ตอนที่ 214 ตัดสินใจ

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

ซือ​จู​ได้ยิน​แล้ว​โกรธ​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​นาง​อยาก​บันดาล​โทสะ​ ​ทว่า​ก็​ไม่​อาจ​กระทำ​ต่อหน้า​สตรีที​่​อยู่​เต็ม​ห้อง​ได้​ ​ไม่อย่างนั้น​คง​ทำให้​พวก​ลูกหลาน​ของฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ไม่พอใจ​กัน​หมด​ ​ชีวิต​ของฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เอง​ก็​จะ​ย่ำแย่​ไป​ด้วย​ ​แล้วก็​จะ​ยิ่ง​ช่วย​พูด​ให้​นาง​ไม่ได้​มากขึ้น​ไป​อีก

หากฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ไม่​ช่วย​นาง​ ​วันนี้​นาง​คง​ไม่มี​แม้แต่​สถานที่​ให้​กลับ​ ​มิ​เท่ากับ​ให้​ผู้อื่น​หัวเราะเยาะ​เปล่าๆ​ ​หรอก​หรือ

นาง​ระงับ​เอาไว้​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ถึง​ได้​กลืน​ถ้อยคำ​ที่​ริมฝีปาก​ลง​ไป​ได้​ ​ผู้ใด​จะ​รู้​ว่า​หวัง​ซีก​ลับ​ไม่​หยุด​ ​ยัง​พูด​อยู่​ตรงนั้น​ต่อว่า​ ​“​ไม่พอใจ​อะไร​เจ้า​ก็​ไป​พูด​กับ​จ่าง​กง​จู่​ ​อย่า​มา​แสร้งทำ​ตัว​เป็น​ผู้อาวุโส​กับ​ข้า​ ​วันนี้​หาก​มิใช่​เพราะ​เห็นแก่หน้า​ของ​โหวฮู​หยิน​ ​อย่างไร​ก็​ต้อง​พูด​กับ​เจ้า​ให้​กระจ่าง​ให้​ได้​ไป​แล้ว​”

ซือ​จู​เอง​ก็​ไม่ใช่​คน​อดทน​เก่ง​ ​ก้าว​ออก​ไป​หมาย​จะ​เถียง​กับ​หวัง​ซี​ต่อ​ ​โหวฮู​หยิน​ห้าม​นาง​เอาไว้​อีกครั้ง​ ​ยัง​กล่าว​เสมือน​ทุกอย่าง​ยัง​ปกติ​ดี​อยู่​ว่า​ ​“​เอาละ​ๆ​ ​พี่สาว​น้องสาว​ทั้งสอง​ต่าง​คน​ต่าง​พูด​ให้​น้อยลง​คนละ​ประโยค​เถิด​ ​กินข้าว​กัน​เถอะ​กินข้าว​ ​ข้า​ได้ยิน​หลาน​เขยก​ล่า​วว​่า​ ​เขา​ยัง​มี​งาน​สำคัญ​ต้อง​ไป​ที่ว่าการ​สักครั้ง​หนึ่ง​ด้วย​ ​อย่า​ทำให้​ธุระ​ต้อง​ล่าช้า​ดีกว่า​”

ที่​เฉิน​อิง​ไป​ที่ว่าการ​จะ​มี​อะไร​ได้​ ​ก็​แค่​ไม่​อยาก​อยู่​บ้าน​ก็​เลย​หา​ข้ออ้าง​ออก​ไป​ก็​เท่านั้น

ซือ​จู​โกรธ​จน​เจ็บ​หน้าอก​ ​คิด​ว่า​ตอนที่​ตน​ต้องการ​พูด​โหวฮู​หยิน​จะ​ห้าม​เอาไว้​ ​แต่​พอตอน​หวัง​ซี​ต้องการ​เถียง​กับ​นาง​ก็​จะ​ทำเป็น​มองไม่เห็น​ ​นิสัย​ชอบ​คนรวย​รังเกียจ​คนยากจน​นั่น​ยัง​ไม่​เปลี่ยน​แม้แต่​ครึ่ง​เดียว

สักวันหนึ่ง​นาง​จะ​ต้อง​ทำให้​โหวฮู​หยิน​เสียใจ​ภายหลัง​ให้​ได้

นาง​นึกถึง​เรื่อง​ที่สอง​วันนี้​หย่ง​เฉิง​โหว​วุ่นอยู่กับ​เรื่อง​หางาน​ให้​บุตรชาย​แท้ๆ​ ​ทั้งสอง​คน​ของ​ตัวเอง​ ​ยัง​ไป​ขอร้อง​ที่​จวน​เจิ​้​นกั​๋​วก​งด​้วย​ ​พอคิด​ว่านา​งอาจ​ทำ​อะไร​ได้​บ้าง​แล้ว​ ​เพลิง​โทสะ​ใน​ใจถึง​ได้​บรรเทา​ลง​ ​รู้สึก​ดีขึ้น​มาก

หวัง​ซีที​่​ได้​ระบาย​อารมณ์​ไป​กับ​การโต้เถียง​ซือ​จู​ครั้งหนึ่ง​แล้วก็​รู้สึก​อารมณ์ดี​ขึ้น​มาก​เช่นกัน​ ​นาง​คิดถึง​เรื่อง​ทาบทาม​ของ​เฉินลั​่ว​ขึ้น​มา​ ​ตกลง​ตน​ควรจะ​ตอบรับ​หรือไม่​ตอบรับ​ดีนะ

กล่าว​ไป​กล่าว​มา​ ​ล้วน​เป็น​เพราะ​ตำแหน่ง​ทุก​ตำแหน่ง​ของ​เฉินลั​่ว​ไม่ดี​ ​หาก​เขา​ไม่ใช่​บุตรชาย​ของ​จ่าง​กง​จู่​ ​หาก​ฮ่องเต้​ไม่​สร้าง​ปัญหา​ขนาด​นี้​ก็​คงดี

ส่วนตัว​นาง​นั้น​อย่างไร​ก็ได้​ ​อยู่​ไม่ได้​ก็​แค่​วิ่งหนี

นาง​ไม่ใช่​บุตรสาว​ครอบครัว​มั่งคั่ง​ที่​ไม่เคย​ออกจาก​ประตู​บ้าน​เหล่านั้น​ ​นาง​เคย​ติดตาม​บิดา​และ​พี่ชาย​ไป​เห็น​โลก​กว้าง​มา​แล้ว​ ​รู้​ว่า​ใต้​ผืน​ฟ้า​กว้างใหญ่​ไพศาล​มาก​เพียงใด​ ​หาก​คิด​จะ​ซ่อนตัว​จาก​ใคร​สัก​คน​หนึ่ง​เป็นเรื่อง​ง่าย​และ​ทำได้​สะดวก​มาก​ ​แต่​นาง​ไม่​อาจ​ให้​เรื่อง​ของ​ตัวเอง​ทำให้​ครอบครัว​ลำบาก​ไป​ด้วย​ได้​!

หวัง​ซีคิด​แล้ว​รู้สึก​ว่า​กับข้าว​ที่​แต่เดิม​ก็​ธรรมดา​สามัญ​มาก​อยู่​แล้ว​ยิ่ง​ไม่น่า​กิน​มาก​เข้าไป​อีก​ ​จึง​ถอนหายใจ​ยาว​ออกมา​ครั้งหนึ่ง​อย่าง​ไม่รู้​เนื้อ​รู้ตัว

คนที​่​นั่ง​อยู่​กับ​นาง​คือ​ฉัง​เคอ

ฉัง​เคอ​เห็น​เช่นนั้น​แล้ว​รีบ​ถาม​นาง​ว่า​เพราะ​มีปากเสียง​กับ​ซือ​จู​ก็​เลย​อารมณ์ไม่ดี​ใช่​หรือไม่​ ​ยัง​กล่าว​ปลอบโยน​นาง​ว่า​ ​“​นิสัย​ของ​นาง​ก็​เป็น​เช่นนั้น​ ​เจ้า​เอง​ก็​ใช่​ว่า​ไม่รู้​ ​โชคดี​ที่​บัดนี้​นาง​แต่งงาน​ออก​ไป​แล้ว​ ​ไม่​อาจ​โฉบ​ไป​โฉบ​มา​อยู่​ที่​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ได้​อีก​ ​เจ้า​ก็​ถือ​เสียว​่า​วันนี้​ระคายเคือง​ตา​ ​อดทน​สักครู่​หนึ่ง​ ​รับประทาน​มื้อ​กลางวัน​เสร็จ​นาง​ก็​ไป​แล้ว​”

แน่นอน​ว่า​หวัง​ซี​ไม่​อาจ​เล่า​ให้​ฉัง​เคอ​ฟัง​ ​มิใช่​ว่า​ไม่เชื่อใจ​นาง​ ​แต่​เพราะ​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​นี้​เมื่อ​พูด​ออก​ไป​ฉัง​เคอ​ก็​ไม่​อาจ​ตัดสินใจ​ให้​นาง​ได้​อยู่ดี​ ​อาจ​ทำให้​ฉัง​เคอ​เป็นห่วง​และ​ตระหนก​ตาม​ไป​ด้วย​อีก​คน​ก็​เป็นได้

นาง​ฟัง​แล้ว​พยักหน้า​ ​ขานตอบ​อย่างไร​้​ชีวิตชีวา​ไป​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​ ​“​ข้า​รู้​แล้ว​”​ ​แล้วก็​เริ่ม​คิด​เรื่อง​นาง​กับ​เฉินลั​่ว​ต่อ

ณ​ ​ร้าน​สาขา​หลัก​ของ​สกุล​หวัง​ประจำ​จิง​เฉิง​ ​กว่า​หลง​จู๊​ใหญ่​จะ​เงยหน้า​ขึ้น​มาจาก​โต๊ะ​หนังสือ​ตัว​ใหญ่​ที่​เต็มไปด้วย​สมุดบัญชี​กอง​ใหญ่​ ​และ​หลังจากที่​รู้​ว่า​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​บ้าง​แล้ว​ ​ก็​มึนงง​จน​พูดไม่ออก

แรกเริ่ม​เขา​ยัง​คิด​ว่า​เป็นเรื่อง​ไร้สาระ​ของ​สตรี​เรือน​หลัง​ ​แต่​เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​เป็นข่าว​เกี่ยวกับ​งานแต่ง​ของ​หวัง​ซีก​็​นั่ง​ไม่​ติด​ที่​เล็กน้อย​ ​บัดนี้​ดูแล​้ว​ ​เป็น​เขา​ที่​ประมาท​ไป

กระนั้น​ก็ตาม​การ​เกี่ยวดอง​ระหว่าง​จวน​จ่าง​กง​จู่​กับ​ตระกูล​หวัง​…

สำหรับ​ผู้อื่น​อาจ​ถือเป็น​เรื่อง​ดี​ ​ได้​ใช้​เส้นสาย​ของ​ตระกูล​เขย​ทำการค้า​ ​ถึงขั้น​ได้​เปลี่ยน​สถานะ​ทางสังคม​ของ​ตระกูล​ ​แต่​สำหรับ​คนที​่​ทำการค้า​อย่าง​เจียมเนื้อเจียมตัว​และ​กลัว​ผู้อื่น​จะ​รู้​ว่า​พวกเขา​มีทรัพย์​สมบัติ​จำนวน​เท่าไร​อย่าง​ตระกูล​หวัง​นี้​ ​การดอง​กับ​จ่าง​กง​จู่​ก็​ไม่​ต่าง​จาก​เดิน​เข้าไป​สู่​ใจกลาง​มรสุม​ ​ทำ​อะไร​นิดๆ​ ​หน่อย​ๆ​ ​ก็​ถูก​คน​จับจ้อง​ ​การค้า​จำนวนมาก​ของ​ตระกูล​หวัง​ก็​อาจจะ​ถูก​เปิดเผย​ออกมา​ ​สำหรับ​ตระกูล​หวัง​ที่​ยึดถือ​หลัก​ ​‘​ซ่อนคม​ใน​ฝัก​’​ ​มาต​ลอด​นั้น​นี่​ถือว่า​วุ่นวาย​มากเกินไป

ไม่​แปลกที่​หวังห​มัว​มัว​จะ​ร้อนใจ

แต่​ฟัง​จาก​ความหมาย​ของ​หวังห​มัว​มัว​แล้ว​ ​หวัง​ซี​ต้อง​สนใจ​อยู่​บ้าง​แน่ๆ

ไม่อย่างนั้น​คง​ปฏิเสธ​ไป​ตรงๆ​ ​แล้ว​ ​เหตุใด​ต้อง​ลังเล​ด้วย

หาก​เป็นเรื่อง​อื่น​หลง​จู๊​ใหญ่​คิด​ว่า​ตัวเอง​ตัดสินใจ​ให้​ได้​ ​แต่​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​บุตรชาย​หญิง​นี้​ ​ผู้ใด​จะ​กล้า​รับประกัน​ได้​ว่า​เป็น​บุพเพ​ดี​หรือ​บุพเพ​ร้าย

เขา​เกา​ศีรษะ​ ​รู้สึก​ยาก​กว่า​ทำการค้า​หลาย​แสน​หลาย​ล้าน​ตำลึง​เสียอีก

หลง​จู๊​ใหญ่​รีบ​เขียนจดหมาย​ให้​หวัง​เฉิง​ฉบับ​หนึ่ง

***​

ด้าน​หวัง​ซี​หลังจาก​ผ่าน​วัน​กลับมา​เยี่ยม​บ้าน​ของ​ซือ​จู​แล้ว​ ​ชีวิต​ก็​ค่อยๆ​ ​สงบสุข​ลงมา​ ​นับวัน​รอทำ​โจ๊ก​ล่า​ปา​ใน​ช่วง​เทศกาล​ล่า​ปา​ ​นาง​แสดง​ฝีมือ​ครั้ง​ใหญ่​เพื่อ​สร้าง​ชื่อ​ให้​หอ​สายลม​วสันต์​ที่​จิง​เฉิง​อีกครั้ง

ส่วน​หวังห​มัว​มัว​พา​พวก​ไป๋​กั่ว​เดิน​เข้า​เดิน​ออก​ ​วุ่นอยู่กับ​การ​เตรียม​ไม้ดอก​ไม้ประดับ​สำหรับ​ตกแต่ง​ช่วง​ปีใหม่

ฉัง​เคอ​มาป​รึก​ษา​เรื่อง​เสื้อผ้า​ที่นาง​ต้อง​สวมใส่​ช่วง​เทศกาล​ปีใหม่​ ​“​สีแดง​สด​ฉูดฉาด​ไป​หน่อย​ ​แดง​ดอก​ท้อ​ก็​อ่อน​ไป​เล็กน้อย​”

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​มีโอกาส​ไป​ซ้ำ​กับ​เหล่า​นาย​หญิง​ทั้งหลาย​สูง​มาก

“​ข้า​อยาก​ไปดู​ที่​ห้อง​เสื้อ​เมฆา​คำนึง​สักหน่อย​ว่า​มี​ผ้า​ดี​ๆ​ ​หรือไม่​”​ ​ฉัง​เคอ​กล่าว​ ​ดวง​หน้าแดง​เรื่อ​เล็กน้อย​ ​กล่าว​อีกว่า​ ​“​ขึ้น​วันที่​เก้า​ ​อาจ​ได้​เจอ​คน​จาก​ตระกูล​เวิน​”

ขึ้น​วันที่​เก้า​ก็​คือ​วันที่​เก้า​เดือน​หนึ่ง​ ​เป็น​วัน​ถือกำเนิด​ของ​เทพเจ้า​อวี​้​ตี้​ ​วันนี้​วัด​ใหญ่​ๆ​ ​แต่ละ​วัด​ล้วน​จัดงาน​วัด​กัน

หวัง​ซีดี​ใจ​ ​กล่าวว่า​ ​“​คน​ตระกูล​เวิน​จะ​มา​จิง​เฉิง​แล้ว​หรือ​”

หลัง​ปีใหม่​ฉัง​เคอ​ก็​จะ​ออกเรือน​ ​นับวัน​ดูแล​้ว​ ​ผู้อาวุโส​ของ​ตระกูล​เวิน​ก็​น่าจะ​เข้า​เมืองหลวง​มา​จัดการ​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​เวิน​เจิง​แล้ว​เช่นกัน

ฉัง​เคอ​พยักหน้า​อย่าง​ขัดเขิน​ ​กระซิบ​กล่าวว่า​ ​“​แม่​ข้า​กลัว​ว่า​บ้าน​รอง​จะ​สร้าง​เล่ห์​อะไร​ขึ้น​มา​อีก​ ​จึง​ยัง​ไม่ได้​บอกกล่าว​ออก​ไป​ ​ตั้งใจ​ว่า​รอ​ให้​ผ่าน​วันที่​สี่​ไป​ก่อน​ค่อย​บอก​”

หวัง​ซีพ​ยัก​หน้า​พลาง​กล่าวว่า​สมควร​แล้ว​ ​จากนั้น​นึกถึง​ลานบ้าน​อัน​เหี่ยวเฉา​ไร้สีสัน​ใน​ฤดูหนาว​ของ​บ้าน​สาม​ขึ้น​มา​ ​ถาม​ฉัง​เคอ​ว่า​ ​“​เจ้า​อยาก​ย้าย​ต้นไม้​ดอกไม้​จาก​ที่นี่​ไป​สัก​สอง​สาม​กระถาง​หรือไม่​ ​หาก​คน​ตระกูล​เวิน​มา​เยี่ยม​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ ​อย่างไร​ก็​ต้อง​มานั​่ง​ที่​บ้าน​พวก​เจ้า​สักหน่อย​กระมัง​”

ฉัง​เคอ​ฟัง​แล้ว​ร้อนใจ​ขึ้น​มา​ ​ดึง​หวัง​ซี​ไป​เลือก​ไม้ดอก​ไม้ประดับ​ใน​ลานบ้าน​ ​นาง​เดิน​ไป​ด้วย​ ​กล่าว​ไป​ด้วยว่า​ ​“​ข้า​รู้​ว่า​ไม้ดอก​ไม้ประดับ​ของ​เจ้า​ล้วน​มี​การ​แบ่งแยก​จำนวน​เอาไว้​ชัดเจน​ว่า​ดอก​อะไร​จัดวาง​ตรงไหน​หรือ​ช่วงเวลา​ไหน​ควร​จัดวาง​ดอก​อะไร​ ​เจ้า​ให้​ข้า​ยืม​ต้น​ที่​เจ้า​ไม่ได้​ใช้​ใน​ช่วงนี้​ไป​ก่อน​สัก​สอง​สาม​กระถาง​ ​ข้า​จะ​ให้​คน​ไปดู​ที่​เฟิง​ไถ​ ​หาทาง​ซื้อ​ต้น​ที่​เหมือนกับ​ของ​เจ้า​กลับมา​สัก​สอง​สาม​กระถาง​…​”

นาง​ยัง​พูด​ไม่ทัน​จบ​ ​ฝีเท้า​ก็​หยุด​ลง​อย่างกะทันหัน​ ​ทำเอา​หวัง​ซีที​่​ถูก​นาง​ลาก​มาด​้วย​ซวนเซ​จน​เกือบจะ​ล้ม​ลง​ไป​กอง​กับ​พื้น

“​นี่​เจ้า​ทำ​อะไร​น่ะ​”​ ​ขณะที่​กล่าว​ ​หวัง​ซีก​็​ก้มหน้า​ลง​มอง​รองเท้า​ของ​ตัวเอง

ฉัง​เคอ​กลับ​มอง​บุรุษ​สวม​เสื้อคลุม​สีน้ำเงิน​ผ้า​เนื้อ​หยาบ​ ​บน​ศีรษะ​สวม​หมวก​สี​เดียวกัน​ผู้​หนึ่ง​ที่​กำลัง​เดิน​เข้ามา​ ​ข้างๆ​ ​เขา​คือ​สาวใช้​เด็ก​นาม​เสี่ยว​หนา​นข​อง​หวัง​ซี​ผู้​นั้น​ ​นาง​อยู่​ใน​ชุด​ปี๋​เจี่ย​สีเขียว​มรกต​แขน​สีขาว​ ​ดวง​หน้า​เล็ก​ขาวสะอาด​ ​คล้าย​บุปผา​งาม​ดอก​หนึ่ง​ ​ทำให้​บุรุษ​ที่อยู่​ข้าง​กาย​นาง​ยิ่ง​ดู​สกปรก​มอมแมม​ ​เหมือน​คนงาน​แบกหาม​ผู้​หนึ่ง

นี่​คือ​ผู้ใด​กัน

พา​เข้ามา​ง่ายๆ​ ​เช่นนี้

คง​เป็น​คน​ของ​ตระกูล​หวัง​กระมัง

เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​มาทำ​อะไร

ขณะที่​ฉัง​เคอ​ขบคิด​พิจารณา​อยู่​ใน​ใจ​นั้น​ก็ได้​ยิน​เสียง​ประหลาดใจ​ของ​หวัง​ซีที​่​อยู่​ข้างๆ​ ​ดัง​ขึ้นเสียง​หนึ่ง​ ​ทิ้ง​นาง​เอาไว้​ก็​แล้ว​วิ่ง​เข้าไป​หาบุ​รุษ​ผู้​นั้น​อย่างดี​ใจ

“​พี่ใหญ่​!​ ​พี่ใหญ่​!​”​ ​หวัง​ซีดี​ใจ​จน​แทบจะ​เสียสติ​แล้ว​ ​ก้าว​ออก​ไป​กอด​แขน​ของ​หวัง​เฉิน​เอาไว้​ ​พ่น​คำถาม​ออกมา​ไม่​หยุด​เหมือน​สายน้ำ​ที่​พุ่ง​ออกมา​ด้านนอก​ ​“​ท่าน​มา​ได้​อย่างไร​ ​ท่าน​มาตั​้ง​แต่​เมื่อไร​ ​ท่าน​บอกว่า​ก่อน​ปีใหม่​ไม่​เวลาว่าง​มา​จิง​เฉิง​ไม่ใช่​หรือ​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่​ให้​บ่าว​ชาย​หรือ​ผู้ติดตาม​ข้าง​กาย​มาแจ้ง​ข่าว​ข้า​ล่วงหน้า​สัก​คำ​หนึ่ง​ ​ท่าน​กินข้าว​หรือยัง​”​ ​ขณะที่​กล่าว​ ​เห็น​ว่า​สีหน้า​ของ​เขา​ยัง​เจือ​ความเหนื่อย​ล้า​จาก​การ​เร่ง​เดินทาง​เอาไว้​ ​จึง​รีบ​กล่าวว่า​ ​“​พี่ใหญ่​ ​ท่าน​ตรง​มาหา​ข้า​ที่นี่​เลย​หรือ​ ​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​สัก​ชุด​ ​กินข้าว​สัก​มื้อ​ ​และ​นอนหลับ​สัก​ตื่น​ก่อน​ค่อย​คุย​กัน​ก็ได้​เจ้าค่ะ​”

ยัง​มีฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​และ​หย่ง​เฉิง​โหว​ทาง​ด้าน​โน้น​อีก

หวัง​เฉิน​เดินทาง​มา​ไกล​ ​ตาม​หลัก​แล้ว​ควร​ไป​คารวะฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​กับ​หย่ง​เฉิง​โหวก​่อน​ ​หาก​พวกเขา​รู้​ว่า​พี่ชาย​ใหญ่​ของ​นาง​มา​ ​ไม่รู้​ว่า​จะ​มี​การจัดเตรียม​อะไร​อย่าง​อื่น​หรือไม่

แต่​นาง​อยาก​ให้​พี่ชาย​ใหญ่​พักผ่อน​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​อีกที

นาง​เขย่า​แขน​ของ​หวัง​เฉิน​ที่​กอด​เอาไว้​พลาง​กล่าว​ ​“​เรื่อง​อื่น​ผลัด​ออก​ไป​ก่อน​ได้​หรือไม่​ ​หาก​มี​เวลา​ไม่พอ​ ​งีบ​ที่นี่​สัก​ตื่น​ก็​ยังดี​ ​โชคดี​ที่​ครัว​ของ​ข้า​ตุ๋น​รังนก​กับ​ไก่​ดำ​เอาไว้​ตลอด​ ​ท่าน​อยาก​ดื่ม​อัน​ไหน​เจ้า​คะ​ ​บำรุง​ร่างกาย​สักหน่อย​ก่อน​”

หวัง​เฉิน​หัวเราะ​ออกมา​ ​หาง​ตามี​ร่อง​ลึก​จาก​การหัวเราะ​ ​ทว่า​แววตา​กลับ​เผย​ความอบอุ่น​ดุจ​แสงตะวัน​ออกมา​ให้​เห็น​ ​เขา​กล่าว​เสียง​อบอุ่น​ว่า​ ​“​ข้า​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ไป​คารวะฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​กับ​หย่ง​เฉิง​โหว​ ​ตรง​มาหา​เจ้า​ก่อน​ ​เจ้า​เอง​ก็​ไม่ต้อง​วุ่นวาย​ไป​ ​ข้า​ไม่​หิว​ ​ข้า​ถาม​เจ้า​สัก​สอง​สาม​ประโยค​ก็​ไป​แล้ว​ ​รอ​พรุ่งนี้​ค่อย​มาคา​รวะ​หย่ง​เฉิง​โหวกับฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ก็​ยัง​ไม่​สาย​”

พูดจาก​ใจ​แล้ว​ ​เขา​ไม่​อยาก​ไป​คารวะ​คน​ทั้งสอง​ ​แต่​น้องสาว​อาศัย​อยู่​ที่นี่​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​เขา​ก็​ต้อง​โผล่​หน้า​ไป​ทักทาย​ตามมา​รยาม​สักครั้ง

หวัง​ซีก​ลับ​ฟัง​ความหมาย​ที่​แฝง​อยู่​ใน​คำพูด​ของ​หวัง​เฉิน​ออก

โดยมาก​แล้ว​พี่ชาย​ใหญ่​ของ​นาง​คงมา​หานา​งด​้วย​เรื่องด่วน​อะไร​สัก​อย่าง​ ​และ​ยัง​แอบ​เข้า​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​โดย​ไม่มีใคร​รู้​ด้วย

หรือว่า​เรื่อง​ขนส่ง​เสบียง​ให้​จวน​ชิง​ผิง​โหว​เกิด​ปัญหา​อะไร​ขึ้น​?

นาง​จำต้อง​หันไป​มอง​ฉัง​เคอ​อย่าง​ขออภัย

พอ​ฉัง​เคอ​เห็น​ว่า​คนที​่​มาคื​อพี​่​ชาย​ใหญ่​ของ​หวัง​ซีก​็​ตกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​แต่​นาง​อยู่​ใน​จวน​อย่าง​ถ่อมตน​ว่าง่าย​มานาน​หลาย​ปี​ ​ก็​เป็น​คนรู้จัก​สำรวจ​สีหน้า​คน​ผู้​หนึ่ง​ ​รีบ​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​วางใจ​เถิด​ ​ข้า​กลับ​ไป​จะ​ไม่​พูด​อะไร​ทั้งสิ้น​ ​เรื่อง​ดอกไม้​ ​รอ​เจ้า​มี​เวลา​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​อีกที​”

หวัง​ซีก​ล่าว​ขอบคุณ​ฉัง​เคอ

ฉัง​เคอ​ทำความเคารพ​หวัง​เฉิน​และ​กล่าว​ทักทาย​ครั้งหนึ่ง

หวัง​เฉิน​คุย​กับ​ฉัง​เคอ​อย่าง​เป็นกันเอง​ไป​สอง​สาม​ประโยค​ ​มอบ​ซอง​แดง​ซอง​ใหญ่​ให้​นาง​เป็น​ของขวัญ​พบ​หน้า​ ​จากนั้น​ถึง​ได้​ให้​เสี่ยว​หนาน​ไป​ส่ง​ฉัง​เคอ​ที่​ประตู

หวัง​ซีจึง​ยิ่ง​ทำตัว​สบาย​ๆ​ ​มากขึ้น​ ​ลาก​หวัง​เฉิน​เข้าไป​ใน​เรือน​ ​ยัง​สั่งการ​เสี่ยว​หนา​นว​่า​ ​“​ไป​บอก​หวังห​มัว​ให้​ยก​น้ำแกง​ไก่​เข้ามา​ถ้วย​หนึ่ง​ ​แล้วก็​ตัก​น้ำ​เข้ามา​ปรนนิบัติ​คุณชาย​ใหญ่​ล้างหน้าล้างตา​”

เพียงแต่ว่า​ที่​เรือน​นาง​ไม่มี​เสื้อผ้า​ของ​พี่ชาย​ใหญ่​นาง

นาง​ถาม​หวัง​เฉิน​ ​“​หีบ​สัมภาระ​ท่าน​อยู่​ที่ใด​ ​ข้า​จะ​ให้​ใคร​สัก​คน​ไป​หยิบ​ชุด​มา​เปลี่ยน​ให้​สัก​สอง​สาม​ชุด​”

“​ไม่ต้อง​วุ่นวาย​ขนาด​นั้น​”​ ​หวัง​เฉิน​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​“​ข้า​ล้างหน้า​ก็​พอ​ ​นอกจากนี้​ข้ามา​ที่นี่​ก็​ไม่ได้​คิด​จะ​เจอ​ผู้อื่น​ ​คุย​กับ​เจ้า​สัก​สอง​ประโยค​ก็​ไป​แล้ว​”

หวัง​ซีพ​ยัก​หน้า​หงึกๆ​ ​พา​หวัง​เฉิน​ไป​นั่ง​บน​เก้าอี้​มี​เท้าแขน​ใน​โถง​รับรอง​ ​แล้วก็​รับ​ผ้าเช็ดหน้า​จาก​มือ​สาวใช้​เด็ก​มาป​รน​นิ​บัติ​พี่ชาย​ล้างหน้า​ด้วยตัวเอง

ส่วน​ไป๋​จื่อ​พาสาว​ใช้​เด็ก​ยก​น้ำแกง​ไก่​กับ​หมาน​โถ​วนึ​่ง​และ​ทอด​ลูก​เล็ก​เข้ามา

หวัง​เฉิน​ดื่ม​น้ำแกง​ไก่​และ​กิน​หมาน​โถ​วลูก​เล็ก​ไป​สอง​ลูก​เป็นการ​รองเท้า​ ​ดื่ม​ชาล​้าง​ปาก​เสร็จ​แล้วก็​ถาม​หวัง​ซี​อย่างตรงไปตรงมา​ว่า​ ​“​ได้ยิน​ว่า​จ่าง​กง​จู่​อยาก​ให้​เจ้า​ไป​เป็น​บุตร​สะใภ้​นาง​ ​เจ้า​คิด​อย่างไร​”

หวัง​ซี​บิด​ผ้าเช็ดหน้า​พลาง​ร้อง​ ตาย​แล้ว​ อยู่​ใน​ใจ​ ​กล่าว​อย่าง​หดหู่​ว่า​ ​“​ข้า​เอง​ก็​ไม่รู้​เจ้าค่ะ​!​”

ตอบรับ​ก็​กลัว​จะ​ทำให้​ครอบครัว​ลำบาก​ไป​ด้วย​ ​ไม่​ตอบรับ​ก็​รู้สึก​เสียดาย​เล็กน้อย

มือ​ของ​หวัง​เฉิน​ที่​ถือ​ถ้วย​ชา​อยู่​สั่น​เล็กน้อย

นี่​ยัง​นับว่า​ไม่รู้​ได้​อยู่​หรือ

เขามอ​งด​วงหน้า​ที่​เหมือน​ไข่ไก่​ปอกเปลือก​ของ​น้องสาว​ ​ใน​ใจ​มีคำ​ตอบ​หนึ่ง​แล้ว​รางๆ​ ​แต่​เขา​ยังคง​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่า​เป็นความ​คิด​ของ​จ่าง​กง​จู่​ ​หลาย​ปี​มานี​้​เจิ​้​นกั​๋​วก​งกับ​จ่าง​กง​จู่​ประมือ​กัน​อย่าง​ดุเดือด​ ​เกรง​ว่า​เรื่อง​นี้​คง​ไม่ได้​ง่ายดาย​ขนาด​นั้น​ ​ต่อให้​เจ้า​แต่ง​เข้า​จวน​จ่าง​กง​จู่​ ​ก็​คง​ไม่ได้​มีชีวิต​ที่​สบายใจ​นัก​”

แน่นอน​ว่านาง​รู้เรื่อง​พวก​นี้​ดี​!

นาง​ถึง​ได้​ตัดสินใจ​ไม่ได้​อยู่​นี่​ไง​?

นึกถึง​เรื่อง​พวก​นี้​ ​หวัง​ซีพ​ลัน​มอง​พี่ชาย​ด้วย​แววตา​แรงกล้า​ ​กล่าว​อย่างกระตือรือร้น​ว่า​ ​“​พี่ใหญ่​ ​เช่นนั้น​ท่าน​ช่วย​ตัดสินใจ​เถิด​!​ ​ท่าน​บอก​ให้​ข้า​แต่ง​ข้า​ก็​จะ​แต่ง​ ​หาก​ท่าน​รู้สึก​ว่า​ไม่​ค่อย​ดี​ ​เช่นนั้น​พวกเรา​ก็​ปฏิเสธ​เขา​ไป​อย่าง​อ้อม​ๆ​ ​ก็​พอ​”

………………………………………………………………