230 ซิลเลนที่รู้สึกมีไฟในใจ
“――ก็อย่างที่พูดไป สามารถต่อสู้กับทหารจักรกลได้แล้วนะ”
“……”
ฉันคุยกับซิลเลนที่กลับมาถึงคฤหาสน์ก่อน เกี่ยวกับเรื่องที่ได้ไปสัญญาไว้ก่อนหน้านี้
“……เรามีอะไรมากมายที่อยากจะพูดเลยล่ะ”
ซิลเลนซึ่งสวมชุดฝึกและกำลังฝึกเหวี่ยงอยู่ถึงกับก้าวถอยหลังกลับไปหนึ่งก้าว สามารถเห็นนิสัยที่ซื่อสัตย์ของเธอและไม่อยากเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว
เธอมีสีหน้าแปลก ๆ เมื่อได้ยินเรื่องจากฉันที่มาเล่าให้ฟังทันทีที่กลับถึงบ้าน รู้สึกเหมือนกำลัง สับสนว่าจะยอมรับดีไหม
“การที่พึ่งมาบอกกับเรา คงไม่ใช่การทำอะไรไม่คิดหรอกนะใช่ไหม?」
อืม? ……ม๊า ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้นนิดหน่อยนะ
คืนซิลซามาะมาซะ
การประลองที่ถ้าชนะก็ดี
คงเป็นเรื่องแปลกใจกันไม่น้อยหากซิลเลนเข้าร่วมกับกระแสนี้ด้วย
“แต่การมีเป้าหมายแบบนี้ก็น่าจุดไฟได้จริงไหม? คุณจะกลับไปหลักสูตรทหารจักรกลก็ได้หากว่าแพ้ขึ้นมา แต่ถ้าไม่อยากกลับไปก็แค่ชนะซะก็พอ”
“มันไม่ง่ายเหมือนที่คุณพูดหรอกนะ……”
ฉันจำไม่ได้เลยว่าบอกว่ามันง่าย
สิ่งที่ฝึกฝนมาแต่แรกด้วยความตั้งใจที่จะต่อสู้ในเทศกาลฤดูหนาวกลายเป็นความจริง และการชนะหรือพ่ายแพ้ก็มีความหมายบางอย่าง ไม่มากไปกว่านั้น
――เพราะหากพ่ายแพ้ในการต่อสู้จริง ชีวิตจะถูกช่วงชิงไป สักวันหนึ่งถ้าเธออยากต่อสู้กับแมลง ต้องยอมรับความเสี่ยงประมาณนั้นได้จะดีกว่า
ฉันคิดว่าในการแข่งขันที่จริงจังคุณต้องมีอะไรเดิมพันบ้าง
อาจเป็นความภาคภูมิใจ อาจเป็นชีวิต อาจเป็นเพื่อความไร้สาระ หรืออาจเป็นเพื่อคนอื่น
ไม่สำคัญว่าคุณจะเดิมพันอะไร ตราบใดที่คุณจริงจังกับมัน
จริง ๆ อะไรก็ได้หมดนั้นแหละ
แม้จะมีความมุ่งมั่นในระดับหนึ่ง แต่การแข่งขันที่ไม่จริงจังก็ไม่ต่างจากการฝึกฝนมากนัก
“ไม่มีปัญหา เราจะทำให้ดู เพราะงั้น――”
“――สวัสดี ขอโทษที่มาสาย
แคลนอลล์เปิดประตูลูกกรงเหล็กเข้ามาจากข้างนอก มาราวกับรู้จังหวะเลย
“คุณมีสหายร่วมอุดมการณ์แล้ว และฉันก็อยู่ด้วย สิ่งที่คุณต้องทำคือพยายามทำให้ดีที่สุดโดยไม่ต้องไปกลัวการสูญเสียอะไรก็ช่าง”
มีความเสี่ยงที่ซิลเลนจะถูกฝ่ายทหารจักรกลยึดตัวไป
ทว่า ตราบใดที่ยังไม่ตายก็มีโอกาสท้าทายใหม่เสมอ
หากคุณมีเป้าหมายสูงสุดและต้องการไปให้ถึง คุณก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเอาชนะกำแพงแต่ละชั้นทีละอัน
“หืม? เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
แคลนอลล์มองมาที่พวกเราสลับกัน ถ้าไม่นับฉัน ฉันเดาว่าเธอสนใจซิลเลนซึ่งมีสีหน้าจริงจังในฐานะพี่สาว
“――ท่านพี่หญิง ในที่สุดน้องก็มีโอกาสต่อสู้กับทหารจักรกลแล้วค่ะ”
“เอ๊ะっ?”
“ตอนนี้ไม่มีเวลาแล้ว กรุณามาเข้าร่วมการฝึกกับน้องที”
“โอะ โอ้……ไม่สิ เรื่องแน่นอนอยู่แล้ว แต่ช่วยบอกรายละเอียดมาก่อนได้ไหม?”
“ไม่มีเวลาแล้วค่ะ เราจะคุยกันในภายหลัง มาเริ่มกันเลยเถอะค่ะ”
“……ไว้หลังจากกินขนมหวานเสร็จแล้วก็ไม่เห็นเป็นไรจริงไหม?”
“เราไม่มีเวลาสำหรับเรื่องนั้น เอาล่ะ รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เร็วเข้า และมาฝึกซ้อมกัน”
อืมอืม ดูเหมือนเธอจะมีไฟในใจแล้ว ประกายในดวงตาของเธอแตกต่างจากเดิม
“ฉันจะดูแลขนมของทั้งคู่ให้เอง ดังนั้นพยายามเข้าเน๊”
“อะ เล่นสกปรก เนียจังเล่นสกปรก”
ฟุๆๆๆๆ นี่คือกลยุทธ์ต่างหาก
“เนียเองก็ด้วย นี่ไม่ใช่เวลากินขนมแล้ว มาช่วยดูแลเราด้วยซะดี ๆ”
เอ๊ะっ。
“สัญญาว่าจะคอยดูใช่ไหม ไม่มีเวลาแล้ว เราขอร้องอย่างจริงจัง”
……เอ๊ะっ
……ไม่มีขนม? ต้องล้อกันเล่นแน่ ๆ……
“อ้า มาเวเลียเชี่ยวชาญด้านการทำแป้งได้ยอดเยี่ยมมาก ผลไม้ก็ดีเหมือนกัน แต่แป้งจะดูแตกต่างออกไป นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณภาพของขนมหวานถึงได้ดูแตกต่างจากที่อื่นไปเล็กน้อย”
โห้ แป้งต่างออกไปสินะ
ฉันไม่สามารถพูดได้อย่างชัดเจนว่ารู้สึกถึงรสชาติที่แตกต่างยังไง――แต่ก็พอจะบอกได้คุณภาพนั้นแตกต่างจากแป้งของอาร์ตัวร์ที่ฉันรู้จักแน่นอน
งั้นเหรอ นั่นเป็นความลับเบื้องหลังความอร่อยของขนมที่ทำให้ฉันหลงใหลสินะ
“เดาว่ามีปลูกตามเกาะลอยฟ้าโดยรอบใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวไรย์ ผักและผลไม้ หากดูแล้วอย่างดีก็จะเติบโตอย่างรวดเร็ว หนึ่งในสามของทวีปมาเวเลียถูกยึดครองโดยแมลง ซึ่งพวกเราได้ต่อสู้ด้วยมาอย่างยาวนาน แต่ก็ถือว่าน่าประหลาดใจที่ไม่เคยมีปัญหาเรื่องอาหารเลย”
เข้าใจล่ะ
นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาสามารถต่อสู้ต่อไปได้โดยไม่ต้องพึ่งพาประเทศอื่น
“ม๊า ถ้าลองคิดอย่างใจเย็นแล้ว หากไม่มีพืชผลเพียงพอในทุกปี เราก็คงจะไม่สามารถจัดเทศกาลในฤดูหนาวได้”
“ก็คงอย่างงั้นล่ะ”
…………แล้ว วันนี้ฉันก็ได้กินขนมหวานเยอะมาก ยาเร๊ะยาเร๊ะ
“แล้ว?”
“อื~ม……ฉันรู้สึกถึงพลังที่ไม่รู้จักที่แตกต่างจากเวทมนตร์กำลังทำงานอยู่ แต่เป็นยังไงกันแน่น๊า……」
ฉันกำลังพยายามจัดการ「คิ」แคลนอลล์ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่เข้าใจดี
ก็ต้องอย่างงั้นแหละ ปกติจะต้องเป็นแบบนี้
หลังพยายามลองมาแล้วหลายครั้ง แต่เธอก็ยังไม่แสดงท่าทีว่าจะเรียนรู้ได้ แต่ในที่สุดก็ดูเหมือนว่าจะเริ่มรู้สึกมันได้
คงมีเพียงอีสเพียงแค่คนเดียวที่สามารถคว้าเอาไว้ได้ในครั้งเดียว และสามารถแสดงออกมาได้ในเวลาอันรวดเร็ว ฉันคิดว่านั่นเป็นเพราะอีสผิดปกติ
“ย๊าก! ย๊าก! ย๊าก!”
ม๊า ฉันก็บอกไม่ได้ว่าผิดปกติตรงไหน แต่ก็มีบางคนที่เข้าใจอะไรได้เร็วมาก
ฉันกับแคลนอลล์ พวกเรากำลังจับมือและหันหน้าเข้าหากัน และแม้กระทั่งพูดคุยกันและแม้กระทั่งพูดคุยกัน ส่วนซิลเลนยังคงฝึงเหวี่ยงอย่าสุดกำลังห่างออกไป
ถึงจะค่อนข้างสั่นไหวและอ่อนแอ แต่ซิลเลนต้องรู้สึกถึง「คิ」อย่างแน่นอน
แม้ว่าจะยังไม่เสถียร และบางครั้งก็หายไป แต่ระยะเวลาที่สามารถรักษาไว้ได้ก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น
นี่ บางทีอาจจะแค่บางที
“……อาโน เนียจัง”
“หืม?”
ฉันละสายตาจากซิลเลนที่ฝึกฝนรูปแบบเดิมซ้ำ ๆ จนชุ่มเหงื่อ หันกลับมามองผู้หญิงตรงหน้า
“……ยังโกรธเรื่องของลิวิเซลอยู่หรือเปล่า……?」
ลิวิเซล
เจ้าชายลำดับที่หนึ่งสินะ
“ฉันพูดไม่ได้ว่าไม่โกรธ แต่ฉันคิดว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะพูดแบบนั้น”
เดิมทีฉันก็ไม่ได้มีความเกลียดชังต่อแคลนอลล์มากนัก ดังนั้นตอนนี้ฉันเลยสนิทกับเธอบางแล้ว เธอค่อนข้างร่าเริง และน่าประหลาดใจที่เราเข้ากันได้ง่ายกว่าซิลเลน
ยังไงก็ตาม พอนึกถึงเจ้าคนงี่เง่าอย่างลิวิเซล ฉันก็กลับรู้สึกโกรธเป็นพิเศษเล็กน้อย
ตอนนี้ ฉันอยากจะทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับอนาคตอันใกล้ของมาเวเลียมากกว่าเรื่องส่วนตัวของฉันเอง
นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันคิดว่าจะพยายามไม่ให้ตัวเองดูแย่
แต่ ฉันยังคิดว่ามันอาจจะอึดอัดสำหรับเราทั้งคู่ที่จะเปิดใจโดยไม่ทำอะไรเลย
อาจจำเป็นต้องมีข้อตกลงละเอียดอ่อนบางอย่างล่ะนะ
“เขากลับมาแล้วเหรอ?”
“เปล่าหรอก ยังไม่มีแผนที่จะกลับมาในเร็ว ๆ นี้น่ะ เป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่จะดำเนินการสำรวจให้ได้มากที่สุดในช่วงนี้ที่อากาศหนาวแล้ว พวกเขาจะกลับมาไม่ทันเทศกาลฤดูหนาวด้วยซ้ำ”
ขณะที่อากาศหนาว พวกแมลงก็เคลื่อนไหวช้าสินะ
“การเป็นเชื้อพระวงศ์ของมาเวเลียก็เป็นเรื่องยากลำบากเน๊ะ”
“อืม ม๊า……หน้าที่ปกป้องประชาชนนั้นทำให้ต้องเข้มงวดกับชาวต่างชาติ……ไม่สิ ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ไม่สะดวก……」
“จ๊า กินขนมหวานกันดีไหม?”
“เรื่องนั้นไม่ได้จริงไหมเน๊ะ ขนมหวานของอาร์ตัวร์อร่อยจจริง ๆ เพราะอย่างงั้นถึงเป็นไปไม่ได้จริงไหม”
……งั้นเหรอ ไม่ให้สินะ น่าผิดหวัง
――กลิ่นที่หอมหวานลอยมาจากคฤหาสน์ได้สักระยะหนึ่งแล้ว ริโนกิส นี่เป็นขนมอบที่ประณีตอย่างแน่นอน อดไม่ได้ที่จะตั้งตารอเลย
ม๊า ฉันคิดว่าคงจะทานมันหลังอาหารเย็น จนกว่าจะถึงตอนนั้นฉันจะฝึกซ้อมอย่างหนักต่อไป
วันต่อมา
ฉันไปเยี่ยมห้องเรียนสำหรับหลักสูตรเก็บกวาด และบอกพวกเขาแบบเดียวกับที่บอกซิลเลน
“ทำ! ทหารจักรกล สู้!”
อีสตอบกลับทันทีด้วยรอยยิ้มแห่งการต่อสู้บนใบหน้า ส่วนอีกสามคนที่เหลือก็ไม่ได้คัดค้าน
――เท่านี้ก็พร้อมแล้ว หลังจากนี้ฉันจะขอให้อาคาชิจัดตารางเวลาให้หน่อย
สองสัปดาห์จะถึงเทศกาลฤดูหนาว
เนื่องจากทุกคนจะต้องยุ่งในวันเทศกาล ดังนั้นพวกเราจึงตัดสินใจต่อสู้แบบลับ ๆ สองวันก่อนเทศกาล……ในวันที่โรงเรียนทหารจักรกลปิดเทอมช่วงฤดูหนาว
ทว่า ยังไงก็ตาม
การพูดคุยที่ควรจะเป็นความลับ แต่ในวันนั้น นักเรียนทุกคนที่โรงเรียนทหารจักรกลต่างก็ได้รู้เรื่องนี้
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ
{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}
ขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ
ขอบคุณงับ