บทที่ 160 แซ่เดียวกัน แต่นิสัยไม่เหมือนกัน

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 160 แซ่เดียวกัน แต่นิสัยไม่เหมือนกัน

บทที่ 160 แซ่เดียวกัน แต่นิสัยไม่เหมือนกัน

กู้เสี่ยวอี้นอนอยู่บนเตียงด้วยอาการร่อแร่ ส่วนกู้เสี่ยวหวานก็มีใบหน้าบวมช้ำจนคนมองคับข้องใจอย่างมาก ขนาดบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ นางกลับคิดแบกรับเรื่องทั้งหมดด้วยตัวเองอย่างเงียบ ๆ! เด็กหญิงตัวเล็กอายุเพียงแปดขวบเท่านั้นจะมีความอดทนสูงขนาดนี้ได้อย่างไร ซึ่งนี่ทำให้ฉือโถวรู้สึกลำบากใจ

กู้เสี่ยวหวานกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้

นิสัยของกู้หนิงผิงเป็นอย่างไร? กู้เสี่ยวหวานจะสามารถอยู่กับเขาทั้งวันโดยไม่ให้เขารู้ได้หรือไม่?

แม้กู้หนิงผิงจะค่อนข้างใจร้อน แต่เขาก็จริงใจต่อครอบครัว กู้เสี่ยวอี้ผู้เป็นน้องสาวของเขาเปรียบเหมือนสมบัติอันล้ำค่า ถ้าเขารู้ว่ากู้เสี่ยวอี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ และรู้ว่าใครเป็นคนทำ นางแน่ใจว่าเขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาคืนบุคคลนั้น!

“พี่ฉือโถว ท่านไปเถอะ! เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว พูดอย่างไรมันก็ช่วยอะไรไม่ได้! ยิ่งคนรู้น้อยก็มีคนกังวลน้อยลง!”

“มันจะใช้เวลานานเท่าไร?”

“ตราบเท่าที่ท่านสามารถปิดบังได้ อย่างไรก็ตามเสี่ยวอี้จะดีขึ้นทุกวันแน่นอน ถ้าท่านสามารถปิดเรื่องไว้ได้หนึ่งวันก็นับเป็นหนึ่งวัน ถึงเวลาที่สองพี่น้องรู้ก็คงจะไม่เศร้าเกินไป!”

“ตกลง ข้าจะเชื่อเจ้า!”

“พี่ฉือโถว ข้าตัดเสื้อผ้าใหม่ให้หนิงอันและหนิงผิงที่ร้านขายผ้าจี๋เสียง รบกวนท่านไปเอามันมาให้หน่อย ข้าจ่ายเงินแล้ว และยังมีเงินอีกห้าตำลึงเงิน สองพี่น้องกำลังเรียนอยู่ข้างนอก จะต้องเสียเงินซื้อพู่กัน หมึก กระดาษ และแท่นฝนหมึกอย่างแน่นอน รบกวนมอบสิ่งเหล่านี้ให้พวกเขาที”

ฉือโถวรับไว้และพยักหน้า

“ฝากบอกพวกเขาว่าทุกอย่างที่บ้านเรียบร้อยดี ให้พวกเขาไม่ต้องกังวล ตั้งใจเรียน และถ้ากลับมาข้าจะทดสอบพวกเขา ถ้าผลลัพธ์ออกมาไม่น่าพอใจ ข้าจะตีด้วยไม้กระดาน!*[1]” กู้เสี่ยวหวานแสร้งทำเป็นผ่อนคลาย นั่นคือเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสงสัย

*[1]เป็นวิธีการลงโทษแบบเก่า คำอุปมาสำหรับการวิจารณ์หรือการลงโทษที่รุนแรง

ฉือโถวพยักหน้าอย่างหนัก โดยรู้ว่ากู้เสี่ยวหวานหมายถึงอะไร “ตกลง ข้าจะไปพรุ่งนี้! ลำบากเจ้าแล้ว”

“เหนื่อยหรือลำบากแค่ไหนก็ต้องซ่อนไว้ ข้ารู้นิสัยของหนิงผิงดี ถ้าเขารู้ เขาจะไม่ไปสำนักศึกษาแน่นอน ข้ากลัวแค่เรื่องนั้น!”

ฉือโถวออกจากบ้านด้วยใจที่หนักอึ้ง เดินไปรอบ ๆ ลานบ้าน และพบว่าที่ผนังยังมีฟืนไม่เพียงพอ เขารีบหยิบตะกร้าขึ้นมา บอกท่านป้าจางแล้วออกไป

ในครัวเล็ก ๆ ท่านป้าจางและเหลียงเหยาซื่อยุ่งกันมาก

ท่านป้าจางกำลังหุงข้าวต้มอยู่ หลังกรอกข้าวลงในหม้อ ท่านป้าจางก็นั่งอยู่หน้าเตาและก่อไฟ

ท่านป้าจางคิดเรื่องนี้อยู่ในใจ โดยคิดถึงเรื่องที่กู้เสี่ยวอี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก เรื่องนี้ทำให้นางรู้สึกอึดอัดอย่างอธิบายไม่ถูก

นางไม่รู้ว่าเงินในตัวของกู้เสี่ยวหวานมาจากไหน แต่จากสิ่งที่รู้เกี่ยวกับกู้เสี่ยวหวานคือนางไม่ได้ขโมยมาอย่างแน่นอน

บางทีนั่นอาจเป็นเงินที่เหลือเพียงก้อนเดียวที่กู้เสี่ยวหวานมี เดิมทีมันจะถูกใช้เพื่อให้เด็กชายสองคนของครอบครัวกู้ไปสำนักศึกษา แต่คราวนี้ใช้เงินไปถึงหกร้อยตำลึงเงิน แล้วในอนาคตกู้เสี่ยวหวานจะทำอย่างไร!

ถ้าไม่มีเงิน กู้หนิงอันและกู้หนิงผิงจะเรียนได้อย่างไร? นอกจากนี้ยังมีกู้เสี่ยวอี้ที่ไม่รู้ว่าจะใช้เงินมากกว่านี้เพื่อจ้างหมอในอนาคตหรือไม่ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ท่านป้าจางก็กัดฟันด้วยความเกลียดชังต่อกู้ซินเถาและเฉาซื่อ

เหลียงเหยาซื่อกำลังต้มยาที่วันนี้กู้เสี่ยวหวานซื้อมาจากในเมือง

ในครัวเล็กไม่มีเสียงอะไร ยกเว้นเสียงแตกของไม้ที่ไหม้ใต้กองไฟ

“พี่จาง เจอเสี่ยวอี้ที่ไหนหรือ?” เหลียงเหยาซื่ออดใจไม่ไหวจึงถาม

“บอกตามตรงนะ ข้าเจอที่เชิงเขาตอนกลางดึกเมื่อคืนนี้” เมื่อท่านป้าจางคิดถึงคืนที่เจอกู้เสี่ยวอี้ หัวใจของนางก็เต้นแรงขณะพูด “ในตอนที่พวกเราพบเสี่ยวอี้ ตัวของเสี่ยวอี้เต็มไปด้วยเลือดและนอนอยู่ข้างลำธารดูราวกับคนตาย”

เมื่อเหลียงเหยาซื่อได้ยินสิ่งนี้ นางก็ตกใจ เจอกู้เสี่ยวอี้อยู่ที่เชิงเขาด้านหลังและเนื้อตัวยังเต็มไปด้วยเลือด?

“นางเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะไปที่ภูเขาด้านหลังได้อย่างไร!” เหลียงเหยาซื่อตกใจ เมื่อวันก่อนนี้ก็ยังดีอยู่เลย! สองวันต่อมาทำไมถึงเป็นแบบนั้นได้

“ไม่รู้สิ!” ท่านป้าจางพูดบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ “เมื่อคืนนี้ เด็กหนุ่มคนหนึ่งบอกว่าเห็นกู้เสี่ยวอี้อยู่กับเหลียงต้าเปา พวกเราก็ไปหาเหลียงต้าเปา ต้องใช้ความพยายามอย่างมากถึงจะเปิดปากของเหลียงต้าเปาได้ เขาบอกว่าเขาคือคนที่พากู้เสี่ยวอี้ไปที่ภูเขาด้านหลัง!”

“หลานชายของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง?” เหลียงเหยาซื่อตกใจ “ทำไมเรื่องนี้ถึงเกี่ยวข้องกับเหลียงต้าเปาอีกแล้ว?”

เหลียงต้าเปาที่เอาแต่กินกับนอน เขาคือเด็กเหลือขอ เพื่อนเล่นของเขาล้วนเป็นเด็กที่คล้ายกับเขา เขามาหลอกล่อกู้เสี่ยวอี้ได้อย่างไร?

“โอ้ ที่แท้เหลียงต้าเปาก็หลอกกู้เสี่ยวอี้ไปที่ภูเขาด้านหลัง และกู้ซินเถาเป็นคนขอให้เขาทำ!” ท่านป้าจางถ่มน้ำลาย “อายุยังน้อยเท่านี้ กลับรู้จักใช้ความงามยั่วยวนบุรุษเสียแล้ว ช่างแก่แดดเสียจริง ๆ!”

“พี่จาง ท่านหมายความว่าอย่างไร?”

“เหลียงต้าเปาบอกว่า กู้ซินเถาสัญญากับเขาว่าตราบใดที่เขาหลอกกู้เสี่ยวอี้ไปได้ นางจะจูบเขา นี่ไม่ใช่เรื่องน่าอายหรือ! เด็กผู้หญิงกับเด็กผู้ชายอายุแค่สิบกว่าขวบ กลับคิดจะจูบกันแบบที่หนุ่มสาวทำได้อย่างไร?” เมื่อท่านป้าจางพูดถึงกู้ซินเถา ในใจก็นึกโมโห สาวน้อยที่ดูบอบบางเช่นนี้กลับดูไม่เหมือนสาวในหมู่บ้านสักนิด เกรงว่าสาวในเมืองคงจะไม่ได้หน้าบางอย่างที่เห็นเสียแล้ว

“ใช่!” เหลียงเหยาซื่อพูด “นี่มันช่าง……”

เหลียงเหยาซื่อตอบรับเพียงเท่านั้นก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อจริง ๆ

กู้ซินเถา กู้เสี่ยวหวาน และกู้เสี่ยวอี้ต่างก็มีแซ่กู้ แต่นิสัยใจคอของพวกนางกลับแตกต่างกันมาก!

“พี่จาง เสี่ยวอี้บาดเจ็บตรงไหนบ้าง?”

“มีบาดแผลทั่วร่างกาย มีบาดแผลทุกที่” เมื่อท่านป้าจางพูดถึงกู้เสี่ยวอี้ อาการกรุ่นโกรธเมื่อครู่นี้ก็บรรเทาลง ก่อนพูดอย่างลำบากใจ “คิดดูสิว่าเด็กหญิงอายุเพิ่งสี่ขวบจะโชคร้ายถึงขนาดนี้ได้อย่างไร! ทำไมกู้ซินเถาถึงมีจิตใจเหี้ยมโหดเช่นนี้ แม้กระทั่งเด็กหญิงอายุแค่สี่ขวบก็ยังไม่ยอมปล่อยไป”

“กู้ซินเถาคนนี้แย่มากจริง ๆ ตอนนั้นเสี่ยวหวานก็ถูกนางผลักตกน้ำใช่ไหม? เฮ้อ ตอนนี้กู้เสี่ยวอี้ก็ได้รับบาดเจ็บแบบนี้อีกแล้ว ผู้ร้ายก็คือกู้ซินเถา ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่ากู้เสี่ยวหวานและกู้เสี่ยวอี้ไปทำอะไรให้กู้ซินเถา นางถึงไม่ยอมปล่อยสองพี่น้องที่น่าสงสารไป!”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

นังซินเถา นังลูกท้อแก่แดด ตัวแค่นี้แต่อำมหิตขนาดนี้แล้ว โตไปจะอันตรายขนาดไหนเนี่ย ไม่ควรปล่อยให้นางโตอะ

ไหหม่า(海馬)