บทที่ 174 หวังให้เธอหลุดออกจากตำแหน่งเร็ว ๆ
หลังจากที่ผู้รับผิดชอบออกไป เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากอีกครั้ง
ถึงแม้จะได้ข้อมูลบางส่วนมาจากผู้ที่รับผิดชอบ แต่ข้อมูลพวกนั้นก็แทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย
แต่ว่า ตอนนี้ก็ยังพอมีเบาะแสอยู่บ้าง ไม่เหมือนตอนแรกที่ไม่รู้อะไรเลยสักนิด……
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจียงหยุนเอ๋อก็หวังว่าตัวเองจะมองในแง่ดีขึ้นมาได้บ้าง ยังไงในตอนนี้ก็พอจะมีหนทางแก้ปัญหาแล้ว สำหรับการตรวจสอบเรื่องนี้ยังไงก็ต้องช่วยอะไรได้แน่นอน
เมื่อสักครู่คนพวกนั้นที่ผู้รับผิดชอบเอ่ยถึง เจียงหยุนเอ๋อแอบจดไว้หมดแล้ว ตอนนี้ เธอหยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมาแล้วตั้งใจคิดพิจารณา
ในเมื่อผู้รับผิดชอบพูดชัดเจนขนาดนั้นแล้ว ผู้ต้องสงสัยก็น่าจะอยู่ในกลุ่มคนพวกนั้นที่เขาเอ่ยถึงนั่นแหละ
เจียงหยุนเอ๋อคิดคาดเดาในใจ
เรื่องนี้สำหรับเจียงหยุนเอ๋อแล้ว เป็นเรื่องที่ติดอยู่ในใจจนไม่สามารถปล่อยวางได้
ตอนนี้ยังคงเป็นปัญหาต่อเนื่อง ถ้าหากปล่อยไว้อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ต้องเกิดผลกระทบไม่ดีต่อบริษัทแน่นอน
ที่จริงสภาพบริษัทตอนนี้ก็บอกไม่ได้ว่าแย่แค่ไหน ถ้าหากไม่รีบจัดการเรื่องนี้ให้จบ คงทำให้สภาพบริษัทย่ำแย่ไปมากกว่าเดิมแน่ ๆ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็อดกระวนกระวายใจไม่ได้
เธอไม่อยากเห็นบริษัทอยู่ในสภาพอย่างนี้ต่อไป ปัญหาทั้งหมดควรรีบแก้ไขโดยเร็ว จึงจะทำให้เธอสบายใจขึ้นมาได้
เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกปวดหัวทุกข์ใจ แต่ก็คิดขึ้นมาได้ว่าวิธีการนี้เป็นลี่จุนถิงบอกตัวเองมา ไม่แน่ว่า……ตัวเองคงยังต้องการความช่วยเหลือจากลี่จุนถิง
ยังไงซะ……เจียงหยุนเอ๋อก็ต้องยอมรับ ว่าการจัดการเรื่องบางเรื่อง ลี่จุนถิงสามารถทำได้ดีกว่าตัวเอง
ในเมื่อลี่จุนถิงช่วยตัวเองคิดหาวิธีการแบบนี้ออกมา หลังจากนี้ควรจัดการยังไง ลี่จุนถิงก็คงจะรู้ดีกว่าตัวเองอยู่แล้ว
ถึงแม้ว่าเจียงหยุนเอ๋อจะอยากจัดการปัญหาต่าง ๆ ด้วยตัวเองได้บ้าง แต่จนถึงวันนี้ เธอก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ควรจะไปกังวลอะไรมากมายอย่างนั้น
ตอนนี้เป็นช่วงวิกฤตของบริษัท เธอไม่สามารถมัวแต่สนความคิดตัวเองจนไม่สนใจผลประโยชน์ของบริษัท
คิดไปคิดมา เจียงหยุนเอ๋อก็ยังคงรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสามารถมากมายขนาดนั้น ไปหาลี่จุนถิงให้ช่วยตัวเองคิดหาวิธีจะดีกว่า
แต่ว่า เมื่อคิดถึงท่าทีของตัวเองเมื่อสักครู่นี้ เจียงหยุนเอ๋อก็ยังรู้สึกอายอยู่บ้าง
ลี่จุนถิงอุตส่าห์พยายามช่วยตัวเองคิดหาทาง แต่เธอกลับกลัวว่าตัวเองจะเสียเวลา ไม่รู้ว่าลี่จุนถิงเห็นท่าทีของตัวเองแบบนั้นแล้ว จะรู้สึก……ไม่พอใจตัวเองบ้างหรือเปล่า
แต่เจียงหยุนเอ๋อก็เชื่อว่า ลี่จุนถิงไม่น่าจะเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยแบบนั้น ตัวเองให้ความสำคัญกับงานตอนนี้ขนาดไหน ลี่จุนถิงเองก็น่าจะเข้าใจได้ดีถึงจะถูก
ระหว่างทางที่ไปหาลี่จุนถิง ในใจเจียงหยุนเอ๋อก็พอจะมีความคิดอะไรขึ้นมาบ้าง เพียงแต่ เธอทำเรื่องแบบนั้นไม่ได้ ยังคงต้องพึ่งพาการช่วยเหลือจากลี่จุนถิง
ตอนที่ทั้งสองคนพบหน้ากัน ในแววตาของลี่จุนถิงมีรอยยิ้มอย่างเห็นได้ชัด น้ำเสียงก็มีอารมณ์เยาะเย้ยเล็กน้อย
“ว้าว เมื่อกี้ไม่ใช่รีบกลับไปหรอกเหรอ? ทำไมถึงได้รีบออกมาพบฉันอีกแล้วล่ะ?”
ถึงแม้จะเดาได้ว่าลี่จุนถิงต้องพูดแบบนี้ แต่เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย
“พอได้แล้ว อย่าแกล้งฉันเลย ฉันก็……ไม่ใช่เพราะรีบร้อนเรื่องบริษัทหรอกหรือไง……” เจียงหยุนเอ๋อเอ่ยพูดเสียงเบา
ได้ยินดังนั้น ลี่จุนถิงก็แสดงสีหน้าเคร่งขรึมขึ้น แล้วพูดว่า : “อืม ฉันรู้ เธอมีอะไรให้ช่วย ก็บอกฉันมาเถอะ”
เจียงหยุนเอ๋อรีบหยิบเอารายชื่อออกมาจากกระเป๋า แล้วยื่นไปตรงหน้าลี่จุนถิง
“นายช่วยฉันสืบคนที่อยู่ในรายชื่อพวกนี้หน่อยได้ไหม คนพวกนี้ช่วงนี้มีเรื่องต้องรีบใช้เงินหรือเปล่า หรือไม่ก็ บัญชีของพวกเขามีเงินก้อนใหญ่โอนเข้าบัญชีกะทันหันไหม”
ได้ยินที่เจียงหยุนเอ๋อพูด ลี่จุนถิงก็รู้สึกว่าเธอเองก็พอจะฉลาดอยู่บ้าง
สาวน้อยคนนี้เป็นคนเข้าใจอะไรได้ง่าย รู้ว่าต้องเริ่มสืบหาจากตรงนี้ รู้ว่าคนที่ขายความลับบริษัทนั้นทำเพื่อเงิน
แต่ว่า ในเมื่อเจียงหยุนเอ๋อคิดได้อย่างนี้ ในใจลี่จุนถิงก็รู้ดีอยู่แล้ว ดังนั้นก่อนหน้าที่เจียงหยุนเอ๋อจะเอ่ยขอร้อง เขาได้ไปสืบข้อมูลมาหมดแล้ว
แต่ทว่า ถ้าหากสืบเจอผลลัพธ์อะไร ลี่จุนถิงก็ต้องรีบบอกเจียงหยุนเอ๋ออยู่แล้ว
แต่ในความเป็นจริงก็คือ หลังจากที่เขาสืบค้นอย่างละเอียดแล้ว ปรากฏว่าคนพวกนี้นั้นฉลาดมาก ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ไม่มีข้อบกพร่องอะไรโผล่ให้เห็นได้เลย
ถึงแม้ในความเป็นจริงเรื่องจะเป็นอย่างนี้ แต่ตอนนี้ ลี่จุนถิงก็อดไม่ได้ที่จะเห็นเจียงหยุนเอ๋อผิดหวัง เลยยังไม่ได้บอกความจริงออกไป
เขาเม้มปากเบา ๆ จากนั้นก็มองไปยังเจียงหยุนเอ๋อแล้วเอ่ยพูด : “เธอวางใจเถอะ เรื่องนี้ ฉันจะช่วยเธอสืบหาต่อไป”
หลังจากที่ได้ยินลี่จุนถิงรับปากอย่างแน่นอนแล้วนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
“อืม เรื่องนี้รบกวนนายด้วยนะ”
ถึงตอนนี้ เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกว่าตัวเองก็ไม่ได้หาเรื่องรบกวนลี่จุนถิง ในเมื่อ……พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน เรื่องบางเรื่อง ก็ต้องช่วยเหลือพึ่งพากันไม่ใช่เหรอ?
ถึงแม้เธอในตอนนี้ยังไม่มีความสามารถที่จะช่วยอะไรลี่จุนถิงได้ แต่เจียงหยุนเอ๋อเชื่อว่าหลังจากที่ตัวเองผ่านเรื่องพวกนี้ไปได้ ก็จะมีความสามารถได้อย่างลี่จุนถิง
ไม่นานเจียงหยุนเอ๋อก็ออกจากร้านอาหารไป กลับไปยังบริษัทเพื่อจัดการเรื่องของตัวเองต่อ
ขณะนี้เอง สมิทธ์ก็ได้โทรศัพท์มาหาลี่จุนถิง
ขณะที่รับสายจากสมิทธ์ ลี่จุนถิงก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรแปลกประหลาด ในเมื่อช่วงนี้บริษัทมีปัญหามากมาย เขาโทรมาสอบถามสถานการณ์ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
“ฮัลโหล จุนถิง ทำไมบริษัททางนั้นมีปัญหาได้ไม่เว้นวันล่ะ?”
น้ำเสียงสมิทธ์ฟังดูซีเรียสมาก ฟังดูเหมือนกับไม่ค่อยพอใจกับสถานการณ์ตอนนี้
ลี่จุนถิงไตร่ตรองอยู่สักครู่ แล้วเอ่ยพูด : “ครับ หยุนเอ๋อกำลังพยายามแก้ปัญหาอยู่”
สมิทธ์ที่อยู่ในสายเงียบไปสักครู่ ก็เอ่ยพูด : “เจียงหยุนเอ๋อ อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับตำแหน่งนี้”
ได้ยินดังนั้น คิ้วของลี่จุนถิงก็เริ่มขมวดเป็นปมขึ้นมาทันที : “สมิทธ์ ตอนนั้นคุณได้รับตำแหน่งของบริษัทจากคนอื่น ไม่เคยเจอเรื่องที่มีคนบางคนคอยแอบเล่นงานคุณเหรอ?”
สมิทธ์ยังไม่เข้าใจว่าที่ลี่จุนถิงถามคำถามนี้นั้นต้องการจะสื่อถึงอะไร เลยรีบตอบกลับไปทันที : “ก็มีอยู่แล้วน่ะสิ”
“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ แล้วทำไมคุณถึงไม่ยอมให้โอกาสเจียงหยุนเอ๋ออีกครั้งล่ะ? ตอนนี้เธอ ก็เหมือนกับคุณในตอนนั้น มีคนอิจฉามากมาย มีคนมากมายที่หวังให้เธอหลุดออกจากตำแหน่งเร็ว ๆ”
พูดถึงตรงนี้ ลี่จุนถิงก็เงียบไปครู่หนึ่ง : “เธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ตอนนี้ก็ยังคงทุ่มเทกับเรื่องนี้อย่างมาก คำถามนี้ของคุณ แสดงให้เห็นว่าคุณไม่เคยเชื่อมั่นในตัวเธอ ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ทำไมตอนแรกถึงได้มอบตำแหน่งนี้ให้กับเธ