ตอนที่ 327 พายุฝนกำลังจะมา (3) ตอนที่ 328 พายุฝนกำลังจะมา (4)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 327 พายุฝนกำลังจะมา (3)

ลูกศิษย์ของยอดเขาเมฆาครามรีบวิ่งเข้ามาทันที แต่ก่อนที่พวกเขาจะสัมผัสโดนชายเสื้อของจวินอู๋เสีย เฉียวฉู่ที่เตรียมตัวไว้แล้วก็พุ่งออกมาเตะทุกคนออกไปทันที

การกระทำของเฉียวฉู่ทำให้ทุกคนในห้องโถงเดือดพล่านทันที

ลูกศิษย์ทั้งสองที่ ‘เคอฉังจวี’ พามาแข็งแกร่งเช่นนี้เลยหรือ

คนหนึ่งบอกความลับทั้งหมดของฉินเย่ว์และ ‘เคอฉังจวี’ ต่อหน้าทุกคนส่วนอีกคนก็เตะลูกศิษย์ของยอดเขาเมฆาครามออกจากห้องโถง

เฉียวฉู่ต้องเป็นคนแรกของสำนักชิงอวิ๋นที่ลงมือในห้องโถงของท่านเจ้าสำนักอย่างแน่นอน

ครั้งนี้ฉินเย่ว์โมโหจริงๆ เขาลุกขึ้นยืนทันทีด้วยท่าทางโกรธจนตัวสั่น ชี้ไปที่ ‘เคอฉังจวี’ ที่ปล่อยให้ลูกศิษย์ทำแบบนี้แล้วตะคอกว่า “เคอฉังจวี เจ้าพาเจ้าเด็กสารเลวสองคนนี้มาหมายความว่าอย่างไร ในสายตาของเจ้ายังมีเจ้าสำนักอย่างข้าอยู่หรือไม่”

บ้าไปแล้ว

บ้าไปแล้วจริงๆ

แม้ว่าตอนแรกเคอฉังจวีจะมีท่าทีจองหองแต่ต่อหน้าผู้อื่นเขาก็ยังให้ความเคารพฉินเย่ว์และไว้หน้าฉินเย่ว์อยู่แต่ตอนนี้ ‘เคอฉังจวี’ กลับพาลูกศิษย์สองคนมาทำให้ฉินเย่ว์เสียหน้า แม้ว่าฉินเย่ว์จะนิสัยดีแค่ไหนก็ระเบิดได้

ตอนนี้ฉินเย่ว์อยากจะบีบคอ ‘เคอฉังจวี’ ให้ตาย

แต่ ‘เคอฉังจวี’ กลับมองฉินเย่ว์ที่กำลังโมโหด้วยสีหน้านิ่งเฉยแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบว่า “เพราะเหตุใดท่านเจ้าสำนักจึงต้องโมโหเยี่ยงนี้ ก็แค่ลูกศิษย์ไม่กี่คน ลูกศิษย์ของแต่ละยอดเขาท่านยังยอมได้เลยแล้วลูกศิษย์ของยอดเขาเมฆาครามไม่กี่คนจะเป็นไรหรือ อีกอย่างข้าก็เชื่อฟังท่านแล้วว่าจะไม่เอาลูกศิษย์ของท่านมาทดลองยาพิษก็แค่ถูกเตะหนึ่งทีไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร” เคอฉังจวีไม่พูดประโยคนี้ยังไม่เป็นไร แต่พอพูดประโยคนี้ออกมา…ผู้อาวุโสท่านอื่นก็ตระหนักในทันทีว่าฉินเย่ว์ลำเอียงเห็นแก่ตัวเพียงใด

เจ้าต้องการล้างแค้นให้ลูกสาวของเจ้าแต่ต้องเสียสละลูกศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋น เจ้าจึงพุ่งเป้าหมายมาที่ลูกศิษย์ของพวกเขาแล้วแอบปกป้องลูกศิษย์ของตัวเองไว้

ลูกศิษย์ของยอดเขาอื่นเสียชีวิตโดยที่สภาพศพไม่สมบูรณ์ ฉินเย่ว์ก็ไม่โกรธ ลูกศิษย์ของยอดเขาเมฆาครามถูกเตะหนึ่งทีเขาก็ทนไม่ได้แล้ว มันช่างแตกต่างกันจริงๆ

ผู้อาวุโสของสำนักชิงอวิ๋นต่างรู้จักนิสัยของฉินเย่ว์ในระดับหนึ่ง รู้ว่าฉินเย่ว์เป็นคนหน้าเนื้อใจเสือหลังจากได้ยินคำพูดที่ยั่วยุของ ‘เคอฉังจวี’ แล้วผู้อาวุโสทั้งหลายต่างก็เริ่มคิดมากขึ้น

หรือว่าที่ฉินเย่ว์ปล่อยให้ ‘เคอฉังจวี’ ทำเยี่ยงนี้นอกจากจะล้างแค้นให้ฉินอวี่เยียนแล้วเขายังต้องการใช้โอกาสนี้กดขี่ตำแหน่งของผู้อาวุโสทุกคน

ความคิดนี้ก่อตัวขึ้นในหัวของผู้อาวุโสทุกคนอย่างรวดเร็ว ภายในช่วงเวลาสั้นๆ ความไม่พอใจของพวกเขาที่มีต่อฉินเย่ว์เพิ่มระดับเป็นความสงสัยและระวังตัวมากขึ้น

สีหน้าของฉินเย่ว์เปลี่ยนไปในทันที เขาจ้องไปที่ ‘เคอฉังจวี’ และสงสัยว่าสมองของ ‘เคอฉังจวี’ พังไปแล้วหรือ เขารู้หรือไม่เขากำลังพูดอะไรอยู่

เขากัดฟันกรอดด้วยความเกลียดชัง แต่ฉินเย่ว์ก็ไม่กล้าทะเลาะกับ ‘เคอฉังจวี’ จริงๆ เพราะในมือของ เคอฉังจวียังมีหลักฐานที่สามาถทำลายชื่อเสียงของเขาได้

ฉินเย่ว์ไม่เคยหดหู่ใจแบบนี้มาก่อน เคอฉังจวีที่เคยช่วยทำให้เขาได้ตำแหน่งท่านเจ้าสำนักของสำนักชิงอวิ๋นมา วันนี้ได้กลายเป็นคนที่เขาเกลียดชังที่สุดและเป็นคนที่เขาไม่สามารถแตะต้องได้

ฉินเย่ว์สูดหายใจเข้าลึกๆ ระงับความโกรธภายในใจของเขาแล้วกล่าวด้วยดวงตาแดงก่ำว่า “ผู้อาวุโสเคอ ลูกศิษย์สองคนนี้ของท่านไม่เคารพท่านเจ้าสำนัก ตามกฎของสำนักชิงอวิ๋นพวกเขาต้องถูกลงโทษ”

ในเมื่อทำอะไรเคอฉังจวีไม่ได้ เขาก็จะฆ่าลูกศิษย์ของเขาเพื่อระบายความโกรธ! นอกจากนี้ยังเป็นการจัดการเคอฉังจวีไปด้วย

‘เคอฉังจวี’ เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขาเมื่อเขามองไปทางจวินอู๋เสียที่นั่งอยู่ด้านข้าง

“ท่านเจ้าสำนักฉิน ท่านแน่ใจหรือว่าท่านจะทำเช่นนี้” แค่นี้ก็ทนไม่ได้แล้วหรือ

………..

ตอนที่ 328 พายุฝนกำลังจะมา (4)

ฉินเย่ว์ขมวดคิ้วและเยาะเย้ยในใจ

“แน่นอน”

เรื่องของวันนี้ต้องระงับด้วยเลือด คำพูดของจวินอู๋เสียได้เปิดเผยความลับระหว่างฉินเย่ว์และเคอฉังจวีออกมาให้ทุกคนรู้แล้ว ถ้าฉินเย่ว์ไม่ทำอะไรผู้อาวุโสเหล่านั้นไม่มีทางยอมอย่างแน่นอน

มีเพียงการสังเวยเลือดของลูกศิษย์สองคนนี้ของยอดเขาเร้นเมฆาเท่านั้นที่สามารถทำให้สถานการณ์ปัจจุบันดีขึ้นได้

หนึ่งคือสามารถแสดงให้เห็นว่าฉินเย่ว์ไม่ได้เข้าข้างเคอฉังจวีมากเกินไป แม้ว่าพวกเขาจะเป็นลูกศิษย์ของยอดเขาเร้นเมฆา แม้ว่าพวกเขาจะได้รับการปกป้องจากเคอฉังจวีเขาก็สามารถฆ่าได้ เพราะทุกยอดเขาต่างเสียลูกศิษย์ เขาต้องฆ่าลูกศิษย์ของยอดเขาเร้นเมฆาสองคนจึงจะสามารถลดความโกรธของผู้อาวุโสเหล่านั้นได้

สองคือ…

ไอ้สารเลวสองคนนี้ คนหนึ่งพูดไร้สาระส่วนอีกคนหนึ่งลงมือต่อหน้าผู้คนซึ่งทั้งสองอย่างนี้ได้ล่วงเกินความน่าเกรงขามของฉินเย่ว์ที่เป็นท่านเจ้าสำนักของสำนักชิงอวิ๋นอย่างร้ายแรง ถ้าไม่ฆ่าพวกเขา เขาจะรักษาความน่าเกรงขามของท่านเจ้าสำนักอย่างเขาไว้ได้อย่างไร

และสาม…

ฉินเย่ว์หรี่ตาลงแล้วมองไปที่เคอฉังจวี

สามก็เพื่อจัดการเคอฉังจวีที่ช่วงนี้ยิ่งอยู่ยิ่งจองหองมากขึ้นเรื่อยๆ

ลูกศิษย์ของยอดเขาเมฆาครามค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้นแล้วมองไปที่เฉียวฉู่ด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย ฉินเย่ว์ได้ตรัสสั่งแล้วนั่นหมายความว่าถึงวันตายของจวินอู๋เสียและเฉียวฉู่แล้ว

แต่คนที่ถูกเฉียวฉู่เตะหนึ่งทีแล้วล้ม ตอนนี้ต่างก็หวาดกลัวกันแล้ว

พวกเขาต้องการจับตัวเด็กสองคนนี้ แต่ว่า…

พวกเขาสู้เด็กสองคนนี้ไม่ได้

“พวกเจ้านิ่งเฉยอยู่ทำไม ทำไมไม่ไปจับเจ้าเด็กสองคนนั้น” ฉินเย่ว์ตะคอกออกมา

ลูกศิษย์เหล่านั้นต่างสบตากันด้วยสีหน้าโศกเศร้า

หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง พวกเขาจึงจะค่อยๆ เดินไปทางเฉียวฉู่อย่างระมัดระวัง

แต่…

ในชั่วพริบตา ลูกศิษย์เหล่านั้นก็ถูกเฉียวฉู่ทุบตีแล้วโยนออกจากห้องโถง นอนนิ่งอยู่บนพื้นแล้วหมดสติไปทันที

ลูกศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นส่วนใหญ่มุ่งเน้นศึกษาทักษะทางการแพทย์ ฉะนั้นพวกเขาจึงมีพลังวิญญาณไม่ค่อยสูงนัก มิฉะนั้นพวกเขาก็คงไม่เชิญคนที่แข็งแกร่งจำนวนมากเข้ามาดูแล พลังการต่อสู้ของลูกศิษย์เหล่านั้นเมื่ออยู่ใต้หมัดของเฉียวฉู่ก็เป็นได้แค่เพียงกลุ่มคนอ่อนแอเท่านั้น

หลังจากจัดการลูกศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นแล้ว เฉียวฉู่ก็เช็ดมือด้วยสีหน้านิ่งเฉย

สีหน้าของฉินเย่ว์เยือกเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเจ้าเด็กคนนี้จะเก่งกาจมากจนสามารถทุบตีแล้วโยนลูกศิษย์ของเขาออกไปได้

“เคอฉังจวี! เจ้าไม่ดูแลลูกศิษย์ของเจ้าหน่อยหรือ!” ฉินเย่ว์ตะคอกด้วยความโมโห

‘เคอฉังจวี’ ค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วกล่าวว่า “ท่านเจ้าสำนัก คนที่สั่งให้ข้าหลอมยาพิษใหม่ก็คือท่าน คนที่สั่งให้ข้าใช้ลูกศิษย์ของยอดเขาอื่นก็คือท่าน แต่วันนี้ท่านกลับต้องการใช้ลูกศิษย์ของข้ามาระงับความโกรธของทุกคน มันเหมาะสมแล้วหรือ”

ดวงตาของฉินเย่ว์เบิกกว้างแล้วมอง ‘เคอฉังจวี’ อย่างเหลือเชื่อ เขาไม่อยากเชื่อหูของตัวเองเลยว่า ’เคอฉังจวี’ โยนทุกอย่างมาให้เขา

‘เคอฉังจวี’ เหลือบมองผู้อาวุโสท่านอื่นแล้วกล่าวว่า “เป็นหนี้ต้องจ่าย เป็นคนร้ายก็ต้องชดใช้กรรมสำนักชิงอวิ๋นนี้เจ้าเป็นผู้ดูแล หากเจ้าไม่เห็นด้วย ข้าจะไปเอาลูกศิษย์ของยอดเขาอื่นได้อย่างไร เจ้าเป็นคนสั่งให้ข้าทำ แต่คนที่ถูกด่าว่ากลับเป็นข้า ข้าไม่ยอมตกเป็นเหยื่อของเรื่องนี้อย่างแน่นอน”

ฉินเย่ว์โกรธจนตัวสั่นและสีหน้าของผู้อาวุโสท่านอื่นก็เต็มไปด้วยความโกรธ

แม้ว่า ‘เคอฉังจวี’ จะเลวเพียงใด แต่ก็อย่างที่เขาพูด ถ้าเขาไม่ได้รับอนุมัติจากฉินเย่ว์ เขาจะกล้าเอาลูกศิษย์ของยอดเขาอื่นไปได้อย่างไร

ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะได้รับอนุมัติจากฉินเย่ว์จนทำให้เกิดเหตุโศกนาฏกรรมเช่นนี้หรือ

ก่อนหน้านี้ เหตุผลที่ผู้อาวุโสทุกคนไม่พอใจฉินเย่ว์นั้นเป็นเพราะว่าเขาเข้าข้างเคอฉังจวีมากเกินไป แต่ตอนนี้ความไม่พอใจนี้ได้ก่อให้เกิดอารมณ์อื่นๆ มากมายเพิ่มขึ้น

………..