บทที่ 282 ต่างโลกก็ต้องซื้อทาส!!
บทที่ 282 ต่างโลกก็ต้องซื้อทาส!!
“เจียฉิวฉิว เธอไม่จำเป็นต้องเศร้าใจไปหรอก ฉันมั่นใจแม้พวกเธอทั้งสองจะไม่ผ่าน แต่ฉันก็น่าจะผ่านไปได้ ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเราชนะแน่นอน ถึงตอนนั้นพวกเราจะสร้างชื่อเสียงให้กับอาณาจักรต้าฉีของพวกเรา พวกเธอสองคนยังเด็กอยู่ ฉันเชื่อว่าครั้งต่อไปพวกเธอจะต้องผ่านได้อย่างแน่นอน” มันคือคำพูดปลอบใจ แต่พอมันออกมาจากปากของถังเย่แล้วมันกลับดูเย่อหยิ่งแปลก ๆ
ฉู่เหินหัวเราะและไม่พูดอะไร เจียฉิวฉิวก้มหัวลงและไม่พูดอะไรเช่นกัน แม้ว่าทั้งสามจะมาด้วยกัน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสามนั้นก็ไม่ได้ดีนัก ในทางตรงกันข้ามความสัมพันธ์ระหว่าง เจียฉิวฉิวและโจวรุยกลับดีกว่าเล็กน้อย
สุดท้ายพวกเขาทั้ง 2 ก็อ่อนหัดเกินไปได้แต่โดนถากถางดูถูก ตอนแรก
ฉู่เหินว่าจะเตือนอีกฝ่ายแต่ไม่เอาดีกว่า
เมื่อถังเย่เห็นฉู่เหินและเจียฉิวฉิวไม่สนใจตัวเอง เขาก็ยิ้มเย้ยหยันออกมา เขาอยากให้ทั้งสองอิจฉาเขา เพราะยังไงทั้งสองก็คงไม่มีทางประสบความสำเร็จและไร้ค่าในสายตาของเขา! หลังจากลับมายังที่พักแล้วแต่ละคนก็แยกย้ายกันไป
เมื่อไม่มีอะไรให้ทำ ฉู่เหินก็คิดว่าจะออกไปเดินเล่น ในเมื่อเขามาต่างโลกเขาก็ไม่อยากเก็บตัวอยู่ในห้องตลอดเวลา หลังจากเดินออกจากห้อง เขาก็เห็นเจียฉิวฉิวอยู่หน้าประตูของเขา ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกแปลกใจ
“โจวรุย ไม่พักหน่อยเหรอ?” เจียฉิวฉิวถามออกมาราวกับไม่รู้จะพูดอะไรดี
“ฉันจะออกไปเดินเล่นข้างนอกนะ ว่าแต่เธอมาที่นี่ทำไม?” คำพูดที่ไม่สนใจอะไรของฉู่เหิน ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอับอาย
“ฉันอยากออกไปซื้อของหน่อยน่ะ แล้วเห็นว่านายมีเงินไม่มากเท่าไหร่ เลยว่าจะมาให้ยืม” หลังจากพูดออกไป เจียฉิวฉิวก็รู้สึกว่าเหตุผลนี้มันแย่มาก
ที่จริงแล้วเจียฉิวฉิวเป็นผู้หญิงร่ำรวยมาก ตั้งแต่เล็กจนโตเรื่องเงินนั้นไม่เคยขาดมือ แต่โจวรุยต่างออกไป ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ค่อยมีเงินแต่ครอบครัวของเขาก็ยังจนมากด้วย จนเจียฉิวฉิวเองก็สงสารเขา เท่าที่เธอเข้าใจทั้งตัวของโจวรุยไม่เคยมีเงินเกิน 100 เหรียญดาว ทำให้เธอพูดออกไปแบบไม่คิดว่าจะมาให้เขายืมเงิน?
หลังจากได้ยิน ฉู่เหินพูดไม่ออก ยังไงซะตอนนี้เขาก็มีเหรียญดาวมากมายอยู่แล้ว เขาไม่ต้องขอยืมเงินจากอีกฝ่าย
“ช่างเถอะ เธอคุ้นเคยกับอาณาจักรต้าเซียไหม?” ฉู่เหินคิดว่าอีกฝ่ายคงอยากไปช็อปปิ้งเลยหาคนไปด้วย หากอีกฝ่ายคุ้นเคยกับที่นี่เธอก็น่าจะเป็นไกด์ให้เขาได้
“คุ้นเคยกับอาณาจักรต้าเซียไหมเหรอ? แน่นอน ฉันมาเที่ยวที่นี่ 6-7 ครั้งได้แล้วมั้ง ฉันรู้ทุกอย่างที่นี่ ถ้านายหาอะไรไม่เจอ ฉันสามารถแนะนำนายได้นะ” เจียฉิวฉิวเป็นคนร่าเริงมาก ถ้าเป็นคนอื่นพูดแบบนี้ออกมาแล้วมันจะดูเย่อหยิ่ง แต่เธอไม่ใช่แบบนั้น เธอดูมีเสน่ห์และหากไม่ใช่ว่าฉู่เหินมีเสี่ยวชิงอยู่แล้ว เขาก็คงหลงเสน่ห์เธอไปแล้ว เพราะคำพูดของเธอมันแสดงถึงความจริงใจ
หลังจากเก็บอาการตื่นเต้นในหัวใจ ฉู่เหินก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “งั้นก็ดีเลย ฉันเพิ่งมาที่อาณาจักรต้าเซียครั้งแรก ฉันไม่รู้วัฒนธรรมและประเพณีที่นี่เลย ถ้ามีสาวสวยมาคอยแนะนำ มันก็จะยอดเยี่ยมมาก”
เมื่อเจียฉิวฉิวได้ยินฉู่เหินเรียกเธอว่าสาวสวย ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ผู้คนในโลกนี่จะให้ความเคารพกับเหล่าพวกจอมยุทธ์ และค่อนข้างหัวโบราณ ไม่มีผู้ชายคนไหนชมผู้หญิงว่า สาวสวย หรอกนะ? หลังจากได้ยินคำเหล่านี้หัวใจของเธอก็เต้นแรงมาก
“ได้…ได้เลย!” เจียฉิวฉิวพูดออกมาไม่เต็มเสียงนักและใบหน้ายังคงแดงอยู่ สิ่งนี้ทำให้ฉู่เหินอดไม่ได้ที่จะอยากรู้ แค่เรียกเธอว่าสาวสวยทำไมถึงต้องอายมากขนาดนี้?
แต่ฉู่เหินไม่พูดอะไรมากและทั้งสองก็เดินเคียงข้างกันออกมา ฉากนี้ถูกพบโดยถังเย่ที่ซ่อนตัวอยู่ในบ้าน เขากำหมัดด้วยความความเกลียดชัง แม้ว่าเขาจะเย่อหยิ่ง แต่เขาก็แอบชอบเจียฉิวฉิวมาตลอด เดิมทีเขาคิดว่าตราบใดที่เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเสื้อผ้าได้ เจียฉิวฉิวก็จะหันมามองเขา
และเมื่อถึงเวลานั้น เขาจะขอเธอแต่งงาน เธอไม่มีทางจะปฏิเสธได้เลย หรือแม้อีกฝ่ายจะปฏิเสธ เขาก็จะใช้ศักดิ์ศรีของตัวเองเดินตรงไปที่ประตูบ้านเจียฉิวฉิวเพื่อขอเธอแต่งงาน แม้แต่ผู้นำตระกูลเจียก็ไม่อาจปฏิเสธเขาได้! แต่เขาไม่คาดคิดว่าโจวรุย ที่เขาดูถูกอยู่ตลอดเวลาจะมาปาดหน้าเขาไปแบบนี้!
หลังจากดูทั้งสองพูดและหัวเราะก่อนเดินออกไปข้างนอกด้วยกัน ดวงตาของถังเย่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น แต่ที่นี่คืออาณาจักรต้าเซีย เขาไม่สามารถทำอะไรได้ เขาต้องระงับความไม่พอใจเอาไว้และหลังจากรายชื่อประกาศผลออกเมื่อไหร่ เขาจะเหยียบโจวรุยให้จมดิน!
“มีอะไรแปลก ๆ เกี่ยวกับอาณาจักรต้าเซียไหม?” ฉู่เหินถามอีกครั้ง
“ถ้าอาณาจักรต้าเซียมีอะไรแปลก ๆ อืม…ก็คงเป็นสนามประลองกับศาลาสัตว์จิตวิญญาณนั้นแหละ ที่สนามประลองไม่ใช่แค่ขายทาสเท่านั้นนะ
แต่ยังมีให้ดูการสังหารกันระหว่างพวกทาสด้วย พูดได้ว่าเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเลือดและความบันเทิงของอาณาจักรต้าเซียเลยละ!”
“ส่วนศาลาสัตว์จิตวิญญาณเป็นสถานที่ที่จะสามารถขายสัตว์ประหลาดได้ทุกชนิด หากต้องการซื้อสัตว์เลี้ยงก็ให้ไปดูสัตว์หายากทุกชนิดที่นั่นได้ แน่นอนว่าสัตว์ที่มีค่ามาก ราคาก็จะสูงตาม”
หลังจากได้ยินการแนะนำของเจียฉิวฉิว ฉู่เหินก็จะไปดูที่สนามประลองก่อน เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน เขาอยากไปดู ต่างโลก ซื้อทาส มันช่างเป็นของคู่กันจริง ๆ!
แม้ว่าที่โลกจริงเองก็มีเรื่องแบบนี้ในโลกใต้ดิน แต่โลกนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าจะมีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ แต่มันก็เท่านั้น
ทั้งสองเดินไปตามถนนและตรอกซอกซอย ไม่นานนักก็เห็นปราสาทสูงข้างหน้า ตัวอาคารทั้งหมดของปราสาทเปรียบเสมือนเสือดุร้าย ข้างนอกมีสิงโตหินขนาดใหญ่ 2 ตัว อ้าปากกว้าง ราวกับทุกหนทุกแห่งกำลังถูกมันจ้องมอง
อย่างไรก็ตาม สิงโตหินทั้งสองนี้ถูกแกะสลักให้เหมือนจริง เมื่อมองจากระยะไกลราวกับว่ามันทั้งสองกำลังดูแลที่นี่อยู่
หลังจากเข้าไปแล้วก็มีห้องโถงขนาดใหญ่อยู่ข้างใน ตลาดค้าทาสอยู่ทางซ้ายมือของห้องโถงและเวทีอยู่ทางด้านขวามือ ยังไม่ถึงเวลาสำหรับการต่อสู้แต่ก็มีเสียงมากมายในตลาดทาส
ฉู่เหินเคยเห็นแบบนี้แค่ในหนังสือและทีวีเท่านั้น เขาไม่เคยเห็นของจริง เมื่อเขามาที่นี่ เขาก็ได้เห็นทุกสิ่งที่แปลกใหม่ราวกับเป็นบ้านนอกเข้าเมือง เขารู้สึกว่าแค่ตา 2 ข้างมันไม่พอที่จะดูทั้งหมด ทุกอย่างมันแปลกใหม่สำหรับเขาไปหมด
เจียฉิวฉิวอดไม่ได้ที่จะยิ้ม แต่หลังจากได้เห็นท่าทางของฉู่เหิน เธอก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ตอนเธอมาที่นี่เป็นครั้งแรกเธอกลัวด้วยซ้ำ ขณะที่ทั้งสองค่อย ๆ เดินไปข้างหน้า กรงเหล็กขนาดใหญ่ก็ปรากฎตัวต่อหน้าพวกเขา
ภายในกรงเหล็กทุกคนถูกอัดแน่น ผู้คนที่นี่ก็มีความหลากหลายและแตกต่างกัน บางคนนั้นตัวสั้นดูเหมือนคนแคระในสายตาของฉู่เหิน อย่างไรก็ตามหลังจากสำรวจความทรงจำของโจวรุย ฉู่เหินก็รู้ว่านี่เป็นเผ่าคนแคระ และคนแคระมีฝีมือในการตีเหล็กกับผลิตไวน์
ฉู่เหินไม่คิดว่าวันนี้จะได้เจออะไรแบบนี้ เขาเริ่มสงสัยว่าถ้าเขาซื้อทาสไป เขาจะนำพวกมันกลับสู่โลกของตัวเองได้ไหม? ถ้าพากลับไปได้ ฉู่เหินจะให้พวกเขาอยู่ชั้นบนสุดของบ้าน
เรื่องการผลิตไวน์ เผ่าคนแคระต้องมีฝีมือที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน แต่พอเห็นว่าดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขาก็กลัวว่าจะมีปัญหาหลังจากพากลับโลก พอคิดไปคิดมาเขาก็ส่ายหัวยอมแพ้ต่อความคิดนี้ไป
ตรงข้ามกับกลุ่มคนแคระคือกลุ่มยักษ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่ง คนพวกนี้สูงขนาดคนที่เตี้ยที่สุดยังสูง 2 เมตร มีทั้งหมด 7 หรือ 8 คน แม้แต่ฉู่เหินก็ต้องเงยขึ้นเพื่อมองใบหน้าของพวกเขา
ข้างในนั้นแปลกมากมีอยู่หลายเผ่า มีทั้งเผ่าพันธ์ุเอลฟ์ที่มีหูแหลม
เผ่าออร์ค บางคนก็มีปีกคู่หนึ่งอยู่ข้างหลัง ซึ่งถูกเรียกว่าเผ่าภูติ