บทที่ 228-2 จดหมายเชิญเข้าร่วมสุดยอดการประชุมวารสารแห่งทวีปเอเชีย (2)

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

บทที่ 228 จดหมายเชิญเข้าร่วมสุดยอดการประชุมวารสารแห่งทวีปเอเชีย (2)

ไป๋เยี่ยชะงักไปครู่หนึ่ง เขาเกือบคิดว่าตนเองมาผิดที่แล้ว เขากวาดตามองทุกคนด้วยความงุนงงก่อนจะค่อยๆ เผยยิ้มออกมา “ขอโทษทีครับ เรียกรถช้าไปหน่อย หวังว่าทุกคนจะใหัอภัย”

พูดจบเขาก็ยกแก้วขึ้นดื่มของเหลวในนั้นจนหมด กระแอมหนึ่งทีแล้วหันไปมองทุกคน “วันนี้ผมมาต้อนรับทุกคนกลับจากการศึกษาดูงาน มาครับ แก้วที่สองคารวะให้ทุกคน!”

พูดจบไป๋เยี่ยก็กระดกแก้วต่อไป ทันทีที่สุราลงท้องไป ไป๋เยี่ยก็ตระหนักได้ว่าบนโต๊ะคือเหล้าเฝินจิ่วบ่มยี่สิบปี เขาเหลือบมองผู้ช่วยพยางพยักหน้าให้ยิ้มๆ

ไป๋เยี่ยเป็นคนแรกที่ดื่มเหล้าสองแก้ว จู่ๆ บรรยากาศรอบตัวก็ครึกครื้นมีชีวิตชีวาขึ้น เดือนธันวาคมเป็นช่วงฤดูหนาวแล้ว อากาศเริ่มเย็นลง แต่เหล้าที่ดื่มไปสองแก้วกลับทำให้ไป๋เยี่ยอบอุ่นยิ่งนัก

วันนี้ทุกคนดูมีท่าทีกระตือรือร้นผิดปกติ ต่างผลัดกันดื่มเหล้าเคารพไป๋เยี่ย

“หัวหน้าครับ ขอคารวะจริงๆ ผมไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ไปดูงานที่ ‘เซลล์’ เลย แก้วนี้เพื่อหัวหน้า!”

“หัวหน้า! ผมยอมคุณจริงๆ เมื่อก่อนอาจารย์ของผมอยากไปที่ ‘เซลล์’ ยังไปไม่ได้เลย คุณแค่โทรไปที่นั่นพวกเราเกือบครึ่งกองก็ได้เข้าไปแล้ว ยอมจริงๆ! มาดื่มกันเถอะ”

การดื่มเหล้าแสดงความเคารพสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมการดื่มเหล้าของจีนที่มีมานานนับพันปี ทุกคนในที่แห่งนี้ต่างเป็นผู้อาวุโส ไม่มีใครอายุน้อยกว่าไป๋เยี่ยเลย แม้ว่าทุกคนจะมีท่าทีเคารพไป๋เยี่ย แต่ไป๋เยี่ยก็ไม่ได้ทำตัวใหญ่โตและร่วมดื่มกับทุกคน

ทั้งเหล้าและบรรยากาศกำลังเป็นใจ ทุกคนพร้อมใจกันให้คำมั่นว่าจะผลักดันให้วารสาร ’การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ ขึ้นเป็นวารสารชั้นนำของโลก

หลังจากมื้ออาหารผ่านไปราวๆ สามสี่ชั่วโมง ทุกคนก็ดื่มไปพอสมควรแล้ว แม้แต่สมาชิกผู้หญิงอย่างหยางลี่ก็ด้วย

กลุ่มคนเดินออกมาจากโรงแรมด้วยอาการมึนเมา ยังดีที่ไป๋เยี่ยไม่เมามาก เพียงแค่เดินโซเซเล็กน้อย

หลังจากส่งทุกคนขึ้นรถแล้ว คนขับก็มารับไป๋เยี่ยกลับไปที่เขตชุมชน

วันรุ่งขึ้นไป๋เยี่ยตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวเล็กน้อย หลังจากอาบน้ำเสร็จ เขาก็ตรงไปที่กองบรรณาธิการแต่เช้า วันนี้เป็นการเข้าทำงานวันแรกของเขา

ไป๋เยี่ยตัดสินใจจัดการประชุมเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการเตรียมงานครั้งต่อไป นี่คือประเด็นสำคัญ ระหว่างช่วงที่ต้นฉบับค่อยๆ ถูกส่งมานี้ ไป๋เยี่ยก็วางแผนจะเผยแพร่วารสารในช่วงกลางเดือนธันวาคม

ทุกคนมาถึงที่ทำงานเร็วเป็นพิเศษ พวกเขาคงจะรู้ว่าไป๋เยี่ยกำลังจะเรียกประชุม ห้องประชุมจึงถูกจัดระเบียบให้เรียบร้อยแล้ว

ทันทีที่ไป๋เยี่ยเข้ามา เขาก็หันไปพยักหน้าให้ทุกคน “กองบรรณาธิการของเราประสบปัญหาด้านการปรับปรุงนิดหน่อย ทุกคนเห็นปัญหานั้นชัดเจนอยู่แล้วใช่ไหมครับ หลังจากที่ทุกคนกลับมาจากอเมริกา ได้ไปศึกษาดูงานเป็นระยะหนึ่งก็คงได้รับข้อมูลมากมากมาย เพราะฉะนั้นตามที่ทุกคนได้ให้คำมั่นไว้ หากมีข้อเสนอแนะที่มีประโยชน์ใดๆ ก็เสนอมาได้เลยนะครับ พี่หวังช่วยบันทึกไว้ด้วยนะครับ”

พี่หวังเป็นผู้ช่วยกองบรรณาธิการ เธอเป็นพี่สาววัยกลางคนผู้เปี่ยมน้ำใจ เธอทำงานแผนกเวชระเบียนในโรงพยาบาลมาก่อน ต่อมาก็ถูกย้ายมาที่กองบรรณาธิการ หลังจากที่ไป๋เยี่ยได้รับตำแหน่ง เธอก็กลายเป็นผู้ช่วยของไป๋เยี่ยไปโดยปริยาย

ตัวอย่างเช่น เมื่อวานพี่หวังก็เป็นคนจองร้านอาหารและสั่งเหล้าเฝินจิ่วให้ เธอเป็นคนใส่ใจในรายละเอียดมาก เมื่อรู้ว่าไป๋เยี่ยเป็นคนจิ้นซีก็ตั้งใจสั่งเหล้าเฝินจิ่วบ่มยี่สิบปีมารอไว้

คำพูดของไป๋เยี่ยทำให้แววตาทุกคนเป็นประกาย การศึกษาดูงานในช่วงที่ผ่านมาช่วยเปิดโลกให้พวกเขาได้มากจริงๆ

บรรยากาศการประชุมช่างอบอวลไปด้วยบรรยากาศอันมีชีวิตชีวา สิ่งที่แตกต่างจากเมื่อก่อนคือทุกคนสามารถพูดคุยและหารือเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ร่วมกันได้โดยมีอิสระเต็มที่ ส่วนไป๋เยี่ยก็คอยเสริมความคิดเห็นของตนเองลงไปด้วย

การประชุมดำเนินไปอย่างราบรื่น ทุกคนได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกัน และได้รับข้อเสนอมากมายที่จะนำมาปรับปรุงกองบรรณาธิการต่อไป

หลังจากนั้นไม่นาน ไป๋เยี่ยก็ได้ตัดสินใจพูดต่อ “วันนี้ผมยังมีเรื่องสำคัญอีกเรื่อง เพราะว่าเป็นสถานการณ์พิเศษ เราจึงระงับการตีพิมพ์วารสารเป็นเวลาหนึ่งเดือน จากนั้นเมื่อถึงเวลาที่เราได้เผยแพร่วารสารอีกครั้ง ทุกคนจะได้ยลโฉมกับความเปลี่ยนแปลงของ ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ แน่นอน”

“เราจะปรับปรุงคุณภาพของบทความ บทความมีคุณภาพจำนวนน้อยย่อมดีกว่าบทความไร้คุณภาพจำนวนมาก…กลางเดือนนี้ ซึ่งก็คือวันที่ 15 ธันวาคม ผมได้ตัดสินใจเผยแพร่วารสารแล้ว หวังว่าทุกคนจะเตรียมตัวให้พร้อมนะครับ”

“นอกจากนี้ ผมยังหวังว่าทุกคนจะตั้งเป้าหมายเล็กๆ ไว้ในใจด้วย อย่างเช่นผลักดันให้วารสารของเราถูกเก็บเข้าฐานข้อมูลภายในเวลาครึ่งปี!”

ทันทีที่ไป๋เยี่ยพูดจบ ทุกคนก็มีท่าทีตื่นตะลึง ระยะเวลาแค่ครึ่งปี ล้อกันเล่นใช่ไหม

ฐานข้อมูลงานวิจัยที่เข้าถึงง่ายขนาดนั้นอยู่ที่ไหนกัน หากเป็นเช่นนั้นจริง บทความนั้นก็คงไม่ใช่บทความที่มีคุณค่านัก ขนาดด็อกเตอร์อย่างพวกเราจะเผยแพร่บทความยังยากจนเกือบขอสำเร็จการศึกษาไม่ได้เลย

ปัจจุบัน มาตรฐานทองคำในการวัดระดับการศึกษาภายในประเทศคือคะแนนไอเอฟของบทความ

เพราะฉะนั้นหลังจากที่ไป๋เยี่ยลั่นวาจาเช่นนั้นไป ทุกคนจึงตกอยู่ในท่าทีอึ้งงัน

หยางลี่อดใจท้วงไม่ได้ “หัวหน้า…นี่มันเร็วเกินไปแล้ว มีบทความไม่พอสำหรับระยะเวลาแค่ครึ่งเดือนที่จะถึงนี้นะคะ!”

ทุกคนพยักหน้า พลันรู้สึกว่าไป๋เยี่ยรีบร้อนเกินไปหน่อย เขากระตืนรือร้นถึงขั้นที่อยากประสบความสำเร็จอยากรวดเร็วเพียงนี้

“ถูกต้อง! หัวหน้า ก่อนหน้านี้เราหยุดตีพิมพ์วารสารไปหนึ่งเดือน เราต้องรอตรวจบทความดีๆ สักชุดก่อนที่จะเริ่มตีพิมพ์อีกครั้งนะครับ ถึงตอนนั้นผู้คนจะต้องฮือฮาแน่!”

“ใช่แล้ว การหาบทความดีๆ เป็นเรื่องยากมาก”

ไป๋เยี่ยพึมพำ “พี่หวัง ช่วยส่งต้นฉบับที่ผมเตรียมไว้ให้ทุกคนอ่านหน่อยครับ”

ไป๋เยี่ยพูดต่อ “ช่วงนี้ผมได้ขอให้ผู้เชี่ยวชาญและอาจารย์หลายคนเขียนบทความต้นฉบับมาให้ครับ ทุกคนลองอ่านและเลือกบทความที่จะตีพิมพ์ในเดือนนี้ดูนะครับ”

ต่างคนต่างคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดอ่านบทความที่ถูกส่งมาในกลุ่มแชต ตอนแรกทุกคนก็ยังคงสงสัยว่าบทความเหล่านี้คือบทความอะไร จนไม่กี่นาทีต่อมาทุกคนก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตะลึง!

“หา ถูโยว! ฉันไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม ไม่อยากจะเชื่อว่าอาจารย์ถูส่งบทความมาให้พวกเรา พระเจ้า เหลือเชื่อจริงๆ”

“เจียลี่! เจียลี่! ประธานสาขาทวารหนักของสมาคมศัลยแพทย์นี่นา น…นี่เรื่องจริงใช่ไหม เขาส่งบทความทบทวนประวัติศาสตร์การพัฒนาวิทยาการการรักษาโรคทางทวารหนักฉบับล่าสุดมาให้พวกเราแหละ!”

“เอ่อ อาจารย์จางเสวียเวิ่น…อาจารย์สวี่โฮ่วเต้า…พระเจ้า มีปรมาจารย์แพทย์แผนจีนส่งบทความมากี่คนเนี่ย! เอ๋ นี่ชื่อผอ.หลิวนี่ เขาก็ส่งด้วยเหรอ…”

“ทุกคนดูนี่ บทความจากนักวิชาการเกาเย่ว์หยางและคังเจี้ยนเซิงนี่นา…ห…ห…หัวหน้าสุดยอด!”

ทุกคนอ่านบทความเหล่านั้นเสมือนกับว่าตรงหน้าพวกเขาคือสินค้าตระการตราบนชั้นวาง ไม่ก็เหมือนดั่งเด็กน้อยที่กำลังมองกองของเล่นด้วยแววตาเหลือเชื่อ 艾琳小說

ไป๋เยี่ยตบมือ “พวกคุณอ่านบทความเหล่านี้ได้ทีหลังนะครับ! ไม่ต้องรีบร้อน รอประชุมเสร็จค่อยอ่านก็ได้ครับ”

“ประเด็นสำคัญในวันนี้ก็คือ ภายในสัปดาห์นี้ เราจะจัดทำต้นฉบับให้เสร็จสิ้นและเตรียมเผยแพร่ในวันที่ 15 เพราะฉะนั้นงานอาจจะเยอะหน่อย แต่เราจะต้องทำมันออกมาให้สำเร็จโดยดี”

คำพูดของไป๋เยี่ยทำให้ทุกคนต้องเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับสะกดใจตนเองไม่ให้ก้มลงไปอ่านบทความต่อ ภาพตรงหน้าดูเหมือนกับบรรดาคนติดนิยายที่ได้เห็นนักเขียนเปิดเรื่องใหม่ปุ๊บก็แต่งเรื่องราวกว่าหนึ่งล้านตัวอักษรขึ้นมาปั๊บ จนทำให้ไม่อยากวางมือจากนิยายเลย

บทความพวกนี้น่าทึ่งจริงๆ!

ทุกคนได้ยินดังนั้นก็ตอบรับอย่างรวดเร็ว “สัญญาว่าจะทำงานให้เสร็จ!”

การประชุมดำเนินไปเกือบสามชั่วโมง หลังจากที่แบ่งงานกันเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็พร้อมเริ่มงานทันที

ส่วนไป๋เยี่ยก็นั่งวางแผนเล็กๆ น้อยๆ อยู่ในออฟฟิศ จนเวลาเที่ยง พี่หวังก็นำจดหมายมาให้เขา

ไป๋เยี่ยหยิบจดหมายขึ้นมาอย่างสงสัยและพบว่ามันเป็นซองจดหมายจากบริษัท ทันทีที่เปิดดูก็พบว่ามันเป็นจดหมายเชิญนั่นเอง

“จดหมายเชิญเข้าร่วมสุดยอดการประชุมวารสารแห่งทวีปเอเชีย?”