ตอนที่ 515 บ้าเอ้ย ! เขาเป็นศาสตราจารย์จริงๆ ?
แปล Tarhai
“พ่อหนุ่ม คุณคิดว่าผมอิจฉาคุณงั้นหรือ !? ผมจะบอกคุณให้รู้เอาไว้ ตอนที่ผมกำลังสอนอยู่ที่แผนกแพทย์แผนจีน คุณยังไม่เป็นวุ้นเลยด้วยซ้ำ !” ชายชราคนนั้นกล่าวอย่างบ้าคลั่ง
เขารู้สึกว่าฉิงเฟิงหยิ่งยโสเกินไปและไม่รู้จักการเคารพผู้หลักผู้ใหญ่
ฉันเป็นศาสตราจารย์อาวุโสที่นี่ ! แสดงความเคารพกันหน่อยพ่อหนุ่ม ! ชายชราคิดในใจ
อย่างไรก็ตามฉิงเฟิงยิ้มและพูดว่า “ก็ถ้าคุณไม่ได้อิจฉาผม ทำไมคุณถึงคิดว่าผมไม่สามารถเป็นศาสตราจารย์ได้ ? ผมคิดว่าคุณมากกว่าที่ไม่มีความสามารถพอ”
ทุกคนเริ่มตื่นตระหนก นอกเหนือจากจางเหมียวชุน ทุกคนกำลังเริ่มรู้สึกหงุดหงิด ไม่เพียงแค่ผู้อาวุโสเท่านั้นที่โกรธ คนอื่นๆที่อยู่ในห้องก็ไม่พอใจเช่นกันเพราะจางเหมียวชุนปล่อยให้ชายหนุ่มคนหนึ่งที่อายุ 20 กว่าปีเป็นศาสตราจารย์
จางเหมียวชุนพยายามจะไกล่เกลี่ยความขัดแย้งเมื่อเขารู้สึกถึงบรรยากาศอันขมขื่น “ศาสตราจารย์เฉิน คุณเป็นศาสตราจารย์ที่น่าชื่นชม ทำไมคุณถึงต้องถือสากับชายหนุ่มคนหนึ่งด้วยเล่า ?”
ชายชราคนนี้ชื่อว่าเฉินเหลียง เขาเริ่มสงบลงหลังจากที่ได้ยินจางเหมียวชุนกล่าว “อาจารย์ใหญ่ ผมไม่ได้อยากจะเถียงกับเขา แต่ชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้รู้อะไรเลยแต่ยังมีหน้ามาทำตัวหยิ่งยโสต่อหน้าผม ผมเกรงว่าเขาจะชักนำนักศึกษาไปในทางที่ผิดถ้าเขาเป็นศาสตราจารย์ ”
“น่าขันนัก ! คุณว่าอะไรนะ ? คุณบอกว่าผมจะชักนำนักศึกษาไปในทางที่ผิดงั้นเหรอ ? ตลกเถอะ ผมมีความรู้มากกว่าคุณด้วยซ้ำ” ฉิงเฟิงแสยะยิ้มและพูดอย่างมีอารมณ์
เหล่าศาสตราจารย์อาวุโสเหล่านี้ไม่ชอบฉิงเฟิง ฉิงเฟิงก็ไม่ชอบพวกเขาเช่นกัน ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ไม่มีจำเป็นจะต้องให้ความเคารพแก่กัน
“นี่ไง คุณเห็นรึยังละอาจารย์ใหญ่ ? คุณดูทัศนคติของเขาสิ เขาพูดว่าเขามีความรู้มากกว่าผมงั้นหรือ ? คุณคิดว่ามันเป็นไปได้ไหมละ ? ผมเป็นถึงต้นตำรับของภาควิชาแพทย์จีนนะ !” เฉินเหลียงกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว
จางเหมียวชุนขมวดคิ้วและก็รู้สึกเช่นกันว่าสิ่งที่ฉิงเฟิงกล่าวนั้นค่อนข้างเกินเลยไปเล็กน้อย ทั้งหมดที่กล่าวมา เฉินเหลียงได้ทำการสอนในสาขานี้มานานหลายสิบปีและมีความรู้ความชำนาญทางด้านการแพทย์จีน เขายังมีความรู้ทางด้านสมุนไพรจีนมากกว่าอาจารย์ใหญ่ด้วยซ้ำ
ในตอนนี้ แน่นอนว่าเฉินเหลียงจะไม่มีทางยอมรับความอัปยศเช่นนี้ หลังจากได้ยินฉิงเฟิงกล่าวว่ามีความรู้มากกว่าเขา
“อาจารย์ใหญ่ ! เด็กคนนี้จะต้องเป็นหลอกลวง ผมขอแนะนำให้เราตัดสิทธิ์การเป็นศาสตราจารย์ของเขาซะ”
“ใช่ครับ พวกเราไม่ต้องการพวกหลอกลวงในมหาวิทยาลัย ผมแนะนำเช่นเดียวกัน”
“อาจารย์ใหญ่, อย่าปล่อยให้เขาเป็นศาสตราจารย์ เขาจะทำให้นักเรียนของเราเข้าใจผิด”
ศาสตราจารย์อาวุโสอีกสองคนเดินไปยืนอยู่ข้างๆเฉินเหลียง พวกเขาทั้งหมดสนับสนุนเฉินเหลียงด้วยความกังขาในตัวของฉิงเฟิง
จางเหมียวชุนทำอะไรไม่ถูก เขาเป็นคนเชิญฉิงเฟิงให้มาเป็นศาสตราจารย์พิเศษเอง แต่ตอนนี้เหล่าศาสตราจารย์อาวุโสทั้งหลายต่างก็ต่อต้านเขา จางเหมียวชุนรู้สึกอับอายขายหน้ามาก
ในตอนแรกฉิงเฟิงไม่ได้สนใจที่จะเป็นศาสตราจารย์พิเศษเลย เขาไม่สนใจว่าใครจะมอบตำแหน่งอะไรให้เขาก็ไม่ให้ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อได้มาแล้ว แต่จู่ๆก็ถูกต่อต้านโดยพวกคนแก่เหล่านี้ เขาก็เริ่มรู้สึกโกรธ
นี่พวกคุณคิดว่าผมโง่เง่าไร้ความสามารถโดยมองจากอายุของผมงั้นหรือ ? ดี ! ถ้าพวกคุณพยายามที่จะหยุดผม งั้นผมก็จะยิ่งขัดขืน
ฉิงเฟิงยิ้มและพูดเสียงดังว่า “ฟังเอาไว้ให้ดี ! ผมจะต้องได้ตำแหน่งนี้อย่างแน่นอน !”
จางเหมียวชุนเริ่มรู้สึกปวดหัวเมื่อเห็นบรรดาศาสตราจารย์อาวุโสและฉิงเฟิงเริ่มทะเลาะกัน เมื่อวันก่อนเขาได้เห็นฉิงเฟิงแสดงทักษะในการรักษาผู้ป่วย และรู้สึกชื่นชมทักษะการฝังเข็มของเขาอย่างมาก เนื่องจากเขาไม่สามารถทำแบบฉิงเฟิงได้
แต่ในขณะนี้ จางเหมียวชุนก็ไม่แน่ใจว่าฉิงเฟิงมีความเชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์จีนในแขนงอื่นๆ เช่นยาจีนหรือไม่ ในขณะเดียวกันเฉินเหลียงเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์จีน
“เหอะ! อย่าแม้แต่จะคิดในการเป็นศาสตราจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัยแพทย์แห่งนี้ ตราบเท่าที่ผมยังอยู่ที่นี่ คุณไม่มีคุณสมบัติพอ !” เฉินเหลียงกล่าวอย่างเย็นชาในขณะที่แสยะยิ้ม
จางเหมียวชุนรู้สึกว่าเรื่องมันเริ่มเลวร้ายลงทุกที ฉิงเฟิงยืนยันว่าจะเป็นศาสตราจารย์พิเศษในขณะที่เฉินเหลียงไม่เห็นด้วย เขารู้สึกอึดอัดมากในขณะนี้
ทันใดนั้นจางเหมียวชุนก็คิดไอเดียออก เขากล่าวว่า “ศาสตราจารย์เฉิน คุณคิดว่าฉิงเฟิงไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นศาสตราจารย์พิเศษใช่มั้ย ? ผมมีวิธีการที่คุณสามารถใช้มันเพื่อทดสอบความรู้ความสามารถของเขาได้”
“หือ ? งั้นเชิญท่านอาจารย์ใหญ่บอกมา” เฉินเหลียงกล่าวในขณะที่ยิ้มอย่างคลุมเครือ
“พวกเราจะให้โอกาสเขาโดยให้เขาไปเลคเชอร์นักศึกษาเกี่ยวกับเรื่องแพทย์จีน พวกคุณทุกคนเป็นผู้ตัดสิน ถ้าหากเขามีความรู้เพียงพอและสามารถสอนนักศึกษาได้ พวกคุณทุกคนจะต้องยอมรับให้เขาเป็นศาสตราจารย์ แต่ถ้าไม่, เขาก็จะถูกตัดสิทธิ์”
จางเหมียวชุนกล่าวขณะที่หัวเราะเบาๆ
ศาสตราจารย์ทุกคนในออฟฟิศต่างก็เห็นด้วยเกี่ยวกับเรื่องนี้และคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดี
“ย่อมได้ ผมจะให้ฉิงเฟิงออกไปเลคเชอร์ให้นักศึกษาในแผนกแพทย์จีนสักคาบเรียนหนึ่ง หากนักเรียนเข้าใจที่เขาสอน ผมจะยอมให้เขาเป็นศาสตราจารย์พิเศษ” เฉินเหลียงกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
เขารู้สึกว่ามันอาจจะเป็นความคิดที่ดีในการเปิดโปงการหลอกลวงของฉิงเฟิง
คนอื่นๆก็เห็นด้วยกับแนวคิดนี้เช่นกัน พวกเขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่สมควร
จางเหมียวชุนยิ้มเล็กน้อยเมื่อความคิดของเขามีคนเห็นด้วย เขากล่าวว่า
“งั้นผมจะไปจัดตารางเรียนให้ก็แล้วกัน เดี๋ยวพวกเราไปเจอกันที่แผนกแพทย์จีนในอีกครึ่งชั่วโมง”
หลังจากนั้นจางเหมียวชุนก็เดินออกจากออฟฟิศและไปพูดคุยกับเย่ฉิงหยา เพื่อบอกกับเธอว่าอีกสักพักจะมีอาจารย์พิเศษมาให้การบรรยายแก่นักเรียนของเธอในวันนี้
เย่ฉิงหยาได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตื่นเต้น เธอกำลังจะได้พบกับศาสตราจารย์พิเศษที่จะมาเปิดการบรรยายวิชาแพทย์จีนให้กับนักเรียนของเธอ
ในขณะนี้ห้องเรียนของภาควิชาแพทยจีนต่างก็เต็มไปด้วยนักศึกษา พวกเขาทั้งหมดได้รับการแจ้งจากศาสตราจารย์เย่ฉิงหยาว่าวันนี้จะมีอาจารย์พิเศษมาให้การบรรยาย
“เฮ้ พรรคพวก ฉันได้ยินว่าวันนี้จะมีอาจารย์พิเศษมาเล็คเชอร์ นายรู้จักเขาปะวะ ?”
“ไม่อะ สงสัยอาจารย์ใหญ่เพิ่งจะเชิญมาใหม่ละมั้ง”
“บ้าเหอะ ไม่มีใครใหญ่พอที่จะทำให้จารย์ใหญ่ออกไปเชิญเองหรอก”
นักเรียนทุกคนในชั้นเรียนเริ่มพูดคุยกันและเต็มไปด้วยความสงสัย
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เหล่าศาสตราจารย์อาวุโสกลุ่มนั้นก็เดินเข้ามาในห้องเรียนและนั่งอยู่แถวหน้า พวกเขากำลังจะรอดูว่าฉิงเฟิงจะบรรยายอย่างไร
ในที่สุดจางเหมียวชุนก็ได้พาฉิงเฟิงเข้ามาในห้องเรียนและประกาศว่า “สวัสดีนักศึกษาทุกๆคน วันนี้อาจารย์ใหญ่จะแนะนำศาสตราจารย์พิเศษคนใหม่ให้กับทุกคน เขาคือหลี่ฉิงเฟิง”
นักศึกษาทุกคนต่างก็ตกใจและอึ้ง พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าชายหนุ่มวัย 20 ปีจะเป็นศาสตราจารย์พิเศษ ในคลาสเริ่มโกลาหลและทุกคนต่างก็ซุบซิบคุยกัน เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นชายหนุ่มคนนี้มาก่อน
“บ้าเอ้ย ! นี่เขาเป็นศาสตราจารย์จริงๆเหรอวะเนี่ย?” หวังฮองและเหอหยุนที่นั่งอยู่ด้านหลัง ต่างก็หันไปมองหน้ากันและกันและไม่อยากเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเห็น