ตอนที่ 229 เรื่องราวที่เกิดโลลิไปในทิศทางที่หมีสนใจ

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

229 เรื่องราวที่เกิดขึ้นไปในทิศทางที่น่าสนใจ

 

「เนียจัง、เนียจัง」

 

ฉันถูกเรียกโดยไม่คาดคิด และเมื่อหันกลับไป――โอ้ หลักสูตรเก็บกวาด

 

คนที่มักจะมาคุยกับฉันในห้องเรียนมีเพียงซิลเลน หรือ อาคาชิเท่านั้น ผู้มาเยือนที่เป็นผู้ชายจึงหายาก ฉันคิดว่าเป็นใครอยู่ครู่หนึ่ง

 

พวกเขาคือ พี่ชายใจดี ไมค์・เอนการ์ด กับชายหนุ่มร่างใหญ่ ดิออน・อิเบส จากหลักสูตรเก็บกวาด

 

“มีอะไรงั้นเหรอคะ?”

 

ฉันไม่สนใจเพื่อนร่วมชั้นที่ชอบเก็บตัวเงียบ ๆ และออกจากห้องเรียน มาจัดการธุระของพวกเขา

ตอนนี้ถึงเวลาพักระยะสั้นแล้ว แล้วหลังจากเรียนเสร็จอีกหนึ่งคลาส ก็ถึงเวลาพักกลางวัน หากคุณมีบางสิ่งบางอย่างที่ต้องการจะทำ คงจะดีไม่น้อยหากแวะมาในช่วงพักเที่ยง

 

…………

 

จริง ๆ แล้ว เนื่องจากอุบัติเหตุของอีสเมื่อไม่กี่วันก่อน ทำให้ยากนิดหน่อยที่ฉันจะไปเจอพวกเขา……เพราะพวกเขามองฉันด้วยใบหน้าที่หวาดกลัวอย่างยิ่ง เป็นผลของการเอาแต่ใจจนเกินไป

 

การที่พวกเขามาเจอกับฉันแบบนี้ หมายความว่าเวลาผ่านไปมากพอจนบางทีพวกเขาอาจจะยอมรับเรื่องนั้นได้ในระดับหนึ่งแล้ว

 

“อาโน ก่อนหน้านี้……เรื่องนั่น พวกเราไม่รู้ว่าควรพูดอะไร แต่……มีหลาย ๆ อย่างใช่ไหม? พวกเรามาที่นี่เพื่อถามเกี่ยวกับเรื่องนั้นน่ะ”

 

ไมค์เลือกสรรคำพูดของเขามาก แต่――ไม่สิ ถ้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นตั้งแต่แรก บางทีฉันเองก็อาจไม่สามารถหาคำที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้

 

“หรือว่าบางทีต้องการให้ฉันบอกเหรอคะ?」

 

“ไม่หรอก จะพูดยังไงดี เอ๊ะโตะ……ก่อนอื่นช่วยไปพบกับอีสก่อนได้ไหม?”

 

“อีส? หรือว่าตอนนั้นเธอจะได้รับบาดเจ็บงั้นเหรอคะ?”

 

เนื่องจากฉันบังคับให้เธอเคลื่อนไหวตามที่ตัวเองต้องการ บางทีอาจเผลอไปทำให้เอ็นยึดกระดูด หรือบางทีเอ็นยึดกล้ามเนื้อ หรือบางทีอวัยวะภายในบางส่วนได้รับความเสียหาย เป็นแบบนั้นสินะ

หรือว่าบางทีอาจจะเจ็บทั้งหมดเลย

 

“ไม่หรอก อาการบาดเจ็บดูจะโอเคแล้ว ดูเหมือนอาการปวดกล้ามเนื้อจะไม่ดีเท่าไหร่ แต่ตอนนี้หายแล้ว อืม ไม่ต้องห่วงหรอก”

 

งั้นเหรอ ไม่เป็นไรสินะ

ม๊า ถ้าเป็นอย่างนั้น คงจะไม่เงียบไปหลายวัน หรือพวกเขาแค่เงียบและไม่อยากเข้ามาเกี่ยวข้อง

 

“ม๊า――พูดง่าย ๆ ก็คือ อีสดูเหมือนจะอยากทำแบบนั้นด้วยตัวเองให้ได้ ดังนั้นเธอจึงเริ่มฝึกฝนด้วยวิธีที่เป็นไปไม่ได้”

 

โห้ ด้วยตัวเอง

 

 

 

หลังเลิกเรียน ฉันก็พบกับชายสองหญิงหนึ่งจากหลักสูตรเก็บกวาด ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่พวกเขาเคยฝึกก่อนหน้านี้

 

“…っ、…っ、…っ”

 

อีสอยู่นั่น

เธอตั้งใจทำซ้ำรูปแบบการเหวี่ยงจากบนลงล่าง 

 

――ตามคำบอกเล่าของไมค์ เธอทำแบบนี้ตลอดเวลา เมื่อแต่นอกโรงเรียน

 

เขาบอกว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องต่อสู้กับทหารจักรกล และดูเหมือนจะไม่ยอมหยุดไม่ว่าจะโดนหยุดแบบไหนก็ตาม

 

“แล้ว อยากให้ฉันทำอะไรล่ะคะ?”

 

ฉันถูกขอให้มาพบกับอีส และพามาที่นี่ แต่ฉันยังไม่ได้ยินเลยว่าจะให้ทำยังไงต่อจากนี้

 

“……ออาจจะหยาบคายไปหน่อย แต่หากสามารถสอนได้ ก็อยากขอให้ช่วยสอนให้หน่อยน่ะ”

 

“จะไม่หยุดเหรอคะ?”

 

“พยายามหยุดแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเธอไม่สนใจที่จะหยุดเลย แถมพอพิจารณาจากบุคลิกของอีสแล้ว ฉันมั่นใจว่าเธอจะไม่ยอมแพ้ล่ะ”

 

เข้าใจล่ะ ถือว่าเลือกได้ดี

ฉันเป็นคนที่ชอบให้กำลังใจคนที่อยากแข็งแกร่งขึ้น  การพยายามหยุดเพียงฝั่งเดียวก็ต่อเมื่อมันไม่สมเหตุสมผลจริง ๆ เท่านั้น

 

ไหนไหน เอาล่ะ ฉันจะช่วยสักหน่อยแล้วกัน

 

“อีส”

 

“…っ、…っ、…っ”

 

เธอไม่ได้ยินฉัน ――ม๊า ไม่เป็นไร

 

“――โอっ!? เนีย!?」

 

ฉันเดินเข้าไปด้านหลังของอีส และแตะแผ่นหลังที่เปียกเหงื่อของเธอ ในที่สุดเธอก็รู้สึกตัวถึงฉันแล้ว

 

“มองไปข้างหน้าต่อไป เตรียมตัวให้พร้อม”

 

โดยไม่สนใจอีสที่สับสน ฉันถ่ายทอด「คิ」ของฉันเข้าไป และกวน「คิ」ของเธอ

 

“――ความรู้สึกนี้ จดจำมันไว้ล่ะ”

 

“…………”

 

ใจของอีสสงบลง

「คิ」ของเธอซึ่งถูกบังคับให้เคลื่อนไหว ค่อย ๆ สงบลงและกลายเป็นธารน้ำใสสงบนิ่ง ไหลวนไปตามร่างกาย

 

มันเป็นเรื่องใหญ่ คุณได้เรียนรู้วิธีการเคลื่อนไหวแล้วใช่ไหม

 

“เป็นไง? คิดว่าทำด้วยตัวเองได้ไหม?”

 

“อืม……อืーม…………บางทีอาจจะมาจากภายในกระดูก แก่นแท้มากกว่า จากศูนย์กลางของร่างกาย มันออกมาจากตรงนั้น อาจจะ”

 

เป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ

แต่ละคนมีความรู้สึกที่แตกต่างกันเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ ดังนั้นฉันจึงไม่มีอะไรจะพูด หากถ่ายทอดได้ไม่ดีก็จะยิ่งเข้าใจยากยิ่งขึ้น

สิ่งเดียวที่ทำได้คือปล่อยให้คิดออกด้วยตัวเอง

 

เดิมทีแล้ว เรื่องยากที่สุดคือการจะรู้สึกถึงในตอนแรก

แม้จะคลุมเครือก็ตาม เธอก็สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของตัวเองออกมาเป็นคำพูดได้อย่างรวดเร็วเลยสินะ

 

――แม้ว่าอีสอาจจะเป็นผู้สืบเชื้อสายอันห่างไกลจากราชาคนเถื่อน ไกสท์・อีส แต่ก็ไม่มีร่องรอยสายเลือดของราชาคนเถื่อนเมื่อนานมาแล้วที่ไหลเวียนอยู่เลย

 

ทว่า เธอดูดซับได้เร็วขนาดไหนกันน่ะ

กะแล้ว ฉันอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่ามีความเชื่อมโยงบางอย่างอยู่

 

“นี่คือพื้นฐาน คุณสามารถใช้งานโดยถ่ายทอดมันลงบนดาบแล้วปล่อยออกไป แต่ตอนนี้คุณควรเรียนรู้พื้นฐานก่อน จนกว่าจะใช้งานง่ายกว่าการหายใจ”

 

ฉันปล่อยหลังของอีส แล้วหันหลังกลับ แต่ฉันไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว

 

ฉันไม่อยากรบกวนการฝึกของพวกเขาแล้ว ดังนั้นกลับบ้านกันเถอะ

ลูกศิษย์และขนมของฉันกำลังรอฉันอยู่ที่บ้าน

 

“ถ้ายังต้องการอะไรอีก ไปเรียกฉันได้น่ะ”

 

ฉันพูดแบบนั้นกับพวกไมค์ แล้วก็กลับทันที

 

――เรื่องราวที่น่าสนใจเกิดขึ้นหลังจากนั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

“ไม่ชอบใจเลย”

 

ทันทีที่เขาลงจากทหารจักรกล ไควท์・ซาบรีก็พึมพำราวกับจะอาเจียน 

 

ไควท์ซึ่งฝึกฝนทักษะของเขาด้วยการต่อสู้จำลองกับนักเรียนจากหลักสูตรทหารจักรกลเดียวกันจนถึงเมื่อกี้ เขาเป็นคนที่มีเชื้อสายสามัญชน ไม่ใช่ขุนนาง

แต่เข้าเกิดมาพร้อมกับสีที่โดดเด่นซึ่งทำให้เขาได้รับสิทธิ์ที่จะได้รับราชการเป็นทหารจักรกล นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็มุ่งเน้นพัฒนาทักษะตามความสามารถของเขาเพียงอย่างเดียว

 

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเป็นหนึ่งในสิบ นับบินฝึกหัดที่มีความสามารถมากที่สุดในหลักสูตรจักรกล

คู่แข่งปัจจุบันของเขาคือซีเกลน・เกต แม้ว่าเขาจะไม่เคยชนะ แต่เขาก็ยังนับเป็นคู่แข่ง

 

“ห๊า? จู่ ๆ ก็เป็นอะไรไปเนี่ย”

 

อีเจียน・โลจิส ซึ่งกำลังรอให้พื้นที่ฝึกว่าง ถึงกับต้องหยุดการเคลื่อนไหวระหว่างพยายามขึ้นเครื่องและหันกลับมา

 

อีเจียนเป็นนักเรียนทหารจักรกลชั้นปีที่สี่ รุ่นน้องของไควท์ และปัจจุบันก็เป็นทหารจักรกลฝึกหัดที่อายุน้อยที่สุด โดยมีอายุเพียงสิบเอ็ดปีเท่านั้น แต่เขาก็เป็นทหารจักรกลที่ยอดเยี่ยม

 

“ฉันแค่บอกว่าไม่ชอบใจเลย ทุกอย่างในทุกวันนี้”

 

“ฮ้า งั้นเหรอครับ”

 

“นายเองก็ควรโกรธเหมือนกันสิ แค่คิดว่าตอนที่มีข่าวลือแพร่สะพัดเกี่ยวกับเจ้าเด็กหลักสูตรทั่วไปนั่น  นักเรียนหมายเลย 1 ของพวกเราก็ถูกลักพาตัวไปอยู่หลักสูตรทั่วไปได้ยังไงกัน? เริ่มตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ช่วงนี้ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์พวกเราจากพวกหลักสูตรเก็บกวาดหลักสูตรการค้าด้วย”

 

“ฮ้า งั้นเหรอครับ”

 

“เจ้าสารเลวนั้นทำให้ซิลเลนซามะต้องดูมองว่าเป็นคนเขลา ทุกวันนี้หลักสูตรทหารจักรกลถูกเล่นตลกใส่ไม่ใช่รึไง”

 

“ฮ้า งั้นเหรอครับ”

 

“แล้วก็นะ แค่เด็กมันจะไปทำลายทหารจักรกลที่หนักและแข็งแกร่งด้วยนิ้วเดียวได้ยังไงกัน ต้องมีบางอย่างอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน ต้องมีการเตรียมการ หรือทริกอะไรสักอย่าง”

 

“ฮ้า งั้นเหรอครับ ถ้ายังไงกรุณาออกไปตอนนี้เลยได้ไหมครับ”

 

“นายไม่คิดอะไรเลยงั้นเรอะ!”

 

“ผมอยากฝึกฝนให้มากกว่านี้ และกลายเป็นนักบินที่ยอดเยี่ยมครับ ไม่สนใจด้วยว่าใครจะวิจารณ์กันว่ายังไง”

 

อีเจียนไม่สนใจรุ่นพี่ที่เอาแต่บ่นเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้น และพยายามขึ้นไปบนทหารจักรกลของเขา――

 

“รอก่อน”

 

เขาถูกหยุดไว้โดยมีใครบางคนมาจับที่ต้นคอ

 

“อะไรอีกครับ น่ารำคาญนะครับรู้ไหม น่ารำคาญมากเลยจริง ๆ นะครับ”

 

อีเจียนมองเขาด้วยสายตาตำหนิ แต่ไควท์ก็มองไปอีกทาง และตะโกนว่า「ดูนั่น」

เมื่อเขาเบือนสายตาไปตามคำพูด ――เขาก็เห็นเด็กสาวผมขาวเดินผ่านมา

 

เธอเป็นนักเรียนต่างชาติในข่าวลือ

แม้แต่อีเจียนผู้รักระเบียบวินัยในตนเองก็เคยเห็นเธอหลายครั้ง และได้ยินข่าวลือที่ไม่น่าเชื่อมาบ้าง

 

เนีย・ลิสตัน。

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เธอเป็นตัวตนที่อยู่นอกสามัญสำนึกที่แม้แต่ฝ่ายทหารจักรกลก็ยังลังเลที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

 

จากรูปลักษณ์ภายนอก ดูเหมือนจะไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับเธอเลย นอกจากผมของเธอที่มีสีพิเศษ สำหรับอีเจียน เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าเขาหนึ่งปี

 

วันก่อนเขาได้ยินข่าวลือว่าทหารจักรกลของนักเรียนชั้นปีที่เจ็ด ร็อก・ฟลิค กับ ซันเอะ・กิฟเวนส์ ที่ไปล้อเลียนหลักสูตรเก็บกวาดถูกทุบตีเป็นชิ้น ๆ

เขาไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องจริงไหม แต่เขาแน่ใจว่ามีบางอย่างที่เขาไม่สามารถจินตนาการได้

 

“นี่เป็นโอกาสดีเลยที่จะได้พูดแทนซีเกิร์นซามะ ต้องเอาซิลเลนซามะกลับมาให้ได้”

 

“เชิญไปคนเดียวเลยครับ”

 

“ไม่เอา! ฉันต้องการพยานสำหรับเรื่องนี้ ไปด้วยกัน!”

 

“……รู้สึกรำคาญเรื่องนี้จริง ๆ ครับ……”

 

――ทว่า อีเจียนก็คิดเหมือนกัน

 

จนถึงตอนนี้ เขาเป็นหนี้บุญคุณซิลเลนเป็นอย่างมาก

เธอเป็นคนที่สอนเขาทุกขั้นตอนด้วยความกรุณาและรอบคอบ แม้ว่าตอนที่เขาจะยังเป็นเพียงนักเรียนใหม่ที่ไม่รู้วิธีขับหรือควบคุมทหารจักรกลเลยก็ตาม

และ เธอก็เป็นคนที่สอนเขาถึงวิธีการต่อสู้――เขาจึงมุ่งเป้าไปที่รูปแบบการต่อสู้ที่คล้ายกับซิลเลน

 

เขาไม่สนใจหน้าตา หรือความภาคภูมิใจของไควท์เลยสักนิด มันเป็นเหมือนเรื่องตลกที่เขาไม่สนใจ แต่ ถ้าเป็นการทำเพื่อให้ซิลเลนกลับมาที่หลักสูตรทหารจักรกล มันก็ทำให้เขาสับสนเล็กน้อย

 

ม๊า จริง ๆ แล้วไม่มีที่ว่างสำหรับความลังเล

 

ท้ายที่สุดแล้ว ไควท์ก็ลากอีเจียนเข้าไปเกี่ยวข้องกับเนีย・ลิสตันจนได้

 

“หล่อนตรงนั้นรอก่อน!!”

 

หรือต้องบอกว่าต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยไม่ถามถึงความตั้งใจของอีเจียนด้วยซ้ำ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“――ได้สิ”

 

ทันทีที่แยกทางกับหลักสูตรเก็บกวาด ฉันก็เข้ามาพัวพันกับคู่หูจากหลักสูตรทหารจักรกล

 

ฉันคิดว่าจะปฏิบัติอย่างเบามือ แล้วรีบกลับบ้าน――แต่เขากลับสนทนาไปในทิศทางที่น่าสนใจ ดังนั้นฉันจึงตอบรับทันที

 

“สิ่งที่คุณต้องการคือให้เดิมพันซิลเลนในการแข่งกับทหารจักรกลสินะ? เมื่อไหร่ดีล่ะ?”

 

แม้ว่าทางโรงเรียนอาจจะไม่อนุญาตให้ทำในช่วงเทศกาลฤดูหนาวก็ตาม

ยังไงก็ตามหากคุณขโมยมันออกไปโดยไม่ได้รับอนุญาตในเกมที่ไม่ได้รับอนุญาต มันก็จะเป็นเรื่องของทางนี้แล้ว

 

――ซิลเลน หลักสูตรเก็บกวาด ดูเหมือนว่าพวกคุณจะสามารถต่อสู้กับทหารจักรกลได้แล้ว

 

ฉันไม่เคยบอกว่าฉันจะสู้นิหน่า

 

 

 

 

 

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

 

คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ 

{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}

 

ขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ

ขอบคุณงับ

 

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

ไร้สาระ

โดนถามว่าจะกินอะไรรัวๆจากคนที่เตรียมของกินตัวเองไว้แล้วนี่ แถมหลังจากนั้นเจ้าตัวออกไปซื้อของก็ไม่ซื้อของกินมาเผื่อให้ด้วยแล้วยังถามย้ำอีกว่าจะกินอะไร 
แล้วทำไมไม่ซื้อของกินมาเผื่อให้กันหน่อยล๊า ทำเอาเบื่ออาหารได้เหมือนกันน้อ