ตอนที่ 174 ความมั่นใจ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 174 ความมั่นใจ
จางตวนรุ่ยมองไปยังรัชทายาทอย่างคาดไม่ถึง “องค์ชาย ตลอดทางที่ผ่านมาคุณชายไป๋ฝึกฝนร่างกายทุกวันไม่เคยขาด โดยเฉพาะฝีมือยิงธนู…”

ไม่รอให้จางตวนรุ่ยกล่าวจบ รัชทายาทเดินเข้าไปพยุงไป๋ชิงเหยียนให้ลุกขึ้นด้วยตัวเอง กล่าวอย่างจริงจัง “คุณชายไป๋เป็นคนวางแผนการรบทั้งหมดในครั้งนี้ มีเพียงคุณชายไป๋อยู่ที่เมืองหวั่นผิง หากเกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ เราจะได้ไม่หวั่นวิตก มีคุณชายไป๋คอยอยู่ข้างกายเรา เราถึงจะวางใจได้!”

รัชทายาทกล่าวอย่างจริงเป็นที่สุด หากไม่ต้องคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรี รัชทายาทคงจับมือไป๋ชิงเหยียนขึ้นมากุมแน่นเพื่อแสดงความจริงใจของตนอย่างแน่นอน

ไป๋ชิงเหยียนรู้ว่ารัชทายาทระแวงนาง ดังนั้นต่อให้ไม่มีแม่ทัพที่เก่งกาจเหลืออยู่อีกแล้ว รัชทายาทก็ไม่มีวันให้นางนำทัพออกรบ ยิ่งไม่มีทางให้นางได้เจอกับกองทัพไป๋เด็ดขาด

แม้จะเป็นสิ่งที่อยู่ในความคาดหมายอยู่แล้ว ทว่า ไป๋ชิงเหยียนก็อดผิดหวังในตัวรัชทายาทไม่ได้

บัดนี้พวกนางกำลังเผชิญหน้ากับกองทัพจำนวนเกือบแสนของซีเหลียงซึ่งได้สมญานามว่าราชสีห์ผู้แข็งแกร่ง เดิมทีกองทัพที่แข็งแกร่งสองกองทัพปะทะกันก็ยากที่จะชนะอยู่แล้ว ทว่า ภายใต้สถานการณ์ที่ต้าจิ้นไม่มีแม่ทัพฝีมือดี แต่สงครามนี้ต้องมีแต่ชัยชนะเท่านั้น ชีวิตของทหารและบ้านเมืองยังไม่สำคัญไปกว่าความหวาดระแวงในใจของรัชทายาทได้เลย

ไป๋ชิงเหยียนหลับตาข่มความรู้สึกผิดหวังที่มีต่อราชวงศ์เอาไว้ หญิงสาวก้มหน้ากล่าวอย่างเคารพ

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ องค์รัชทายาทได้โปรดมีรับสั่งจัดกองกำลังโดยเร็วเถิดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลากลับไปเปลี่ยนเรื่องแต่งกายก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อครู่ไป๋ชิงเหยียนตรงมาจากสนามฝึกซ้อม เสื้อผ้าที่อยู่ภายใต้เสื้อคลุมปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อหมดแล้ว

รัชทายาทนึกไม่ถึงว่าไป๋ชิงเหยียนจะรับปากอย่างง่ายดายเช่นนี้ เขาลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ พยักหน้ารัวพลางกล่าว

“ได้ๆ ลำบากคุณชายไป๋แล้ว รีบกลับไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเถิด!”

ฉินซ่างจื้อเห็นว่าไป๋ชิงเหยียนจะเดินจากไป เขาร้อนใจเป็นอย่างมาก

“องค์รัชทายาท การหลอกล่อกองทัพทหารซีเหลียงเข้าไปในหลุมโพรงกลางภูเขาเวิ่ง พวกเรามิอาจทราบได้ว่ากองทัพซีเหลียงมีกี่นาย และไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคนนำทัพ คุณชายไป๋เคยติดตามท่านกั๋วกงไปออกรบที่หนานเจียงมาก่อน เขาคุ้นเคยกับภูเขาเวิ่งดี มีเพียงคุณชายไป๋นำทหารห้าพันนายไปดักซุ่มโจมตีเท่านั้นจึงจะไม่มีสิ่งใดผิดพลาดพ่ะย่ะค่ะ”

“องค์ชาย!” จางตวนรุ่ยลุกขึ้นยืนพลางกล่าว “กระหม่อมขอเอาศีรษะรับประกันแทนคุณชายไป๋ องค์ชาย…ให้คุณชายไป๋นำทัพเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”

การออกรบในครั้งนี้ แม่ทัพที่ใช้งานได้ก็มีแค่เขา จางตวนรุ่ย! แม่ทัพสือพานซาน! แม่ทัพเจินเจ๋อผิง! และไป๋ชิงเหยียนที่ได้สมญานามว่าเสี่ยวไป๋ไซว่เท่านั้น!

จางตวนรุ่ยทราบดีว่ารัชทายาทหวาดระแวงในตัวไป๋ชิงเหยียน ทว่า สงครามกระชั้นชิด หากอยากเอาชนะด้วยกำลังคนที่น้อยกว่า พวกเขาจะพลาดไม่ได้แม้แต่นิดเดียว!

ไป๋ชิงเหยียนวางแผนแบ่งกองทัพออกเป็นสี่เส้นทาง มีพวกเขาทั้งสี่คนเป็นคนนำทัพ ขอแค่ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด พวกเขาต้องชนะในสงครามครั้งนี้อย่างแน่นอน ทว่า หากขาดผู้ที่รู้จักภูมิประเทศของภูเขาเวิ่งดีอย่างไป๋ชิงเหยียนไป อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นได้!

รัชทายาทเห็นไป๋ชิงเหยียนใช้ดวงตาล้ำลึกจ้องมาที่เขาด้วยใบหน้าที่สงบนิ่ง ราวกับมองออกว่าเขาหวาดกลัวตระกูลไป๋และไป๋ชิงเหยียน ใจของรัชทายาทเต้นรัว กล่าวอย่างเคร่งขรึม

“คุณชายไป๋เป็นผู้วางแผนการรบทั้งหมดในครั้งนี้ เขาจะไปเสี่ยงอันตรายที่ภูเขาเวิ่งได้อย่างไร มีเพียงคุณชายไป๋อยู่ที่เมืองหวั่นผิง หากเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นเราจะได้ตั้งรับทัน”

เจินเจ๋อผิงเป็นคนไม่คิดมาก เขาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ที่องค์รัชทายาทตรัสมาก็มีเหตุผลพ่ะย่ะค่ะ!”

จางตวนรุ่ยขบกรามแน่น

ฉินซ่างจื้ออย่างจะโน้มน้าวอีก ทว่า ไป๋ชิงเหยียนทำความเคารพและเดินจากไปแล้ว เขามองตามแผ่นหลังของไป๋ชิงเหยียนพลางถอนหายใจยาว ได้แต่หวังว่าแม่ทัพที่นำทัพไปดักซุ่มโจมตีอยู่ที่หลุมโพรงกลางภูเขาเวิ่งจะกำจัดกองทัพของซีเหลียงได้!

ไป๋จิ่นจื้อและเซียวรั่วไห่ยืนรออยู่ด้านนอกจวนว่าการ เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนเดินออกมาก็รีบถลาเข้าไปหาทันที

“พี่หญิงใหญ่! เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” ไป๋จิ่นจื้อถาม

ไป๋ชิงเหยียนกระชับเสื้อคลุมแน่น ก้าวข้ามธรณีประตูของจวนว่าการ ยืนมองเมืองหวั่นผิงที่ยังคงมืดสนิทท่ามกลางแสงไฟ กล่าวขึ้น “เป็นดังที่คาด องค์รัชทายาทให้พี่รออยู่ที่เมืองหวั่นผิง”

ไป๋จิ่นจื้อโมโหจนแทบอยากเข้าไปถามเหตุผลจากรัชทายาท แต่เมื่อนึกได้ว่าพี่หญิงใหญ่กล่าวว่าเป็นดังที่คาด นางกะพริบตาปริบๆ ถามอย่างงุนงง “พี่หญิงใหญ่มีแผนแล้วหรือเจ้าคะ!”

แม้จะเป็นดังที่นางคาดการไว้ ทว่า ต้องเดิมพันด้วยชีวิตของทหารบริสุทธิ์เหล่านั้น ไป๋ชิงเหยียนเดินลงบันไดของจวนว่าการด้วยใจที่หนักอึ้ง มุ่งตรงไปยังค่ายทหาร ครู่หนึ่งจึงก้มหน้าพลางกล่าวกับไป๋จิ่นจื้อ

“กลับไปพักผ่อนให้เต็มที่! ไม่เกินบ่ายวันนี้ พวกเราได้ออกรบแน่…”

เมื่อครู่ตอนที่วางแผน ที่นางเลือกนำทหารห้าพันนายไปซุ่มโจมตีอยู่ที่หลุมโพรงใจกลางภูเขาเวิ่งไม่ใช่เพราะที่นั่นปลอดภัยกว่าการให้แม่ทัพสือพานซานและแม่ทัพเจินเจ๋อผิงแสร้งทำเป็นพ่ายแพ้และหลอกล่อกองทัพซีเหลียงเขาไปในหุบเขา!

กลับกัน…หลุมโพรงกลางภูเขาเวิ่งคือที่ที่อันตรายที่สุด หลุมโพรงกลางเขาเวิ่งไม่ได้สูงชันเหมือนดั่งหุบเขาทางด้านตะวันออกที่กองทัพซีเหลียงดักซุ่มโจมตีอยู่ แต่มันเป็นหลุมลาดเอียงที่สามารถปีนขึ้นมาด้านบนได้อย่างง่ายได้

หากซุ่มโจมตีอยู่ตรงจุดที่สูงที่สุดของหลุมโพรงกลางภูเขาเวิ่ง หากกองกำลังมีเท่ากันคงชนะอย่างง่ายดาย ทว่า หากกองกำลังฝ่ายตรงข้ามมีมากกว่าหลายเท่าตัว เมื่อแม่ทัพของซีเหลียงที่ถูกต้อนจนมุมต้องการมีชีวิตรอด เขาคงต้องฝ่าบุกเข้าไปโดยไม่กลัวสิ่งใดแน่นอน!

ขอแค่มีทหารค่ายหนึ่งของซีเหลียงบุกออกไปจากหลุมโพรงกลางภูเขาเวิ่ง ครอบครองหุบเขาทางด้านตะวันออกได้อีกครั้ง ทหารต้าจิ้นที่อยู่ในหุบเขาเวิ่งซึ่งมีน้อยกว่าทหารซีเหลียงคงต้องเผชิญกับอันตรายอย่างแน่นอน!

ฉินซ่างจื้อและจางตวนรุ่ยรู้ว่าชัยภูมิตรงหลุมโพรงกลางภูเขาเวิ่งค่อนข้างซับซ้อน หากไม่ใช่แม่ทัพที่รู้จักภูมิศาสตร์ตรงนั้นเป็นอย่างดี ต้องเกิดความผิดพลาดขึ้นอย่างแน่นอน ทว่า รัชทายาทไม่ยอมให้นางนำทัพ

นางมีความมั่นใจในสนามรบตรงหลุมโพรงกลางภูเขาเวิ่งมาก นอกจากนางเป็นผู้นำทัพเองแล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถนำทหารห้าพันนายเข้าล้อมกองทัพซีเหลียงไว้ในหลุมโพรงได้แน่นอน

เพราะว่า…นอกจากนางจะเคยรบกับศัตรูในภูเขาเวิ่งแล้ว หรู่ซยง เซียวรั่วเจียงเดินทางมาถึงหนานเจียงนานแล้ว เขาสำรวจสภาพภูมิประเทศของภูเขานั้นอย่างละเอียดแล้ว!

บัดนี้ เซียวรั่วเจียงมอบแผนที่ภูเขาเวิ่งให้แก่นางเรียบร้อย! แผนที่ฉบับนี้วาดด้วยวิธีการของกองทัพไป๋ ละเอียดถึงขั้นวงจุดสำคัญทั้งหมดไว้ในแผนที่ เนื้อหาละเอียดจนไม่อาจหาจากที่ใดบนโลกนี้ได้อีก

ยิ่งไปกว่านั้น เซียวรั่วเจียงสำรวจพฤติกรรมของแม่ทัพทั้งหมดของอวิ๋นพั่วสิงจนละเอียดแล้ว เขาทยอยส่งมาให้นางระหว่างเดินทางมายังหนานเจียง ดังนั้นนางจึงเข้าใจพฤติกรรมของแม่ทัพทุกคนของซีเหลียงได้อย่างแจ่มแจ้ง!

รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง!

นี่คือความมั่นใจของไป๋ชิงเหยียน!

นางให้เจินเจ๋อผิงแสร้งทำเป็นพ่ายแพ้แล้วหนีไป แบ่งกองกำลังออกเป็นสองกอง…

หนึ่ง เพื่อทำให้ซีเหลียงไม่มีเวลาตัดสินใจเลือกทางเดิน!

สอง เพื่อล่อกองทัพส่วนหนึ่งของซีเหลียงไปกำจัดที่หลุมโพรงกลางภูเขาเวิ่งก่อน!

สาม เพื่อลดจำนวนทหารต้าจิ้นที่ต้องใช้ทางออกซึ่งแคบมากของหุบเขา

สี่ เพื่อรับประกันความปลอดภัยของกองทัพจำนวนหนึ่งหมื่นนายที่เจินเจ๋อผิงแสร้งพ่ายแพ้และพาหนีออกมา

ทว่า บัดนี้รัชทายาทไม่ให้นางนำทัพ กองทัพจำนวนหนึ่งหมื่นนายเข้าไปในหลุมโพรงกลางภูเขาเวิ่งพร้อมกับกองทัพของซีเหลียง นางไม่อาจรับประกันความปลอดภัยได้ หากกองทัพซีเหลียงฆ่าทหารต้าจิ้นห้าพันนายที่ดักซุ่มโจมตีอยู่ในหลุมโพรงได้หมด ไม่นานพวกเขาก็คงจัดการกับกองทัพหนึ่งหมื่นนายนี้จนหมดเกลี้ยงเช่นเดียวกัน

เมื่อถึงเวลานั้น หากรัชทายาทไม่อยากแพ้ ไม่อยากให้กองทัพทั้งหมดของต้าจิ้นต้องจบชีวิตอยู่ในหุบเขาเวิ่ง เขาต้องให้นางออกรบอย่างแน่นอน!

นางวางแผนไว้อย่างรอบคอบ ดังนั้นเมื่อค่ายหู่อิงผูกเชือกทำทางเดินระหว่างหุบเขาเสร็จ นางจึงไม่ได้วางแผนให้พวกเขาทำสิ่งใดต่อ

เมื่อค่ายหู่อิงทำภารกิจเสร็จแล้วแยกย้ายไปพักผ่อน พวกเขาจะได้มีแรงออกรบพร้อมกับนาง!

นางต้องขอบคุณความหวาดระแวงของรัชทายาท จึงทำให้นางมีโอกาสดีๆ เช่นนี้

เมื่อไป๋ชิงเหยียนกลับไปถึงค่ายทหาร นางพบกับเซียวหรงเหยี่ยนที่กำลังจะขึ้นรถม้าเพื่อออกเดินทางพอดี