บทที่ 238 ความสามารถของป้ายพาหนะ

ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก

บทที่ 238 ความสามารถของป้ายพาหนะ

บทที่ 238 ความสามารถของป้ายพาหนะ

พยัคฆ์ทะยานเมฆกำลังจ้องมองก้อนโลหะตรงหน้าด้วยความระวัง มันกำลังสับสนและสงสัย ว่าเจ้าสิ่งที่เพิ่งปรากฏอย่างกะทันหันนี้คืออะไรกันแน่

เพียงแต่แม้ว่ามองอยู่นาน มันก็ยังไม่ได้เห็นเล่ห์กลอันใดจากสิ่งตรงหน้า มันเพียงแค่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ทว่าไม่ได้ขยับเคลื่อนไหว ประหนึ่งเป็นสิ่งของที่ไร้ซึ่งชีวิต

พยัคฆ์ทะยานเมฆรู้สึกว่ามันกำลังถูกหลอก มันต้องชะงักไปอย่างน่าอับอายเพราะวัตถุประหลาดนี้

ด้วยโทสะอันกราดเกรี้ยวของพยัคฆ์ทะยานเมฆ มันพุ่งตรงเข้าหาก้อนโลหะ ราวกับคิดฉีกกระชากสิ่งที่ทำให้มันต้องอับอาย

ตอนนี้เองที่อู๋ฝานซึ่งนั่งอยู่ในรถ กำลังเหงื่อไหลออกมาไม่ขาดสาย

ไม่ใช่ว่าชายหนุ่มไม่ต้องการเคลื่อนไหว แต่เขาไม่เคยใช้งานเจ้าสิ่งนี้มาก่อน เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่อะไรที่คนธรรมดาทั่วไปจะเคยได้สัมผัส กระทั่งอู๋ฝานเองก็ไม่ทราบวิธีการใช้ ทว่าเพราะอับจนหนทางแล้วในใจเกิดนึกถึงป้ายพาหนะขึ้นมาได้ สุดท้ายมันจึงแปรสภาพจนกลายเป็นเจ้าสิ่งนี้ แต่พอเข้ามาด้านในแล้วเขาก็คิดได้ว่าตนเองไม่รู้ว่าจะขับมันอย่างไร ใช้งานมันโจมตีแบบไหน หลังสำรวจหาอยู่ครู่หนึ่งก็ยังไม่พบวิธี ดังนั้นจึงเป็นเหตุว่าทำไมเขาถึง ‘นิ่งงัน’ อยู่กับที่

“ตึง!”

พยัคฆ์ทะยานเมฆส่งตัวมันกระแทกเข้าใส่รถหุ้มเกราะอย่างดุดัน มันคิดฉีกกระชากทำลายอะไรก็ตามที่ทำมันต้องอับอาย ทว่าการโจมตีที่ดุดันและรุนแรงของมันกลับไม่อาจฉีกกระชากเจ้าวัตถุก้อนใหญ่ได้ ทั้งที่มันควรฉีกกระชากสำเร็จ แม้จะเอาหัวกระแทก มันก็กลายเป็นฝ่ายมึนงงเสียเอง ส่วนเจ้าวัตถุก้อนใหญ่นั้นก็ยังคงเอาแต่นิ่งอยู่กับที่

เรื่องนี้เป็นเหตุให้พยัคฆ์ทะยานเมฆยิ่งโกรธเกรี้ยว มันกระโจนขึ้นไปบนหลังคาของรถ พยายามกัดและฉีกกระชากด้วยกรงเล็บ มันหมายจะฉีกเจ้าตัวใหญ่นี้ให้แหลกเป็นชิ้น ๆ

ความจริงอู๋ฝานที่อยู่ด้านในรถ กำลังเผชิญสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก เขาตระหนักว่าตอนนี้รถหุ้มเกราะก็ไม่ต่างอะไรกับกรงขัง เพราะไม่ทราบว่าจะใช้งานมันอย่างไร ตอนนี้ชายหนุ่มเลยกำลังกลายเป็น ‘เต่า’ ที่ถูกพยัคฆ์ทะยานเมฆจ้องขย้ำ

กรงเล็บและฟันของพยัคฆ์ทะยานเมฆค่อนข้างแหลมคม แม้รถหุ้มเกราะจะป้องกันเอาไว้ได้ แต่ก็ยังมีร่องรอยที่มันฝากทิ้งเอาไว้ ร่างใหญ่โตและหนักอึ้งของพยัคฆ์ทะยานเมฆเขย่าตัวรถไปมาจนอู๋ฝานเริ่มมึนหัว ตอนนี้เขากำลังหาทางควบคุมรถ

“ให้ตายสิ เร็วเข้า เร็วเข้า! จะทำให้มันทำงานยังไง!” อู๋ฝานร้อนรนบ่นพึมพำกับตัวเองขณะอยู่ในรถ ทั้งยังพยายามกดปุ่มนั่นนี่ไปทั่ว

ในที่สุดพยัคฆ์ทะยานเมฆก็สามารถเปิดรอยแยกขนาดใหญ่บนพื้นผิวตัวรถหุ้มเกราะได้สำเร็จ ตอนนั้นเองรถก็ขยับเคลื่อนไหว แต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มเคลื่อนที่ที่ช้าเกินไป

“ในที่สุดก็ได้สักที!” อู๋ฝานค่อยใจชื้นขึ้นมาบ้าง

หลังพบวิธีใช้งาน อู๋ฝานก็เร่งความเร็วเคลื่อนที่ ตอนนี้ความเร็วของรถเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

พยัคฆ์ทะยานเมฆที่อยู่บนหลังคารถ มันไม่คิดว่ารถจะเคลื่อนไหวได้ ทั้งยังเพิ่มความเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มันที่ยืนอยู่ด้านบนของรถต้องร่วงหล่นลงมา ทว่าด้วยพลังป้องกันที่มันมี การหล่นลงจากความสูงระดับนี้ ย่อมไม่อาจระคายผิวของมันได้ เพียงแต่เจ้าสิ่งที่เดิมนิ่งไม่ไหวติง กลับเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน ทำให้มันต้องระวังในใจขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

ตอนนี้อู๋ฝานควบคุมรถหุ้มเกราะให้หันกลับ เผชิญหน้ากับพยัคฆ์ทะยานเมฆ กระบอกปืนที่ติดอยู่ด้านหน้าของรถหุ้มเกราะ เล็งเตรียมยิงใส่พยัคฆ์ทะยานเมฆ

พยัคฆ์ทะยานเมฆหาไม่ทราบว่ามันคืออะไร ดังนั้นมันจึงไม่ได้หลบเลี่ยง พลางมองด้วยความสงสัย

“ปัง!”

กระสุนปืนถูกยิงออกไป มันพุ่งตรงเข้าหาร่างพยัคฆ์ทะยานเมฆ

เมื่อสัญชาตญาณของพยัคฆ์ทะยานเมฆรับรู้ถึงอันตราย มันก็คิดหลบเลี่ยง เพียงแต่ระยะตอนนี้ใกล้กับรถหุ้มเกราะจนเกินไป ทำให้แม้คิดหลบก็ไม่ทันเวลาแล้ว

“ปัง!”

กระสุนปืนปะทะกับร่างของพยัคฆ์ทะยานเมฆอย่างแม่นยำ แรงปะทะอันรุนแรงกระแทกเข้าใส่ร่างของมันจนกระเด็นลิ่วลอยอยู่กลางอากาศ หลังปะทะกับต้นไม้ใหญ่ที่หนาราวสองคนโอบ ร่างของมันก็เริ่มหล่นลงมาตามลำต้น

พยัคฆ์ทะยานเมฆมองเจ้าตัวใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว มันพยายามดิ้นรนหาทางลุกขึ้น ทว่าท้องของมันกลับทะลุเป็นรู เรียกได้ว่าสภาพปางตายแล้ว ทำให้แทบไม่เหลือเรี่ยวแรงพอที่จะใช้ลุกขึ้นอีก

พยัคฆ์ทะยานเมฆไม่คิดว่าเจ้าตัวใหญ่ที่ตอนแรกดูโง่ ทั้งยังนิ่งงันไม่ไหวติง แท้จริงแล้วจะมีพลังอำนาจชวนสะพรึงถึงเพียงนี้ หากมันทราบแต่แรก มันคงไม่ขาดความระวังจนถูกเล่นงานเช่นตอนนี้

แม้คิดได้ตอนนี้ก็ถือว่าสายเกินไปมาก มันรู้สึกได้ว่าชีวิตกำลังจะเลือนหาย ไม่นานศีรษะของมันก็ลดต่ำลง ก่อนจะแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่กับพื้น

ตอนนี้เองอู๋ฝานก็ปีนขึ้นมาจากทางออกด้านบนของรถหุ้มเกราะ เดินไปยังร่างของพยัคฆ์ทะยานเมฆ ดูร่างกายของมันที่ไม่ได้เลือนหายไปไหน แต่ในขณะเดียวกันก็ตื่นตะลึงต่อพลังอำนาจของรถหุ้มเกราะ

กล่าวได้ว่ามันคือพลังอำนาจของอาวุธสมัยใหม่ เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าธนู ดาบ หรือว่าอาวุธมีคมทั้งหลาย ด้วยความแข็งแกร่งของพยัคฆ์ทะยานเมฆที่เลเวลห้าสิบ กระบี่และดาบของพวกอู๋ฝานจึงแทบไม่อาจสร้างความเสียหายใดแก่มันได้มากนัก แม้เป็นนักรบอสูรทั้งห้าก็ไม่ได้แตกต่างกัน พวกมันพยายามฟันหมายสังหารอยู่นาน ทว่าพยัคฆ์ทะยานเมฆก็ยังคงรอดชีวิต อีกทั้งต่อให้มันจะบาดเจ็บไปบ้าง แต่ก็ไม่รุนแรงพอที่จะสามารถพรากชีวิตของมันได้

ทว่าไม่ใช่กับรถหุ้มเกราะ กระสุนปืนที่ยิงเข้าใส่ร่างพยัคฆ์ทะยานเมฆสังหารมันได้โดยตรง กระทั่งเกิดการระเบิดภายในร่างนั้น เป็นการโจมตีที่รุนแรงยิ่งกว่าดาบหรือกระบี่!!

แน่นอนว่ามันไม่ได้หมายความว่ารถหุ้มเกราะไร้ซึ่งจุดอ่อน จุดอ่อนจริง ๆ ของรถหุ้มเกราะยังคงมีให้เห็นอย่างชัดเจน และยังเป็นข้อด้อยขนาดใหญ่เลยด้วย นั่นคือการที่มันไม่อาจเคลื่อนที่ได้รวดเร็ว ครั้งนี้จัดการสำเร็จเพราะศัตรูขาดความระวังจนถูกยิงเล่นงาน ถ้ามันทราบพลังอำนาจของเจ้าสิ่งนี้และพยายามหลบเลี่ยง อู๋ฝานก็มั่นใจว่าคงไม่มีทางยิงโดนพยัคฆ์ทะยานเมฆ

พยัคฆ์ทะยานเมฆได้รับบาดเจ็บจากศึกครั้งก่อน ส่งผลต่อความเร็วในการตอบสนองของมันระดับหนึ่ง ทำให้อู๋ฝานสามารถสังหารมันในนัดเดียวได้สำเร็จ

อีกทั้งพลังป้องกันของรถหุ้มเกราะยังไม่ได้มากมายนักหากเทียบเปรียบกับพยัคฆ์ทะยานเมฆ อู๋ฝานเชื่อว่าหากตนช้ากว่านี้สักหน่อย พยัคฆ์ทะยานเมฆอาจฉีกกระชากหลังคารถหุ้มเกราะได้สำเร็จ ถึงตอนนั้นคนที่อยู่ด้านในรถ อาจจะไม่มีโอกาสได้หนีหรือว่าหลบซ่อนเลยสักนิด

กล่าวได้ว่ามันมีทั้งข้อดีและข้อด้อยที่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับว่าอู๋ฝานจะนำมันไปใช้งานอย่างไร

หลังใช้งานครั้งนี้ อู๋ฝานก็เกิดแนวคิดมากมายต่อป้ายที่ดูธรรมดานี้ขึ้นมา

เดิมนั้นอู๋ฝานคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ป้ายธรรมดาอันหนึ่ง ถ้ามีเงินเขาก็สามารถซื้อพาหนะหรือว่ารถยนต์ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้ไม่คล้ายจะเป็นเช่นนั้น หากใช้งานมันให้ดี มันอาจจะเป็นตัวช่วยที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตก็ได้

รถหุ้มเกราะในปัจจุบัน มันอาจแปรสภาพเป็นได้ทั้งรถถังที่มีพลังป้องกันและอำนาจในการยิงที่ยอดเยี่ยม เครื่องบินรบที่สามารถเดินทางในอากาศ เรือที่โลดแล่นไปบนท้องทะเล หรือกระทั่งอากาศยานสำหรับขนส่งก็สามารถเป็นไปได้!

ไม่นานตราบเท่าที่รวบรวมพาหนะทั้งหลายมาบันทึกเอาไว้ มันก็จะกลายเป็นตัวช่วยให้อู๋ฝานสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย มันจะไม่ใช่เพียงแค่พาหนะสำหรับขนส่งธรรมดาอีกต่อไป

อู๋ฝานมองป้ายในมือ ในใจตอนนี้เกิดความคิดอันร้อนรุ่มขึ้นมา

แม้ว่าของสิ่งนี้ไม่มีระดับระบุเอาไว้ แต่ในความเห็นของอู๋ฝาน มันไม่ต่างอะไรกับวัตถุระดับเทพชิ้นหนึ่ง!