บทที่ 120: นายต้องการสัมผัสกําปั้นแห่งความรักของฉันไหม?

“ไอ้บ้าเอ๊ย ฉันเกือบตายแล้ว!”

หยานจนหมิงและสมาชิกในทีมคนอื่นๆสาปแช่งอย่างโกรธจัด พวกเขารู้สึกอารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างมาก

“ฉันไม่คิดมาก่อนว่าเติ้งหลงเขาเดียวจะโต้กลับเช่นนี้เมื่อมันกําลังเผชิญหน้ากับความตาย เราเกือบจะตกหลุมพรางของมันแล้ว” หยางเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น

“เมื่อเราพบสัตว์อสูรดาราระดับ 3 ดาวหรือสูงกว่านั้น เราก็จะต้องระวังให้มากขึ้น สัตว์อสูรดาราระดับนี้นั้น มีสติปัญญาเป็นของตัวเองกระนั้นพวกมันก็ยังคงมีความป่าเถื่อนตามธรรมชาติของพวกมันอยู่ ด้วยเหตุนี้เองพวกมันจึงยังคงดุร้ายและโหดเหี้ยม เราไม่สามารถคาดเดาการกระทําของพวกมันโดยใช้ตรรกะและเหตุผลได้” หลินซานกล่าว

“เฮ้อ นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกับไอ้สัตว์อสุรดาราที่ดุร้ายขนาดนี้นับตั้งแต่ก่อตั้งทีมมาหลายปี” หลินหยานแสดงความคิดเห็น

“เยว่น้อย เธอสบายดีไหม” หยานจินหมิงพยุงน้องสาวของเขาขึ้นมาด้วยความกังวล

ทั้งสามคนได้รับแรงระเบิดเข้าอย่างจัง ดังนั้นอวัยวะของพวกเขาจึงได้รับผลกระทบอย่างหนักและทําให้ พวกเขาได้รับบาดเจ็บ และในฐานะผู้หญิง ความสามารถในการป้องกันของหยานจินเยว่ก็อ่อนแอมาก ดังนั้นอาการบาดเจ็บของเธอจึงรุนแรงกว่าของผู้ชาย

ใบหน้าของเธอซีดและเลือดก็ไหลออกมาจากมุมริมฝีปากของเธอ เธอดูเหมือนคนที่พร้อมจะสลบได้ทุกเมื่อ

“เอายาให้เธอกินเร็ว” หลิวหยานกล่าวอย่างเร่งรีบ

หยานจนหมิงตั้งสติและหยิบยารักษาออกมาจากกระเป๋าเป้สะพายหลังของเขา จากนั้นเขาก็ป้อนมันให้กับหยานจินเยว่

“ใช้พลังของเธอเพื่อเพิ่งความเร็วในการดูดซับยานะ”

หยานจินเยวนั้นอ่อนแอมากในตอนนี้ เธอทําตามคําแนะนําของพี่ชายของเธอและนั่งขัดสมาธิบนพื้น เธอเริ่มดูดซับยาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของเธอ

หยางเฟยและหลินซานเองก็หยิบยาออกมาแล้วกลืนมันลงไป อาการบาดเจ็บของพวกเขาไม่รุนแรงเท่ากับของหยานจินเยว่ แต่พวกเขาก็ยังบาดเจ็บอยู่ดี และนั่นก็อาจทําให้ความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาได้รับผลกระทบ

“เติ้งหลงเขาเดียวตายแล้วรึยัง?” หวังเต็งถาม

“เมื่อดูจากความรุนแรงของการระเบด และบวกกับมันก็อยู่ที่ศูนย์กลางของการระเบิดแล้ว มันก็จะต้องตายอย่างแน่นอน” หลินซานยิ้มและตอบ

หวังเต็งพยักหน้า เขาตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบมันมีฟองสบู่มากมายอยู่รอบตัวเขา

เขาเก็บมันขึ้นมา

พลังฟอร์สธาตุโลหะ*15

พลังฟอร์สธาตุไฟ*13

พลังฟอร์สธาตุดิน*9

พลังฟอร์สธาตุน้ํา*8

พลังฟอร์สธาตุลม*25

ค่าคุณสมบัติเปล่า*33

กําไรมหาศาล!

ไม่ต้องพูดถึงค่าคุณสมบัติอื่น ๆ เขาได้รับทั้งคุณสบัติพลังฟอร์สธาตุไฟ,น้ําและดินมาเป็นจํานวนมาก ซึ่งแค่นี้มันก็เพียงพอแล้วที่จะยกระดับความสามารถของเขาไปอีกระดับหนึ่ง

และอย่าลืมโบนัสพลังฟอร์สธาตุลมอีก 25 คะแนน!

เช่นเดียวกับพลังฟอร์สธาตุโลหะที่ปรากฏตัวออกมาเป็นครั้งแรก มันก็มีมากถึง 15 คะแนน

หวังเต็งได้รับธาตุพลังฟอร์สเพิ่มขึ้นมาอีกอัน!

และคราวนี้มันก็มีคุณสมบัติเปล่ามากมายเช่นกัน เขาได้ค่าคุณสมบัติเปล่ามา 33 คะแนนรวมเป็น 90

คะแนน

หวังเต็งแอบปลื้มปิติ เขายังคงดึงฟองสบู่ฟองอื่นๆจากระยะไกลเข้ามาและรวบรวมมันต่อไป

พรสวรรค์ลมขั้นปานกลาง*1

หวังเต็งตกตะลึง

พรสวรรค์ลมขั้นปานกลาง! หวังเต็งรู้สึกปิติยินดีเพิ่มมากขึ้น

สมกับที่เป็นสัตว์อสูรดาราระดับ 3 ดาวที่มีสติปัญญาสูงส่ง

แม้แต่พรสวรรค์ที่ดรอปออกมานั้นก็ยังอยู่ในขั้นปานกลาง

“ฉันจําไว้ว่า พรสวรรค์ทั้งหมดที่ฉันมีนั้นอยู่ที่ขั้นเริ่มต้นเท่านั้น”

เห็นได้ชัดว่าพรสวรรค์ขั้นปานกลางนี้มีพลังมากกว่าพรสวรรค์ขั้นเริ่มต้น

ตอนนี้เขาสามารถใช้พลังฟอร์สธาตุลมของเขาได้แล้ว นอกจากนี้เขาก็ยังสามารถปลดปล่อยศักยภาพสูงสุดของก้าวแห่งวายุของเขาได้แล้ว

ผลกําไรจากการฆ่าสัตว์อสูรดาราระดับ 3 ดาวนั้นมหาศาลมาก!

และมันก็คุ้มค่ามาก!

พูดตามตรงแล้ว ถ้าเขาสามารถได้ผลกําไรมากขนาดนี้โดยที่ได้รับบาดเจ็บแค่นี้ เขาก็รู้สึกอยากจะเจ็บมากกว่านี้อีกหลายๆครั้งเลย

ในไม่ช้า หลินซานและเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆก็ได้ดูดซับยารักษาและฟื้นฟูร่างกายของพวกเขาเสร็จเรียบร้อยหลินซานยืนขึ้นและพูดว่า “ไปดูเติ้งหลงเขาเดียวกัน เราเสียเวลาไปเยอะแล้ว และเราก็ควรที่จะทําความสะอาด ที่เกิดเหตุและจากไป การระเบิดครั้งนี้จะดึงดูดความสนใจของสัตว์อสูรดาราตัวอื่นๆในภูมิภาคนี้อย่างแน่นอน และมันก็อาจจะดึงดูดนักสู้คนอื่นๆมาด้วย ดังนั้นเราจึงจําเป็นต้องดําเนินการอย่างรวดเร็ว”

“ถูกต้อง เราใช้ความพยายามไปมากในการพยายามฆ่ามัน ดังนั้นหากเราไม่ได้กําไรกลับมา มันก็จะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สําหรับเรา” หยางเฟยกล่าว

พวกเขาเริ่มค้นหาบริเวณโดยรอบ พวกเขาไม่รู้ว่าร่างของเติ้งหลงเขาเดียวนั้นถูกส่งไปที่ไหนหลังจากการระเบิด

หยานจินเยว่ยังคงอยู่ในขั้นตอนการรักษา และหลิวหยานก็คอยดูแลเธออยู่ที่ด้านข้าง ขณะที่ชายหนุ่มค้นหาซากศพ

หวังเต็งจําตําแหน่งของฟองสบู่ค่าคุณสมบัติได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่จุดนั้น เมื่อเขาขุดดินลึกลงไป สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขาตะโกนใส่หลิวซานและเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆของเขา “ตรงนี้!”

“อ้า เจอแล้วใช่ไหม!”

คนอื่นๆรีบวิ่งเข้ามาในทันที

“ฉันไม่รู้สึกถึงออร่าของมันเลย มันน่าจะตายไปแล้ว”

“เฒ่าหยาง ได้เวลาแสดงความสามารถแล้วชําแหละศพมันเลย” หลินซานกล่าวด้วยสายตาที่ดุดัน

“ไม่มีปัญหา…ปล่อยให้ฉันจัดการเอง”

หยางเฟยยิ้มและก้มลง เขาผลักก้อนหินที่อยู่ด้านข้างออกและดึงเติ้งหลงเขาเดียวออกจากเศษซาก จากนั้นเขาก็หยิบกริชออกมาและเริ่มจัดการกับศพ

เติ้งหลงเขาเดียวนั้นตายแล้วจริงๆ ร่างกายของมันเต็มไปด้วยบาดแผล และมันก็เสียเลือดไปมาก

“พี่หยางนี่เป็นเหมือนคนขายเนื้อของทีมเลยนะ” หวังเต็งยิ้มและแซวเขา

“ฮ่าฮ่าฮ่า ก็เขามีพรสวรรค์ในด้านนี้ ดังนั้นเขาจึงเหมาะสมกับงานนี้” หลินซานหัวเราะ

หยางเฟยยิ้ม เขาดูภูมิใจมากกับคําพูดของหลินซาน

ไม่กี่นาทีต่อมา เขาก็ตัดเขาและกรงเล็บของเติ้งหลงเขาเดียวออกมา จากนั้นเขาก็ถลกหนังทั้งศพ

“ช่างน่าเสียดาย ผิวหนังนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนักดังนั้นราคาของมันก็น่าจะลดลงไปอย่างมาก” หยางเฟยกล่าวด้วยความเสียใจ

“แต่เมื่อเทียบกับกระดูกดาราแล้ว แค่นมันก็ไม่เป็นไรหรอกหยุดเสียเวลา แล้วมองหากระดูกดาราก่อนเถอะ” หลินซานเร่งเร้าเขา

หยางเฟยพยักหน้า เขาหายใจเข้าลึกๆแล้ววางมือลงบนศพของเติ้งหลงเขาเดียว เขารู้สึกถึงศพนั้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มอย่างมีความสุข “มีแกนดารา!”

ขณะที่พูด เขาก็ได้แทงกริชเข้าไปในร่างกายของเติ้งหลงเขาเดียวแล้ว เขายกกริชขึ้น และลูกบอลสีเขียวก็กลิ้งออกมา นี่คือแกนดาราธาตุลมของเติ้งหลงเขาเดียว

ราคาของแกนดาราระดับ 3 ดาวนั้นสูงกว่าแกนดาราระดับ 1 ดาวมาก และยิ่งไปกว่านั้น นี่ก็คือแกนดาราธาตุลม

หลินซานและสมาชิกในทีมคนอื่นๆต่างพากันร่าเริง แม้จะไม่มีกระดูกดารา แต่แกนดารานี้ก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างรายได้ให้กับพวกเขาเป็นจํานวนมาก

อย่างไรก็ตาม…

ทันใดนั้น หยางเฟยก็ตะโกนด้วยความประหลาดใจ “กระดูกดารา! มันมีกระดูกดาราจริงๆด้วย! ฮ่าฮ่าฮ่า หัวหน้าพวกเรารวยแล้ว!”

“ยอดเยี่ยม! ยอดเยี่ยม! ยอดเยี่ยม! รีบขุดมันออกมาเร็ว!” หลินซานยิ้มอย่างสดใสในขณะที่ดวงตาของเขาเบิกกว้าง

หยานจินเยวและแม้แต่หลิวหยานและหยานจนหมิงซึ่งอยู่ห่างไกลออกไปก็มีความสุขเมื่อได้ยินข่าวนี้

กระดูกดารา!

พวกเขาเดาเอาไว้แล้วว่ามันอาจจะมีกระดูกดาราอยู่ในสัตว์อสูรดาราตัวนี้ แต่ความน่าจะเป็นที่จะพบนั้นมันก็ต่ำมาก

อย่างไรก็ตาม มันก็มีกระดูกดาราอยู่จริงๆ พวกเขาจะนําสิ่งนี้ไปประมูลและมันก็จะต้องได้ราคาที่น่าทึ่งมากอย่างแน่นอน

ในทางกลับกันหวังเต็งนั้นค่อนข้างสงบท้ายที่สุดแล้วเขาก็มีกระดูกดาราอยู่แล้ว และมันก็เป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นเมื่อเขาเห็นการแสดงออกที่เบิกบานใจของเพื่อนร่วมทีมเขาก็อดไม่ได้ที่จะถามพวกเขาว่า “หัวหน้า คุณเป็นถึงทีมนักสู้ระดับ 3 ดาวขั้นสูงสุด และนี่ก็เป็นเพียงกระดูกดาราทําไมคุณถึงต้องตื่นเต้นขนาดนั้นล่ะ?”

“มันก็เป็นแค่หรอ..?”

ทุกคนหันกลับมามองหวังเต็งด้วยความขมขื่นที่ซ่อนอยู่

“ไอ้เด็กโง่ นายก็พูดง่ายสิ นี่มันเป็นกระดูกดาราชิ้นแรกที่เราพบในรอบหลายปีเลยนะ แล้วดูนายพูดสิ นายกําลังดูถูกมันอยู่นะ”

“นายไม่รู้ราคาของกระดูกดารารึไง?”

“ฉันรู้ ฉันทําได้ดีในระหว่างสอบศิลปะการต่อสู้ ดังนั้นผู้อํานวยการกระทรวงการศึกษาธิการของตงไห้จึงมอบ รางวัลเป็นกระดูกดาราให้กับฉัน และฉันก็ได้ยินมาว่ามันมีค่ามากก็แค่นั้นเอง” หวังเต็งกล่าวอย่างสงบ

คนอื่นๆพูดไม่ออก

“ไอ้เหี้ย!”

การเปรียบเทียบนี้ช่างเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ!

ดูเขาสิ เขาไม่ต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อไล่ล่าและฆ่าสัตว์อสูรดาราด้วยซ้ํา แต่เขาก็สามารถได้รับกระดูกดารามาเป็นรางวัลได้

แล้วมองมาที่พวกเราสิ เห้อ ลืมมันไปเถอะ…ไม่มีอะไรดีที่จะเปรียบเทียบ

สมาชิกในทีมคนอื่นๆรู้สึกหดหู ออร่าที่มืดมนปกคลุมพวกเขาขณะที่พวกเขาหันหลังให้หวังเต็งและตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อเขาโดยไม่ได้นัดหมาย

หวังเต็ง: …

ฉันทําอะไรผิด?

ทันใดนั้นหยางเฟยก็อุทานอย่างมีความสุข “ฉันพบแล้ว มันคือกระดูกขา”

เขาขยับกริชในมือและกรีดเนื้อของสัตว์อสูรดารา จากนั้นเขาก็ดึงกระดูกออกมาจากศพของเติ้งหลงเขาเดียว

กระดูกชิ้นนี้เป็นสีขาวทั่วทั้งชิ้นยกเว้นตรงกลางตรงกลางนั้นมีส่วนใสสีเขียวในกระดูก

มันมีเส้นบางๆบนส่วนสีเขียวของกระดูกมันดูลึกลับและลึกซึ้ง

มันให้ความรู้สึกเย็นและเยือกเย็นเมื่อได้สัมผัส

“เร็วเข้า ให้ฉันจับมันบ้างโอ้พระเจ้า ฉันเป็นนักสู้มาเป็นเวลานานและเคยเห็นมันเพียงครั้งเดียวจากระยะไกล ฉันไม่เคยได้สัมผัสกระดูกดาราแบบนี้มาก่อน” หลินซานคว้ากระดูกขามาจากมือของหยางเฟย เขาลูบไล้ส่วนสีเขียวของกระดูกอย่างอ่อนโยนด้วยท่าทางที่น่าหลงใหลเขาดูเหมือน…

ลองนึกภาพชายหนุ่มที่ดูดุร้ายกําลังถูกระดูกสีขาวราวกับว่าเขากําลังลูบไล้ขาของหญิงสาวสวยดูสิลองนึกดูสิ!

มันโครตน่าขนลุกเลย!

หยางเฟยและหยานจินหมิงต้องการสัมผัสกระดูกเช่นกัน แต่เมื่อพวกเขาเห็นการแสดงออกของหลินซานพวกเขาก็ปฏิเสธที่จะจับมันต่อ

“อะแฮ่ม หัวหน้าคุณกําลังน้ําลายไหลแล้ว” หวังเต็งอดไม่ได้ที่จะเตือนเขา

“อะไร?”

หลินซานรู้สึกตกใจเล็กน้อย เขายกมือขึ้นโดยสัญชาตญาณเพื่อเช็ดมุมริมฝีปากของเขา จากนั้นเขาก็สงบสติอารมณ์และคิ้วของเขาก็เริ่มกระตุก

เขาเหลือบมองหวังเต็งอย่างเป็นลางสังหรณ์จากมุมตาของเขา

“ไอ้หนูน้อย นายชักจะเริ่มปีกกล้าขาแข็งขึ้นแล้วนี่ นายอยากสัมผัสกําปั้นแห่งความรักของฉันไหม?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า หัวหน้า วันนี้คุณดูโดดเด่นมาก ใบหน้าของคุณก็เป็นสีชมพู ดังนั้นคุณจะต้องโชคดีมากๆเลยในวันนี้…เอิ่ม มันอาจฟังดูแปลกนิดหน่อยนะ อย่างไรก็ตาม หัวหน้า วันนี้คุณโชคดีจริงๆ ไม่น่าแปลกใจเลยที่กระดูกดาราจะปรากฏออกมา มันจะต้องเป็นเพราะบทพระเอกของคุณอย่างแน่นอน…” หวังเต็งหัวเราะอย่างเชื่องช้า และปล่อยท่าสุดท้ายของเขาทันทีเลียขา!

ว่ากําปั้นแห่งความรักคืออะไร?

หลิวหยานและหยานจินเยว่เพิ่งเข้ามาหลังจากรักษาบาดแผล หยานจนหมิง,หยางเฟยและผู้หญิงทั้งสองตกใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้

พวกเขาไม่เคยเห็นคนไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อน!

หน้าด้านแค่ไหนกัน!

“ฮีม” หลินซานยิ้ม จากนั้นเขาก็เปลี่ยนมาจริงจังและพูดว่า “ในเมื่อเราจัดการทุกอย่างรียบร้อยแล้ว งั้นเราก็กลับไปที่สถาบันสอนศิลปะการต่อสู้กันเถอะ”

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่สมาชิกทีมจะมีความสุขกับการได้กลับไป พวกเขาก็ได้ยินหลินซานพูดต่อว่า “โอ้ใช่ แล้ว ผู้เฒ่าหยางดูขาอีกข้างหนึ่งด้วยสิว่ามันยังมีกระดูกดาราชิ้นอื่นอยู่อีกหรือไม่”

ทุกคน: …

ทําไมซึ้งกอย่างนี้?

แม้ว่าพวกเขาจะบ่นในใจ แต่หยางเฟยก็ยังคงปฏิบัติตามคําสั่งของผู้นําของเขาต่อไป เขากรีดขาอีกข้างหนึ่งของเติ้งหลงเขาเดียวและมองดูไม่มีอะไร

มันเป็นเรื่องปกติที่จะไม่มีอะไรคุณคงกําลังฝันแล้วหากพบกระดูกดาราสองชิ้นในสัตว์อสูรดาราตัวเดียว

ในที่สุดพวกเขาก็สามารถถอยกลับได้อย่างสงบ

พวกเขาไม่เสียเวลาอีกต่อไปและเดินทางออกจากหุบเขา

“หัวหน้ากระดูกดาราชิ้นนี้มันจะขายได้เท่าไหร่กัน?” หวังเต็งถามด้วยความสงสัยระหว่างทาง

“น่าจะ… เจ็ดถึงแปดร้อยล้าน” หลินซานก็ไม่แน่ใจเช่นกัน “ฉันเคยเห็นการประมูลกระดูกดารามาก่อนในอดีต ผู้ซื้อซื้อกระดูกดาราระดับ 3 ดาวในราคานี้ และกระดูกดาราชิ้นนี้ก็น่าจะใกล้เคียงกัน ยิ่งไปกว่านั้น มันคือกระดูกดาราธาตุลม มันมีค่าและหายากกว่ากระดูกดาราธาตุทั่วไปมาก”

“แพงมาก!” หวังเต็งตกใจมากในครั้งนี้

กระดูกดาราที่ผู้อํานวยการหยู่มอบให้นั้นมาจากสัตว์อสูรดาราระดับ 1 ดาว หากกระดูกดาว 3 ดาวมีราคาเจ็ดถึงแปดร้อยล้าน กระดูกดาว 1 ดาวนั้นควรมีราคาประมาณหนึ่งร้อยล้านใช่ไหม

พูดตามตรง ดูเหมือนว่าผู้อํานวยการหยูจะทุ่มทุนกับเขาไปเยอะมาก!

“เจ็ดถึงแปดร้อยล้านนั้นเป็นราคาขั้นต่ํา มันขึ้นอยู่กับผู้ซื้อ ถ้าเราไปเจอใครที่ต้องการกระดูกดาราชิ้นนี้จริงๆ เขาก็อาจจะซื้อมันในราคาหลายพันล้านโดยไม่เสียเวลาคิด” หลินซานยิ้มและพูดต่อ

ดูเหมือนว่าเขาจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เมื่อคุณมีเงินพันล้านอยู่ในมือ มันก็เป็นเรื่องปกติมากที่คุณจะอารมณ์ดีเช่นนี้