ตอนที่ 514 การต้อนรับด้วยตัวเองของอาจารย์ใหญ่

แปล Tarhai

ฉิงเฟิงรู้สึกว่ามันน่าขันนักเมื่อเขาเห็นหวังฮองและเหอหยุนกำลังหวาดกลัว

หึหึ พวกเด็กน้อยที่ไม่เคยเห็นโลกกว้างสินะ กลัวอะไรกับแค่อาจารย์ใหญ่ ?

“นายขำอะไรวะ ? นี่คืออาจารย์ใหญ่ของมหาลัยแพทย์ของเรานะเว้ย” หวังฮองกล่าวอย่างไม่แฮปปี้

ในความคิดของหวังฮอง อาจารย์ใหญ่จางเหมียวชุนเป็นเหมือนพระเจ้าที่กุมชะตาชีวิตของเขา เขารู้สึกหวาดกลัวจางเหมียวชุนเนื่องจากเขามีสถานะเป็นนักศึกษาอยู่ภายในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ดังนั้นเมื่อเขาได้เห็นคนแปลกหน้าหัวเราะเยาะ เขาจึงรู้สึกโกรธ

“ไม่ต้องกังวล จางเหมียวชุนยืนรอตรงนี้เพื่อรอทักทายฉัน ไม่ใช่เพราะว่านายมาสาย” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างสงบในขณะที่มองทั้งสองคน

“ฉันรู้ว่านายชอบกุเรื่อง เมื่อกี้นายเพิ่งบอกว่านายเป็นศาสตราจารย์พิเศษ และตอนนี้นายก็ยังจะโกหกอีก นายว่าอะไรนะ ? อาจารย์ใหญ่มายืนตากฝนรอรับนายเนี่ยนะ ตลกชิบ” หวังฮองส่ายหน้าและมองไปที่ฉิงเฟิงอย่างแดกดัน

ฉิงเฟิงโบกมือและไม่สนใจหวังฮองอีกต่อไป เขาไม่อยากเสียเวลาให้กับคนที่น่าสังเวชเช่นนี้และไม่จำเป็นต้องอธิบายใดๆ

ฉิงเฟิงจ่ายเงิน 50 หยวนให้แก่หวังต้าฟุสำหรับค่าโดยสารและลงจากรถแท็กซี่ หวังต้าฟุไม่ยอมรับเงินฉิงเฟิงจึงเอาเงินวางไว้ที่เบาะ เขารู้ว่าหวังต้าฟุต้องทำงานหนักเพื่อส่งเสียเลี้ยงดูลูกชาย

ฉิงเฟิงมีความเมตตาสำหรับคนที่อ่อนแอเสมอนับตั้งแต่ที่เขากลับมาอยู่ที่หัวเซี่ย

เมื่อฉิงเฟิงเดินออกจากรถแท็กซี่ จางเหมียวชุนก็เห็นเขาและรู้สึกมีความสุขอย่างมากและเดินไปหาฉิงเฟิง

“หวังฮอง ! อาจารย์ใหญ่เดินมาแล้ว พวกเราจะทำไงดี ? เขาจะมาทำโทษเราเพราะพวกเรามาสายรึเปล่า ?” เหอหยุนกล่าวอย่างกังวล

“บ้าชิบ ! พวกเราจบแน่ถ้าถูกอาจารย์ใหญ่จับได้คาหนังคาเขาเช่นนี้” หวังฮองดูท้อแท้สิ้นหวัง

ถึงกระนั้นก็ตาม จางเหมียวชุนที่กำลังเดินมานั้นไม่ได้มองหวังฮองและเหอหยุนเลยแม้แต่น้อย ในสายตาเขามีแต่ฉิงเฟิงเท่านั้น

“คุณหลี่ ในที่สุดคุณก็มาถึงจนได้ ผมรอคุณอยู่ที่นี่มาร่วมครึ่งชั่วโมงแล้ว” จางเหมียวชุนเดินตรงมาหาฉิงเฟิงอย่างรวดเร็วและกล่าวอย่างตื่นเต้น เขาดูเหมือนจะมีความสุขมากที่ฉิงเฟิงมาที่มหาวิทยาลัยแพทย์ในครั้งนี้

ฉิงเฟิงพยักหน้าและกล่าวว่า “อาจารย์ใหญ่จาง ผมต้องขอโทษด้วยรถติดมากในช่วงวันที่มีฝนตกเช่นนี้”

“อย่าใส่ใจเลย แค่คุณมาก็พอแล้ว ไปกัน ไปคุยกันที่ออฟฟิศของผม” จางเหมียวชุนยิ้มอย่างสุภาพและนำทางฉิงเฟิง

ฉิงเฟิงยิ้มและเดินพร้อมจางเหมียวชุนไปที่อาคารเรียน

“เหอหยุน นี่ฉันกำลังฝันอยู่หรือเปล่า? เมื่อกี้อาจารย์ใหญ่จางพูดว่าไงนะ ? เขาบอกว่าเขายืนรอลูกค้าพ่อฉันมาร่วมครึ่งชั่วโมงใช่ไหม ? ” หวังฮองอ้าปากกว้างและแทบไม่อยากเชื่อสายตา

เหอหยุนพยักหน้าราวกับหุ่นยนต์ว่า” ใช่แล้ว และเขาก็มาหาชายคนนั้นด้วยตัวเองอีกด้วย เมื่อตอนที่ผู้เชี่ยวชาญจากจังหวัดหูหนานมาที่นี่เขายังไม่ทำแบบนี้เลย”

หวังฮองและเหอหยุนหันไปมองหน้ากันและรู้สึกถึงความกลัวและความประหลาดใจของอีกฝ่ายได้ทันที

“เสี่ยวฮอง, พ่อเคยบอกลูกแล้วใช่ไหมว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้าและมีคนยิ่งใหญ่กว่าเราอยู่เสมอ อย่าลำพองตัวเกินไป ลูกค้าของพ่อคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา ลูกยังไปด่าว่าเขาขี้โม้ ตอนนี้ลูกเห็นไหม ? แม้แต่อาจารย์ใหญ่ของลูกยังต้องเป็นคนนำทางให้เขา เขาจะเป็นลูกค้าธรรมดาได้อย่างไร ?” หวังต้าฟุกล่าวอย่างลึกซึ้ง

เขาดูเหมือนว่ากำลังพูดอย่างสบายๆและสอนลูก แต่ความจริงแล้วเขาก็ตกใจมากเช่นกัน อาจารย์ใหญ่ของมหาวิทยาลัยแพทยท่านนี้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในเมืองทะเลตะวันออกและเคยออกทีวีอีกด้วย

ในครั้งนี้หวังฮองไม่ได้โต้แย้งกับพ่อของเขาอีกเพราะเขารู้แล้วว่าชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา เขาหันไปมองเหอหยุนและพากันเดินเข้าตึก

“คุณหลี่ ยินดีต้อนรับสู่มหาวิทยาลัยแพทย มหาวิทยาลัยของเราเป็นมหาลัยที่ดีที่สุดในเมืองทะเลตะวันออก และเป็นหนึ่งในสิบอันดับแรกของมหาวิทยาลัยชั้นนำในหัวเซี่ย” จางเหมืองชุนแนะนำความเป็นมาของมหาวิทยาลัยให้แก่ฉฺงเฟิงขณะเดินไปด้วยกัน

ฉิงเฟิงเอาแต่พยักหน้าขณะฟัง เขารู้เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยแห่งนี้มาบ้าง นี่เป็นสถานที่ที่แพทย์ส่วนใหญ่ในเมืองทะเลตะวันออกเรียนจบมา

ไม่นาน ทั้งสองก็มาถึงที่ออฟฟิศ ในสำนักงานเต็มไปด้วยผู้คน มีชายและหญิงมากกว่าสิบคนเดินไปเดินมา

พวกเขาส่วนใหญ่อยู่ในวัย 50 ถึง 60 ปี แม้แต่คนที่อายุน้อยที่สุดก็อายุประมาณ 30 ปี ทุกคนสวมแว่นตาและดูมีการศึกษาและฉลาด

“สวัสดีทุกคน ผมขอแนะนำให้พวกคุณรู้จัก นี่คืออาจารย์พิเศษคนใหม่ของเราที่ผมเพิ่งได้เชิญมา เขาชื่อหลี่ฉิงเฟิง” จางเหมียวชุนยิ้มและประกาศในห้อง

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครปรบมือสักคนหลังจากได้ยินที่จางเหมียวชุนกล่าว พวกเขาทั้งหมดมองฉิงเฟิงด้วยความสงสัยในสายตาของพวกเขา

ศาสตราจารย์พิเศษ ? คุณกำลังล้อเล่นผมใช่ไหม? คนที่อายุน้อยขนาดนี้จะเป็นอาจารย์พิเศษได้อย่างไร ?

ในความเป็นจริง คนเหล่านี้ที่ถูกอาจารย์ใหญ่จางเชื้อเชิญมาในออฟฟิศนี้ต่างก็ไม่ใช่คนธรรมดา พวกเขาเป็นทั้งศาสตราจารย์และหัวหน้าคณะต่างๆ

บางคนเริ่มจากการเป็นครูและกลายเป็นศาสตราจารย์หลังจากทำงานมานานกว่า 40 ปี แต่ตอนนี้คุณกำลังจะปล่อยให้ชายหนุ่มอายุ 20 ปีเป็นศาสตราจารย์? นี่คุณกำลังดูถูกพวกเราหรือไง ?

สีหน้าของจางเหมียวชุนดูขมขื่นเล็กน้อยหลังจากที่เห็นว่าไม่มีใครปรบมือให้กับฉิงเฟิง อย่างไรก็ตาม เขาไม่ต้องการบังคับจนทำให้คนเหล่านี้อารมณ์เสียเช่นกัน เพราะเขารู้ว่าคนเหล่านี้ไม่ได้เป็นแค่เพียงศาสตราจารย์ แต่พวกเขายังเป็นผู้นำในแขนงต่างๆอีกด้วย

ฉิงเฟิงก็ไม่ได้ใส่ใจเช่นกันว่าจะมีคนปรบมือให้กับเขาหรือไม่ บอกตามตรง ถ้าจางเหมียวชุนไม่ได้เอ่ยปากเชิญ เขาก็ไม่มาที่นี่แน่นอน

ฉิงเฟิงไม่ได้แคร์คนเหล่านี้ในขณะที่พวกเขามองฉิงเฟิงด้วยความไม่พอใจ

ในขณะนั้นมีชายชราคนหนึ่งอายุประมาณ 50 กว่าปีลุกขึ้นยืนและกล่าวว่า “คุณชื่อฉิงเฟิงใช่ไหม ผมขอถามอะไรหน่อยสิ คุณคิดว่าคุณมีความสามารถอะไรถึงได้กลายมาเป็นศาสตราจารย์ที่นี่ ?”

“ความสามารถของผมได้รับการพิสูจน์แล้วจากอาจารย์ใหญ่จางเหมียวชุน ผมไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ให้คุณเห็นอีกครั้ง” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย

“คุณยังเด็กเกินไปนะ ผมไม่คิดว่าคุณจะสามารถเป็นศาสตราจารย์ที่นี่ได้” ชายชรายิ้มและพูดอย่างแดกดัน

ในความเป็นจริง เขาอายุ 58 ปีแล้วและเพิ่งจะได้เป็นศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยแพทย์แห่งนี้ เขาใช้ชีวิตและความทุ่มเทตลอดทั้งชีวิตเพื่อมาถึงวันนี้ วันที่เขาได้กลายเป็นศาสตราจารย์ ดังนั้น เขาจึงรู้สึกไม่สมเหตุสมผลเมื่อเห็นชายหนุ่มอายุ 20 ปีกลายเป็นศาสตราจารย์ได้อย่างง่ายดายเช่นนี้

ฉิงเฟิงยิ้มและพูดว่า “คุณกำลังอิจฉาผมใช่ไหม ?”

ขอโทษนะ ? อิจฉาคุณเหรอ ?

ชายชรารู้สึกเหมือนถูกดูหมิ่น

คุณหมายความว่าอะไรที่ว่าผมอิจฉาคุณ ? ผมเป็นศาสตราจารย์ผู้สูงส่งทางด้านการแพทย์แผนจีน! แล้วคุณเป็นใคร !? เจ้าอันธพาลน้อย ?