ตอนที่ 195 เบื้องหลัง

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

หลง​จู๊​ใหญ่​เป็น​คนที​่​ไว้ใจได้​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​ช่างฝีมือ​ทักษะ​สูงส่ง​เหล่านั้น​ทำ​มงกุฎ​ลาย​ดอก​เหมย​ ​ตรงกลาง​เป็น​ดอก​เหมย​ขนาดใหญ่​หนึ่ง​ดอก​ที่​ประกอบ​ขึ้น​มาจาก​เพชร​ ​แสง​อัญมณี​สุก​สว่าง​แวววาว​ ​ภายใต้​แสงตะวัน​ทำให้​คน​ตาพร่า​จน​แทบ​ลืมตา​ไม่​ขึ้น

อย่างไรก็ตาม​ ​เพื่อ​ทำ​มงกุฎ​ชิ้น​นี้​แล้ว​ ​ตระกูล​หวัง​ยัง​เพิ่ม​เพชร​เม็ด​เล็ก​ๆ​ ​ขนาด​เท่า​เม็ด​ข้าวสาร​เข้าไป​ด้วย

โชคดี​ที่​ทำ​ออกมา​แล้ว​ทุกคน​ต่าง​พึงพอใจ​เป็นอย่างมาก

คนที​่​เป็น​หัวหน้า​ช่างฝีมือ​ผู้​นั้น​ยัง​กล่าว​ด้วย​ความภาคภูมิใจ​ว่า​ ​“​สาม​สหาย​แห่ง​เหมันต์​นั้น​ ​ดอก​เหมย​หอมหวาน​เมื่อ​ความขม​แห่ง​เหมันต์​มาทัก​ทาย​ ​ทั้ง​หนักแน่น​และ​เข้มแข็ง​เป็น​ที่สุด​”

เขา​ไม่​สงสัย​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​ว่านี​่​จะ​กลายเป็น​สมบัติ​ตกทอด​ของ​ตระกูล​ชิ้น​หนึ่ง

หวัง​ซี​เอง​ก็​ชอบ​มาก​เช่นกัน​ ​พลัน​บังเกิด​ความสนใจ​ต่อ​การ​ทำ​มงกุฎ​ขึ้น​มา​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​กล่าว​กับ​หัวหน้า​ช่างฝีมือ​ผู้​นั้น​ว่า​ ​“​เจ้า​ยัง​มี​แบบ​อะไร​ดี​ๆ​ ​อีก​บ้าง​ ​ลอง​วาด​มา​ให้​ข้า​ ​ข้าว​่าง​แล้ว​จะ​ไปดู​”

เนื่องจาก​เมื่อยี​่​สิบ​ปีก่อน​หัวหน้า​ช่างฝีมือ​ผู้​นั้น​ไม่ได้​รับ​คัดเลือก​เข้า​สำนัก​กิจการ​ภายใน​ ​รู้สึก​ว่า​ชีวิต​นี้​คง​ไร้​วาสนา​ได้​ฝาก​ชื่อเสียง​เอาไว้​แล้ว​ ​ทว่า​จู่ๆ​ ​ก็​มีโอกาส​เช่นนี้​เข้ามา​ ​ย่อม​รู้สึก​ลิงโลด​ยินดี​เป็นเรื่อง​ธรรมดา​ ​จึง​ขานรับ​ซ้ำๆ​ ​ว่า​ ได้​ หลังจาก​ล่ำ​ลา​หวัง​ซี​และ​คนอื่นๆ​ ​แล้วก็​พาลู​กศิษย​์​สอง​สาม​คน​ขะมักเขม้น​ทำงาน​อยู่​ใน​บ้าน​ ​ต่อมา​ทำ​มงกุฎ​ให้​หวัง​ซี​ได้​อีก​หลาย​ชิ้น​ ​จน​เกือบจะ​กลายเป็น​อาจารย์​ทำ​เครื่องประดับ​เฉพาะ​ของ​หวัง​ซี​ไป​แล้ว​ ​และ​ด้วยเหตุนี้​ทำให้​เขา​มีชื่อเสียง​เป็นที่รู้จัก​ไป​ทั่ว​ใต้​หล้า

นี่​ล้วน​เป็นเรื่อง​ในอนาคต

เพื่อให้​เหมาะกับ​การสวม​มงกุฎ​ชิ้น​นี้​แล้ว​ ​หวัง​ซี​เกล้าผม​เป็น​มวย​สูง​ ​สวม​ชุด​เพ่ย​จื่อ​สีขาว​พระจันทร์​ลาย​ขุมทรัพย์​ ​เมื่อ​ไป​ถึง​ตระกูล​ถาน​ก็​กลายเป็น​ที่​ชื่นชม​ของ​คน​ทั้ง​ห้อง​จริงๆ

แม้น​สถานะ​ของ​ตระกูล​ถาน​ไม่​สูง​ไม่​ต่ำ​ ​แต่​ความสัมพันธ์​กับ​ตระกูล​ชั้นสูง​อื่นๆ​ ​ใน​จิง​เฉิง​ล้วน​ไม่เลว​นัก​ ​นอกจาก​มีสัม​พันธ์​อัน​ดี​กับ​ตระกูล​ชั้นสูง​ลำดับ​ต้นๆ​ ​อย่าง​จวน​ชิง​ผิง​โหว​แล้ว​ ​กับ​ตระกูล​ขุนนาง​ทั่วไป​ก็​มีสัม​พันธ์​ที่​ดี​ไม่​แพ้​กัน​ ​วันนี้​จึง​มี​เด็กสาว​จาก​ตระกูล​สามัญ​ที่​มีสัม​พันธ์​กับ​จวน​ชิง​ผิง​โหว​มาร​่ว​มงาน​ด้วย​หลาย​ท่าน

พวก​นาง​รวมตัวกัน​กระซิบกระซาบ​คุย​เรื่อง​หวัง​ซี

“​เป็นคุณ​หนู​จาก​ตระกูล​ใด​?​ ​หน้าตา​งดงาม​ยิ่ง​!​”

“​ไม่รู้​ว่า​เป็นคุณ​หนู​ของ​ตระกูล​ใด​ ​ข้า​ไม่เคย​เห็น​มาก​่อน​ ​มงกุฎ​บน​ศีรษะ​นาง​ชิ้น​นั้น​น่าจะเป็น​เพชร​กระมัง​ ​ครอบครัว​นาง​ต้อง​ร่ำรวย​และ​รัก​นาง​มาก​เป็นแน่​”

“​หรือว่า​จะ​เป็นคุณ​หนู​จาก​ตระกูล​เหยี​ยน​?​ ​บัดนี้​มี​เพียง​ตระกูล​เหยี​ยน​เท่านั้น​ที่​ยัง​กรำ​ศึก​อยู่​ข้างนอก​”

เด็กสาว​จาก​ตระกูล​ขุนนาง​มีย​ศตำ​แหน่ง​อย่าง​พวก​นาง​เหล่านี้​ล้วน​ทราบ​ดี​ว่า​ ​มี​เพียง​การทำศึก​สงคราม​เท่านั้น​ครอบครัว​ถึง​ร่ำรวย​และ​มั่งคั่ง​ขึ้น​มา​อย่างกะทันหัน​ได้

“​ไม่น่า​ใช่​”​ ​มี​คน​กล่าว​แย้ง​ ​“​หลาย​ปี​มานี​้​ตระกูล​เหยี​ยน​อยู่​อย่าง​เจียมเนื้อเจียมตัว​ ​นอกจากนี้​สายสกุล​ของ​ใต้เท้า​เหยี​ยน​ยัง​มี​แต่​บุตรชาย​ไม่มี​บุตรสาว​ ​ส่วน​บ้าน​สาย​อื่นๆ​ ​ก็​มิได้​ร่ำรวย​เท่า​ตระกูล​เหยี​ยน​”

“​ถึง​มีเงิน​ก็​ไม่มีทาง​ปล่อย​ให้​นาง​เที่ยว​โอ้อวด​เช่นนี้​”

“​เช่นนั้น​คุณหนู​ที่​สวม​ชุด​เพ่ย​จื่อ​สีแดง​ชาด​ข้างๆ​ ​นาง​คน​นั้น​เล่า​เป็น​ผู้ใด​?​ ​ทั้งสอง​คน​มาด​้ว​ยกัน​ ​หาก​มิใช่​คน​ครอบครัว​เดียวกัน​ก็​ต้อง​เป็น​ญาติ​กัน​ ​พวก​เจ้า​มี​ใคร​รู้จัก​หรือไม่​”

เมื่อ​รู้​ว่า​คนที​่​อยู่​ข้าง​กาย​นาง​เป็น​ใคร​ ​บางครั้ง​ก็​ช่วย​ให้​คาดเดา​ได้​ว่านาง​เป็น​ใคร

ทุกคน​ต่าง​ส่าย​ศีรษะ

คนที​่​กระตือรือร้น​หน่อย​จึง​ลุกขึ้น​ ​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​จะ​ไป​ถาม​คุณหนู​สี่​ถาน​ ​ได้ยิน​ว่านาง​ใกล้​จะ​ได้​เป็น​ชายา​ของ​องค์​ชาย​สี่​แล้ว​ ​ไม่แน่​ว่า​อาจ​เป็น​ญาติ​ของ​ฝั่ง​นั้น​ก็​เป็นได้​”

เด็กสาว​คนอื่นๆ​ ​ก็​อยากรู้​เช่นกัน​ ​นอกจาก​ไม่​ห้าม​แล้ว​ ​ยัง​มี​คน​ใจกล้า​อีก​สอง​คน​ไปเป็นเพื่อน​เด็กสาว​ผู้​นั้น​อีกด้วย

คุณหนู​สี่​ถาน​กำลัง​คุย​กับ​หวัง​ซี​อยู่​ด้วย​อาการ​ใจลอย

นาง​รู้​ว่า​ตระกูล​หวัง​เป็น​คหบดี​ร่ำรวย​ของ​สู่​จง​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​ตระกูล​หวัง​จะ​รัก​บุตรสาว​ขนาด​นี้​ ​แม้แต่​ของล้ำค่า​อย่าง​เพชร​ก็​ยัง​เอา​มาทำ​มงกุฎ​ให้​หวัง​ซี

ตระกูล​หวัง​ลงเงิน​ไป​ก้อน​ใหญ่​ขนาด​นี้​ ​ต้อง​อยาก​หาบุ​ตร​เขย​ร่ำรวย​ให้​หวัง​ซี​เป็นแน่

นาง​ขบคิด​ถึง​บุรุษ​ของ​ตระกูล​ถาน​เหล่านั้น​อยู่​ใน​ใจ​ ​ดวงตา​อด​ชำเลือง​มอง​ไป​บน​ศีรษะ​ของ​หวัง​ซี​ไม่ได้​ ​ตอนที่​หวัง​ซีพูด​ว่านาง​นำ​ขนม​มาร​่ว​มงาน​เลี้ยง​ของ​ตระกูล​ถาน​ด้วย​นั้น​ ​คุณหนู​สี่​ถาน​ยัง​ได้ยิน​ไม่ชัด​ด้วยซ้ำ​ว่านาง​พูด​อะไร​บ้าง

ทำให้​หวัง​ซีสง​สัย​อยู่​ใน​ใจ​ว่า​ หรือ​ตอนนี้​ใน​เมืองหลวง​จะ​ไม่​นิยม​ส่ง​ขนม​ให้​กัน​แล้ว​?​ ​นี่​เกิด​อะไร​ขึ้น​?

คุณหนู​สี่​ถาน​เห็น​หวัง​ซี​มอง​นาง​ด้วย​สีหน้า​ที่​เต็มไปด้วย​ความสงสัย​ ​ถึง​ได้สติ​คืน​กลับมา​ ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​อย่าง​ขออภัย​ว่า​ ​“​ได้​แต่​สนใจ​ดู​มงกุฎ​ของ​เจ้า​แล้ว​”

หวัง​ซี​รู้​ว่าวั​นนี​้​นาง​แต่งกาย​โดดเด่น​เกินหน้า​เจ้าภาพ​ไป​สักหน่อย​ ​แต่​นาง​รับปาก​เฉินลั​่ว​แล้ว​ ​รู้สึก​ว่า​แทนที่จะ​ไป​ทำให้​คนอื่น​อิจฉาตาร้อน​ใน​โอกาส​อื่น​ ​มิสู​้​สวมใส่​มา​วันนี้​แล้ว​ค่อย​เก็บ​ขึ้น​มา

นาง​ได้​แต่​กล่าว​เป็นนัย​ว่า​ ​“​ข้า​เอง​ก็​รู้สึก​ว่า​มัน​สวย​ ​เป็น​โอกาส​ที่​หา​ได้​ยาก​ยิ่ง​ ​ก็​เลย​ใส่​มา​อวด​โฉม​ที่​บ้าน​ของ​น้องสาว​ ​หาก​เป็นบ้า​นข​อง​ผู้อื่น​ ​ข้า​คง​ไม่กล้า​จริงๆ​”

คุณหนู​สี่​ถาน​ถาม​อย่างแปลกใจ​ว่า​ ​“​เพราะเหตุใด​หรือ​”

หวัง​ซีก​ล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ตระกูล​ถาน​ซื่อสัตย์​เที่ยงธรรม​ ​บุตรหลาน​ก็​องอาจ​กล้าหาญ​ ​ข้า​ทั้ง​ไม่​กลัว​ทำ​หาย​และ​ไม่​กลัว​ถูก​ขโมย​”

คุณหนู​สี่​ถาน​หัวเราะ​ฮ่า​เสียงดัง​ ​รู้สึก​ว่า​หวัง​ซี​มี​วาจา​ขบขัน​ ​ชวน​ให้​คน​บังเกิด​ความรู้สึก​ดี​เป็น​อย่างยิ่ง

ทั้งสอง​คน​คุย​กัน​สอง​สาม​ประโยค​ ​ก็​มี​แขก​มาถึง​อีกแล้ว​ ​คุณหนู​สี่​ถาน​จัด​ให้​นาง​กับ​ฉัง​เคอ​ไป​นั่ง​ที่​โถง​รับรอง​เสร็จ​แล้ว​ ​ถึง​ได้​ออก​ไป​ต้อนรับ​แขก

เพียงแต่ว่า​นาง​เพิ่ง​ออกจาก​โถง​รับรอง​ ​คุณหนู​สาม​คน​ก็​ล้อม​นาง​เอาไว้​ ​ทยอย​กัน​สืบ​ข่าว​ว่า​หวัง​ซี​เป็น​ใคร​ ​ยัง​กล่าว​ชม​ว่า​มงกุฎ​ของ​หวัง​ซีสว​ยอี​กด​้วย

คุณหนู​สี่​ถาน​หัวเราะ​ไม่​ออก​ร้องไห้​ไม่ได้​ ​บอกกล่าว​สถานะ​ของ​หวัง​ซี​ให้​พวก​นาง​รู้​ ​ยัง​กล่าว​ด้วยว่า​ ​“​นาง​เป็น​คน​ไม่เลว​เลย​ ​หาก​พวก​เจ้า​อยาก​คุย​กับ​นาง​ก็​ช่วย​ข้า​ไป​อยู่​เป็นเพื่อน​แขก​ได้​ ​ด้าน​นี้​ข้า​กำลัง​ยุ่ง​อยู่​!​”

เด็กสาว​ทั้ง​สาม​ไม่​ขวางทาง​คุณหนู​สี่​ถาน​เอาไว้​อีก​ ​ถอย​ออก​ไป​กระซิบกระซาบ​กัน​อยู่​ใต้​ต้นไม้​ข้างๆ

“​บอกว่า​เป็น​ญาติห่างๆ​ ​มิใช่​หรือ​ ​ร่ำรวย​ปานนี้​ ​เหตุใด​ถึง​มา​เยี่ยม​ญาติ​อย่าง​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​?​ ​ครอบครัว​พวกเขา​ได้ชื่อ​ว่า​พึ่งพา​ไม่ได้​มิใช่​หรือ​”

“​บางที​อาจ​ไม่ทราบ​เรื่อง​ก็​เป็นได้​ ​ไม่ว่า​จะ​พูด​อย่างไร​ ​หย่ง​เฉิง​โหวก​็​เป็นหนึ่ง​ใน​ผู้บังคับบัญชา​ทหาร​ทั้ง​ห้า​ ​ได้​ผูก​สัมพันธ์​กับ​ครอบครัว​พวกเขา​ ​ยาม​ออกเรือน​ตระกูล​สามี​ก็​น่าจะ​ให้เกียรติ​เพิ่มขึ้น​บ้าง​กระมัง​”

“​น่าเสียดาย​ ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​นั้น​อย่างมาก​ก็​พอดูได้​เท่านั้น​ ​ยาม​เกิดเรื่อง​ขึ้น​จริงๆ​ ​ก็​แสร้งทำ​เป็น​หูหนวก​ตาบอด​ ​พึ่งพา​อะไร​ไม่ได้​แม้แต่​ครึ่ง​เดียว​”

“​ถูกต้อง​ ​ถูกต้อง​”​ ​เด็กสาว​ทั้งหลาย​คุย​กัน​ไป​คุย​กัน​มา​ ​ต่าง​รู้สึก​กระฉับกระเฉง​ขึ้น​มา​เล็กน้อย​ ​“​เจ้า​ดู​ตระกูล​ซือ​ ​แม้นว่า​ซือ​จู​จะ​น่ารังเกียจ​ ​แต่​ปีนั​้น​จวน​หย่ง​เฉิง​โหวก​็​ได้รับ​ประโยชน์​จาก​ตระกูล​ซือ​เป็น​จำนวนมาก​ ​พอ​เกิดเรื่อง​กับ​ตระกูล​ซือ​ ​การ​ที่​เจ้า​กลัว​ติดร่างแห​ไป​ด้วย​ ​จึง​ไม่กล้า​ช่วย​พูด​ให้​ก็​ถือเป็น​เรื่อง​ปกติ​ของ​มนุษย์​ ​เนื่องจาก​ผู้ใด​บ้าง​ไม่มี​หนึ่ง​ครอบครัว​ใหญ่​ให้​ต้อง​ดูแล​ ​แต่​บัดนี้​คดีความ​ถูก​ตัดสิน​ลงมา​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ทว่า​กลับ​ไม่มีใคร​ส่ง​ผ้าห่ม​เครื่องใช้​ไป​ให้​ใน​เรือนจำ​แม้แต่​คนเดียว​ ​ตอนที่​คน​ตระกูล​ซือ​ถูก​เนรเทศ​ออกจาก​เมืองหลวง​ก็​ไม่มีใคร​ช่วย​ติดสินบน​เจ้าหน้าที่​คุ้มกัน​คน​แม้แต่​คนเดียว​ ​นี่​ออกจะ​เกินไป​แล้ว​”​

“​นี่​ก็​น่าจะ​มีเหตุผล​กระมัง​ ​เจ้า​ดู​แม้แต่​ซือ​จู​ผู้​นั้น​ยัง​ไม่​โผล่​หน้า​ออกมา​เลย​ ​เหตุใด​คน​จวน​หย่ง​เฉิง​โหวต​้​อง​เสนอหน้า​ออกมา​ด้วย​?​”

“​คุณชาย​ใหญ่​ตระกูล​เฉิน​ทราบ​เรื่อง​หรือไม่​ ​หาก​ทราบ​ ​คง​ไม่​ชอบ​ซือ​จู​เหมือน​เมื่อก่อน​แล้ว​กระมัง​!​”

เนื่องจาก​เฉิน​อิง​มาจาก​ครอบครัว​ร่ำรวย​ทรงอิทธิพล​ ​เป็น​บุรุษ​รูปงาม​ที่​วางตัว​สง่า​ ​สำหรับ​คนที​่​ไม่รู้​จัก​เขา​ ​ยัง​มี​เด็กสาว​รอ​ออกเรือน​อีก​เป็น​จำนวนมาก​ที่​พร้อม​จะ​หลงใหล​เขา

ซือ​จู​พลัน​กลายเป็น​หัวข้อ​สนทนา​ของ​เด็กสาว​เหล่านี้​ไป​ใน​บัดดล

ฉัง​เคอ​ที่​บังเอิญ​ผ่าน​ทาง​มา​ได้ยิน​แล้ว​ ​อด​ทอดถอนใจ​อย่างหนัก​หน่วง​ไม่ได้​ ​กล่าว​กับ​หวัง​ซี​ว่า​ ​“​คิดถึง​ปีนั​้น​ ​ข้า​เอง​ก็​ชอบ​เฉิน​อิง​เช่นนี้​เหมือนกัน​”

หวัง​ซี​เม้มปาก​หัวเราะ​ ​กล่าวว่า​ ​“​ตอนนี้​เจ้า​ไม่​ชอบ​เฉิน​อิง​แล้ว​หรือ​ ​เพราะเหตุใด​เล่า​ ​ตั้งแต่​เมื่อไร​กัน​”

ฉัง​เคอ​ตรึกตรอง​อย่างละเอียด​ ​กล่าวว่า​ ​“​น่าจะเป็น​ตอนที่​เขา​บอกว่า​ชอบ​ซือ​จู​กระมัง​!​ ​เมื่อก่อน​ข้า​แค่​รู้สึก​ว่า​เขา​โชคร้าย​ที่​ถูก​เฉินลั​่ว​ยกตนข่มท่าน​เพราะ​มี​ชาติกำเนิด​ดีกว่า​ ​บัดนี้​มาคิด​ๆ​ ​ดูแล​้ว​ ​คนที​่​น่าสงสาร​ก็​มี​จุด​ที่​น่ารังเกียจ​เช่นกัน​”

นาง​ถึงกับ​ลอบ​ดีใจ​ ​โชคดี​ที่​ตอนนั้น​นาง​รู้สึก​ว่า​ไม่ว่า​อย่างไร​ตน​ก็​ไม่คู่ควร​กับ​เฉิน​อิง​ ​จึง​ไม่มีความคิด​เป็นอื่น

ไม่อย่างนั้น​คงได้​รอ​วัน​ขายหน้า​แล้ว​กระมัง​!

นาง​นึกถึง​ฉัง​เหยี​ยน​ขึ้น​มา​ ​กระซิบ​ที่​ข้าง​หู​หวัง​ซี​ว่า​ ​“​คน​ข้าง​กาย​ข้า​ได้ยิน​คน​จวน​เซียง​หยาง​โหว​บอก​มา​ว่า​ ​งานแต่ง​ของ​คุณชาย​สี่​ของ​พวกเขา​กำหนดให้​จัด​ขึ้น​ใน​เดือน​สี่​ปีหน้า​ ​เหมือน​จะ​เป็นช่วง​เวลา​ใกล้​ๆ​ ​กับ​งาน​ของ​พี่สาว​สาม​”

หวัง​ซีก​ล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ก็​ถือเป็น​การ​ตัด​จบ​เส้น​วาสนา​นี้​แล้ว​เริ่มต้น​ใหม่​ก็แล้วกัน​!​”​

แต่​หวัง​ว่า​ฉัง​เหยี​ยน​จะ​ปล่อยวาง​ได้

ฉัง​เคอ​ถอนหายใจ​อีกครั้ง​หนึ่ง

การ​มาถึง​ของ​คุณหนู​รอง​อู๋​ทำให้​งานเลี้ยง​คึกคัก​ขึ้น​มา

ทุกคน​ต่าง​ห้อมล้อม​นาง​เอ่ย​ถาม​เรื่อง​โน้น​เรื่อง​นี้​ ​มองออก​ว่านาง​เด่นดัง​เป็นที่นิยม​ใน​หมู่​ผู้คน​ยิ่งนัก

ลู่​หลิง​ร่วมทาง​มา​พร้อมกับ​คุณหนู​รอง​อู๋​ ​ตอนที่​คุณหนู​รอง​อู๋​ถูก​คนอื่นๆ​ ​ห้อมล้อม​นั้น​ ​นาง​ก็​ทิ้ง​คุณหนู​รอง​อู๋​วิ่ง​มาหา​หวัง​ซี

พอทั​้ง​สอง​คน​พบ​หน้า​กัน​ลู่​หลิง​ก็​กล่าว​ชม​มงกุฎ​ของ​นาง​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ ​ยัง​มอง​สำรวจ​อย่างละเอียด​ไป​หนึ่ง​รอบ​อีกด้วย​ ​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​เอง​ก็​อยาก​ทำ​มงกุฎ​เช่นนี้​สัก​ชิ้น​หนึ่ง​เหมือนกัน​”

นอกจาก​จะ​เป็น​ตระกูล​ขุนนาง​ชั้นสูง​ของ​จิง​เฉิง​แล้ว​ ​จวน​เจียง​ชวน​ป๋อ​ยัง​สร้าง​คุณูปการ​แก่​ประเทศชาติ​ตั้งแต่​เริ่ม​ก่อตั้ง​แผ่นดิน​อีกด้วย​ ​ครอบครัว​มีทรัพย์​สมบัติ​เท่าไร​กัน​แน่นั​้น​ ​คาด​ว่า​คง​ไม่มีใคร​บอก​ให้​กระจ่าง​ได้

แน่นอน​หวัง​ซีย​่​อม​ไม่​คิด​ว่า​ลู่​หลิง​ไม่มี​กำลัง​จ่าย

นาง​แนะนำ​อาจารย์​คน​ทำ​มงกุฎ​ของ​ตน​ให้​ลู่​หลิง​ ​ใน​งานเลี้ยง​ทั้งสอง​เอาแต่​คุย​เรื่อง​นี้​โดยตลอด​ ​กระทั่ง​คุณหนู​รอง​อู๋​มาถึง​ ​นาง​แกล้ง​บิด​หู​ลู่​หลิง​พลาง​กล่าว​ ​“​ดียิ่ง​!​ ​พวก​เจ้า​มา​แอบ​คุย​กัน​อยู่​ที่นี่​ ​ยัง​ไม่​ไป​อยู่​เป็นเพื่อน​ข้า​อีก​”

ผู้คน​โดยรอบ​ต่าง​พากัน​หัวเราะ​ขบขัน

หวัง​ซีกั​บลู​่​หลิง​รีบ​กล่าว​ขอโทษ​ขอ​โพย​คุณหนู​รอง​อู๋​ ​คุณหนู​รอง​อู๋​กับ​หวัง​ซี​ต่าง​คน​ต่าง​แลกเปลี่ยน​ที่อยู่​กัน​เรียบร้อย​แล้ว​ ​คุณหนู​รอง​อู๋​ถึง​ได้​รู้สึก​ดีขึ้น​มา​เล็กน้อย​ ​กล่าวว่า​ ​“​ถึง​เวลา​พวก​เจ้า​อย่า​ลืม​เขียนจดหมาย​ไปหา​ข้า​ด้วย​ ​หาก​มีโอกาส​ผ่าน​ทาง​ไป​เจียง​ซี​ ​ต้อง​แวะ​ไป​เล่น​กับ​ข้า​ให้​ได้​ ​ข้า​จากไป​ครานี​้​ ​คง​ไม่ได้​กลับ​จิง​เฉิง​อีก​แปด​ถึง​สิบ​ปี​”

ขณะที่​กล่าว​ ​สีหน้า​ของ​นาง​ดู​สลด​หดหู่​ลงมา

หวัง​ซี​รีบ​กล่าว​ ​“​เช่นนั้น​หาก​เจ้า​มี​เวลาว่าง​ก็​ไปหา​ข้า​ที่​สู่​จง​ได้​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ครอบครัว​ของ​ข้า​เคย​รับ​งาน​จัดหา​เสบียง​ให้​ครอบครัว​ของ​เจ้า​มาก​่อน​ ​ไม่แน่​ว่า​อาจมี​โอกาส​ได้​เจอกัน​จริงๆ​ ​ก็​เป็นได้​”

คุณหนู​รอง​อู๋​ถึง​ได้​รู้สึก​ดีขึ้น​มา​เล็กน้อย

ทุกคน​คุย​กัน​ไป​คุย​กัน​มา​ ​กระทั่ง​พูดถึง​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​คุณหนู​สี่​ถาน​ขึ้น​มา

คุณหนู​รอง​อู๋​เห็น​ว่า​ข้าง​กาย​พวก​นาง​ไม่มีใคร​อื่น​ ​จึง​หันไป​ส่งสายตา​ให้​หวัง​ซีกับ​ฉัง​เคอ​ครั้งหนึ่ง​ ​กระซิบ​กล่าวว่า​ ​“​ถาน​ที่สี่​อาจ​ไม่ได้​แต่ง​กับ​องค์​ชาย​สี่​ ​ได้ยิน​ว่า​ฮ่องเต้​ยัง​ไม่ยอม​มี​รับสั่ง​ลงมา​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​องค์​ชาย​สี่​อยาก​ออก​ไป​ปกครอง​ต่างเมือง​อีก​ ​ประเดี๋ยว​ตอน​พวก​เจ้า​คุย​กับ​ถาน​ที่สี่​ ​ก็​อย่า​เอ่ยถึง​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​นาง​เชียว​”

หวัง​ซี​อด​มอง​คุณหนู​สี่​ถาน​ที่รับรอง​แขก​อยู่​ไกลๆ​ ​ไม่ได้​ ​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​รู้​หรือไม่​ว่า​ฮ่องเต้​ทรง​หมายความว่า​อย่างไร​”

เสียง​ของ​คุณหนู​รอง​อู๋​ยิ่ง​เบา​ลง​กว่า​เดิม​ ​กล่าวว่า​ ​“​ได้ยิน​ว่า​หนิง​ผิน​เอง​ก็​ถูกใจ​ถาน​ที่สี่​ ​อยาก​ให้​ถาน​ที่สี่​แต่ง​กับ​องค์​ชาย​เจ็ด​ ​พวกเขา​อายุ​ไล่เลี่ยกัน​ ​ไม่รู้​ว่า​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​ทรง​คิด​อย่างไร​ ​ได้ยิน​ว่า​พระนาง​เอง​ก็​เห็นด้วย​ ​สุดท้าย​ก็​ต้อง​รอดู​ว่าวัง​หลวง​จะ​ตัดสินใจ​อย่างไร​”

ใน​หัว​ของ​หวัง​ซี​มี​ภาพ​ของ​องค์​ชาย​เจ็ด​ลอย​เด่น​ออกมา

สอง​คน​นี้​มีหน้า​ตา​ที่​เหมาะสม​กัน​จริงๆ​ ​ในทางตรงกันข้าม​คุณหนู​สี่​ถาน​กับ​องค์​ชาย​สี่​นั้น​ ​ผู้​หนึ่ง​ดู​หวาน​เกินไป​อีก​ผู้​หนึ่ง​ดู​เย็นชา​เกินไป​ ​ดู​ไม่​ค่อย​เหมือน​สามีภรรยา​กัน​เท่าไร​นัก

นาง​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​ครั้งหนึ่ง

ชีวิต​ที่​กำหนด​เอง​ไม่ได้​ ​อย่างไร​ก็​ไม่มี​ความแน่นอน

โชคดี​ที่นา​งมา​จาก​ครอบครัว​คนธรรมดา​ ​ก็​เลย​ไม่ต้อง​กลายเป็น​เป้าหมาย​ของ​ผู้ใด

หวัง​ซี​เพิ่งจะ​คิด​เช่นนี้​ไป​ ​คุณหนู​รอง​อู๋​ก็​ใช้​ศอก​กระทุ้ง​นาง​เบา​ๆ​ ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ซุกซน​ว่า​ ​“​เจ้า​เล่า​?​ ​พวก​นาง​ล้วน​มี​วี่แวว​กัน​หมด​แล้ว​ ​เจ้า​มีแผน​การ​อย่างไร​ ​ไม่อย่างนั้น​ ​แต่ง​เข้า​บ้าน​ข้า​ดี​หรือไม่​!​ ​ครอบครัว​เจ้า​เคย​รับ​งาน​จัดหา​เสบียง​ให้​ครอบครัว​ข้ามา​ก่อน​มิใช่​หรือ​ ​ก็​น่าจะ​รู้จัก​ครอบครัว​ข้ามา​บ้าง​แล้ว​กระมัง​!​ ​แทนที่จะ​แต่ง​กับ​คนที​่​ไม่รู้​จัก​หัวนอน​ปลายเท้า​ ​มิสู​้​แต่ง​เข้า​ตระกูล​ข้า​ดีกว่า​ ​พวก​ข้า​เอง​ก็​นับว่า​เป็น​ตระกูล​ซื่อสัตย์​เที่ยงธรรม​ ​มีบุ​ตร​ชาย​และ​หลานชาย​มากมาย​”

เห็นได้ชัด​ว่า​คง​รู้​ประโยค​ที่ว่า​ ​‘​ทั้ง​ไม่​กลัว​ทำ​หาย​และ​ไม่​กลัว​ถูก​ขโมย​’​ ​ประโยค​นั้น​ของ​นาง​แล้ว​

หวัง​ซี​หัวเราะ​ไม่​ออก​ร้องไห้​ไม่ได้​ ​กล่าวว่า​ ​“​หาก​ข้า​จะ​แต่ง​กับ​ใคร​ ​เขา​ต้อง​เชื่อฟัง​ข้า​ ​บุรุษ​ตระกูล​เจ้า​ล้วน​ชอบ​มี​อนุภรรยา​กัน​ทั้งนั้น​”

………………………………………………………