บทที่ 172 ลอกเลียนแบบ
ถึงแม้ลี่จุนถิงจะเก่งกาจแค่ไหนแต่ยังไงก็ต้องเชื่อฟังคำพูดของเขา
เรื่องการแต่งงาน ขอแค่คุณปู่ตระกูลลี่เห็นด้วย ลี่จุนถิงก็ไม่มีทางหลุดมือส้งหวั่นหวั่นไปได้เด็ดขาด
ลี่จีถองรู้สึกว่าค่อนข้างมีเหตุผล เพราะตระกูลส้งกับตระกูลลี่นั้นดีต่อกัน การพาส้งหวั่นหวั่นไปพบกับคุณปู่ตระกูลลี่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
“ได้สิ งั้นเดี๋ยวก็ไปกับฉัน” ตอนนี้ลี่จีถองคิดว่าส้งหวั่นหวั่นเป็นเพื่อนสนิทของตัวเอง
ไม่เพียงคอยรับฟังปัญหาทุกข์ใจของตัวเอง แต่ยังคอยช่วยตัวเองคิดแผนการ ถึงแม้จะชอบลี่จุนถิง แต่อย่างน้อยก็เลือกที่จะอยู่ข้างเธอ
ส้งหวั่นหวั่นภายนอกนั้นดูอ่อนโยนและนิ่งสงบ ที่จริงภายในใจนั้นคิดไว้หมดแล้วว่าตัวเองจะได้ผลประโยชน์อะไรบ้าง
ช่วงนี้เจียงหยุนเอ๋อกำลังยุ่งอยู่กับปัญหาการเตรียมวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท
เป็นเพราะปัญหาสุขภาพก่อนหน้านี้ ที่ผ่านมาจึงได้มอบหมายให้ผู้ช่วยเป็นคนจัดการดูแล แต่ยังไงก็เป็นผู้ช่วย ทำให้บางเรื่องเธอต้องมาจัดการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
ดังนั้นช่วงนี้เจียงหยุนเอ๋อจึงยุ่งทั้งวันทั้งคืน
ธีมหลักของซีรีส์ครั้งนี้ ทั้งบริษัทต่างให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก นี่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่หลังจากที่ออกผลิตภัณฑ์คู่สามีภรรยาไปคราวก่อน
อีกทั้งบริษัทได้ทุ่มเงินทุนไปจำนวนมากเพื่อวิจัย ถือได้ว่าผลิตภัณฑ์ครั้งนี้เป็นการลงทุนลงแรงของพนักงานทั้งบริษัทเลยทีเดียว
ดังนั้นเจียงหยุนเอ๋อจึงตัดสินใจจะจัดงานแถลงข่าวขึ้น เพื่อผลักดันผลิตภัณฑ์ครั้งนี้อย่างจริงจัง
แต่ใครจะรู้ว่าในวันแถลงข่าวนั้น เกิดเรื่องใหญ่ที่ทำให้เจียงหยุนเอ๋อถึงกับปวดหัว
ในวันงานแถลงข่าว ทุกอย่างดำเนินการเป็นไปตามลำดับขั้นตอน
เจียงหยุนเอ๋อยืนอยู่ที่โพเดียมที่อยู่ตรงกลาง ได้เริ่มแนะนำผลิตภัณฑ์ด้านต่าง ๆ รวมถึงส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ด้วย
“ประธานเจียง เราพบว่าส่วนผสมผลิตภัณฑ์ตัวนี้ของคุณเหมือนกับส่วนผสมของบริษัทที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทเซียวซื่อเลย” นักข่าวคนหนึ่งได้ยื่นไมโครโฟนไปตรงหน้าเจียงหยุนเอ๋อ “รบกวนคุณอธิบายหน่อยว่าเป็นเพราะอะไร”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็อึ้งจนในหัวรู้สึกว่างเปล่าไปหมด
นักข่าวคนอื่น ๆ เมื่อได้ยินดังนั้นก็รู้สึกช็อกไปตาม ๆ กัน
นักข่าวบางคนตั้งสติได้ไวก็รีบเอ่ยถามเจียงหยุนเอ๋อ : “ประธานเจียง พวกคุณลอกเลียนแบบสูตรของบริษัทเซียวซื่อเหรอ?”
“ประธานเจียง ที่คุณทำอย่างนี้มีจุดประสงค์อะไรกัน? อยากเอาชนะบริษัทเครื่องสำอางค์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทเซียวซื่อเหรอ?”
คำถามมากมายพรั่งพรูออกมาถามเจียงหยุนเอ๋อ
แฟลชจากกล้องถ่ายรูปกระพริบขึ้นไม่หยุด ทำให้เจียงหยุนเอ๋อหลุดจากภวังค์ได้
สีหน้าที่เหม่อลอยได้เปลี่ยนเป็นโมโห : “ขอร้องพวกคุณอย่าพูดอะไรมั่ว ๆ สูตรผลิตภัณฑ์ของพวกเราล้วนมาจากการวิจัยอย่างยากลำบากเป็นเวลานานของพนักงานบริษัทพวกเรา กว่าจะคิดค้นออกมาได้ ไม่มีทางที่จะลอกเลียนแบบใครทั้งนั้น พวกคุณต้องรับผิดชอบกับคำพูดของพวกคุณ”
มีนักข่าวคนหนึ่งยื่นไมโครโฟนไป : “แต่ว่าบริษัทเซียวซื่อได้แถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ไปเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนนี้ อีกทั้งได้ประกาศส่วนผสมออกมาด้วย ประธานเจียงจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง?”
เจียงหยุนเอ๋อได้ฟังดังนั้น ก็รู้ทันทีว่านักข่าวกล่าวหาว่าตัวเองลอกเลียนแบบส่วนผสมของบริษัทเซียวซื่อ
ตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกสับสนไปหมด ไม่สามารถครุ่นคิดถึงต้นสายปลายเหตุเรื่องนี้ได้ จึงได้แต่เอ่ยออกมาว่า : “ฉัน เจียงหยุนเอ๋อกล้าสาบานต่อฟ้าดิน ว่าบริษัทของพวกเราไม่ได้ลอกเลียนแบบบริษัทใด ๆ ทั้งนั้น ฉันต้องพิสูจน์หาข้อเท็จจริงเรื่องนี้ให้ได้ เพื่อให้คำตอบกับทุกคน การแถลงข่าวครั้งนี้สิ้นสุดเพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงาน”
เจียงหยุนเอ๋อโค้งคำนับแล้วก็เดินออกไป
นักข่าวบางคนคิดจะตามไปสอบถามต่ออีก แต่ถูกบอดี้การ์ดกันเอาไว้
งานแถลงข่าวครั้งนี้เป็นการถ่ายทอดสด ดังนั้นผู้คนมากมายในโลกออนไลน์ก็กำลังดูอยู่เช่นกัน
เมื่อได้ยินว่าบริษัทของเจียงหยุนเอ๋อลอกเลียนแบบบริษัทเซียวซื่อ ในโลกออนไลน์ก็เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมาทันที
ผู้คนส่วนใหญ่ต่างพากันด่าทอบริษัทเจียงหยุนเอ๋อ ผู้ประกอบการใจดำ ไม่รับผิดชอบอะไรต่อลูกค้าเลย โดยรวมแล้วโดนด่าทอจนป่นปี้
เดิมทีเป็นเพราะผู้คนจำนวนมากเห็นว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทเจียงหยุนเอ๋อนั้นมียอดขายดี ผู้คนต่างพากันพูดถึงและบอกต่อ ฉะนั้นครั้งนี้จึงมีผู้คนให้ความสนใจอย่างนี้ แต่การแถลงข่าวครั้งนี้ได้มีเรื่องไม่ดีภายในบริษัทหลุดออกมา ทำให้พวกเขาอดสงสัยไม่ได้ว่าควรจะเชื่อมั่นในบริษัทของเจียงหยุนเอ๋ออีกต่อไปไหม
ผู้คนจำนวนมากต่างเริ่มพากันคว่ำบาตรผลิตภัณฑ์ของบริษัทเจียงหยุนเอ๋อแล้ว
ตามเค้าเตอร์ขายสินค้าภายในห้างสรรพสินค้า ก็ได้เกิดการคืนสินค้าเป็นจำนวนมาก สถานการณ์ตอนนี้ย่ำแย่เป็นอย่างมาก
อีกทั้งเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้บริษัทพัฒนาเติบโตไปด้วยดี เค้าเตอร์สินค้าตามห้างสรรพสินค้าก็ได้เพิ่มจำนวนมากขึ้น แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ได้รุนแรงจนกระทบถึงความก้าวหน้าของบริษัท
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อออกมาจากงานแถลงข่าวแล้วก็กลับไปยังบริษัท กลับมาถึงเธอก็เปิดคอมพิวเตอร์ เพื่อดูสถานการณ์ในโลกออนไลน์ว่าเป็นยังไงบ้าง
เธอโมโหจนปอดแทบจะระเบิดแล้ว
เพื่อการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ครั้งนี้ คนในบริษัททุ่มเทแรงกายแรงใจกันไปตั้งเท่าไหร่ แต่กลับถูกคำถามเพียงคำถามเดียวของนักข่าวพวกนี้ ทำลายความตั้งใจทั้งหมดของพวกเขาลง
เธอไม่มีทางเชื่อแน่นอนว่าสูตรผลิตภัณฑ์ของตัวเองจะลอกเลียนแบบคนอื่นมา ทุกขั้นตอนตัวเองก็ได้ร่วมดูหมดแล้ว และได้ตรวจสอบอย่างเคร่งครัด จะเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นได้ยังไงกัน
เจียงหยุนเอ๋ออ่านคอมเม้นในโลกออนไลน์ทุกคอมเม้น จนตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองสีหน้าบึ้งตึงจนดูไม่ได้แล้ว
“พระเจ้า คนพวกนี้กำลังพูดบ้าอะไรกันน่ะ!” ครั้งนี้เจียงหยุนเอ๋อได้รู้แล้วว่าจินตนาการของพวกชาวเน็ตนั้นใหญ่ขนาดไหน
“ท่านประธาน ตอนนี้คุณอย่าเพิ่งไปดูพวกคอมเม้นในเน็ตเลย พวกเรามาคิดหาวิธีแก้ปัญหากันก่อนเถอะ” เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผู้ช่วยก็ปวดหัวมากเช่นกัน
“จริงสิ คุณพูดถูก ฉันมัวแต่อ่านคอมเม้นอย่างนี้ก็ไม่มีประโยชน์” เจียงหยุนเอ๋อพูดพลางปิดหน้าเว็บนั้นไป “เรื่องนี้เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป เมื่อกี้ฉันก็รู้สึกว่าสมองว่างเปล่า ไม่ทันได้คิดอะไรอย่างละเอียด”
ผู้ช่วยไปสืบหาข้อมูลจากทางฝั่งบริษัทเซียวซื่อแล้ว ได้ยื่นเอกสารให้เจียงหยุนเอ๋อ : “ท่านประธาน บริษัทเซียวซื่อได้มีการแถลงข่าวก่อนหน้าพวกเราหนึ่งชั่วโมง และส่วนผสมก็เหมือนของพวกเราทุกอย่าง”
เจียงหยุนเอ๋อรับเอกสารมา ตรวจดูอย่างละเอียด พบว่าเหมือนกันทุกอย่างจริง ๆ
“เป็นไปไม่ได้ ส่วนผสมพวกนี้เป็นของบริษัทเราชัด ๆ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แสดงว่าต้องมีคนในแอบเอาสูตรไปขายแน่นอน ทำให้บริษัทเซียวซื่อแย่งเอาไปเผยแพร่ก่อน” เจียงหยุนเอ๋อออกแรงบีบจับเอกสารจนแน่น จนนิ้วมือซีดขาว ไม่ผิดแน่ ต้องเป็นแบบนี้แน่ ๆ
“แล้วตอนนี้พวกเราจะทำยังไงกันดี?” ผู้ช่วยก็เพิ่งเจอเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก ยังไงทั้งหมดก็ต้องฟังเจียงหยุนเอ๋อที่เป็นคนสำคัญ
“ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?” เจียงหยุนเอ๋อบอกตัวเองให้ใจเย็น ๆ แล้วตั้งสติ ค่อย ๆ แก้ปัญหา
“หลังจากการแถลงข่าว ก็มีสายโทรเข้าบริษัทจนแทบจะระเบิด” ผู้ช่วยได้รายงานสถานการณ์ที่แผนกด้านล่างแจ้งข้อมูลมา
เจียงหยุนเอ๋อนวดขมับไปมา ตอนนี้เธอรู้เพียงแต่ว่าปวดหัวมาก
“อืม ฉันรู้แล้ว ออกไปก่อนเถอะ” เจียงหยุนเอ๋อโบกมือ เธอต้องการพื้นที่เงียบ ๆ ค่อย ๆ คิดหาทาง
เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ฝ่ายลี่จุนถิงก็รู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว