประตูสีชมพูที่หุ่นยนต์แมวควักออกมาจากกระเป๋าหน้าท้องในความทรงจำของเอมิ ในที่สุด นอกจากข้าแล้วก็มีคนอื่นที่เดินทางไปมาได้อย่างง่ายดายสักที เพราะโลกปีศาจกับทวีปหลักถูกแยกออกจากกันด้วยมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ทางเดียวที่แองเจิ้ลจะเดินทางไปยังดินแดนมนุษย์คือต้องออกเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล และเวทมนตร์โบราณ… พิธีกรรมอัญเชิญปีศาจ ทำได้เพียงแลกเปลี่ยนสินค้าเท่านั้น แม้จะเห็นหน้าตาและพูดคุยกันได้ แต่ก็ไม่สามารถเดินทางไปมาได้อย่างอิสระ

…วงเวทเคลื่อนย้ายตามปรกติจะอนุญาตให้ผ่านได้เฉพาะวัตถุ ตัวผู้ร่าย และสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอกว่าตัวผู้ร่ายอย่างมาก จึงมีแต่ปีศาจที่อ่อนแอจนสามารถแฝงตัวอยู่ในดินแดนของมนุษย์ได้อย่างกลมกลืนเคลื่อนย้ายไปได้ แองเจิ้ลผู้ไม่มีความเข้ากันได้กับเวทมนตร์เคลื่อนย้ายนั้น ไม่มีใครสามารถพาเขาข้ามไปอีกฝั่งได้แม้แต่ตัวข้าเอง

อนึ่ง ประตูเคลื่อนย้าย ความรู้ และวัตถุดิบในการสร้าง จะถูกกล่าวถึงในเกมในช่วงก่อนที่จะเดินทางไปถึงแผ่นดินที่เรียกว่าโลกปีศาจ ก่อนหน้านั้นจะมีการใช้เรือเหาะหรือสิ่งที่คล้ายๆกันสำหรับการขนส่ง ปรากฏออกมาก่อน และในบทของโลกปีศาจ จะมีผู้คนที่ต้องการเดินทางไปมาระหว่างทวีปหลักกับโลกปีศาจอยู่บ่อยๆ ข้าจึงทำการพัฒนาประตูเคลื่อนย้ายจากความรู้ที่มีอยู่นี้

“พรุ่งนี้ข้าจะเดินทางไปพบกับราชวงศ์ที่ปราสาทบลูเฟลม… เรมิเลีย เจ้าอยากไปด้วยกันหรือเปล่า?”

“ไม่ได้ค่ะ ข้าคิดไว้ว่าจะทำให้ความเข้าใจผิดของพวกเขาที่มีต่อข้าคลี่คลายลงก่อน… หากข้างกายของท่านมีคนชั่วผู้ทำร้ายหญิงสาวแห่งดวงดาวเป็นผู้ติดตาม ผู้คนจะคิดว่าแองเจิ้ลเป็นราชาผู้ชั่วร้าย…”

“แม้แต่โอกาสเช่นนี้เจ้าก็ยังเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเอง… เรมิเลีย ถ้าการทูตในครั้งนี้สำเร็จลงได้ด้วยดี เจ้ากับข้า…”

“…ข้ากับแองเจิ้ล?”

“เปล่า… ไม่มีอะไร ถ้าทุกอย่างจบลงอย่างมีความสุขเมื่อไหร่ ข้ามีบางอย่างอยากจะพูดกับเจ้า”

“เรื่องอะไรกันนะ”

หึหึหึ ข้ายิ้มอย่างไร้เดียงสาเหมือนไม่เข้าใจสิ่งที่เขาต้องการบอก แต่ข้ารู้ ว่าแองเจิ้ลคิดจะขอข้าแต่งงาน

เขาจะยังไม่ขอเรมิเลียแต่งงานในตอนนี้เพราะเขากังวลว่าเธอยังเหลือเยื่อใยต่อวิลเลียด ถ้าความจริงทั้งหมดถูกเปิดเผยแล้ววิลเลียดขอโทษเรมิเลียจากใจ แม้เธอจะบอกไปแล้วว่าไม่คิดกลับไปคืนดีแต่ก็มีโอกาสเปลี่ยนใจเมื่อได้เห็นชายที่เคยรักก้มหัวขอโทษทั้งน้ำตา เมื่อเป็นเช่นนั้นจะกลายเป็นว่าคำพูดของเขาจะเป็นการผูกมัดเรมิเลีย

ดังนั้น จนกว่าเขาจะมั่นใจว่าเรมิเลียสามารถตัดขาดจากอดีตคู่หมั้นได้โดยไม่เหลือความอาวรณ์ แองเจิ้ลถึงจะยอมสารภาพความในใจออกมา แต่ไม่จำเป็นต้องห่วง ตัวข้าจะไม่ยอมให้ผู้ชายที่ไม่เชื่อใจและหักหลังเอมิเป็นคนปกป้องดูแลความสุขของเรมิเลีย และที่สำคัญ ผู้หญิงคนนั้นบอกกับเอมิว่าคนโปรดของเธอคือราชาปีศาจแองเจิ้ล ข้าอยากจะให้พีน่าได้เห็นภาพที่ข้าควงแขนแองเจิ้ลเหลือเกิน