แม้น​ปาก​บอก​เช่นนั้น​ก็​จริง​ ​แต่​สุดท้าย​แล้ว​หวัง​ซียั​งคง​ไม่​วางใจ​ ​ตอน​ไป​เติม​หีบ​เจ้าสาว​ให้​คุณหนู​รอง​อู๋​ที่​จวน​ชิง​ผิง​โหว​จึง​อด​ถามถึง​เรื่อง​นี้​อย่าง​อ้อม​ๆ​ ​ไม่ได้​ ​“​หลัง​เข้า​ฤดูใบไม้ผลิ​พี่ชาย​ใหญ่​และ​พี่สะใภ้​ใหญ่​ของ​ข้า​อาจมา​เยี่ยม​ที่​จิง​เฉิง​ ​น่าเสียดาย​ที่​ตอนนั้น​เจ้า​ไม่อยู่​จิง​เฉิง​แล้ว​ ​ถึง​เวลา​คงได้​แต่​มา​เยี่ยม​นาย​หญิง​เจ็ด​เท่านั้น​แล้ว​”

คุณหนู​รอง​อู๋​เอง​ก็​คง​ทราบ​ข่าว​แล้ว​เช่นกัน​ ​ยิ้ม​ตอบ​ว่า​ ​“​ใช่​ว่า​เจ้า​ไม่รู้​จัก​อาสะใภ้​เจ็ด​ของ​ข้า​ ​นาง​เป็น​คน​เปิดเผย​และ​ตรงไปตรงมา​ที่สุด​แล้ว​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​พวก​เจ้า​ก็​รู้จัก​กัน​ ​เจ้า​ไม่จำเป็น​ต้อง​กังวล​”

หวัง​ซี​ถึง​ได้​วางใจ​ลงมา​ได้​ ​มอง​สำรวจ​หีบ​เจ้าสาว​ของ​คุณหนู​รอง​อู๋

ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​ไม่ได้​เสด็จ​มาด​้วย​ตัวเอง​ ​ทว่า​ส่ง​ปฏิมากร​ปะการัง​แดง​สูง​สาม​ฉื่อ​มา​ให้​หนึ่ง​คู่​ ​วาง​ไว้​ใน​ตำแหน่ง​ที่​สะดุดตา​ที่สุด​ ​ถัดจาก​นั้น​เป็น​ของ​ที่​พระ​ชายา​แต่ละ​พระองค์​ส่ง​มา​ให้​จาก​วัง​หลวง

นาง​มอง​อย่างละเอียด​ครู่หนึ่ง​ ​ไม่เห็น​มี​ของ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง

เนื่องจาก​ตระกูล​หวัง​อาจ​ได้​ส่ง​เสบียง​ทหาร​ให้​ตระกูล​พวกเขา​ไป​อีก​หลาย​ปี​ ​ฉะนั้น​ยาม​มอง​หวัง​ซี​ ​คุณหนู​รอง​อู๋​จึง​ให้​ความ​สนิทสนม​เพิ่มขึ้น​อีก​หลาย​ส่วน​ ​นาง​กระซิบ​กล่าวว่า​ ​“​องค์​ชาย​สาม​อาจ​ได้​ไป​อิง​เฉิง​ ​ส่วน​องค์​ชาย​ห้า​อาจ​ได้​ไป​หนิงฮ​ว่า​”

ที่หนึ่ง​อยู่​หู​เป่ย​ทาง​ภาค​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ ​อีกที​่​หนึ่ง​อยู่​หนิงฮ​ว่า​ของฝู​เจี​้​ยน​ ​ทั้งสอง​สถานที่​ล้วน​อยู่​ใน​หุบเขา​ ​การคมนาคม​ไม่​สะดวกสบาย​ ​ตั้งอยู่​ใน​พื้นที่​ห่างไกล

หวัง​ซี​อด​ขมวดคิ้ว​ไม่ได้​ ​กล่าว​เสียง​ค่อย​ว่า​ ​“​นี่​หมายถึง​ต้อง​ไป​ปกครอง​ต่างเมือง​หรือ​”

คุณหนู​รอง​อู๋​พยักหน้า​น้อย​ๆ​ ​กล่าวว่า​ ​“​แต่​ถึง​ต้อง​ไป​ ​ก็​ต้อง​รอ​ให้​ผ่านพ้น​ปีใหม่​ไป​ก่อน​ ​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​ไป​โวยวาย​เรื่อง​นี้​กับ​ฮ่องเต้​ ​ฮ่องเต้​จึง​ขัง​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​ไว้​ใน​ตำหนัก​จิ​่ง​หยาง​”

ตำหนัก​จิ​่ง​หยาง​ตั้งอยู่​ทาง​ทิศตะวันออก​ของ​ตำหนัก​จง​ชุ่ย​ ​อยู่​ทาง​ทิศเหนือ​ของ​ตำหนัก​หย่ง​เหอ​ ​เป็น​ตำหนัก​ที่​โดดเดี่ยว​ห่างไกล​ที่สุด​ของ​หก​ตำหนัก

มาถึง​จุด​ที่​แม้แต่​การ​เข้าสังคม​ก็​ไม่​สะดวก​แล้ว​อย่างนั้น​หรือ

หวัง​ซี​ตะลึงงัน

คุณหนู​รอง​อู๋​พยักหน้า

หวัง​ซี​อด​ถอนใจ​เบา​ๆ​ ​ครั้งหนึ่ง​ไม่ได้​ ​จากนั้น​ตระหนัก​ได้​ว่า​ตัวเอง​ทำไม​่​ถูก

วันนี้​เป็น​วัน​เติม​หีบ​เจ้าสาว​ของ​คุณหนู​รอง​อู๋​ ​แต่​ตน​กลับมา​พูด​เรื่อง​ไม่น่า​อภิรมย์​เหล่านี้​กับ​นาง​ ​หวัง​ซี​รีบ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เรื่อง​กิน​เรื่อง​ดื่ม​ ​ย่อม​มีบัญ​ชา​จาก​สวรรค์​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่เห็น​คุณหนู​ลู่​เล่า​?​ ​ปกติ​นาง​ชื่นชอบ​งาน​เช่นนี้​เป็น​ที่สุด​นี่​นา​ ​คง​ไม่ใช่​ว่ายั​งมา​ไม่​ถึง​หรอก​กระมัง​”

คุณหนู​รอง​อู๋​ลอบ​ชมเชย​ความ​มีไหวพริบ​ของ​หวัง​ซี​อยู่​ใน​ใจ​ ​กล่าว​คล้อย​ไป​กับ​คำของ​นาง​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​มาถึง​นาน​แล้ว​ ​แต่​นาง​เจื้อยแจ้ว​ไม่​หยุด​ ​ถูก​ท่าน​ย่า​ของ​ข้า​เรียกตัว​ไป​คุย​ด้วย​ ​คุณหนู​สี่​ถาน​กับ​คุณหนู​ห้า​ถาน​ก็​มา​พร้อมกับ​นาง​ ​ต่าง​ก็​ไปหา​ท่าน​ย่า​ของ​ข้า​พร้อม​นาง​ด้วย​เช่นกัน​”

ทั้งสอง​คน​สนทนา​กัน​ครู่หนึ่ง​ ​ก็​มี​แขก​คนอื่น​มาถึง​อีก​ ​คุณหนู​รอง​อู๋​รีบ​นั่ง​ตัวตรง​อยู่​บน​แหย่ง​ตัว​ใหญ่​ข้างหน้า​ต่าง​ ​ปล่อย​ให้​สาวใช้​ข้าง​กาย​ช่วย​จัดแจง​อาภรณ์​ ​หวัง​ซี​เห็น​นาง​ยุ่ง​มาก​ ​จึง​บอกกล่าว​นาง​ครั้งหนึ่ง​แล้ว​ออกจาก​ห้อง​ของ​คุณหนู​รอง​อู๋​ ​ไปรวม​ตัว​กับ​เหล่า​นาย​หญิง​และ​สะใภ้​ทั้งหลาย​ที่​โถง​รับรอง

นาย​หญิง​เจ็ด​รับรอง​แขก​อยู่​ที่นั่น​ตาม​คาด

หวัง​ซี​ฉวยโอกาส​คุย​กับ​นาง​สอง​สาม​ประโยค​ ​ถือเป็น​การ​โผล่​หน้า​มา​ให้​เห็น​แล้ว​ครั้งหนึ่ง​ ​จากนั้น​ไป​อยู่​กับ​ลู่​หลิง​และ​คนอื่นๆ

กระทั่ง​มอบ​ของขวัญ​เติม​หีบ​เจ้าสาว​เสร็จ​ ​ก็​ถึง​วันที่​คุณหนู​รอง​อู๋​ออกเรือน

หวัง​ซีกั​บส​ตรี​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ไปร​่ว​มงา​นพร​้​อม​กัน

วันนั้น​ตกแต่ง​ด้วย​โคมไฟ​และ​ธง​หลาก​สี​ ​เสียง​ฆ้อง​เสียง​กลอง​ดัง​กระหึ่ม​ฟ้า​ ​ตั้งโต๊ะ​หนึ่งร้อย​ยี่สิบ​แปด​โต๊ะ​ ​ราวกับ​คน​ทั้ง​จิง​เฉิง​ต่าง​วิ่ง​มาดู​ความ​ครึกครื้น​กัน​เกือบ​หมด​แล้วก็​ไม่​ปาน

จวบจน​ถึง​วัน​แต่งงาน​ของ​คุณชาย​สาม​ฉัง​ ​ทุกคน​ก็​ยัง​คุย​เรื่อง​นี้​กัน​อยู่

นาย​หญิง​รอง​ไม่​ค่อย​พอใจ​นัก​อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้​ ​กล่าวว่า​ ​“​ก็​แค่​บุตรสาว​แต่งงาน​ออก​ไป​ ​มี​อะไร​ควรค่า​ให้​ต้อง​พูด​แล้ว​พูด​อีก​ ​สิ่งของ​ดี​ๆ​ ​ล้วน​ถูก​ขน​ไป​บ้าน​บุตร​เขย​หมด​ ​ไม่​เหมือน​แต่ง​สะใภ้​เข้า​บ้าน​ ​เป็นการ​ขนของ​เข้า​บ้าน​”

คุณชาย​สาม​ฉัง​เป็น​เพียง​คุณชาย​น้อย​ท่าน​หนึ่ง​ของ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ ​คนที​่​มาร​่ว​มงาน​แต่ง​ของ​เขา​จึง​มี​แค่​ญาติ​ของ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​เท่านั้น​ ​นอกจากนี้​ส่วนใหญ่​ยัง​เป็น​คน​จาก​ตระกูล​เดิม​ของ​นาย​หญิง​รอง​ ​เมื่อ​ทุกคน​ได้ยิน​เช่นนั้น​ ​ก็​อด​กล่าว​ประจบประแจง​นาง​ไม่ได้​ว่า​ ​“​จริง​ด้วย​ ​จริง​ด้วย​ ​คุณชาย​สาม​ของ​พวกเรา​ต่างหาก​ที่​มี​วาสนา​ดี​ ​ได้​แต่ง​กับ​ตุ๊กตา​ทองคำ​ผู้​หนึ่ง​ ​แค่​สิน​เจ้าสาว​ที่​เป็น​ร้านค้า​ก็​มี​เจ็ด​ถึง​แปด​ร้าน​แล้ว​ ​ดู​คร่าวๆ​ ​แล้ว​ทั่วทั้ง​จิง​เฉิง​นี้​ก็​มี​เพียง​ไม่​กี่​ตระกูล​เท่านั้น​”

นาย​หญิง​รอง​ถึง​ได้​รู้สึก​ดีขึ้น​เล็กน้อย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ตอนที่​เห็น​ตระกูล​ชั้นสูง​บางส่วน​ที่มา​ร่วม​แสดงความยินดี​เพราะ​เห็นแก่หน้า​ของ​หย่ง​เฉิง​โหว​เหล่านั้น​ทยอย​กัน​มาถึง​ ​ดวง​หน้า​ของ​นาง​ก็​ยิ่ง​ปลาบปลื้ม​มีความสุข​ ​ทั้ง​ร่าง​คล้าย​นก​กางเขน​ตัว​หนึ่ง​โฉบ​ไป​โฉบ​มาระ​หว่าง​แขก​ที่มา​แสดงความยินดี​ ​ไม่รู้​ภาคภูมิใจ​มากมาย​เพียงใด

หวัง​ซีกับ​ฉัง​เคอ​แอบ​มา​แทะ​เมล็ด​แตงโม​อยู่​ใน​ห้องน้ำ​ชา​ที่​เรือน​หยก​วสันต์​ของฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​แทะ​ไป​ด้วย​ชวน​กัน​คุย​เรื่อง​สัพเพเหระ​ไป​ด้วย​ ​“​ฤดูหนาว​ของ​จิง​เฉิง​หนาวเย็น​จริงๆ​!​ ​ประเดี๋ยว​เจ้าสาว​คง​ต้อง​สวม​เสื้อ​ขนสัตว์​แล้ว​กระมัง​”

ฉัง​เคอ​เท​ชา​พุทรา​จีน​ ​ส้ม​และ​เก๋ากี้​ผสม​น้ำผึ้ง​ให้​หวัง​ซี​ถ้วย​หนึ่ง​ ​นี่​เป็น​สูตร​ชา​ที่หวัง​ซี​ผสม​ขึ้น​มา​ ​ถือโอกาส​อุ่น​มือ​ให้​ตัวเอง​ด้วย​ ​กล่าวว่า​ ​“​แทนที่​เจ้า​จะ​เป็นห่วง​เจ้าสาว​ ​มิสู​้​เป็นห่วง​ว่า​จะ​มี​คน​ไป​สร้าง​ความวุ่นวาย​ที่​เรือน​เจ้า​หรือไม่​ดีกว่า​!​”

เนื่องจาก​มี​แขก​มาจาก​บ้านเดิม​ของ​นาย​หญิง​รอง​เป็น​จำนวนมาก​ ​คุณหนู​พาน​ก็​ย้ายออก​ไป​แล้ว​ ​ซือ​จู​เอง​ก็​อยู่​ที่​เรือน​หยก​วสันต์​มากกว่า​ ​โหวฮู​หยิน​จึง​คิด​จะ​จัดแจง​ให้​แขก​คนสำคัญ​อย่าง​บรรดา​พี่สะใภ้​น้อง​สะใภ้​จาก​บ้านเดิม​ของ​นาย​หญิง​รอง​พัก​ที่​สวน​ร่ม​วสันต์​ที่​คุณหนู​พาน​เคย​พักอาศัย​อยู่​และ​สวน​หิมะ​งาม​ที่ว่าง​อยู่​เพราะ​ซือ​จู​ไป​อยู่​เรือน​หยก​วสันต์​ ​เนื่องจาก​สิน​เจ้าสาว​ส่วนใหญ่​ของ​ฉัง​เคอ​ถูก​จัดเก็บ​ไว้​ที่​สวน​ร่ม​วสันต์​ ​นาย​หญิง​สาม​จึง​ไม่ยอม​ให้​คนนอก​เข้าไป​อยู่สวน​ร่ม​วสันต์​ ​ซือ​จู​เอง​ก็​โวยวาย​ว่า​ตน​เก็บ​สิน​เจ้าสาว​ไว้​ที่​สวน​หิมะ​งาม​เช่นกัน​ ​ด้วย​สถานการณ์​ที่​ไร้​ทางเลือก​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เอ่ยปาก​ด้วยตัวเอง​ให้​นำ​สิน​เจ้าสาว​ของ​ฉัง​เคอ​ไป​เก็บ​ไว้​ที่​เรือน​ของ​หวัง​ซี​แทน​ ​แล้วก็​เรียก​ฉัง​เคอ​ไป​เฝ้าไข้​อยู่​ข้าง​กาย​นาง​ ​ปล่อย​สวน​ร่ม​วสันต์​เว้น​ว่าง​เอาไว้​สำหรับ​รับรอง​แขก​แขก​สตรี​จาก​บ้านเดิม​ของ​นาย​หญิง​รอง

หวัง​ซีกับ​ฉัง​เคอ​สนิทสนม​กัน​ ​เรื่อง​นี้​จึง​ไม่มีปัญหา​อะไร​ ​แต่​ผู้ใด​จะ​รู้​ว่า​เมื่อ​คน​จาก​บ้านเดิม​ของ​นาย​หญิง​รอง​เข้ามา​อยู่​แล้ว​ ​หลานสาว​จาก​บ้านเดิม​ของ​นาย​หญิง​รอง​เห็น​ว่านี​่​ต้น​ฤดูหนาว​แล้ว​ทว่า​ลานบ้าน​ของ​หวัง​ซียั​งมี​ดอกไม้​บานสะพรั่ง​อยู่​ ​จึง​ให้​สาวใช้​ข้าง​กาย​ไป​เด็ด​ดอกไม้​ที่​เรือน​หวัง​ซี

หวังห​มัว​มัว​จะ​โอบอ้อมอารี​อยู่​ได้​อย่างไร​ ​นาง​รีบ​นำ​เรื่อง​นี้​ไป​บอกฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​บอกว่า​นอกจาก​สิน​เจ้าสาว​ของ​ฉัง​เคอ​แล้ว​ ​พวก​ตน​ยัง​มี​หีบ​สัมภาระ​ของ​หวัง​ซี​อีก​ ​นี่​หาก​มี​ของ​หาย​ไป​จะ​ทำ​อย่างไร

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เห็นแก่หน้า​ของ​ญาติ​ไม่ยอม​พูด​เรื่อง​นี้​ออก​ไป​ ​เพียง​ให้​หวังห​มัว​มัว​ระแวดระวัง​ให้​มาก​ ​ยัง​อนุญาต​ให้​หวัง​ซีกับ​ฉัง​เคอ​ไม่ต้อง​ไปรั​บรอง​แขก​เป็น​กรณีพิเศษ​ด้วย​ ​ส่ง​บ่าว​หญิง​ร่าง​กำยำ​สิบ​กว่า​คน​มาช​่วย​เฝ้า​เรือน​ให้​หวัง​ซี​ ​ถึง​ระงับ​เรื่อง​นี้​เอาไว้​ได้

และ​นี่​ก็​เป็น​เหตุผล​ที่หวัง​ซีกับ​ฉัง​เคอ​มี​เวลาว่าง​มานั​่ง​แทะ​เมล็ด​แตงโม​อยู่​ใน​ห้องน้ำ​ชา​ของฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ในขณะที่​คนอื่นๆ​ ​กำลัง​ยุ่ง​กัน​อยู่

หวัง​ซีก​ล่า​วอ​ย่าง​ไม่ใส่ใจ​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​ว่า​ ​“​มีพ​วก​หวังห​มัว​มัว​เฝ้า​อยู่​นี่​นา​!​”​ ​กล่าว​อีกว่า​ ​“​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ข้า​ต้อง​ขอบคุณ​คน​จาก​บ้านเดิม​ของ​นาย​หญิง​รอง​ ​หาก​มิใช่​เพราะ​พวก​นาง​สร้างเรื่อง​วุ่นวาย​ ​โหวฮู​หยิน​คง​ขอยืม​ตัว​หวังห​มัว​มัว​ไป​ช่วย​งาน​พานห​มัว​มัว​แล้ว​ ​เช่นนี้​ก็ดี​ ​ไม่ต้อง​มี​ใคร​มาสน​ใจ​เรื่องเล็ก​น้อย​พวก​นี้​แล้ว​”

ฉัง​เคอ​เม้มปาก​หัวเราะ​ ​ใช้​เหล็ก​คีบ​เขี่ยมัน​หวาน​เผา​ใน​เตาถ่าน​ ​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​สิ่ง​นี้​เผา​ให้​สุก​ได้​จริงๆ​ ​หรือ​ ​ต้อง​หน้าตา​เช่นไร​ถึง​จะ​รู้​ว่า​กิน​ได้​แล้ว​”

หวัง​ซี​เคย​เห็น​แต่​พวก​สาวใช้​เผา​เท่านั้น​ ​นาง​ไม่เคย​เผา​ด้วยตัวเอง​มาก​่อน​ ​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​ถาม​เสี่ยว​หนา​นที​่​ปรนนิบัติ​อยู่​ด้าน​ข้าง​ว่า​ ​“​เจ้า​รู้​หรือไม่​”

กลิ่นหอม​ของ​มัน​หวาน​ทำให้​ท้อง​เสี่ยว​หนา​นร​้​อง​ไม่​หยุด​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​หวัง​ซี​เพิ่ง​กล่าว​จบ​นาง​ก็​ขอ​เป็น​คน​จัดการ​อย่างกระตือรือร้น​ ​กล่าวว่า​ ​“​คุณหนู​ให้​ข้า​จัดการ​เถิด​ ​ท่าน​เพียง​รอกิ​นก​็​พอ​เจ้าค่ะ​”

ฉัง​เคอ​ยื่น​เหล็ก​คีบ​ให้​เสี่ยว​หนาน

จากนั้น​ก็​เห็น​เสียว​เป่ย​วิ่ง​เข้ามา​ ​กระซิบ​กล่าวว่า​ ​“​สาวใช้​ข้าง​กาย​ของ​คุณหนู​ต่าง​สกุล​จาก​บ้านเดิม​ของ​นาย​หญิง​รอง​ท่าน​นั้น​วิ่ง​ไป​ที่​เรือน​ของ​พวกเรา​อีกแล้ว​ ​ยัง​ยื่น​ศีรษะ​เข้า​ๆ​ ​ออก​ๆ​ ​อยู่​ตรง​ลานบ้าน​ด้วย​ ​ไม่รู้​ว่า​ต้องการ​ทำ​อะไร​ ​พี่สาว​หงโฉว​พา​คน​ไป​จับตาดู​ด้วยตัวเอง​เจ้าค่ะ​!​”

ทำท่า​ทาง​เหมือน​กลัว​ผู้อื่น​จะ​ไม่​จากไป​ก็​ไม่​ปาน

หวัง​ซี​อด​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ไม่ได้​ว่า​ ​“​พวก​เจ้า​คง​ไม่ได้​สร้าง​กับดัก​อะไร​ไว้​รอ​ผู้อื่น​กระโดด​เข้าไป​หรอก​กระมัง​”

เสียว​เป่ย​หัวเราะ​ร่า​ ​มอง​ซ้าย​มอง​ขวา​แต่​ไม่​พูด​อะไร

หวัง​ซี​เอง​ก็ตาม​ใจ​นาง

กลับเป็น​ฉัง​เคอ​ดึง​มือ​ของ​หวัง​ซี​เอาไว้​ ​กล่าวว่า​ ​“​พวกเรา​จะ​ไม่​ไปดู​สักหน่อย​หรือ​ ​นาย​หญิง​รอง​ของ​พวก​ข้ามัก​จะ​เยินยอ​ตัวเอง​บ่อยๆ​ ​ว่า​มาจาก​ตระกูล​มีชื่อเสียง​โดดเด่น​ ​แต่​เหตุใด​หลานสาว​จาก​บ้านเดิม​ของ​นาง​เห็น​ดอกไม้​ใน​เรือน​เจ้า​งดงาม​แล้ว​ถึง​อดใจ​ไม่ได้​เล่า​”

บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​มักจะ​คิด​ว่า​ตัวเอง​สูงส่ง​อยู่​เสมอ​ ​พอ​มา​เป็น​แขก​ก็​คิด​ว่า​คน​จวน​หย่ง​เฉิง​โหวต​้​อง​ปฏิบัติ​ต่อ​พวกเขา​อย่าง​เคารพ​นบนอบ​กระมัง

คน​เช่นนี้​หวัง​ซี​เห็น​มามาก​แล้ว​ ​อีกทั้ง​ข้างนอก​หนาวเย็น​เกินไป​ ​นาง​ไม่​ค่อย​อยาก​ไป​นัก

ฉัง​เคอ​กลับ​ลาก​นาง​ไป​ ​“​ไป​เถอะ​!​ ​ไป​เถอะ​!​ ​ประเดี๋ยว​คนที​่​ไป​วาง​ของหมั้น​กลับมา​ต้อง​เข้ามา​รายงาน​ข่าว​ให้ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​พวกเรา​เจอ​แล้วก็​ต้อง​ทักทาย​สอง​สาม​ประโยค​อย่าง​เสีย​ไม่ได้​ ​มิสู​้​ไป​นั่ง​ที่​เรือน​ของ​เจ้า​ดีกว่า​ ​ที่​เรือน​เจ้า​มีท​่อ​ทำความ​ร้อน​ ​สะดวกสบาย​กว่า​เตาไฟ​ตั้ง​เยอะ​ ​ก็​แค่​เผา​มัน​หวาน​ไม่ได้​เท่านั้น​”

หวัง​ซี​อยาก​กิน​มัน​หวาน​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ไป​ ​แต่​ทันใดนั้น​เมื่อ​ช้อนตา​ขึ้น​กลับ​พบ​ซือ​จู​สวม​ชุด​เหมือน​สาวใช้​เดิน​ลับ​ๆ​ ​ล่อ​ๆ​ ​ออก​ไป​ข้างนอก

นาง​ลุกขึ้น​มา​อย่าง​ห้าม​ไม่อยู่​ ​ชี้​ไป​ที่​เงา​หลัง​ดังกล่าว​ ​“​เจ้า​ดู​ ​นั่น​เหมือน​ซือ​จู​หรือไม่​”

ฉัง​เคอ​รีบ​ยื่น​คอ​ไป​มอง

เป็นเงา​หลัง​ของ​ซือ​จู​จริงๆ​ ​ด้วย

นาง​ถาม​อย่างแปลกใจ​ว่า​ ​“​นี่​นาง​จะ​ทำ​อะไร​ ​วันนี้​ใน​บ้าน​มี​แขกเหรื่อ​มากมาย​ ​คง​มิใช่​ว่า​มีแผน​การ​ร้าย​อะไร​อีกแล้ว​กระมัง​”

ต้อง​รู้​ว่า​ ​ยาม​มี​งานมงคล​นั้น​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ญาติพี่น้อง​หรือ​สหาย​เก่า​สหาย​ใหม่​ล้วน​มาร​่ว​มงา​นกัน​หมด​ ​หาก​เกิดเรื่อง​ไม่เหมาะสม​ขึ้น​ที่​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ ​พวกเขา​ที่​แซ่​ฉัง​เหล่านี้​ล้วน​ต้อง​เสียหน้า​ไป​ด้วยกัน​ทั้งหมด

“​ข้า​ต้อง​ไปดู​สักหน่อย​!​”​ ​ฉัง​เคอ​กัดฟัน​ ​ตัดสินใจ​แอบ​ตาม​ไปดู​ซือ​จู​สักหน่อย

หวัง​ซีคิด​ว่า​แทนที่จะ​ให้​ฉัง​เคอ​ไปดู​ ​มิสู​้​ให้​หงโฉว​หรือไม่ก็​ชิงโฉว​ไปดู​ดีกว่า​ ​นาง​กล่าว​ ​“​เจ้า​ตาม​นาง​ไป​เป็น​ที่​สะดุดตา​ง่าย​เกินไป​ ​หาก​มี​แขก​มาทัก​ทาย​เจ้า​ ​เจ้า​ก็​ต้อง​หยุด​ทักทาย​ด้วย​สัก​สอง​ประโยค​ ​ใช้​คน​ของ​ข้า​ไป​ดีกว่า​ ​อย่างน้อย​ซือ​จู​ก็​ไม่​สังเกตเห็น​”​

ฉัง​เคอ​คิด​ตาม​แล้วก็​รีบ​พยักหน้า

หวัง​ซีคิด​ว่า​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​มิสู​้​กลับ​ไปรอ​ข่าว​ที่​สวน​ร่ม​หลิว​ดีกว่า

นาง​ให้​เสียว​เป่ย​ไป​บอก​ชิงโฉว​ ​จากนั้น​ให้​พวก​สาวใช้​ยก​เตาไฟ​มุ่งหน้า​ไป​สวน​ร่ม​หลิว​พร้อมกับ​ฉัง​เคอ

ระหว่างทาง​ได้ยิน​เสียง​อึกทึก​ดัง​ขึ้น​ ​บอกว่า​เจิ​้​นกั​๋​วก​งกับ​จ่าง​กง​จู่​มาถึง​แล้ว

ฉัง​เคอ​ยัง​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​ไม่รู้​ว่า​ผู้ใด​เป็น​คน​เชิญ​ ​ช่าง​ให้เกียรติ​ยิ่งนัก​”

หวัง​ซี​เอง​ก็​รู้สึก​ว่า​ให้เกียรติ​มาก​เช่นกัน​ ​กล่าวว่า​ ​“​อาจ​เพราะ​เป็นเพื่อน​บ้าน​กัน​”

ฉัง​เคอ​เห็นด้วย​ ​ทั้งสอง​คน​ค่อยๆ​ ​เดินทอดน่อง​กลับ​ไป​ที่​สวน​ร่ม​หลิว

ชิงโ​ฉวยัง​ตามติด​ซือ​จู​อยู่​ ​ส่วน​หงโฉ​ววิ​่​งก​ลับ​มารา​ยงา​นข​่าว

นาง​กล่าว​อย่างประหลาดใจ​ว่า​ ​“​คุณหนู​ซือ​ไป​พบ​ใต้เท้า​เฉิน​ที่​ศาลา​ริมน้ำ​แห่ง​นั้น​ ​พวก​สาวใช้​และ​บ่าว​ชาย​ต่าง​ยืน​อยู่​ไกลๆ​ ​ไม่รู้​ว่า​กำลัง​พูด​อะไร​กัน​ ​ดู​จาก​ท่าทาง​ของ​ใต้เท้า​เฉิน​แล้ว​ ​สีหน้า​ดู​ไม่น่า​ดู​เป็น​อย่างยิ่ง​”

จวน​หย่ง​เฉิง​มี​ศาลา​ริมน้ำ​เพียง​สอง​แห่ง​ ​อยู่​ที่​สวนดอกไม้​ด้านหลัง​ ​แต่​ก็​ไม่ใช่​สถานที่​ลับตาคน​อะไร

หวัง​ซีกับ​ฉัง​เคอ​ถาม​ขึ้น​ด้วย​ความประหลาดใจ​อย่าง​พร้อมเพรียงกัน​ว่า​ ​“​พวกเขา​มี​อะไร​ให้​พูดคุย​กัน​ ​ยัง​มา​เจอ​ด้วยตัวเอง​อีก​?​”

หงโฉว​ส่าย​ศีรษะ​ ​กล่าว​อย่าง​ซุกซน​ว่า​ ​“​พี่สาว​ข้า​ไม่​ให้​ข้า​เข้าไป​ใกล้​ ​ข้า​ไป​แอบ​ฟัง​ให้​คุณหนู​ดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

หวัง​ซีก​ลับ​รู้สึก​ไม่​ค่อย​สบายใจ​นัก

เฉินลั​่​วกับ​ซือ​จู​ต่าง​ไม่​อยาก​พบ​หน้า​กัน​ ​เฉินลั​่ว​ไม่มี​คำพูด​ดี​ๆ​ ​ให้​ซือ​จู​ ​คาด​ว่า​ซือ​จู​เอง​ก็​เกลียดชัง​เฉินลั​่ว​เช่นกัน​ ​โดยเฉพาะ​ซือ​จู​ที่​หยิ่ง​ทะนง​ใน​ตัวเอง​มาก​เป็นพิเศษ​ ​นับจากนี้​จน​วัน​ตาย​ก็​ไม่​อยาก​เจอ​หน้า​เฉินลั​่ว​ ​เช่นนั้น​เรื่อง​อะไร​ทำให้​พวกเขา​ต่าง​วาง​อคติ​ลง​ ​ต้อง​พบ​หน้า​กัน​ให้​ได้​ด้วย​?

หวัง​ซี​ถาม​ ​“​หลิวจ​้​งอยู​่​ที่นั่น​หรือไม่​”

หงโฉ​วก​ล่า​วอ​ย่าง​ตรึกตรอง​ว่า​ ​“​ไม่เห็น​หลิวจ​้ง​เจ้าค่ะ​”​ ​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​ต้องการ​ให้​ไป​ตามหา​เขา​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

หวัง​ซีก​ล่าว​ ​“​ไป​ตามหา​เขา​ ​ถาม​ให้​กระจ่าง​ว่า​ซือ​จู​เป็น​คน​อยาก​เจอ​เฉินลั​่ว​หรือ​เฉินลั​่​วอ​ยาก​เจอ​ซือ​จู​”

หงโฉ​ววิ​่ง​ฉิว​จากไป​อีกครั้ง

หวัง​ซี​ไม่​เพียง​กระวนกระวายใจ​เท่านั้น​ ​ยัง​หงุดหงิด​มาก​อีกด้วย​ ​ประเดี๋ยว​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​ไม่​ควร​ยุ่ง​เรื่อง​นี้​ ​ประเดี๋ยว​ก็​รู้สึก​ว่า​ซือ​จู​ผู้​นี้​หา​ได้​มี​เจตนา​ดี​อะไร​ ​ไม่แน่​ว่า​อาจ​ต้องการ​สาดโคลน​อะไร​ใส่​เฉินลั​่​วก​็​เป็นได้​!

เมื่อ​ความคิด​ดังกล่าว​แล่น​เข้ามา​ ​ทันใดนั้น​นาง​ก็​ค้นพบ​ปัญหา​ข้อ​หนึ่ง​ขึ้น​มา

เฉินลั​่​วกับ​ซือ​จู​พบ​หน้า​กัน​ ​มี​เพียง​พวกเขา​สอง​คน​หรือยัง​มี​คนอื่น​อยู่​ใน​เหตุการณ์​ด้วย​?

……………………………………………………………….