บทที่ 118: เติ้งหลงเขาเดียว!
ศาสตร์ชั้นสูงแห่งศิลปะการต่อสู้ มันเป็นศาสตร์ที่แม้แต่พระเจ้าก็ไม่สามารถรับมือได้ แล้วนับประสาอะไรกับหมูเกราะดิน
เมื่อดาบยาวแทงเข้าไปในร่างกายของมัน พลังฟอร์สก็พุ่งออกมาและแช่แข็งอวัยวะภายในของมันโดยตรงจากนั้นหมูก็ถูกฆ่าตายในกระบวนท่าเดียว!
หลินซานมองดูเวลาและหัวเราะออกมา “น้อยกว่าหนึ่งนาที มาๆ เอาหินพลังงานของพวกนายออกมา!”
การแสดงออกของหยางเฟยและหยานจนหมิงเปลี่ยนไปอย่างแปลกๆ พวกเขาถอนหายใจอย่างลับๆและยอมรับความพ่ายแพ้ ขณะที่ส่ายหัว พวกเขาก็หยิบหินพลังงานสิบก้อนออกมาและมอบให้แก่หลินซาน
หลิวหยานและหยานจินเยว่เองก็เดาะลิ้นของพวกเธออย่างไม่พอใจ พวกเธอถูกทําร้ายโดยความไร้ยางอายของหวังเต็ง
เขาใช้ท่านี้ได้ยังไงกัน? ศักดิ์ศรีของเขาหายไปไหนแล้ว?
“การเคลื่อนไหวนี้อาจไร้ยางอายก็จริง แต่จริงๆแล้วมันก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานได้มากที่สุด” หลินซานยิ้มและยื่นมือออกมา “เอาล่ะ ส่งหินพลังงานมาให้ฉันได้แล้ว”
“หัวหน้า คุณนี่มันน่าละอายจริงๆ!” สองสาวกลอกตาไปมา พวกเธอหยิบหินพลังงานออกมาอย่างช่วยไม่ได้และมอบให้เขา
ขาดทุนหนัก!
ในเวลาเดียวกัน หวังเต็งก็ได้เดินเข้าไปและเห็นฉากนี้ เขารู้สึกพูดไม่ออก “ ขณะที่ฉันกําลังต่อสู้เป็นตาย พวกคุณทุกคนกลับมาใช้ฉันเป็นสื่อการพนันของคุณ!”
“อะแฮ่มๆ ป่านี้มันน่าเบื่อมาก นี่คือการทําให้อารมณ์ดีขึ้น” หลินซานตอบอย่างไร้ยางอาย
“หวังเต็ง ทําไมนายถึงไม่ใช้พลังฟอร์สเพื่อโจมตีล่ะ? ทําไมนายถึงใช้การเคลื่อนไหวแบบนั้น” หยานจินเยว่อดไม่ได้ที่จะถาม
ที่สําคัญที่สุดคือเธอต้องการจะฟังความคิดของหวังเต็ง เขาซาดิสม์ขนาดไหนกันถึงคิดท่านี้ได้?
“ประหยัดแรงเมื่อทําได้ ฉันเป็นแค่นักสู้ระดับทหาร 1 ดาวเท่านั้น ดังนั้นฉันจึงมีพลังฟอร์สจํากัด ด้วยเหตุนี้เอง หากฉันสามารถฆ่ามันได้ด้วยวิธีการที่ง่ายที่สุด ฉันก็จะทํา” หวังเต็งตอบตามความเป็นจริง
“ดูสิ หวังเต็งยังเข้าใจมันมากกว่าเธออีก กล้าเรียกตัวเองว่ารุ่นพี่ได้ยังไงกัน” หลินซานกล่าว
“มันมีตั้งหลายวิธีในออมพลังฟอร์ส เขาไม่เห็นจะจําเป็นต้องใช้วิธีนี้เลย” หลิวหยานไม่เต็มใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้
“ฉันรู้สึกว่าวิธีนี้มันยอดเยี่ยมนะ และฉันก็พบว่ามันใช้งานได้ง่ายด้วย ถ้าฉันเจอมันอีก ฉันก็จะยังคงใช้วิธีนี้!” หวังเต็งพูดออกมาอย่างไร้ยางอาย
“ไปให้พ้นเลย อย่ามาใช้วิธีนี้ต่อหน้าเรา เสียสายตาหมด” ผู้หญิงทั้งสองรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาในทันที
ชายทั้งสามคนหัวเราะอย่างควบคุมไม่ได้ หวังเต็งคนนี้เป็นคนประหลาดของจริง!
นอกจากนี้เชสก็ยังตั้งชื่อท่าตายการโจมตีระดับตํานานอีกต่างหาก
“เอาล่ะ ไปเอางาและเกล็ดของหมูเกราะดินมาได้แล้ว จากนั้นพวกเราจะได้เดินทางกันต่อ” หลินซานกล่าว
หยางเฟยเดินไปจัดการศพหมูเกราะดินในทันที หวังเต็งเองก็ช่วยเป็นลูกมือของเขา เกล็ดของหมูเกราะดินนั้นแข็งแกร่งมาก ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมากในการถลกหนังมันออกมา
เมื่อหยางเฟยกําลังเก็บซากของหมเกราะดิน หลินซานและคนอื่นๆก็คอยยเฝ้าระวังให้
การกระทําของหยางเฟยนั้นเป็นไปอย่างราบรื่นด้วยความชํานาญ ในไม่ช้า เขาก็ถลกเกราะของหมูเกราะดินออกแล้วใส่มันไปในกระเป๋าของเขา และมันก็ทําให้กระเป๋าเป้ของเขาเต็มในทันที เขาไม่ได้เอาเกราะเกล็ดทั้งหมดของหมูเกราะดินไป เพราะถ้าเขาทํา เขาก็จะไม่สามารถใส่มันลงในกระเป๋าของเขาได้
“ห้ะ?” ทันใดนั้นหยางเฟยก็ส่งเสียง เขามีท่าทางร่าเริงในขณะที่เขาพูดว่า “ฉันคิดว่ามันมีแกนดาราอยู่นะ!”
เขาใช้มีดผ่าท้องหมูเกราะดิน จากนั้นเขาก็หยิบวัตถุทรงกลมสีน้ําตาลอมเหลืองที่ดูขรุขระออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า หัวหน้ามาดูเร็ว มันมีแกนดาราด้วย!” หยางเฟยหัวเราะเสียงดัง
หลินซานและสมาชิกในทีมคนอื่นๆตกใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้ พวกเขารีบมารวมตัวกันทันที
“เชี่ย หวังเต็ง ฉันไม่รู้จะพูดยังไงดีกับรื่องโชคของนายจริงๆ!” หลิวหยานอุทานด้วยความประหลาดใจ
หวังเต็งเองก็ตกตะลึงเช่นกัน เขาเพิ่งฆ่าสัตว์อสูรดาราไปสามตัวเท่านั้น และสองตัวในนั้นก็มอบแกนดาราให้แก่เขา นี่เขาเป็นลูกรักของเทพธิดาแห่งโชคลาภจริงๆอย่างงั้นหรอ?
เขารู้สึกภูมิใจในตัวเองเล็กน้อย
“เก็บมันไว้ แล้วก็อย่าเปิดเผยความมั่งคั่งของนายกับใคร” หลินซานเตือนเขา จากนั้นเขาก็พูดว่า “ดูสิว่ามันมีกระดูกดาราหรือไม่?”
หยางเฟยโยนแกนดาราไปให้หวังเต็งและส่ายหัว “ไม่มี ฉันตรวจสอบแล้ว”
แกนดาราและกระดูกดารานั้นต่างก็ซ่อนอยู่ในร่างของสัตว์อสูรดารา พวกมันเป็นเหมือนตะเกียงในตอนกลางคืน คุณจะสามารถตรวจจับพวกมันได้ในทันทีเมื่อคุณใช้ พลังฟอร์สสแกนอวัยวะภายใน
และนี่ก็คือวิธีที่พวกเขาใช้เพื่อค้นหากระดูกดาราและแกนดาราเมื่อคืนวาน
น่าเสียดายที่หมาป่าวายุนั้นไม่มีแกนดาราและกระดูกดารา
เมื่อมนุษย์ฆ่าสัตว์อสูรดารามากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาก็จะเริ่มได้รับประสบการณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ตาม
โดยปกติแล้ว มันก็จะมีเพียงสัตว์อสูรดาราที่มีแกนดาราเท่านั้นที่จะมีกระดูกดารา ดังนั้นถ้าสัตว์อสูรดาราไม่มีแกนดารา มันก็จะไม่สามารถให้กําเนิดกระดูกดาราได้เช่นกัน
นั่นคือเหตุผลที่หลินซานหยางเฟยว่ามีกระดูกดาราหรือไม่
หวังเต็งเก็บแกนดาราไว้ กําไรจากทีมจะถูกขายหลังจากที่พวกเขากลับมายังโลก เงินจะถูกแบ่งตามเปอร์เซ็นต์ที่แน่นอน และนั่นเป็นวิธีที่ทุกทีมใช้
แน่นอน สิ่งสําคัญที่หวังเต็งได้รับหลังจากการฆ่าสัตว์อสูรดารานั้นก็คือฟองสบู่ค่าคุณสมบัติ
พลังฟอร์สธาตุดิน*4
ค่าคุณสมบัติเปล่า*6
กําไรก็ไม่เลว
จากนั้นทีมก็เดินทางต่อไปยังหุบเขาสายลม
ราวๆเที่ยงวัน หวังเต็งและเพื่อนร่วมทีมก็ได้มาถึงตีนหุบเขา
หุบเขานี้มีรูปร่างเหมือนน้ําเต้า ปากน้ําเต้าเป็นทางเข้าเพียงทางเดียว และเนื่องจากด้านข้างของมันถูกเรียงรายไปด้วยหน้าผาดังนั้นมันจึงไม่สามารถไปทางอื่นได้
กระแสลมแรงพัดออกมาจากหุบเขา มันฟังเหมือนเสียงคร่ําครวญของผีและเสียงเห่าหอนของหมาป่า
หลินซานยืนอยู่นอกทางเข้าและสังเกตอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย “มีคนมาที่นี่”
“ใช่ นี่มันร่องรอยของผู้คน” หยานจินหมิงนั่งลงเพื่อตรวจสอบ เขาพูดด้วยท่าทางกังวลว่า “เราเสียเวลาเปล่าอย่างงั้นหรอ”
“เรายังจะเข้าไปอยู่ไหม?” หลิวหยานถาม
“ถ้าอีกฝ่ายอยู่ข้างในและเราบังเอิญเจอพวกเขา เราก็อาจจะต้องต่อสู้กันอย่างดุเดือด ฉันกําลังสงสัยว่าพวกมันแข็งแกร่งจะแค่ไหน?” หยางเฟยกล่าว
“เมื่อเรามาถึงที่นี่แล้วเราก็ลองดูสักตั้งเถอะ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ทีมพยัคฆ์นักรบเกรงกลัว?” หลินซานเยาะเย้ยด้วยการแสดงออกที่เย็นชา
“หวังเต็ง ระวังตัวดีๆล่ะ!” เขาเตือนหวังเต็งก่อนที่จะก้าวเข้าไปในหุบเขาเป็นคนแรก
หวังเต็งและเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆตามหลังเขาไปอย่างใกล้ชิด
เส้นทางในหุบเขานั้นเดินยากมาก ลมหนาวที่พัดมาปะทะพวกเขาอย่างแรง ทําให้การทรงตัวของร่างกายยากยิ่งขึ้น ใบหน้าของพวกเขาเจ็บปวดจากความหนาวเหน็บ
โชคดีที่พวกเขาทั้งหมดเป็นนักสู้ ดังนั้นพวกเขาจึงแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากมัน
พวกเขาเดินอย่างระมัดระวังเป็นระยะทางหนึ่ง แต่พวกเขาก็ไม่เห็นมนุษย์เลย
“พวกเขาออกไปแล้วหรอ?” หยานจินหมิงขมวดคิ้วและถาม
“ไปกันต่อเถอะ เตรียมพร้อมที่จะสู้ทุกเวลา เราใกล้จะถึงสถานที่ที่เราพบเติ้งหลงเขาเดียวครั้งสุดท้ายแล้ว” หลินซานตอบกลับ
สมาชิกในทีมถืออาวุธในมือข้างหนึ่งและถือโล่อีกมือหนึ่ง พวกเขายังคงระมัดระวังสิ่งรอบข้าง
ฟ้าว!
ทันใดนั้นร่างสีขาวก็โผล่ออกมาจากหน้าผาด้านข้าง ความเร็วของมันน่าทึ่งมาก อากาศรอบๆมันถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆและทําให้เกิดเสียงกรี๊ดที่แหลมคม
“ระวัง!”
หลินซานตะโกน
การแสดงออกของหลิวหยานเปลี่ยนไป เธอรู้ได้ทันทีว่าร่างสีขาวนั้นกําลังมุ่งเป้ามาที่เธอ อย่างไรก็ตาม หลินหยานก็ไม่ทันได้ตั้งตัว ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถโต้ตอบได้ทันเวลา
ในขณะนั้นเอง หวังเต็งที่ยืนอยู่ข้างๆเธอก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน จากนั้นเขาก็ผลักเธอออกไป และในเวลาเดียวกันเขาก็เหวี่ยงดาบออกไป
บูมม!
แรงมหาศาลพุ่งเข้าใส่เขา พลังฟอร์สสีเขียวผลักหวังเต็งกระเด็นออกไปและก็ทําให้เขาล้มลง หวังเต็งไม่มีเวลาคิด พลังฟอร์สในร่างของเขาระเบิดออกและห่อหุ้มร่างกายทั้งหมดของเขาเอาไว้
แรงลมที่เกิดจากพลังฟอร์สสีเขียวพุ่งออกไปทุกทิศทุกทางราวกับใบมีดที่แหลมคมโดยมีหวังเต็งอยู่ตรงกลาง เขารู้สึกราวกับว่ามีกริชลมหลายร้อยเล่มกําลังเฉือนร่างกายของเขา
ต้นไม้รอบๆตัวเขาถูกนั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เศษไม้ลอยขึ้นและเต้นรําไปมาในอากาศ
ปัง!
ภายใต้การทิ้งระเบิดของพลังฟอร์สที่ทรงพลัง หวังเต็งก็ถูกกระแทกเข้ากับกําแพงหินอย่างหนัก หวังเต็งรู้สึกอึดอัดที่บริเวณหน้าอก
ถ้าเขาไม่ได้ป้องกันตัวเองได้ทันเวลาโดยใช้พลังฟอร์สของเขา หรือหากเขาไม่ได้สวมชุดรบน เขาก็อาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว