ตอนที่ 193 ปะทะคารม

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

นี่​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​อีกแล้ว​?

หวัง​ซี​อด​ไม่ได้​แลกเปลี่ยน​สายตา​กับ​ฉัง​เคอ​ครั้งหนึ่ง​ ​มีเสียง​ร้อนใจ​ของห​มัว​มัว​ผู้​นั้น​ดัง​ขึ้น​ที่​ข้าง​หู​ว่า​ ​“​คุณหนู​สี่​ ​คุณหนู​หวัง​ ​ในที่สุด​พวก​ท่าน​ก็​กลับมา​แล้ว​!​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เอา​อีกแล้ว​เจ้าค่ะ​ ​ร้องห่มร้องไห้​ไป​ทั้ง​บ่าย​ ​ใคร​ปลอบ​ก็​ไม่​เป็นผล​ ​นาย​หญิง​สาม​ให้​บ่าว​รอยู​่​ที่นี่​ ​หาก​เห็นท่าน​ทั้งสอง​กลับมา​ ​ให้​แจ้ง​ท่าน​ทั้งสอง​สักครั้ง​ว่า​อย่า​เพิ่ง​ไป​คารวะฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​หาก​พรุ่งนี้​เช้าฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ถาม​ขึ้น​มา​ ​ให้​พวก​ท่าน​บอก​ไป​ว่า​ตอน​ไป​คารวะฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​นั้น​ถูก​โหวฮู​หยิน​ขวาง​เอาไว้​นอก​ห้อง​”

ทั้งสอง​คน​ประหลาดใจ​ยิ่งนัก

ห​มัว​มัว​ผู้​นั้น​เดิน​นำ​ทั้งสอง​เข้า​เรือน​ชั้นใน​ไป​ด้วย​ ​กระซิบ​กล่าว​ไป​ด้วยว่า​ ​“​คุณหนู​ทั้งสอง​ท่าน​ออก​ไป​ตัด​อาภรณ์​ข้างนอก​มิใช่​หรือ​ ​ไม่รู้​ว่า​ผู้ใด​ปากมาก​ ​เอา​ไป​เล่า​ให้ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ฟัง​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​จึง​จับมือ​คุณหนู​ซือ​เอาไว้​ร้องไห้​ออกมา​ในทันที​ ​พูด​อะไร​ทำนอง​ว่า​คุณหนู​ซือ​ช่าง​น่าสงสาร​ ​ใกล้​จะ​ออกเรือน​แล้ว​แท้ๆ​ ​แต่​อาภรณ์​ตัวใหม่​สัก​ชุด​ก็​ยัง​ไม่มี​”

หวัง​ซีกับ​ฉัง​เคอ​ได้ยิน​เช่นนั้น​ต่าง​ก็​ไม่รู้​จะ​พูด​อะไร​ดี​แล้ว

งานแต่ง​ของ​ซือ​จู​เป็น​สมรส​พระราชทาน​ ​จะ​ขาด​ของ​ผู้ใด​ไป​ก็ได้แต่​ไม่มีทาง​ขาด​ของ​ของ​นาง​ไป​อย่างแน่นอน

การ​ส่ง​นาง​ออกเรือน​ไป​อย่าง​มีเกียรติ​และ​ราบรื่น​ ​ก็​ถือว่า​คน​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ทั้ง​บน​และ​ล่าง​ต่าง​ร่วมแรงร่วมใจ​กัน​ทำความเข้าใจ​และ​ยอมรับ​แล้ว

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​กล่าว​เช่นนี้​ออกจะ​เกินไป​สักหน่อย

แต่​อย่างไรก็ตาม​ ​ยังคง​เป็น​หวัง​ซีที​่​เฉลียวฉลาด​ ​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​เป็น​เพราะฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​คิด​จะ​เรียกร้อง​อะไร​ให้​คุณหนู​ซือ​อีกแล้ว​ใช่​หรือไม่​”

งานแต่ง​ของ​ฉัง​เคอ​กับ​ตระกูล​เวิน​กำหนด​ลงมา​เรียบร้อย​แล้ว​ ​หลังจากที่​ดีใจ​แล้ว​นาย​หญิง​สาม​ก็​รู้สึก​ภาคภูมิใจ​เล็กน้อย​อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้​ ​เวลา​คุย​กับ​นาย​หญิง​รอง​จึง​ไม่​ระมัดระวัง​ตัวอย่าง​เมื่อก่อน​ ​นำ​เรื่อง​ที่​ตระกูล​เวิน​ส่ง​ผ้า​ทอ​เค​่อ​ซือ​ลาย​บุปผา​สกุณา​สีแดง​สด​มา​ให้​สอง​พับ​ออกมา​เล่า​ ​ยัง​กล่าว​ด้วยว่า​ บุตร​เขยก​ตัญ​ญู​ต่อ​ข้า​ถือเป็น​ความปรารถนาดี​ของ​เขา​ ​แต่​ข้า​หา​ใช่​คน​ไร้​วิสัยทัศน์​ ​ข้า​ตกลง​กับ​พี่สะใภ้​ใหญ่​แล้ว​ว่า​ ​จะ​แลก​ผ้า​ทอ​เค​่อ​ซือ​สีแดง​สด​สอง​พับ​นั้น​กับ​ผ้า​สีน้ำเงิน​สอง​พับ​ที่นา​งมี​ ​ถึง​เวลา​จะ​ได้​ตัด​ชุด​เพ่ย​จื่อ​และ​กระโปรง​จีบ​หม่า​เมี​่​ยน​ให้​อา​เคอ​ของ​พวก​ข้า​สวมใส่​ตอน​ออก​ไป​ข้างนอก

นาย​หญิง​รอง​นำ​ถ้อยคำ​ดังกล่าว​ไป​เล่า​ที่​เรือนฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​ตอนแรกฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ยัง​ไม่รู้​สึก​อะไร​ ​กลับเป็น​ตานห​มัว​มัว​คน​ข้าง​กาย​ของ​ซือ​จู​ที่​ได้ยิน​แล้ว​ร้องไห้​ออกมา​ ​พูด​อะไร​ทำนอง​ว่า​หาก​เป็น​เมื่อก่อน​ ​ผ้า​ทอ​เค​่อ​ซือ​นับเป็น​อะไร​ไป​ได้​ ​แต่​บัดนี้​ ​วัตถุดิบ​ที่​ใช้​ตัด​อาภรณ์​สำหรับ​ออกเรือน​ของ​ซือ​จูนั​้​นอย​่า​งดี​ที่สุด​ก็​เป็น​แค่​ผ้าแพร​สีแดง​สด​และ​ผ้า​ดิ้น​ทอง​จาก​เจียง​หนาน​เท่านั้น

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ก็​เลย​อยาก​ให้​โหวฮู​หยิน​นำ​ผ้า​ทอ​เค​่อ​ซือ​ออกมา​ให้​หนึ่ง​พับ

โหวฮู​หยิน​ยอม​ที่ไหน​กัน

เดือน​สิบสอง​นี้​คุณชาย​สี่​ฉั​งบุ​ตร​ชาย​แท้ๆ​ ​ของ​นาง​จะ​แต่ง​ภรรยา​ ​ว่าที่​บุตร​สะใภ้​ก็​มาจาก​ครอบครัว​ฐานะ​ดี​ ​แค่​สิน​เจ้าสาว​ก็​มี​ร้านค้า​เจ็ด​ถึง​แปด​ร้าน​ ​นาง​ตั้งใจ​จะ​ใช้​เป็น​ของขวัญ​มอบให้​บุตร​สะใภ้​คน​ใหม่

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​จึง​ร้อง​โวยวาย​ขึ้น​มา​ ​บอกว่า​เพราะ​แต่เดิม​โหวฮู​หยิน​มาจาก​ตระกูล​ต้อยต่ำ​ ​บัดนี้​เห็น​ตระกูล​ซือ​ตกต่ำ​ ​ก็​เผย​ธาตุแท้​ออกมา​โดย​การ​รังเกียจ​คนจน​ประจบประแจง​คนรวย​ ​ทำเอา​โหวฮู​หยิน​โกรธ​จน​นอน​อยู่​ใน​ห้อง​ไป​สอง​วัน​ ​สุดท้าย​เพราะ​ถูก​หย่ง​เฉิง​โหวตำ​หนิ​ถึง​ได้​นำ​ผ้า​ทอ​เค​่อ​ซือ​สอง​พับ​นั้น​ไป​ให้​ที่​เรือน​หยก​วสันต์​อย่าง​ไม่เต็มใจ​เรื่อง​ถึง​จบ

ห​มัว​มัว​ผู้​นั้น​ได้ยิน​หวัง​ซี​ถาม​เช่นนี้​แล้ว​ ​ก็​ยกนิ้ว​โป้ง​ให้​หวัง​ซี​อย่าง​อด​ไม่อยู่​ ​กล่าวว่า​ ​“​ยังคง​เป็นคุณ​หนู​หวัง​ที่​หลักแหลม​ ​ไม่​แปลกที่​นาย​หญิง​สาม​ของ​พวก​ข้า​จะ​พูด​อยู่​บ่อยครั้ง​ว่า​ให้​คุณหนู​สี่​ของ​พวก​ข้า​เรียนรู้​จาก​ท่าน​ให้​มาก​”

กล่าวถึง​ตรงนี้​นาง​ก็​หยุด​ฝีเท้า​ลง​ ​มอง​ไปร​อบ​ๆ​ ​ครู่หนึ่ง​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​ไม่มี​คนอื่น​อยู่​ด้วย​ถึง​ได้​กระซิบ​กล่าวว่า​ ​“ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​อยาก​ยกเครื่อง​ประดับ​ผม​ทับทิม​ของ​ตัวเอง​ชุด​นั้น​ให้​คุณหนู​ซือ​ใช้​ทำเป็น​สมบัติ​ก้น​หีบ​เจ้าค่ะ​”​

ตอนฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ออกเรือน​ ​ตระกูล​ซือ​เอง​ก็​มอบ​สิน​เจ้าสาว​ให้​นาง​อย่าง​สมบูรณ์​พูน​พร้อม​เช่นกัน​ ​แต่​หลาย​ปี​มานี​้​ ​นาง​นำ​ออกมา​ช่วย​พยุง​สถานะ​ทางการเงิน​ของ​ครอบครัว​ไป​ไม่น้อย​ ​มี​เพียง​เครื่องประดับ​ผม​ทับทิม​หนึ่ง​ชุด​ ​ไพลิน​หนึ่ง​ชุด​และ​หยก​มัน​แพะ​อีก​หนึ่ง​ชุด​เท่านั้น​ที่​ยัง​หลงเหลือ​อยู่​ ​นับเป็น​ของมีค่า​ที่​ยัง​เหลืออยู่​ใน​มือ​ของ​นาง​ ​แต่ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เคย​บอก​เอาไว้​ว่า​ ​เครื่องประดับ​ของ​นาง​สาม​ชุด​นี้​ ​จะ​เก็บ​ทับทิม​เอาไว้​ให้​โหวฮู​หยิน​ ​ไพลิน​ให้​นาย​หญิง​รอง​ ​และ​หยก​มัน​แพะ​ให้​หลาน​สะใภ้​คนโต​ ​ส่วน​นาย​หญิง​สาม​จะ​มอบ​กำไล​ฝัง​รัตนะ​น้ำเงิน​หนึ่ง​คู่​และ​ปิ่นทองคำ​อีก​หนึ่ง​คู่

ไม่รู้​เป็น​เพราะ​นาง​กลัว​ผู้อื่น​ไม่เชื่อฟัง​นาง​หรือเปล่า​ ​ยัง​เชิญ​เซียง​หยาง​โหวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​มา​เป็น​พยาน​ ​ให้​คนเขียน​เอกสาร​ไป​เก็บ​ไว้​ที่​เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เป็นพิเศษ​อีกด้วย

บัดนี้​นาง​อยาก​ยกเครื่อง​ประดับ​ผม​ทับทิม​ชุด​นั้น​ให้​ซือ​จู​ ​มิ​เท่ากับ​ผิดคำพูด​ตัวเอง​หรอก​หรือ

หวัง​ซี​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​ ​กล่าวว่า​ ​“​ดังนั้นฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ก็​เลย​อยาก​ใช้​พวก​ข้า​เป็น​ข้ออ้าง​?​ ​ไม่​แปลกที่​นาย​หญิง​สาม​ต้อง​ส่ง​ท่าน​มาดั​กรอ​ที่นี่​เอาไว้​”

ฉัง​เคอ​ที่​ฟัง​มาต​ลอด​ก็​พยายาม​ระงับ​โทสะ​ใน​ใจ​เอาไว้​อยู่​แล้ว​ ​มาถึง​ตอนนี้​ราวกับ​เพลิง​โทสะ​ยิ่ง​ปะทุ​แรง​ขึ้น​ ​กล่าว​ด้วย​เสียง​ดุดัน​ว่า​ ​“​เดิม​ของ​เหล่านี้​ก็​เป็น​ของ​ของฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​อยู่​แล้ว​ ​นาง​อยาก​มอบให้​ผู้ใด​ก็​มอบให้​ผู้​นั้น​ไป​ ​เอา​พวก​ข้า​ไป​เป็น​ข้ออ้าง​เช่นนี้​หมายความว่า​อย่างไร​ ​ซือ​จู​เป็น​หลาน​ของ​นาง​แล้ว​พวก​ข้ามิ​ใช่​หลาน​ของ​นาง​หรือ​ ​ใน​ภายภาคหน้า​ยาม​ซือ​จู​เผา​กระดาษ​กราบไหว้​บรรพบุรุษ​จะ​เผา​กระดาษ​หนึ่ง​เตา​ให้​นาง​ด้วย​หรือ​อย่างไร​กัน​”

หวัง​ซี​เอง​ก็​รู้สึก​เช่นกัน​ว่าฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เลอะเลือน​ไป​แล้ว​จริงๆ​ ​นาง​จะ​ไม่สน​ใจ​เลย​ก็ได้​ ​แต่​ใช้​นาง​ง่ายๆ​ ​เช่นนี้​ไม่​ถูกต้อง

นาง​ครุ่นคิด​ครู่หนึ่ง​ ​กล่าว​กับ​ฉัง​เคอ​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ไป​ ​พวกเรา​ไป​คารวะฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​กัน​ ​นาง​เป็น​ผู้อาวุโส​สูงสุด​ใน​บ้าน​ ​พวกเรา​กลับมา​แล้ว​ ​ตาม​หลัก​ก็​ควร​ไป​คารวะ​นาง​สักหน่อย​ถึง​จะ​ถูก​ ​อย่า​ทำให้​โหวฮู​หยิน​ต้อง​ลำบากใจ​”

กล่าว​จบ​ ​นาง​ยัง​ถามห​มัว​มัว​ผู้​นั้น​อย่าง​ยิ้มแย้ม​ว่า​ ​“​โหวฮู​หยิน​คง​เห็นด้วย​กับ​เหตุผล​ดังกล่าว​แล้ว​กระมัง​”

ห​มัว​มัว​ผู้​นั้น​พยักหน้า​หงึกๆ​ ​สายตา​ที่​มอง​หวัง​ซี​เจือ​ความเคารพ​นับถือ​เอาไว้​หลาย​ส่วน

หวัง​ซียิ​้​มน​้อย​ๆ​ ​ลาก​ฉัง​เคอ​ที่​ไม่เต็มใจ​เดิน​ไป​เรือนฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​“​ไป​ถึง​โน่น​แล้ว​ ​ข้า​จะ​เป็น​คนพูด​เอง​”

ฉัง​เคอ​จำต้อง​ระงับ​เพลิง​โทสะ​ใน​ใจ​เอาไว้​ ​ไป​เรือน​หยก​วสันต์​พร้อมกับ​หวัง​ซี

เป็น​อย่างที่​หวัง​ซีคา​ดกา​รณ​์​เอาไว้​ ​สตรี​จวน​หย่ง​เฉิง​โหวต​่า​งมา​รอ​อยู่​ที่​เรือนฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​ได้ยิน​เสียง​ร่ำไห้​ของฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​มา​แต่ไกล

พอ​เห็น​พวก​นาง​เดิน​เข้ามา​ ​โหวฮู​หยิน​ดูป​ระ​หลาด​ใจ​เล็กน้อย​ ​นาย​หญิง​สาม​กลับ​ขมวดคิ้ว​มุ่น​อย่าง​เป็นกังวล​ ​อยาก​ผลัก​ทั้งสอง​คน​ออก​ไป​เหลือเกิน

หวัง​ซี​หันไป​ส่งสายตา​บอก​โหวฮู​หยิน​เป็นนัย​ครั้งหนึ่ง​ว่า​ ​‘​ไม่ต้อง​ตระหนก​’​ ​คล้อง​แขน​ฉัง​เคอ​ก้าว​ออก​ไป​ทำความเคารพฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​อย่าง​เริงร่า​ ​ยัง​แสร้ง​กล่าว​อย่างประหลาดใจ​ด้วยว่า​ ​“​นี่​ท่าน​เป็น​อะไร​หรือ​เจ้า​คะ​ ​มิใช่​บอกว่า​สุขภาพ​ของ​ท่าน​ดีขึ้น​แล้ว​หรอก​หรือ​”​ ​จากนั้น​ก็​แสดงท่าที​โศกเศร้า​เหลือคณา​ออกมา​อีกครั้ง​ ​“​หาก​รู้​ว่า​ท่าน​ยัง​ไม่ดี​ขึ้น​แต่​เนิ่นๆ​ ​ข้า​ก็​คง​ไม่​ออก​ไป​ตัด​อาภรณ์​กับ​พี่สาว​สี่​แล้ว​”

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​กำลัง​เป็นกังวล​เรื่อง​ไม่มี​บันได​ช่วย​พาด​จาก​เรื่อง​ที่หวัง​ซี​ออก​ไป​ตัดเสื้อ​ผ้า​ไปหา​เรื่อง​สิน​เจ้าสาว​ของ​ซือ​จู​อยู่​ ​ไหน​เลย​จะ​ฟัง​ความนัย​ที่​แฝง​อยู่​ใน​ถ้อยคำ​ดังกล่าว​ออก​ ​รีบ​คว้า​โอกาส​ไว้​ทันที​ประหนึ่ง​คว้า​ฟาง​ช่วยชีวิต​เส้น​สุดท้าย​ ​กล่าวว่า​ ​“​ยังคง​เป็น​อา​ซีที​่​เห็นใจ​ยาย​ ​สุขภาพ​ของ​ข้า​ดีขึ้น​ที่ไหน​กัน​!​ ​ตระกูล​ซือ​เป็น​เช่นนี้​ ​สิน​เจ้าสาว​ของ​อาจู​ก็​ยัง​ไม่มี​วี่แวว​…​”

หวัง​ซี​รู้​ว่า​หาก​นาง​กล่าว​ต่อไป​ ​ก็​ไม่รู้​ว่า​จะ​ดึง​ผู้ใด​ออกมา​อีก​บ้าง​ ​นาง​มา​เพื่อ​หยุดฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​มิได้​มา​เพื่อ​ทำให้​ผู้อื่น​ขุ่นเคือง​ใจ​ ​นาง​จึง​รีบ​กล่าว​ตัดบทฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ให้​ดูเหมือน​เป็นห่วง​เป็น​ใย​ว่า​ ​“​สิน​เจ้าสาว​ของ​พี่สาว​ซือ​หรือ​เจ้า​คะ​ ​มิใช่​ว่า​จัดเตรียม​เรียบร้อย​แล้ว​หรอก​หรือ​ ​นาง​ยัง​ขาด​อะไร​หรือ​เจ้า​คะ​ ​ข้า​จัดหา​ให้​นาง​ดี​หรือไม่​!​ ​คุณชาย​สาม​ฉั​งกับ​คุณชาย​สี่​ฉัง​ต่าง​ก็​กำลังจะ​แต่ง​ภรรยา​ ​ปีหน้า​พี่สาว​สาม​กับ​พี่สาว​สี่​ก็​จะ​ออกเรือน​แล้ว​เช่นกัน​ ​ใน​บ้าน​ยัง​มีเรื่อง​ให้​ต้อง​ใช้​เงินทอง​อีก​มาก​ ​โหวฮู​หยิน​เอง​ก็​ลำบากใจ​เช่นกัน​เจ้าค่ะ​!​”

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ได้ยิน​แล้ว​ ​อารมณ์​พลัน​สดใส​ขึ้น​มา

จริง​ด้วย​ ​นาง​ลืม​ไป​ได้​อย่างไร​ว่ายั​งมี​หวัง​ซี​อยู่​ด้วย​อีก​ผู้​หนึ่ง

แม้น​กล่าว​เช่นนี้​ไม่​ค่อย​ดี​เท่าไร​นัก​ ​แต่​รอนาง​ข้าม​หลุม​นี้​ไป​ได้​ ​ค่อย​หาวิ​ธี​ชดเชย​ให้​หวัง​ซีสัก​เล็กน้อย​ก็ได้​แล้ว

โหวฮู​หยิน​และ​คนอื่นๆ​ ​กลับ​โล่งอก​ไป​เปลาะ​หนึ่ง​อย่าง​พร้อมเพรียงกัน​ ​สายตา​ที่​มอง​หวัง​ซี​เต็มไปด้วย​ความรักใคร่​ ​แม้แต่​นาย​หญิง​รอง​ที่​ไม่​ถูก​กับ​หวัง​ซี​ ​ยัง​ปฏิเสธ​ไม่ได้​ว่าความ​เฉลียวฉลาด​รู้ความ​ของ​หวัง​ซีทำ​ให้​คน​หลงรัก

แต่​สุดท้าย​แล้วฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ก็​เป็น​ผู้อาวุโส​ ​ยังคง​ต้อง​รักษาหน้า​ตา​เอาไว้​สัก​สอง​สาม​ส่วน​ ​กล่าว​อย่าง​ลังเล​ว่า​ ​“​ต้อง​ให้​เจ้า​เป็น​คน​ออก​เงิน​ให้​ที่ไหน​กัน​ ​งานแต่ง​ของ​อาจู​เป็น​สมรส​พระราชทาน​…​”

หวัง​ซี​รู้อยู่​แล้ว​ว่า​ต่อให้ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​อยาก​ให้​ตน​ออก​เงิน​ให้​มาก​เพียงใด​ ​แต่​ก็​ต้อง​แสดง​ความเกรงใจ​สัก​สอง​สาม​ประโยค​ ​และ​สิ่ง​ที่นาง​ต้องการ​ก็​คือ​ความเกรงใจ​สอง​สาม​ประโยค​นี้​นี่เอง

“​ตาย​แล้ว​”​ ​นาง​แสร้ง​ร้อง​ขึ้นเสียง​หนึ่ง​อย่าง​คน​เพิ่ง​เข้าใจ​เรื่องราว​ขึ้น​มา​ ​กล่าวว่า​ ​“​ไม่​แปลกที่​ท่าน​มักจะ​ให้​ข้า​เรียนรู้​กฎระเบียบ​ให้​มาก​ ​ข้า​คิด​แต่​เรื่อง​เติม​หีบ​ให้​พี่สาว​ซือ​และ​ช่วย​แก้ปัญหา​ให้ท่าน​ ​จน​ลืม​ไป​ว่างาน​แต่ง​ของ​นาง​เป็น​สมรส​พระราชทาน​ ​องค์​หญิง​ฟู่​หยาง​เอง​ก็​กำลังจะ​เสกสม​รส​แล้ว​กระมัง​ ​ท่าน​ว่า​เรื่อง​สิน​เจ้าสาว​นี้​ท่าน​ควร​ไปหา​รือ​กับ​จ่าง​กง​จู่​เป็นการ​ส่วนตัว​หรือไม่​ ​ข้า​ดู​จาก​ของหมั้น​ที่​จวน​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ส่ง​มา​ให้​ ​ก็​ไม่​ต่าง​อะไร​กับ​ของ​พี่สาว​สี่​ ​ ​ไม่รู้​ว่าที่​นี่​พวก​ท่าน​มี​กฎระเบียบ​เช่นนี้​หรือไม่​ ​ที่​สู่​จง​ของ​พวก​ข้า​นั้น​ ​พิถีพิถัน​กับ​เรื่อง​บุรุษ​หนึ่ง​หาบ​สตรี​หนึ่ง​หัว​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​กล่าวคือ​สมบัติ​ก้น​หีบ​ของ​ฝ่าย​หญิง​ไม่​ต่าง​จาก​ของหมั้น​ของ​ฝ่าย​ชาย​ ​หาไม่​แล้ว​เกรง​ว่า​ตอน​ส่ง​ของขวัญ​ตอบแทน​อาจ​ทำให้​ฝ่าย​ชาย​ลำบากใจ​ได้​!​”

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​อ้า​ปากขมุบ​ขมิบ​โดย​ไม่​กล่าว​คำ​ใด​ ​แต่​ส่งสายตา​ขอความช่วยเหลือ​ไป​ให้​โหวฮู​หยิน

แน่นอน​ว่า​โหวฮู​หยิน​แสร้งทำ​เป็น​มองไม่เห็น​ ​ทว่า​ใน​ใจ​กลับ​รู้สึก​เบิกบาน​เป็น​อย่างยิ่ง

ท่าน​อยาก​มอบ​ภูเขา​เงิน​ภูเขาทอง​ให้​ซือ​จู​สัก​ลูก​หนึ่ง​มิใช่​หรือ​ ​แต่​ก็​ต้อง​ดูด​้วย​ว่า​ทำ​แล้ว​เหมาะสม​หรือไม่​ ​งาน​เสกสม​รส​ของ​ราชวงศ์​ ​ให้ความสำคัญ​กับ​เรื่อง​สถานะ​และ​พิธีการ​ ​หา​ใช่​เรื่อง​ใคร​มีเงินทอง​มากกว่า

ฮ่องเต้​ไม่มี​เงิน​อย่างนั้น​หรือ

ใต้​ผืน​ฟ้า​ไม่มี​พสุธา​ใด​มิใช่​ของ​โอรส​สวรรค์

ทุกอย่าง​ใน​ใต้​หล้า​ล้วน​เป็น​ของ​ฮ่องเต้​ทั้งสิ้น

แต่​ยาม​ฮ่องเต้​พระราชทาน​รางวัล​ให้​ขุนนาง​ ​คน​อย่าง​ตระกูล​พวกเขา​นี้​ ​ปีใหม่​ก็ได้​แค่​กลอน​คู่​หนึ่ง​ชุด​ ​เงิน​สิบสอง​ตำลึง​ ​และ​ชา​สุรา​จำนวน​หนึ่ง​เท่านั้น​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​แล้ว​เบื้องหน้า​ยัง​มี​องค์​หญิง​ฟู่​หยาง​ที่​เป็น​พระ​ธิดา​ของ​โอรส​สวรรค์​ ​เป็น​หน่อ​เนื้อ​ของ​ราชวงศ์​อยู่​ด้วย​อีก​ผู้​หนึ่ง​ ​ต่อให้​ซือ​จู​ของ​ท่าน​มีเกียรติ​เพียงใด​ ​แต่​จะ​สู้​องค์​หญิง​ฟู่​หยาง​ได้​หรือ

โหวฮู​หยิน​ไม่​เปล่งเสียง​ใด​ ​นาย​หญิง​รอง​เอง​ก็​ไม่​อาจ​เสนอหน้า​ไป​จัดการ​เรื่อง​นี้​ได้​ ​ส่วน​นาย​หญิง​สาม​เป็น​คนที​่​หลบ​อยู่​มุม​ห้อง​ผู้​นั้น​มาโดยตลอด​ ​จึง​ไม่​ถึงคราว​ของ​นาง​ต้อง​เสนอตัว​ออก​ไป

ชั่วขณะ​นั้น​ภายใน​ห้อง​เงียบเชียบ​ ​ไม่มี​สรรพ​เสียง​ใด​แม้แต่​สาย​เดียว

ทุกคน​ต่าง​สัมผัส​ได้​ถึง​ความ​กระอักกระอ่วน

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​หน้าแดง​ก่ำ​ไป​หมด

กระนั้น​หวัง​ซียัง​แสร้งทำ​เป็นไร​้​เดียงสา​ ​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​พูด​อะไร​ผิด​ไป​อย่างนั้น​หรือ​”

บัดนี้​นาย​หญิง​สาม​เห็น​หวัง​ซี​เป็น​ดั่ง​ญาติ​ที่​สนิท​ยิ่งกว่า​หลานสาว​แท้ๆ​ ​ของ​ตัวเอง​เสียอีก​ ​ไหน​เลย​จะ​ทน​ปล่อย​ให้​นาง​ต้อง​อับอาย​ได้​ ​รีบ​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​เปล่า​ ​เปล่า​ ​เจ้า​กล่าว​ได้​มีเหตุผล​ยิ่ง​ ​ก่อนหน้านี้​เป็น​พวก​ข้า​ที่​มองข้าม​ไป​”

หวัง​ซี​ได้ยิน​แล้ว​ ​ดูเหมือน​โล่งอก​ไป​เปลาะ​หนึ่ง​ก็​ไม่​ปาน​ ​นั่งลง​ข้างๆ​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​กล่าว​เสียง​ค่อย​ว่า​ ​“​ที่​สู่​จง​ของ​พวก​ข้า​หาก​มี​เหตุการณ์​เช่นนี้​เกิดขึ้น​ ​จะ​คิด​หาวิ​ธี​เติม​ก้น​หีบ​ให้​มาก​สักหน่อย​ ​เช่นนี้​ดี​หรือไม่​ ​ท่าน​ลองดู​ว่า​ท่าน​ยัง​ขาด​อีก​เท่าไร​ ​ข้า​จะ​จัดหา​ให้​เอง​เจ้าค่ะ​”

โหวฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้ว​อยาก​หัวเราะ​ออกมา​เหลือเกิน

นาง​กลั้น​เอาไว้​กว่า​ครึ่ง​ค่อนวัน​ ​ถึง​กลืน​ความขบขัน​นั้น​ลง​ไป​ได้

หวัง​ซี​ผู้​นี้​ ​ไม่ยอม​เสียเปรียบ​เลย​แม้แต่​ครึ่ง​เดียว​ ​หาก​นาง​ช่วยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​จัดการ​เรื่อง​สิน​เจ้าสาว​ให้​ซือ​จู​ ​ใน​ใบ​รายการ​ของ​จะ​ระบุ​เพียง​ว่า​ซือ​จูมี​สิน​เจ้าสาว​จำนวน​เท่าไร​ ​ส่วน​เรื่อง​ที่ว่า​สิน​เจ้าสาว​ดังกล่าว​มาจาก​ที่ใด​นั้น​ ​ไม่เกี่ยว​อะไร​กับ​ซือ​จู​แล้ว​ ​เนื่องจาก​สิน​เจ้าสาว​คือ​ของ​ที่​ตระกูล​เดิม​มอบให้​เจ้าสาว​ ​แต่​การ​เติม​หีบ​นั้น​ไม่​เหมือนกัน

มารยาท​ของ​การ​เติม​หีบ​กล่าว​เอาไว้​เช่นนี้

ผู้ใด​ให้​จำนวน​เท่าไร​ ​ต้อง​เขียน​ระบุ​เอาไว้​ใน​ใบ​รายการ​ของขวัญ​ให้​ชัดเจน​ ​เมื่อ​เจ้าสาว​ออกเรือน​ไป​ ​ก็​เท่ากับ​เป็นผู้ใหญ่​ ​มีสา​ยสัม​พันธ์​ที่​ต้อง​ตอบแทน​กัน​แล้ว​ ​ใน​ภายภาคหน้า​ที่​ต้อง​ส่ง​ของขวัญ​ไป​แสดงความยินดี​กับ​ผู้อื่น​ ​ก็​ต้อง​ให้​ของขวัญ​ตามที่​ได้รับ​มา​ ​ผู้อื่น​เติม​หีบ​ให้​มาก​เท่าไร​ ​เจ้า​ก็​ต้อง​ให้​ของขวัญ​ต้อง​ตอบแทน​กลับ​ไป​เท่านั้น

หวัง​ซี​มอบ​เงิน​จำนวน​นี้​ให้​ซือ​จู​ใน​รูป​ของ​การ​เติม​หีบ​ให้​เจ้าสาว​ ​ยิ่งฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ขอให้​ซือ​จูมาก​เท่าไร​ ​ต่อไป​ซือ​จู​ก็​ต้อง​ตอบแทน​ให้​มาก​เท่านั้น​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​ประจบสอพลอ​เลย​ ​หาก​หวัง​ซี​ให้กำเนิด​บุตร​ได้มา​กก​ว่า​ซือ​จู​ ​ซือ​จู​ต้อง​ส่ง​ของขวัญ​ไป​แสดงความยินดี​ตาม​จำนวน​เงิน​ที่​ได้มา​ใน​หีบ​เจ้าสาว​ ​แค่นั้น​ก็​ทำให้​ซือ​จู​ต้อง​สูญ​เงินก้อน​ใหญ่​ได้​แล้ว

มุม​ปากของ​โหวฮู​หยิน​ยก​ยิ้ม​ขึ้น​เล็กน้อย

หวัง​ซี​ผู้​นี้​ช่าง​เจ้าเล่ห์​จริงๆ

นาง​หวัง​เป็น​อย่างยิ่ง​ว่า​หวัง​ซีจะ​เติม​หีบ​ให้​ซือ​จู​สัก​หลาย​ๆ​ ​พัน​หลาย​ๆ​ ​หมื่น​ตำลึง

ต่อไป​หาก​หวัง​ซี​ให้กำเนิด​บุตร​ได้มา​กก​ว่า​ซือ​จู​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ของขวัญ​ครบรอบ​เดือน​ ​ครบรอบ​ขวบ​ปี​ ​ครบรอบ​สิบ​ปี​ ​ของขวัญ​แต่งงาน​หรือ​ของขวัญ​ออกเรือน​ก็ตาม​ ​คำนวณ​คร่าวๆ​ ​แล้ว​ ​ซือ​จู​ต้อง​สูญ​เงิน​ไป​ก้อน​ใหญ่​!

โหวฮู​หยิน​คิด​แล้ว​รู้สึก​เบิกบานใจ​มาก​จริงๆ

รู้สึก​ว่า​หาก​เป็น​เช่นนั้น​จริง​ ​นาง​จะ​ต้อง​ไป​คุย​กับ​หวัง​ซีดี​ๆ​ ​สักหน่อย​ ​ทำ​อย่างไร​ให้​นาง​มีบุ​ตรมา​กก​ว่า​ซือ​จู​สัก​สอง​สาม​คน​ถึง​จะ​ใช้การได้

………………………………………………………………