บทที่ 186 เมฆครึ้มก่อตัว (1)

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

“​เจ้าอาวาส​ฟาง​จ้าง​ ​อย่า​ใจร้อน​ขอรับ​”​ ​เมื่อ​สามเณร​เห็น​ว่า​สถานการณ์​เริ่ม​อยู่​เหนือ​การควบ​คุม​ ​เขา​จึง​รีบ​โอบ​แขน​ของ​ตนเอง​รอบ​ขา​ของ​เจ้าอาวาส​ฟาง​จ้าง​ในทันที

“​ปล่อย​ข้า​!​”​ ​เจ้าอาวาส​ฟาง​จ้าง​พยายาม​ปัด​แขน​เสื้อ​ของ​ตนเอง​อย่าง​ฉุนเฉียว​ ​หน้า​ของ​เขา​ร้อน​เป็น​ไฟ​ด้วย​ความโกรธเคือง​ ​ในขณะที่​ใบหน้า​อัน​งดงาม​ราวกับ​เป็น​อมตะ​นั้น​ก็​ยัง​ปรากฏ​ต่อหน้า​คนอื่นๆ​ ​“​วันนี้​ ​หาก​อาตมา​ไม่ได้​ทุบตี​ไอ้​เด็ก​ตัว​เหม็น​คน​นี้​จน​เขา​ฉี่ราด​ ​ก็​ไม่ต้อง​เรียก​อาตมา​ว่า​แซ่​ฟาง​อีก​เลย​!​”

ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​หัวเราะ​เบา​ๆ​ ​สีหน้า​ของ​เขา​ยังคง​เรียบ​เฉย​ ​“​แซ่​ของ​เจ้า​ไม่ใช่​ฟาง​ตั้งแต่แรก​อยู่​แล้ว​”

ตู้ม​!

ขมับ​ของ​เจ้าอาวาส​ฟาง​จ้าง​เดือด​ปุด​ๆ​ ​จน​ร่างกาย​ของ​เขา​แทบจะ​ระเบิด

ขันที​ซุน​ทำ​ทุก​วิถีทาง​เพื่อ​ขัดขวาง​อยู่​ด้านหน้า​ ​เขา​ถือ​แส้​หาง​ม้า​พร้อมกับ​เกลี้ยกล่อม​ ​“​เจ้าอาวาส​ ​ได้​โปรด​ใจเย็น​ๆ​ ​ใจเย็น​ก่อน​ขอรับ​”

หลังจาก​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​อยาก​จะ​ร้องไห้​ ​พร้อมกับ​คิดในใจ​ว่า​องค์​ชาย​ไม่​ควร​ไป​ยั่วยุ​เจ้าอาวาส​เลย​ ​เขา​ไม่เห็น​หรือว่า​อีก​ฝ่าย​โกรธเคือง​จน​แทบจะ​กระอัก​เลือด​อยู่​แล้ว

เหล่า​คุณหนู​คุณชาย​ที่อยู่​ด้านหลัง​พวกเขา​ต่าง​งุนงง​ไป​ตาม​ๆ​ ​กัน​ ​คน​ๆ​ ​นี้​คือ​เจ้าอาวาส​ที่อยู่​ใน​ศีลธรรม​ที่สุด​ของวัด​หลิง​อิ่น​จริง​หรือ

เขา​ดู​ไม่​เหมือนกับ​คน​แบบ​นั้น​เลย​จริงๆ

ในทางตรงกันข้าม​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กลับ​ไม่รู้​สึก​ว่า​เป็นเรื่อง​แปลก​อะไร​ ​เพราะ​ทั้ง​อาจารย์​ของ​นาง​และ​ผู้อาวุโส​ห้วน​ก็​มีนิ​สัย​เช่นเดียวกัน​ ​โดยปกติ​แล้ว​ ​พวกเขา​จะ​ดูรา​วกับ​เป็น​เทพ​เซียน​ ​แต่​เมื่อ​พวกเขา​ได้ยิน​คำ​ว่า​ ​‘​องค์​ชาย​สาม​’​ ​ทันใดนั้น​ ​พวกเขา​ก็​จะ​ขบ​ฟัน​กรอด​ ​พร้อมทั้ง​แสดง​ความรัก​และ​ความเกลียดชัง​ออกมา

เป็นที่รู้กันดี​ว่า​องค์​ชาย​สาม​มี​ความสามารถ​ใน​การ​ทำให้​คนอื่น​เกลียดชัง​ได้​ ​นาง​คิด​ว่า​มัน​เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​มี​องค์​ชาย​คนใด​เป็น​คน​สองหน้า​เช่นนี้​ได้​อีกแล้ว​ใน​จักรวรรดิ​จ้าน​หลง

“​เจ้าอาวาส​ฟาง​จ้าง​ ​อดีต​ฮ่องเต้​ยังคง​รอกิ​นอา​หาร​มังสวิรัติ​อยู่​ ​พวกเรา​กิน​อาหาร​ให้​เสร็จ​ก่อน​ ​แล้ว​ท่าน​กับ​องค์​ชาย​สาม​ค่อย​หารือ​กัน​ก็​ยัง​ไม่​สาย​นะ​ขอรับ​”​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​ ​ก็​แยกย้าย​กัน​ก่อน​เถอะ​ ​ได้​โปรด​ ​เพราะ​หาก​ยังคง​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​ ​ภาพลักษณ์​ของวัด​แห่ง​นี้​ก็​จะ​พังทลาย​ไม่​เหลือ​ชิ้น​ดี​อย่างแน่นอน

เจ้าอาวาส​ฟาง​จ้าง​สูด​หายใจเข้า​ลึก​ ​และ​ปัด​ชุด​นักบวช​ของ​ตนเอง​ ​เมื่อ​ทุกคน​ได้สติ​ ​เขา​ก็​กลับมา​อยู่​ใน​ความสงบ​และ​เรียบ​เฉย​แล้ว​ ​เขา​เปลี่ยนท่าที​รวดเร็ว​อย่างมาก​ ​จน​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ถอนหายใจ​ ​ในเวลานี้​ท่าน​ดูรา​วกับ​เป็น​ภาพลักษณ์​ของ​สรวงสวรรค์​ก็​ไม่​ปาน

สีหน้า​ของ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ยังคง​เรียบ​เฉย​เหมือนเดิม​ ​ราวกับว่า​ไม่ได้​ใส่ใจ​กับ​คำพูด​ของ​ผู้อาวุโส​คน​นี้​เลย

เจ้าอาวาส​ฟาง​จ้าง​กำมือ​ของ​ตนเอง​แน่น​อีกครั้ง​ ​และ​คิดถึง​ข้อเท็จจริง​ที่ว่า​เขา​ยัง​มี​เวลา​อีก​หนึ่ง​คืน​ที่จะ​สู้รบ​ปรบมือ​กับ​อีก​ฝ่าย​ ​ดังนั้น​ ​เขา​จึง​พูด​ด้วย​เสียงทุ้ม​ต่ำ​ ​“​ทุกท่าน​ ​โปรด​ตาม​อาตมา​มา​ ​อาหาร​ของ​เหล่า​สีกา​ถูก​จัดเตรียม​ไว้​ทาง​ปีก​ตะวันตก​ ​ส่วน​อาหาร​ของ​เหล่า​ประสก​นั้น​ ​อยู่​ทาง​ปีก​ตะวันออก​”

เมื่อ​ได้ยิน​ดังนั้น​ ​คุณชาย​คน​หนึ่ง​ก็​ขมวดคิ้ว​ ​และ​พูดว่า​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​ผู้หญิง​กับ​ผู้ชาย​จะ​กิน​อาหาร​ด้วยกัน​เสียอีก​ ​น่าเบื่อ​ชะมัด​”

“​ไม่ต้อง​ห่วง​ ​คืนนี้​ ​พวกเรา​จะ​ไป​เยี่ยมชม​ศาลา​ด้วยกัน​ ​ยัง​มีโอกาส​อีก​มาก​”​ ​คุณชาย​สอง​สาม​คนที​่​สนิทสนม​กันต​่า​งก​็​ยิ้ม​ออกมา​ ​และ​หันไป​มอง​หญิงสาว​ที่​กำลัง​พัด​ให้​ตนเอง​อยู่​ด้าน​ข้าง​ ​ก่อน​จะ​เดินตาม​เจ้าอาวาส​ฟาง​จ้าง​ไป​ทาง​ปีก​ตะวันออก

เหล่า​หญิงสาว​จาก​ตระกูล​ผู้มีอิทธิพล​คิด​ไว้​อยู่​แล้ว​ว่า​จะ​ต้อง​เป็น​เช่นนี้​ ​แม้ว่า​พวก​นาง​จะ​อยู่​ใน​วัย​ที่สามา​รถ​แต่งงาน​ได้​แล้ว​ ​และ​แต่ละคน​ก็​มี​ชายหนุ่ม​ที่​ตนเอง​ชื่นชอบ​อยู่​ใน​ใจ​ ​และ​ใน​วันนี้​ ​หัวใจ​ของ​พวก​นาง​ก็​เต้น​ระรัว​ ​แต่​สำหรับ​ยุค​โบราณ​นั้น​ ​พวกเขา​จะ​ต้อง​ระวัง​เรื่อง​ภาพลักษณ์​ของ​ตนเอง​ ​ฟาง​จ้าง​จัดการ​ทุกอย่าง​ให้​เป็นไปตาม​คำสอน​ที่มา​รดา​คอย​ชี้ทาง​ให้​ลูก​ๆ​ ​ยิ่ง​พวก​นาง​อยู่​ห่าง​จาก​เหล่า​ชายหนุ่ม​มาก​เท่าไหร่​ ​ก็​ยิ่ง​ทำให้​จิตใจ​ของ​ชายหนุ่ม​นั้น​โหยหา​พวก​นาง​มากขึ้น​เท่านั้น

“​สีกา​ ​เป็น​ที่นี่​”​ ​สามเณร​ที่​เดิน​นำทาง​มานั​้น​ประสานมือ​ไว้​ด้วยกัน​ ​ก่อน​จะ​โค้ง​คำนับ

คุณหนู​สกุล​เหลียง​กวาดตา​มองดู​พื้นที่​บริเวณ​นี้​อย่างรวดเร็ว​ ​ก่อน​จะ​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ​“​ทำไม​ที่​แห่ง​นี้​ถึง​เล็ก​ขนาด​นี้​”

สามเณร​ที่​กำลังจะ​เดิน​จากไป​หยุด​ฝีเท้า​ของ​ตนเอง​ลง​ ​และ​ยิ้ม​ตอบ​เบา​ๆ​ ​“​วัด​แห่ง​นี้​เรียบง่าย​สักหน่อย​ ​โปรด​ยกโทษให้​ด้วย​ขอรับ​”

คุณหนู​ตระกูล​เหลียง​กำลังจะ​พูด​อะไร​บางอย่าง​ต่อ

แต่​ก็​มีเสียง​ทุ้ม​ลึก​ดัง​ขึ้น​ ​“​หึหึ​ ​ดูเหมือนว่า​ลูกสาว​สุดที่รัก​ของ​เหลียง​อ้าย​ชิง​จะ​ไม่พอใจ​กับ​การ​เตรียมการ​ของวัด​”

ปรากฏ​ว่า​เขา​คน​นั้น​คือ​อดีต​ฮ่องเต้​ที่​เสวย​อาหาร​มังสวิรัติ​เสร็จ​แล้ว​ ​และ​ด้านหลัง​ของ​เขา​ก็​มี​เสนาบดี​คน​หนึ่ง​ที่​คอย​ดูแล​เขา​อยู่​ ​รวมถึง​กลุ่ม​หญิงสาว​ด้วย​เช่นกัน

ร่าง​ที่​คุ้นเคย​นั้น​ทำให้​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กำ​นิ้วมือ​ของ​ตัวเอง​แน่น

คน​ๆ​ ​นั้น​เดิน​มา​พร้อมกับ​กลุ่ม​หญิงสาว​ ​นาง​สวม​กระโปรง​สีขาว​อย่าง​เรียบง่าย​และ​ปัก​เป็น​รูป​ดอกบัว​สีเข้ม​ ​จี้​หยก​ห้อย​อยู่​ตรงหน้า​อก​ของ​นาง​ ​ผม​ยาว​นั้น​รวบ​ขึ้น​เป็น​ทรง​ดอกไม้​ ​มือ​ข้าง​หนึ่ง​ของ​นาง​ประดับ​ด้วย​ประคำ​สีใส​ ​ในขณะที่​มือ​อีก​ข้าง​วาง​อยู่​บน​แขน​ของ​สาวใช้​ที่​กำลัง​ช่วย​ประคอง​ ​นาง​ค่อยๆ​ ​เดิน​มาทาง​นี้​ ​ผิวพรรณ​ของ​นาง​ได้รับ​การ​ดูแล​อย่างดี​ ​แม้ว่า​นาง​จะ​อายุ​สามสิบ​กว่า​แล้ว​ ​แต่​ยัง​ดูรา​วกับ​เพิ่ง​ยี่สิบ​ต้นๆ​ ​เท่านั้น​ ​ใน​ตอนนั้น​ ​รูปลักษณ์​อัน​บริสุทธิ์​ ​อ่อนโยน​ ​และ​นุ่มนวล​เช่นนี้​ทำให้​นาง​เอาชนะ​ใจ​ท่าน​พ่อ​ที่​ชั่วช้า​ของ​นาง​ได้​นั่นเอง

ซู​เหยี​ยน​โม่

ใน​ชีวิต​นี้​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​จะ​ไม่มีวัน​ลืม​ชื่อ​นี้​เป็นอันขาด

ตอนที่​ท่าน​แม่​ของ​นาง​ใกล้​จะ​ถึง​ขีดจำกัด​ ​ท้อง​ไส้​ของ​ท่าน​แม่​ปั่นป่วน​จน​อาเจียน​เป็น​อากาศ​ ​ร่างกาย​ของ​นาง​ทรุดโทรม​ลง​ทุกวัน​ ​แต่​ใน​สายตา​ของ​คนอื่นๆ​ ​นาง​ยังคง​สง่างาม​เหมือนกับ​แต่ก่อน​ ​แม้ว่า​อาการ​เจ็บป่วย​ของ​นาง​จะ​ไม่​สามารถ​รักษา​ได้​แล้ว​ ​แต่​นาง​ก็​ไม่เคย​ล้ม​ลง​ต่อหน้า​ซู​เหยี​ยน​โม่

จนกระทั่ง​นาง​รู้​ว่า​ตนเอง​ไม่​สามารถ​มีชีวิตรอด​ได้​ ​ดังนั้น​ ​นาง​จึง​ขอร้อง​ต่อ​เฮ่อ​เหลียน​กวง​เย​่า​ให้​เขา​ช่วยดูแล​ลูกสาว​ของ​พวกเขา​ ​ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​สามีภรรยา​กัน​มาก​ว่า​สิบ​ปี

ตลอดชีวิต​ของ​ท่าน​แม่​ ​นาง​ไม่เคย​อ้อนวอน​ใคร​มาก​่อน​ ​แต่​ใน​ช่วงเวลา​ที่นาง​ใกล้​จะ​สิ้นลม​ ​นาง​กลับ​ขอร้อง​เป็นครั้งแรก​ใน​ชีวิต​ ​เพื่อ​ลูกสาว​ของ​ตนเอง

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ลืม​เหตุการณ์​ใน​ตอนนั้น​ไป​แล้ว​ ​ดูเหมือนว่า​ใน​ความทรงจำ​ของ​นาง​นั้น​จะ​ไม่พอใจ​กับ​เรื่อง​บางอย่าง​ ​และ​ความทรงจำ​นั้น​ก็​กลายเป็น​ภาพ​ที่​เลือนราง

นาง​จำได้​แค่​ว่า​ผู้หญิง​คน​นั้น​พาสาว​ใช้​มาที​่​ห้อง​ข้างๆ​ ​และ​พูด​เย้ยหยัน​ท่าน​แม่​ใน​ทุก​ประโยค​ ​“​พี่ใหญ่​ ​อย่า​โง่เขลา​ไป​เลย​ ​เจ้า​คิด​ว่าการ​ยึดมั่น​อย่างนี้​มัน​จะ​มีประโยชน์​อะไร​กัน​เล่า​ ​หาก​เจ้า​แข็งแรง​และ​มี​ความสามารถ​มากกว่า​ข้า​ ​สามี​ของ​เจ้า​ก็​คง​ไม่​เลือก​ข้า​หรอก​ ​หึ​ ​ข้า​จะ​บอก​ให้​ว่า​ทุกคน​มีโชค​ชะตา​ของ​ตนเอง​ ​อย่า​ไป​ฝืน​ลิขิต​ฟ้า​เลย​ ​เพราะ​สุดท้าย​แล้ว​ ​คนที​่​ต้อง​ทนทุกข์ทรมาน​ก็​คือ​เจ้า​…​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​หลับตา​แน่น​ ​เมื่อ​นาง​ลืมตา​ขึ้น​อีกครั้ง​ ​ดวงตา​ของ​นาง​ก็​เป็นประกาย​แล้ว

คิดดู​แล้วก็​ช่าง​เป็นเรื่อง​น่าขำ​จริงๆ​ ​ตอนนั้น​ ​ตระกูล​ซู​เริ่ม​ปล่อยข่าว​ลือ​ออก​ไป​ว่า​ท่าน​แม่​ของ​นาง​เป็น​คน​หยาบคาย​และ​ไร้เหตุผล​ ​แต่​พวกเขา​เคย​คิด​บ้าง​หรือไม่​ว่า​คนใน​ตระกูล​ของ​พวกเขา​ทำ​อะไร​ไว้​บ้าง​ ​นาง​ยัง​ไม่ได้​แต่งงาน​ ​แต่กลับ​มีลูก​กับ​สามี​ที่​แต่งงาน​กับ​ผู้หญิง​คนอื่น​แล้ว​!

พวกเขา​ทำร้าย​ครอบครัว​คนอื่น​จน​เด็ก​ต้อง​กำพร้า​ ​และ​ไล่​เด็ก​ออกจาก​บ้าน​ ​จน​ไม่มี​ที่อยู่

ศัตรู​ตัวฉกาจ​ ​ในที่สุด​ ​วันนี้​นาง​ก็ได้​เห็น​ตัวการ​สำคัญ​ที่อยู่​เบื้องหลัง​ของ​เรื่อง​ทั้งหมด​แล้ว

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ค่อยๆ​ ​คลาย​มือ​ออก​ ​และ​ควบคุม​อารมณ์​ของ​ตนเอง​ให้​สงบ​ลง

แต่​เมื่อ​เสนาบดี​เหลียง​ได้ยิน​ถ้อยคำ​ของ​อดีต​ฮ่องเต้​ ​สีหน้า​ของ​เขา​ก็​เปลี่ยนไป​ในทันที​ ​ก่อน​จะ​รีบ​คุกเข่า​ลง​กับ​พื้น​ ​และ​อธิบาย​อย่าง​กระวนกระวายใจ​ ​“​ลูกสาว​ของ​กระหม่อม​ยัง​เด็ก​และ​พูดจา​ก้าวร้าว​โดย​มิได้​เจตนา​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​อดีต​ฮ่องเต้​ได้​โปรด​ให้อภัย​นาง​ด้วย​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

“​เฮ้อ​”​ ​อดีต​ฮ่องเต้​ยิ้ม​และ​โบกมือ​ด้วย​ท่าที​ที่​เป็นมิตร​อย่างยิ่ง​ ​เขา​ดู​ไม่​ขุ่นเคือง​เลย​แม้แต่น้อย​ ​แต่​คำพูด​ต่อจากนี้​ ​กลับ​ทำให้​สีหน้า​ของ​บุตรสาว​ตระกูล​เหลียง​ต้อง​เปลี่ยนไป​ทันที​ ​“​หาก​นาง​ไม่​ชอบใจ​ ​ก็​ลง​จาก​ภูเขา​แห่ง​นี้​ไป​ได้​โดย​ไม่ต้อง​ลังเล​เลย​ ​มัน​จะ​เป็นความ​ผิด​ร้ายแรง​ได้​อย่างไร​กัน​เล่า​ ​เหลียง​อ้าย​ชิง​ ​เจ้า​ก็​พูดจา​จริงจัง​เกินไป​แล้ว​”

เสนาบดี​เหลียง​ ​ปาดเหงื่อ​ตรงหน้า​ผาก​ของ​ตนเอง​ ​“​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​อดีต​ฮ่องเต้​พูด​ถูกต้อง​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

“​พวกเรา​ควร​รักษา​ความสงบ​ภายใต้​อาราม​หลวง​แห่ง​นี้​จะ​ดีกว่า​”​ ​หลังจากที่​อดีต​ฮ่องเต้​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​เดิน​นำ​เหล่า​เสนาบดี​ไป​ข้างหน้า​ ​โดย​ไม่ได้​บอก​ให้​คน​แซ่เหลียง​ลุกขึ้น​แต่อย่างใด​ ​คุณหนู​ตระกูล​เหลียง​ตกตะลึง​ ​นาง​นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​คำพูด​ของ​ตนเอง​ ​จะ​ทำให้​ต้อง​ตก​อยู่​ใน​สถานการณ์​เช่นนี้

นี่​คือ​สิ่ง​ที่​เรียกว่า​อำนาจ​ของ​ราชวงศ์​เช่นนั้น​หรือ

นาง​ไม่เข้าใจ​ ​แต่​มัน​ก็​ไม่ได้​หมายความว่า​เหล่า​เสนาบดี​ทั้งหลาย​จะ​ไม่เข้าใจ

เมื่อไม่นานมานี้​ ​ตระกูล​เหลียง​ได้รับ​ความชื่นชม​ ​พวกเขา​เป็น​ที่​โปรดปราน​มากเกินไป​จน​กลายเป็น​คน​หยิ่งผยอง​ ​อดีต​ฮ่องเต้​ไม่​เหมือนกับ​ฮ่องเต้​ ​เขา​เป็น​คนที​่​เฉลียวฉลาด​ ​และ​มีสาย​ตา​ที่​เฉียบแหลม​ ​นอกจาก​ที่​เขา​จะ​เดินทาง​มายัง​วัด​หลิง​อิ่น​เพื่อ​ไหว้พระ​ขอพร​แล้ว​ ​เขา​ก็​ยัง​ต้องการ​ใช้​โอกาส​นี้​ทดสอบ​พฤติกรรม​ของ​เหล่าบุตรสา​วจา​กต​ระ​กูล​ขุนนาง​ชั้นสูง​อีกด้วย​ ​และ​คน​แรก​ที่​เผย​ธาตุแท้​ออกมา​ก่อน​คือ​คุณหนู​ตระกูล​เหลียง​ ​ถ้าเช่นนั้น​ ​เขา​ก็​ควรจะ​ต้อง​คอย​ปราม​เอาไว้

เพื่อ​หลีกเลี่ยง​ไม่​ให้​คนอื่น​ทำ​ใน​เรื่อง​ที่​ไม่​ควร​ทำ​…