ตอนที่ 11 ราชาแมลงวัน

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ

ตอนที่ 11 ราชาแมลงวัน

“นาง” ไม่ได้มีชื่อของตนเอง

ผู้คนต่างเรียกนางว่าราชาแมลงวัน แต่ความหมายนั้นไม่ได้สื่อถึงนางเลย

และ นางก็ไม่ได้สนใจเหยื่อพวกนั้นเลยว่าจะเรียกตนว่าอะไร

และนางก็ไม่เคยดูถูกเหยื่อของตนเลยสักครั้ง

นางระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก ถึงขนาดพูดได้ว่าระวังตัวจนมากเกินไปด้วยซ้ำ

แต่ก็เพราะแบบนั้นจึงทำให้นางมีชีวิตรอดและเติบโตมาถึงตอนนี้ได้

ภายในป่าทีทิส ราชาแมลงวันถือว่าอยู่ในจุดที่ค่อนข้างสูงของห่วงโซ่อาหาร มันสามารถเอาชนะศัตรูส่วนใหญ่ในป่านี้ได้

แต่ถึงจะบอกแบบนั้น มันก็ต้องเป็นในกรณีที่พวกมันโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว

ก่อนที่นางจะโตเป็นผู้ใหญ่นั้น นางได้ชีวิตอยู่ในฐานะผู้ถูกล่าแทนผู้ล่า

นางคอยกินซากที่เหลือ ของนักล่าตัวอื่น

นางเกลียดที่จะต้องทำเช่นนั้น แต่นางก็ไม่มีทางเลือก ถ้านางออกไปเสี่ยงล่าเหยื่อด้วยตัวเอง นางอาจจะกลายเป็นผู้ถูกล่าเสียเอง

จำนวนพวกพี่น้องของนางค่อยลดลงไปเรื่อยๆ จนเวลาล่วงเลยไปกว่าจะรู้ตัว นางก็ได้ถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพังเสียแล้ว

ถึงจะเป็นแบบนั้น นางก็คิดได้ว่านางคงจะสามารถมีชีวิตรอดได้ง่ายขึ้น เพราะพวกพี่น้องของนางไม่เข้าใจว่าอันตรายคืออะไรและมักจะออกไปตายกัน

ยิ่งนางคิดถึงเรื่องนี้เท่าไหร่ นางก็คิดว่าโชคดีแล้วที่ได้มาอยู่ตัวคนเดียวแบบนี้

ด้วยเหตุนี้นางถึงสามารถเติบโตมาในป่าทีทิสนี้ได้

และนางก็ยังโชคดีพอจะเจอคู่ที่สามารถผสมพันธุ์ได้ด้วย

เด็กน้อยจำนวนมากได้เกิดมา

และเนื่องจากมีปากท้องอีกมากที่นางต้องเลี้ยง นางจึงต้องออกไปหาอาหารเลี้ยงพวกลูกๆ ของนาง

นางรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก จนนางสามารถขจัดอารมณ์อันขุ่นมัวในอดีตที่ต้องคอยวิ่งหนีและซ่อนตัวออกไปจนหมด

กระทั่งตอนนี้นางก็ยังสามารถจับมนุษย์เพศเมียที่ถูกพิษของนางฉีดเข้าร่างกลับมาด้วย

ก่อนหน้านี้เป็นมนุษย์เพศผู้ ลูกๆ ของเธอก็คงจะมีตัวที่ชอบแบบนั้นบ้าง ถึงส่วนใหญ่จะชอบมนุษย์เพศเมียก็เถอะ

นางรู้สึกพึงพอใจมากที่วันนี้สามารถจับมนุษย์เพศเมียมาได้

อย่างไรก็ตามนางก็เริ่มคาดการไว้แล้วว่า ในอนาคตอันใกล้การล่าของนางจะต้องยากลำบากขึ้นแน่ เพราะนางสังเกตเห็นว่าเหล่ามนุษย์ที่เข้ามาในป่ามีจำนวนน้อยลง

นั่นคือความกังวลเดียวของนางในตอนนี้

ลูกๆ ของนางจะโตขึ้นกว่าเดิมในเร็วๆ นี้ ดังนั้นพวกเขาก็ต้องการอาหารมากขึ้นกว่าเดิม

ทั้งที่สามารถกินแมลงหรือสัตว์ป่าในป่าแห่งนี้ก็ได้ แต่เหมือนลูกๆ ของนางจะโปรดปรานในรสของมนุษย์เป็นพิเศษ

แทนที่จะบอกว่าโปรดปรานในรส น่าจะต้องบอกว่าชอบการแสดงออกที่น่าสนใจของพวกมนุษย์ที่กำลังถูกกินทั้งเป็นเสียมากกว่า และนางก็เข้าใจตรงจุดนั้นได้ดีทีเดียว

น่าเสียดายที่ความปรารถนาแบบนั้นของนางไม่ได้ถูกเติมเต็มในขณะที่นางยังเด็ก เพราะแม่ของนางเป็นพวกขี้เกียจและให้นางกินแต่แมลงกับสัตว์ป่า ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันยังตายแล้วทุกตัว

นั่นจึงเป็นความคิดแรกในหัวของนาง นางจะไม่ยอมให้ลูกๆ ของนางต้องมาเจอแบบนาง นางจะไม่สังหารเหยื่อให้มีสภาพไม่น่าดู นางต้องหาอาหารที่สดที่สุดไปให้ลูกๆ ของนาง

ระหว่างทางกลับรังนางรู้สึกอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก แต่แล้วนางก็ต้องรู้สึกแปลกใจกับบรรยากาศภายในถ้ำ

ความรู้สึกที่นางหลงลืมไปแล้วเมื่อโตเต็มวัย ความรู้สึกของอันตรายที่ใกล้เข้ามา

นางสามารถมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้ได้ก็เพราะมัน

แต่วันนี้นางไม่อยากจะเชื่อมันสักเท่าไรนัก เพราะว่าความรู้สึกดังกล่าวมันออกมาจากรังของนางเอง

รังของนางตั้งอยู่ภายในส่วนลึกของป่าทีทิส ซึ่งทางเข้าของรังก็อยู่บนหน้าผาสูง

นางเลือกจุดนี้เป็นรังก็เพราะนักล่าตัวอื่นจะไม่สามารถเข้าใกล้ลูกๆ ของนางได้ สิ่งที่นางต้องทำก็มีเพียงแค่จัดการนักล่าสองสามตัวที่บินได้ทันทีที่นางเจอ

และเนื่องจากความพยายามของนาง จึงทำให้ไม่น่าจะเหลือนักล่าที่โบยบินอยู่บนท้องฟ้าอีกแล้ว นั่นจึงเป็นเหตุผลที่รังของนางควรเป็นที่ที่ปลอดภัย

ปีกของนางเริ่มสั่นเล็กน้อย ขาทั้งแปดเริ่มเสียดสีกัน

หากนางเป็นมนุษย์ร่างกายของนางคงสั่นไปด้วยเหงื่อที่เย็นยะเยือก

นี่มันแย่แล้ว แย่สุดๆ สถานที่แห่งนี้แย่แล้ว

สัญญาณของนางเตือนออกมาอย่างบ้าคลั่ง มันบอกนางว่าหากนางไม่รีบหนีไปตอนนี้นางจะต้องตายอย่างแน่นอน

ถึงจะเป็นเช่นนั้น นางก็ยังตัดสินใจที่จะลงไปในรังของนาง นางไม่ต้องการจะปล่อยมนุษย์ที่นางจับมาได้ด้วย

ลูกของนางกำลังรออยู่ เหล่าลูกๆ แสนน่ารักที่กำลังหิวโหยและรออาหารอันสดใหม่

เมื่อนางเข้าไปถึงข้างใน พวกลูกๆ ก็จะรีบคลานเข้ามาหานางก่อนจะบ่นกับนางด้วยความหิวโหยเหมือนทุกที

นางไม่สงสัยเลยว่าเมื่อลงถึงพื้น พวกลูกๆ ของนางจะเข้ามาหานาง

แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?

――ทำไมนางถึงไม่เห็นลูกๆ ของนางเลย?

――ทำไมรังถึงเงียบจังเลย?

――ทำไม…ทำไมมนุษย์ที่น่าจะถูกกินไปแล้วถึงยืนอยู่ตรงนั้นได้

「ฮ่าๆ! แกดูเหมือนจะคลั่งไปแล้วสินะ! ถ้ามองแล้วรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแบบนี้ ดูท่าแกมีมีมันสมองอยู่บ้างนี่นา」

หุบปาก!

「ก็เห็นๆ กันอยู่แล้วนี่นะ ฉันเป็นคนจัดการลูกๆ ของแกทั้งหมดเอง พวกมันส่งเสียงร้องแหลมๆ ออกมาตอนถูกฆ่าด้วยนะ ฉันว่าพวกมันน่าจะกำลังร้องไห้หาแม่ของมันอยู่นะ」

หุบปากกกก!

「แต่แย่หน่อยนะ ที่แม่ของพวกมันมาช้าไปหน่อย แย่จริงๆ ถ้าแกมาเร็วกว่านี้สัก 30 นาที บางทีแกอาจจะช่วยลูกๆ ของแกได้สัก 50 ตัวนะ」

หุบปากซะ!!

「แต่เอาเถอะ ถ้าแกมาเร็วกว่านี้ แกก็น่าจะได้ตายไปพร้อมกับพวกลูกๆ แล้วล่ะนะ! ฮ่าๆๆๆ! ขอบใจแกจริงๆ ราชาแมลงวัน ขอบใจแกมากที่ทำให้ฉันเลเวลขึ้นมาตั้ง 4 เลเวล ที่นี่มันเหมาะกับการล่าจริงๆ เลย!」

หุบปาก หุบปาก หุบปาก หุบปาก หุบปากซะ!!!!

อย่าได้ริเปิดปากของแกอีก เจ้าเหยื่อแสนโสโครก!!

『――――――!!!』

หลังจากที่ราชาแมลงวันได้โยนร่างของหญิงสาวที่นางจับได้เข้าไปในถ้ำ ปีทั้งสี่บนหลังของนางก็เริ่มกระพืออย่างรุนแรงก่อนที่นางจะส่งเสียงขู่ออกมา

จากนั้นสายลมกระโชกก็พุ่งเข้าปะทะกับร่างของมนุษย์

ตอนที่นางจับมนุษย์คนนี้ได้ ร่างของมันไม่ตอบสนองอะไรอีกแล้วนี่นา ตอนนั้นเองสินะ ที่นางตัดสินใจพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต…การปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่ แต่ครั้งนี้นางไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นแล้ว

แกต้องตาย!

นางพุ่งเข้าไปโจมตีด้วยแรงกดดันอันมหาศาล และด้วยขนาดของถ้ำที่แคบ จึงทำให้นางไม่สามารถควบคุมแรงของตนได้ดีนัก จึงเกิดเสียงกระทบดังขึ้นทุกครั้งที่นางชนเข้ากับผนังถ้ำ

หินและดินจำนวนมากตกใส่ศีรษะของนางจากทางด้านบน ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นจากการกระแทกผนักถ้ำ

แต่เพราะนางคือราชาแมลงวัน เศษก้อนหินพวกนี้ก็เป็นแค่ยุงที่บินมาตอมนาง

ดาบ ธนู ไม่อาจทะลวงร่างราชาแมลงวันไปได้ กระทั่งเวทระดับต่ำและระดับกลางยังไม่สามารถทำอะไรนางได้เลย ถึงแม้ว่าหากเป็นระดับสูงกว่านั้นอาจจะทำให้นางบาดเจ็บได้ แต่การจะร่ายเวทใส่นางที่บินไปมาได้อย่างอิสระก็ย่อมเป็นเรื่องยาก

และหากมนุษย์ถูกร่างอันแข็งแกร่งราวกับเกราะของนางกระแทก ร่างของพวกมันก็ย่อมถูกบดขยี้เป็นชิ้นๆ มนุษย์คนนี้ก็ไม่ต่างกัน นางเชื่อเช่นนั้น

「ขอโทษที่ทำให้แกผิดหวังนะ」

นางได้ยินเสียงอันไม่พึงประสงค์จากด้านหลัง

เมื่อนางหันไปก็พบกับรางของมนุษย์ที่ควรจะกลายเป็นเนื้อบดไปแล้วอยู่ยืนอยู่ตรงหน้าของนางด้วยท่าทีสงบนิ่ง

「ฮ่ะๆ ร่างกายรู้สึกเบาจริงๆ ถ้าจะให้เทียบมันเหมือนกับก่อนหน้านี้เราใส่ตุ้มถ่วงเอาไว้ตลอดเลยแฮะ 」

『――! ――――――!』

「ถ้าผิดหวังขนาดนั้น ก็ลองเข้ามาอีกสอบสิ แบบนั้นมันช่วยฝึกฉันได้เยอะเลยด้วย」

ดวงตาแมลงของนางได้ประสานรวมกันเป็นประกายสีแดงจากความโกรธ จากนั้นนางก็ทำการโจมตีใส่มนุษย์อีกครั้งด้วยความรุนแรง

เธอพุ่งเข้าไปชนร่างนั้นอีกครั้ง ก่อนจะเกิดเสียงดังสนั่นขึ้น

ฝุ่นและเศษหินหล่นใส่หัวนางอีกครั้ง และนางก็คิดกับตัวเองว่า “คราวนี้แหละ”

แต่มนุษย์คนนั้นก็ยังมีชีวิตอยู่ ไม่เพียงแค่นั้นเปลือกที่ห่อหุ้มร่างของนางเอาไว้ เปลือกที่แสนจะทนทาน บัดนี้มันได้ถูกของมีคมบาดเข้ามาจนเป็นแผลลึก ทั้งที่อาวุธของมนุษย์ไม่น่าจะทำอะไรนางได้แท้ๆ

『――!! —?!』

「นี่ฉันสามารถทำแบบนี้ได้ ทั้งๆ ที่ไม่ต้องใช้แรงจากสะโพกหรือต้นขาเลยเหรอเนี่ย ถามจริง? นี่มันราชาแมลงวันหรือสไลม์กันแน่วะ!」

มนุษย์พูดออกมาด้วยรอยยิ้มราวกับมันไม่สามารถระงับความสุขที่ท่วมท้นออกมาได้

จากนั้นนางก็ถูกผ่าร่างในพริบตา

เปลือกอันแข็งแกร่งของนางถูกตัดเป็นชิ้นๆ

ขาของนางกระเด็นลอยไปในอากาศ

ตาขวาของนางถูกทะลวงจนไม่เหลือซาก

ถึงนางจะพยายามต่อสู้อย่างถึงที่สุด แต่นางก็ไม่อาจตามการเคลื่อนไหวของมนุษย์ได้ทันเลย นางยังคงถูกฟัน แทง และคว้านร่างต่อไปเรื่อยๆ

นางรู้แล้วว่านางไม่อาจจะทำอะไรมันได้และต้องรีบหนี แต่นางก็ไม่สามารถทำได้ดีนัก เนื่องจากดวงตาข้างหนึ่งของนางถูกบดขยี้ไปแล้ว ขาของนางก็เหลือเพียงแค่สี่จากแปด ทำให้นางไม่สามารถทรงตัวในอากาศได้ดีดั่งเคย

ตอนนี้สัญญาณเตือนที่ดังราวกับพายุในหัวของนางก็ดับลงแล้ว

นางกำลังจะตาย จะตายลงที่นี่

นางจะถูกฆ่าแล้วอย่างแน่นอน

แม้กระทั่งความรู้สึกโกรธที่ลูกๆ ของนางถูกฆ่าก็โดนปัดเป่าออกไปเรียบร้อยแล้ว

นางยังอยากจะมีชีวิต นางต้องรอด

นางพยายามพยุงร่างที่เต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์เพื่อหนีจากมนุษย์อย่างสุดแรงเกิด

แต่การขัดขืนนั้นก็ไร้ผล การโจมตีของมนุษย์นั่นยังคงเข้ามาหานางอย่างต่อเนื่อง

แต่แล้ว

「หืม…เกิดอะไรขึ้นกัน เหมือนผลของ “กลืนวิญญาณ” จะอ่อนแอลงนะ」

จู่ๆ มนุษย์ก็หยุดโจมตีก่อนจะเริ่มพึมพำบางอย่างออกมาเหมือนสับสน

「เพราะมันใกล้ตายแล้วงั้นเหรอ? ไม่สิ มันเหมือนก่อนหน้านี้ อ๋อใช่แล้วแกคิดจะหนีแล้วสินะ…ต้องใช่แน่ๆ! เพื่อที่จะให้การกลืนกินมีประสิทธิภาพที่สุด วิญญาณของคู่ต่อสู้ต้องได้รับการกระตุ้นจนถึงขีดสุด แบบนี้นี่เอง มันก็ต้องต่างกันอยู่แล้วนี่นะ จิตวิญญาณของคนที่เข้ามาสู้กับพวกที่คิดจะหนี เฮ้อพอเป็นแบบนี้ก็แปลว่าถึงเวลาแล้วสินะ สู้ไปมากกว่านี้ก็คงจะไม่ได้อะไรแล้ว」

หลังจากพูดจบมนุษย์ก็เตรียมตั้งท่าเตรียมอีกครั้ง

ในวินาทีนั้นเองดาบสีดำก็ได้ชี้มาที่นาง ความรู้สึกที่เย็นยะเยือกพุ่งเข้ามาหานางอย่างมีไม่เคยรู้สึกมาก่อน

หากนางเป็นมนุษย์นางก็คงจะกรีดร้องออกมาแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย

นางกำลังจะถูกฆ่า จะถูกฆ่าแล้ว จะตายแล้ว

ตายแน่ๆ ถ้าอยู่นานกว่านี้ตายแน่นอน

『――――!!!』

นางขยับปีกอีกครั้งอย่างสุดแรง ไม่สนการทรงตัวที่กำลังขาดสมดุลและบินขึ้นไปอย่างไม่คิดชีวิต ไม่สนว่าจะชนเข้ากับอะไร นางต้องบิน บินต่อไป บินหนีไปให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

เป้าหมายของนางคือการออกจากที่แห่งนี้ไปให้ได้

มนุษย์บินไม่ได้ นางจะสลัดมันพ้นหากนางหนีออกจากรังทัน

ด้วยความคิดเช่นนั้น ทำให้นางยังคงกระพือปีกต่อไป

แต่กลับมีบางสิ่งพุ่งมาจากข้างหลังนาง

「วิชาดาบเดียวมายา….『วายุ』!!」

นั่นคือสิ่งที่นางได้ยิน

วินาทีต่อมา นางรู้สึกได้ถึงแรงกระแทกเข้ามากระทบกับส่วนล่างของนาง

ผลกระทบของมันทำให้ร่างที่มีขนาดยาวประมาณห้าเมตรของนางปลิวว่อนไปในอากาศ

นางอยู่ใกล้กับทางออกมากแล้ว

ในขณะที่สับสนกับผลกระทบที่ไม่สามารถอธิบายได้ นางก็ยังคงพยายามขยับปีกของนางในภาพเกือบสิ้นสติ ไม่สิแค่พยายาม…

เพราะปีกทั้งสี่ของนางตอนนี้ได้สูญสิ้นไปหมดแล้ว

มันถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ จากการโจมตีเมื่อครู่ ชิ้นส่วนของปีกกระจัดกระจายไปทั่วขณะที่เธอปลิวว่อนในอากาศ จากนั้น–

『――คึก!? ――!! ――คึก??』

หลังจากหายใจได้ไม่ถึงห้าลม ร่างของนางก็กระแทกเข้ากับพื้น

แผ่นดินสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหว การมองเห็นของนางถูกบดบังด้วยของเหลวที่ไหลออกมาจากร่างนาง เรี่ยวแรงของนางค่อยๆ หายไปอย่างรวดเร็ว

มนุษย์ค่อยๆ พูดก่อนจะเดินเข้ามาหานาง

「การโจมตีด้วยคมดาบเคลือบด้วยปราณคิที่ถูกใส่เข้าไปในดาบ “วายุ” ท่าพื้นฐานของเคล็ดวิชาดาบเดียวมายา ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยจะใช้มันได้เลยแท้ๆ แม้กระทั่งดึงพลังของท่าพื้นๆ แบบนี้ออกมา ขอบคุณแกจริงๆ ที่ทำให้ฉันสามารถใช้มันได้อย่างง่ายดายเลย ราชาแมงวันผู้มีพระคุณเอ๋ย」

ความมืดแห่งรัตติกาลและสีแดงฉานของเลือด

ดาบอันคมกริบที่มีทั้งสองสิ่งรวมเข้าด้วยกันได้เหวี่ยงเข้ามาที่หน้าผากของนาง

นางรู้ได้ทันทีว่ามนุษย์ต้องการทำอะไรกับนาง นางจึงพยายามสกัดกั้นการโจมตีด้วยขาที่เหลืออยู่ แต่ดาบสีดำนั้นก็ทะลวงผ่านเข้ามาได้อย่างง่ายดาย

หลังจากเสียทั้งขาและปีกที่มีทั้งหมดไป นางก็มีสภาพเป็นเพียงหนอนตัวใหญ่

「เดี๋ยวแกก็จะได้ไปทักทายลูกๆ ของแกในโลกหน้าแล้ว」

ทันทีที่สิ้นเสียงนั้น นางก็รู้สึกถึงบางสิ่งแทรกเข้ามาในหัวของนาง

นางคิดจะทำการต่อต้านมันเป็นครั้งสุดท้าย…แต่มันก็จบลงแค่เพียงความคิด

จากที่มนุษย์พูด นางได้ยินมันพูดถึงบางอย่างเกี่ยวกับ”โลกหน้า” ที่ที่นางสามารถไปพบลูกๆ ของนางได้ ถ้าเช่นนั้นนางก็ควรจะอยู่เฉยๆ เช่นนี้เพื่อที่จะได้ไปพบกับเด็กพวกนั้นสินะ หากเป็นเช่นนั้นได้ การตายนี้ก็เป็นเพียงเรื่องเล็ก

ลูกๆ ของนางคงจะกำลังหิวอยู่แน่ๆ เลย ไว้ครั้งหน้านางจะหาอาหารมาให้เด็กพวกนั้นอีกเยอะๆ เลย นั่นคือสิ่งที่นางคิด

แต่ถ้าถึงตอนนั้น นางคงต้องเลี่ยงการล่ามนุษย์เพศผู้ไปก่อน….

นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่นางคิดอยู่ภายในหัวของนาง

—-

Note 1 : พอสลับเป็นมุมมองของราชาแมลงวันมันก็จะแปลกๆหน่อย

Note 2 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ สามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code