เมื่อหลินเหรานึกถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่งก็พลันขมวดคิ้ว และเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “หลี่หยางอยู่ที่ใด?”
เหยาเฉามองไปทางหลินเหราพลางทอดถอนใจและส่ายหน้าไม่ได้พูดสิ่งใด
หลินเหราเข้าใจได้ทันที แผนการไม่มีทางดำเนินการก่อนกำหนดโดยไร้เหตุผลได้ เว้นเสียแต่ว่าจะมีคนปล่อยข่าว
แต่ในเมื่อแผนการจะเอาชนะภูเขาเฮยหู่และภูเขาไป๋หู่ยังไม่ถูกยกเลิก นั่นหมายความว่าระดับการรั่วไหลของข่าวนี้อาจยังไม่ถึงขั้นที่ไม่อาจจัดการได้
เขาถาม “ข่าวเป็นความจริงใช่หรือไม่? แล้ววันนี้จะเริ่มเมื่อใด?”
เหยาเฉาพูด “ได้รับการพิสูจน์แล้ว เพียงแต่ตอนนี้พวกโจรรู้แค่ว่าเราจะโจมตีภูเขาในอีกสองสามวัน หากวันนี้แผนการสำเร็จ อาจจะบุกโจมตีโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวได้”
การพูดคุยกับคนฉลาดช่วยประหยัดแรงกายและลดความกังวลได้โดยแท้จริง แค่เหยาเฉาเอ่ยหัวข้อ หลินเหราก็เข้าใจแล้ว ไม่เหมือนกับเหล่าชายฉกรรจ์ในจวนตรวจการ ท้ายที่สุดเหยาเฉาจะต้องพูดถึงสองครั้งสองคราถึงจะเข้าใจ รอบแรกไม่เข้าใจ รอบที่สองกลับไม่เชื่อ
สำหรับหลินเหราไม่ต้องให้เขาพูดสิ่งใด ไม่นานอีกฝ่ายก็คาดเดาถึงต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวได้แล้ว
เวลานี้สีหน้าของชายหนุ่มเย็นยะเยือกลง แม้แต่สายตาก็ยังคล้ายกับมีน้ำค้างแข็งหนาเป็นชั้นเกาะอยู่หนึ่งชั้น “ตระกูลหลี่เป็นครอบครัวใหญ่ในเมืองชิงถง เหตุใดหลี่หยางถึงกล้าติดต่อกับพวกโจรเช่นนี้ได้?”
เหยาเฉาพูดเสียงต่ำว่า “ข่าวมาจากคนที่ไว้ใจของหลี่หยาง บอกว่าพวกโจรมีการแทรกซึมเข้ามาในเมืองชิงถง เพื่อตามหาน้องสาวคนสุดท้องของหลี่หยาง คราวที่แล้วหลี่หยางยอมขายน้องสาวเพื่อผลประโยชน์จนสร้างความสะเทือนใจต่อผู้อาวุโสรองตระกูลหลี่ คราวนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาจะไม่ยอมให้น้องสาวคนเล็กเป็นอะไรไปอีกเด็ดขาด จึงได้เอาแผนการที่เราจะบุกโจมตีภูเขาเปิดเผยแก่พวกนั้น”
หลินเหราไม่สนใจเรื่องสับสนวุ่นวายเหล่านี้ เขาแค่เป็นกังวลว่าหลี่หยางปล่อยข่าวให้แก่พวกโจรมากน้อยแค่ไหน
ในสมองของชายหนุ่มได้รวบรวมรูปแบบการรับมือในสถานการณ์หลากหลายวิธีอย่างรวดเร็ว พลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “ตอนนี้หลี่หยางถูกคุมขังเพื่อไต่สวนแล้วใช่หรือไม่?”
เหยาเฉาพยักหน้า “เขามีชีวิตที่มั่งคั่งร่ำรวย ไฉนเลยจะถูกลงโทษ? แค่ถูกคุมขังอยู่เงียบ ๆ ก็โพล่งพูดออกมาทั้งหมดแล้ว ทั้งสองฝ่ายติดต่อสื่อสารกันทางจดหมาย เขาแพร่งพรายข่าวออกไปไม่มากนัก แค่บอกว่าหลังจากนี้อีกสิบกว่าวัน นายกองหลินที่ย้ายกลับมาจากชายแดนจะนำกำลังทหารบุกขึ้นเขา….เพราะลูกสาวของตระกูลหลี่ยังอยู่บนภูเขา ในจดหมายหลี่หยางยังบอกอีกว่า ขอแค่คุ้มครองน้องสาวให้ปลอดภัย ถึงจะยอมเปิดเผยข้อมูลที่มากกว่านี้”
รูปแบบการสื่อสารของหลี่หยางและโจร แม้แต่การใช้ถ้อยคำ ต่างทำให้โจรมีการพินิจพิเคราะห์ที่แตกต่างต่อระดับความน่าเชื่อถือของข่าวที่เขาแพร่งพรายออกมา ซึ่งคำพูดของเหยาเฉาอธิบายจุดสำคัญให้แก่หลินเหราได้ดี
หลินเหราพยักหน้า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ วิธีการที่ดีที่สุดคือขึ้นเขาเสียวันนี้ หากดำเนินการตามแผนการ โจรก็อาจจะติดกับ อาจจะควบคุมได้ถึงแปดส่วนเลยทีเดียว”
เหยาเฉาก็คิดเช่นนี้
เขากำลังร่างแผนการจากเริ่มต้นจนจบขึ้นในสมองและพูดว่า “ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมแล้ว ขาดก็แต่อุปกรณ์ในการแต่งหน้าของเจ้าสาว…”
หลินเหรารีบพูดขึ้นทันที “ข้าจะไปเรียกอาซูมาแต่งหน้าให้ท่าน”
เหยาเฉากระแอมไอออกมาพร้อมพูดดักไว้ “เรื่องนี้ไม่ต้องหรอก ให้คนไปซื้อชาด แป้งน้ำ อุปกรณ์เขียนคิ้ว… การแต่งหน้าแบบสตรีนั้นข้าแต่งเป็น”
เหยาเฉาและพี่สะใภ้รองเหยาเป็นสามีภรรยาที่ยังเยาว์วัย ย่อมมีช่วงเวลาในการฉินเส้อสอดประสาน[1] ไม่น้อย
เขาย่อมเห็นภรรยาของตนเองแต่งหน้ามาหลายครั้งแล้ว ด้วยความสนใจ จึงมักจะแต่งหน้าให้กับภรรยาอยู่เสมอ
หลินเหราไม่พูดมากนัก นอกจากกำชับเซวียชางที่คิดว่าน่าจะทำหูผึ่งแอบฟังอยู่ด้านข้างโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นว่า “ชาด แป้งน้ำ อุปกรณ์เขียนคิ้ว ได้ยินชัดเจนแล้วใช่หรือไม่?”
เซวียชางที่อยู่ด้านข้างนิ่งงันไปชั่วขณะ แต่ก็รีบส่งเสียง “อ่า อ่า” พยักหน้าและพูดว่า “ได้ยินชัดเจนแล้วขอรับ”
ในใจเขารู้สึกอึดอัดใจเพราะกลัวว่าจะถูกจับได้ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็เป็นเพราะไล่ตามความคิดของเหยาเฉาและหลินเหราไม่ทัน
เหตุใดจังหวะในการพูดสนทนาของทั้งสองคนนี้ถึงได้รวดเร็วเพียงนี้นะ?
เหยาเฉาเพิ่งจะอธิบายเรื่องที่หลี่หยางแพร่งพรายข่าวออกไปกับเขาไม่ใช่หรือ? ไฉนตอนนี้ถึงพูดเรื่องการดำเนินงานตามแผนการเสียได้เล่า?
เซวียชางรู้ว่าตัวเองไล่ตามทั้งสองคนไม่ทัน ทั้งยังเห็นว่าตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้หัวหน้าผู้ตรวจการก็ยังมาไม่ถึง จึงได้วิ่งออกไปซื้อของที่เหยาเฉาจำเป็นต้องใช้ตามชะตากรรม
เซวียชางวิ่งไปถึงกลางเมือง ในที่สุดก็เบียดเสียดพวกสาว ๆ เข้าไปซื้อสิ่งของที่ต้องใช้แต่งหน้าทั้งหมดได้ ครั้นกลับมายังจวนผู้ตรวจการนั้น การประชุมภายในห้องประชุมก็เสร็จสิ้น หลังจากที่หัวหน้าผู้ตรวจการพยักหน้าเห็นด้วย ทุกคนก็เริ่มเตรียมตัวกันอย่างขยันขันแข็ง
ภารกิจในครานี้เป็นความรับผิดชอบของหลินเหราทั้งหมด ทว่าเนื่องจากไหล่ของเขายังไม่หายดี เหยาเฉาจึงต้องรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยของเขาไปโดยปริยาย
เซวียชางนำชาดและแป้งน้ำยื่นให้แก่เหยาเฉา จากนั้นก็มองดูเขาอย่างเงียบ ๆ โดยไม่พูดสิ่งใด
หลินเหราเอ่ยถามขึ้น “พี่รอง เตรียมตัวให้เสร็จก่อนเที่ยงได้หรือไม่?”
สายตาของทุกคนในห้องประชุมต่างจับจ้องไปยังเหยาเฉาเป็นตาเดียว เจิ้งอันได้ขยิบตาใส่เขา พลางผิวปากอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เดี๋ยวก็มองไปทางเหยาเฉา เดี๋ยวก็มองไปทางหลินเหรา
ทันใดนั้นก็มีเสียงของสหายผู้ซุกซนหัวเราะอยู่เงียบ ๆ “พี่ใหญ่หลินเป็นเจ้าบ่าว พี่รองเหยาเป็นเจ้าสาว ฮิๆ … ฉากในวันนี้ จะต้องสนุกมากเป็นแน่!”
เหยาเฉาได้ยินเสียงกระซิบกระซาบเหล่านี้ แต่กลับไม่ได้ลืมตาขึ้น เพียงแค่ตอบกลับหลินเหราด้วยเสียงราบเรียบว่า “เตรียมให้พร้อมได้”
หลินเหราพยักหน้า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เราจะไปถึงทิศตะวันตกของเมืองเที่ยงนิด ๆ เสลี่ยงแต่งงาน หีบห่อต่างก็เตรียมพร้อมครบถ้วนแล้ว ถึงตอนนั้นก็แค่เปลี่ยนชุด แล้วออกเดินทางตามเส้นทางเดิม”
คนที่เข้าร่วมภารกินต่างทยอยกันพยักหน้า
เมื่อเห็นหลินเหราและเหยาเฉามีสีหน้าเรียบเฉย เหล่าทหารประจำหน่วยต่างพากันหยอกล้อไม่ออก หัวหน้าผู้ตรวจการก็มีสีหน้าเคร่งเครียด เอ่ยกำชับกับทุกคนว่า “แม้ว่าแผนการในคราวนี้จะได้รับการฝึกซ้อมมาหลายครั้งหลายคราแล้ว แต่ก็อาจจะประมาทได้ พวกเจ้าต้องระวังตัวให้มาก หลีกเลี่ยงความล้มเหลวโดยเด็ดขาด!”
เหล่าทหารประจำหน่วยต่างตอบรับอย่างนอบน้อม หัวหน้าผู้ตรวจการมองไปทางสิ่งของที่อยู่ในมือของเหยาเฉาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะไอเสียงเบา “ครานี้อาเฉาต้องได้รับความไม่เป็นธรรม หากคราต่อไป…แค่ก!”
เหยาเฉาเงยหน้าขึ้นพร้อมยิ้มบาง “ไม่ใช่เรื่องใหญ่ขอรับ หากมีคราต่อไป ให้อาเหราแต่งเป็นหญิงแล้วกัน”
หัวหน้าผู้ตรวจหยุดชะงักไปชั่วขณะ สายตาจับจ้องมาที่รูปร่างสูงใหญ่กำยำของหลินเหรา นึกภาพเขาสวมกระโปรงไม่ออกเลยจริง ๆ แต่แล้วก็พลันนึกถึงสหายเก่าของตัวเองขึ้นมาได้ ปู่ของหลินเหรา…หากให้หลินเหราแต่งเป็นสตรี วันข้างหน้าถึงคราวตัวเองตายไป เกรงว่าคงถูกปู่ของหลินเหราด่าเละเป็นแน่
“แค่ก ๆ ๆ!” ผู้อาวุโสส่งเสียงกระแอมสองสามครั้ง แม้ไม่ได้ตอบรับ แต่ก็ไม่ได้ส่ายหน้า ทั้งยังให้กำลังใจประโยคหนึ่งว่า “ข้าจะไปรอฟังข่าวดีอยู่ด้านหลัง กวาดโจรให้เรียบ เอาชัยชนะกลับมา!”
หลินเหรายกมือแสดงความเคารพ เหยาเฉายิ้มบาง เหล่าทหารประจำหน่วยต่างพากันโห่ร้อง “กวาดโจรให้เรียบ นำชัยชนะกลับมา!”
………………………………………………………………………………………………….
[1] ฉินเส้อสอดประสาน สามีภรรยารักใคร่กันราวกับดนตรีที่สอดประสานกันอย่างดี
สารจากผู้แปล
หายากนะคะผู้ชายสมัยนั้นที่จะแต่งหน้าให้เมีย ซึ่งพี่เฉาคงเป็นระดับโปรฯแล้ว เล่นเครื่องสำอางเมียจนเชี่ยวชาญงี้
นึกสภาพพี่เหราแต่งหญิงแล้วก็….เอ่อ….เอาจริงใช่ไหมคะ
ไหหม่า(海馬)