ตอนที่ 513 อบรมหวังฮอง
แปล Tarhai
“พ่อไปกันเถอะ บอกให้ลูกค้าพ่อไปโบกแท็กซี่คันใหม่แล้วรีบพาพวกเราไปส่งที่มหาลัยได้แล้ว” หวังฮองพูดด้วยความใจร้อน
หวังต้าฟุกัดฟันและพูดว่า “ไม่ได้ พ่อรับงานเขามาแล้ว”
“พ่อจะปฏิเสธผมเหรอ ?” หวังฮองรู้สึกประหลาดใจ
พ่อของเขาทำตามคำขอของเขาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นของแพงหรือคำขออะไรก็ตาม พ่อของเขาก็จะหาทางหามาให้เขาจนได้ เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าพ่อจะปฏิเสธคำขอของเขาเพื่อลูกค้า
“เสี่ยวฮอง แขกท่านนี้ก็กำลังจะไปที่มหาวิทยาลัยแพทย์ด้วยเช่นกัน พ่อสามารถขับรถพาทุกคนไปส่งพร้อมกันเลย” หวังต้าฟุกล่าวและหวังว่าลูกชายของเขาจะยอมรับคำขอ
หวังฮองกล่าวเสียงดังว่า “ไม่เอาอะ แฟนของผมเหอหยุน เป็นคนที่รักความสะอาดอย่างมาก ต้องมีแค่พวกผมนั่งไปเท่านั้น”
ใบหน้าของหวังต้าฟุกลายเป็นลำบากใจ เขาเพิ่งจะยกย่องลูกชายตัวเองต่อหน้าฉิงเฟิงไปหยกๆ เขาไม่คิดว่าลูกชายของเขาจะไม่สุภาพขนาดนี้
หวังต้าฟุโกรธมาก ถ้าไม่ใช่เพราะลูกชายของเขาโทรมาเรียก ป่านนี้เขาคงส่งลูกค้าถึงที่หมายไปนานแล้ว
หวังต้าฟุทำให้ฉิงเฟิงเสียเวลาก็เพราะลูกชายของเขา เท่านั้นยังไม่พอลูกชายของเขายังทำให้เขาขายหน้าอีกด้วย มันทำให้เขาโกรธมากที่ลูกชายของเขาไล่ลูกค้า
“พ่อ ได้ยินเปล่าเนี่ย ? ขับรถไปส่งพวกผมที่มหาลัยซะที” หวังฮองเริ่มร้อนใจ
เมื่อเผชิญหน้ากับความใจร้อนของลูกชาย หวังต้าฟุส่ายหัวและกล่าวว่า “ถ้าลูกไม่ยอมให้ลูกค้าพ่อไปด้วย พ่อก็ไม่ไปส่งลูกหรอก”
หวังฮองยิ่งกลายเป็นกราดเกรี้ยวมากขึ้นและพูดว่า “พ่อ ใครเป็นลูกพ่อกันแน่วะเนี่ย ?พ่อไม่ยอมขับรถไปส่งผมที่มหาลัยก็เพราะลูกค้าคนนี้เนี่ยนะ ?”
“เสี่ยวฮอง พ่อรับปากลูกค้าท่านนี้ไว้แล้ว พ่อต้องขับรถไปส่งเขาให้ถึงที่หมาย นี่เป็นธุรกิจของพ่อ มันเป็นความรับผิดชอบและศีลธรรม พ่อสามารถยอมรับคำขออื่น ๆ ของลูกได้ทุกอย่าง แต่ต้องไม่ใช่เรื่องนี้” หวังต้าฟุกล่าวด้วยสีหน้าหนักแน่น
ฉิงเฟิงได้ยกย่องหวังต้าฟุในใจหลังจากที่ได้ยินเขาพูด เขาไม่คิดว่าจะยังมีคนที่มีความรับผิดชอบมากขนาดนี้ในสังคมปัจจุบัน
“หวังฮอง นี่มันก็เกือบจะถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว ให้เขาติดรถไปด้วยก็แล้วกัน”
เหอหยุนกล่าว
เธอมองดูเวลาและพบว่าเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ถ้าไม่รีบพวกเธอจะเข้าเรียนสาย
หวังฮองพยักหน้าและรู้ว่าพวกเขาไม่อาจเข้าเรียนสายได้ เขากล่าวว่า “ก็ได้ ผมจะให้ลูกค้าพ่อนั่งไปด้วย ไปๆรีบขับรถไปส่งพวกผมด่วนเลย”
หวังต้าฟุพยักหน้า เขามีความสุขที่ลูกชายของเขายินยอมให้ฉิงเฟิงไปด้วย
หวังต้าฟุเปิดประตูและให้ฉิงเฟิงนั่งบนที่นั่งผู้โดยสาร เขากล่าวว่า “ผมต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คุณเสียเวลา”
ฉิงเฟิงโบกมือและกล่าวว่า “ไม่ต้องคิดมาก”
หวังต้าฟุขอบคุณเขาอีกครั้งและกล่าวว่า “ขอบคุณที่เข้าใจผม วันนี้คุณไม่ต้องจ่ายค่าโดยสารนะ ผมเลี้ยงเอง”
ฉิงเฟิงไม่ได้พูดอะไร สำหรับเขา เงินไม่ได้สำคัญอะไรนัก เขาต้องการความเคารพและการบริการ ถึงแม้ว่าลูกชายของหวังต้าฟุจะไร้มารยาท แต่ตัวเขาเองก็เป็นคนดี
ฉิงเฟิง, หวังฮองและเหอหยุน พวกเขามุ่งหน้าไปที่มหาลัยแพทย์ด้วยรถแท็กซี่ของหวังต้าฟุ
เป็นเพราะฝนยังตกอยู่และถนนลื่น รถจึงเคลื่อนที่ได้ไม่เร็วนัก
หวังต้าฟุก็ต้องขับช้าไปด้วยเพราะเขากลัวจะตกหลุมและกลัวชน
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง พวกเขาก็มาถึงจุดหมายปลายทางของพวกเขา
โดยปกติหวังต้าฟุใช้เวลาเพียง 40 นาทีในการขับมาถึงที่นี่ แต่คราวนี้ต้องใช้เวลาเพิ่มอีก 20 นาที
“พ่อ นี่เป็นความผิดของพ่อทั้งหมดเลยนะ ผมมาเรียนสายเลยเนี่ย !” หวังฮองกล่าวด้วยความไม่พอใจ
ฉิงเฟิงที่นิ่งอยู่ตลอดไม่สามารถทนต่อได้อีกต่อไป เพราะการมาถึงช้าในครั้งนี้หวังฮองโทษว่าเป็นความผิดของพ่อของเขา
การเป็นพ่อนั้นเป็นบทบาทอันยิ่งใหญ่ พ่อของฉิงเฟิงหายตัวไปเมื่อเขาอายุ 8 ขวบ แต่เขาก็ยังคงรู้สึกขอบคุณและสำนึกในบุญคุณพ่อเขา หากไม่มีพ่อเขาก็คงจะไม่ได้เกิดมา
“หวังฮอง พ่อของนายพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว แถมวันนี้ฝนก็ตกหนัก นายไม่ขอบคุณเขาแต่ยังไปตำหนิเขาอีก เรื่องนี้มันถูกต้องแล้วหรือ ?” คิ้วของฉิงเฟิงขมวดและกล่าว
ใบหน้าของหวังฮองเปลี่ยนไป เขาพูดว่า “นายเป็นใครมีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนฉัน ?”
“ฉันเป็นลูกค้าของพ่อนาย แน่นอนว่าฉันมีสิทธิ์”
“ตลกปะ ? ลูกค้าของพ่อฉันมีเป็นร้อยๆคน นายพูดงี้ก็หมายความว่าลูกค้าทุกคนของพ่อก็สามารถสั่งสอนฉันได้หมดอะดิ ?”
“นายกำลังตำหนิพ่อของนายในการเดินทางครั้งนี้ แต่พ่อของนายกลับไม่ได้ตอบโต้อะไรเลย นายไม่ลองคิดถึงหัวอกของเขาหน่อยละว่าที่นายทำมันถูกต้องไหม?”
ฉิงเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา น้ำเสียงของเขาเริ่มเต็มไปด้วยความโกรธ
ใบหน้าของหวังฮองเปลี่ยนไปและพูดว่า “ฉันเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแพทย์ ฉันเข้าเรียนสายไม่ได้ นายคิดว่านายเป็นใครถึงมาสั่งสอนฉัน ? นายเทียบกับนักเรียนแพทย์อย่างฉันได้หรือไง ?”
นักศึกษามหาวิทยาลัยแพทย์ ?แล้วไง ? ไปตายไป๊
ถ้าไม่ใช่เพราะหวังต้าฟุ ฉิงเฟิงคงจะทุบตีหวังฮองไปแล้ว
“นายคิดว่านายเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแพทย์แล้วมันน่าภาคภูมิใจนักเหรอ ? ฉันเป็นอาจารย์พิเศษที่มหาลัยนั้น” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
อะไรนะ ? อาจารย์พิเศษ ?
ใบหน้าของหวังฮงเปลี่ยนไปและเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เขากล่าวว่า “ไอ้ขี้โม้ ! อาจารย์แทบจะทุกคนต่างก็มีอายุ 60-70 ปี นายอายุแค่นี้มีหน้ามาบอกว่าเป็นอาจารย์พิเศษ เห็นได้ชัดเจยว่านายตอแหล”
“อ้าว ฉันเป็นอาจารย์พิเศษจริงๆนะ” ฉิงเฟิงกล่าวย้ำอีกครั้ง
“เอ้า โม้ไม่เลิกอีก ถ้าหน้าอ่อนอย่างนายเป็นศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยแล้ว งั้นฉันก็คงเป็นอาจารย์ของนักศึกษาปริญญาเอกไปแล้ว” หวังฮองเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
แฟนของเขา เหอหยุนก็ไม่เชื่อฉิงเฟิงเช่นกัน ทั้งคู่คิดว่าฉิงเฟิงกำลังโกหก
ฉิงเฟิงกำลังจะพูดต่ออีกเล็กน้อย แต่แท็กซี่ก็มาถึงประตูหน้าแล้ว เขาต้องการที่จะออกไป จึงไม่สนใจหวังฮอง
“อ๊ะ ! หวังฮอง ดูนั่นสิ นั่นอาจารย์ใหญ่จางเหมียวชุนนี่นา เขากำลังยืนอยู่หน้าประตูด้วย พวกเราซวยแล้ว !” ใบหน้าของเหอหยุนเปลี่ยนไปหลังจากที่เธอเห็นอาจารย์ใหญ่ของมหาลัย
หวังฮองก็ได้เพ่งมองไปเช่นกันและใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
“เหอหยุน เธอคิดว่าไง ทำไมอาจารย์ใหญ่ถึงยืนหน้าประตู ? เขามารอเช็คนักศึกษามาสายรึเปล่า ?” หวังฮองกล่าวอย่างกระวนกระวาย
เหอหยุนส่ายหัวและบอกว่าเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน
พวกเขาต่างก็หวาดกลัวเพราะเข้าเรียนสาย มันเป็นเรื่องไม่ดีแน่ถ้าอาจารย์ใหญ่เห็นพวกเขาตอนนี้