ตอนที่ 82: ฉันจะเล่นกับพวกแกเอง 2

“อย่ายื้อเวลาเลยดีกว่า…” ทว่า ดอลฟินที่ซึ่งถูกใส่กุญแจมืออยู่ก็พลันหัวเราะและกล่าวคําพูดออกมา “นอกจากนักฆ่าสองคนแรกที่พวกนายจับตัวไปแล้ว เราก็ยังเหลือพรรคพวกที่แอบซ่อนอยู่ในโรงพยาบาลอีกเยอะเลยแหละ เพราะถ้าพวกเราไม่ใช่มืออาชีพจริง ก็คงไม่ถูกจ้างมาให้ทําภารกิจลอบสังหารแบบนี้หรอก พวกนายอยากให้ผู้คนในโรงพยาบาลตกอยู่ในอันตรายไปด้วยหรือยังไงกัน?”

“ถ้ามั่นใจขนาดนั้น ก็บุกเข้ามาได้เลยสิ!” ทันทีที่พูดจบ เสี่ยวเฉิงก็พลันโบกมือให้หรานจิง จากนั้น เขาก็รับช่วงต่อจากเธอและเริ่มวิทยุใส่ชายหน้าบากพร้อมกับทีมนักฆ่าทุกคน

“ฟังนะ ถ้าพวกแกอยากจะเล่นแบบนี้ ฉันก็จะจัดให้! ฉันจะไม่ปล่อยตัวใครทั้งนั้น และฉันก็จะจับตัวพวกแกทุกคนที่กําลังหลบซ่อนอยู่ด้วย!”

อีกด้านหนึ่ง ชายหน้าบากพลันเผยเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงกลัว “แล้วถ้าตอนนี้มีนักฆ่าสองคนยิงปืนกลกระหน่ำเข้าไปในโรงพยาบาลจนทําให้เกิดการสังหารหมู่ครั้งใหญ่ล่ะ? พวกนายจะทํายังไงกัน?”

“กําลังขู่ฉันอยู่งั้นเหรอ?” เสี่ยวเฉิงพลันหรี่ตาลง

ชายหน้าบากพลันหัวเราะและกล่าวคําพูด “ฉันไม่กล้าขู่คนอย่างนายหรอก ฉันก็แค่อยากเจรจาด้วย ปล่อยตัวพวกเราไปเสีย และฉันให้สัญญาว่าคืนนี้นายจะได้นอนหลับฝันดี”

” แต่ถ้าไม่ได้จับพวกแกทุกคนเข้าคุก ฉันจะนอนหลับฝันดีได้ยังไงกันล่ะ? พวกแกดูจะเป็นนักฆ่ากระจอกมากเลยนะรู้ตัวไหม?”

อันที่จริง เสี่ยวเฉิงได้ยินบทสนทนาทั้งหมดในกลุ่มนักฆ่าแล้ว

ชายหน้าบากพลันเผยท่าที่ที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยและเงียบไปชั่วครู่

“นักฆ่ามืออาชีพนะจะต้องเลือดเย็นกว่านี้ แต่แกกลับเอาพรรคพวกมาเสี่ยงเพื่อช่วยผู้หญิงคนเดียวเนี่ยนะ? แกคงชอบเธอมากเลยสินะ” เสี่ยวเฉิงกล่าว

ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ชายหน้าบากก็พลันรู้สึกโมโห เขาพลันกล่าวคําพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสุดหนักแน่น “ถ้าพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้ออกมาอีก เราจะบุกเข้าไปถล่มข้างในแน่! ตายเป็นตาย! ฉันจะให้เวลาพวกนายแค่สิบนาทีเท่านั้น พาคนทั้งสามของเราไปส่งตรงรถตู้ที่จอดอยู่ด้านหลังลานจอดรถของโรงพยาบาล แล้วก็ปล่อยให้พวกเขาขับรถออกไปเอง ถ้าทําตามที่บอก ฉันสัญญาว่าจะไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรเกิดขึ้น พวกเราเป็นมือปืน ไม่ใช่พวกหัวรุนแรง!”

“โอเคงั้นสิบนาที” ทันทีที่พูดจบ เสี่ยวเฉิงก็ปิดอุปกรณ์สื่อสารแล้วโยนไปข้างกาย จากนั้นเขาก็เอื้อมมือไปหาหยิบวิทยุสื่อสารของหรานจิงที่เชื่อมต่อกับหน่วยตํารวจอาชญากรรมทั้งสิบห้าหน่วยทันที

ทันใดนั้น หรานจิงก็พลันกล่าวคําพูดใส่วิทยุในมือ “ต่อไปนี้เสี่ยวเฉิงจะเป็นคนออกคําสั่งแทนฉันนะ ตั้งใจฟังกันให้ดีด้วย! นักฆ่าบัดซบพวกนั้นกําลังข่มขู่พวกเราด้วยการสังหารหมู่ผู้คนในโรงพยาบาล ฉันหวังว่าพวกนายทุกคนคงจะรู้ทันเหตุการณ์ในตอนนี้แล้วนะ พวกนายทุกคนมีเวลาสิบนาที”

หรานจงพลันยื่นวิทยุสื่อสารให้เสี่ยวเฉิง ไม่นานนัก เสี่ยวเฉิงก็พลันพูดขึ้น “ใครอยู่ที่ล็อบบี้ชั้นหนึ่งบ้าง?”

“หน่วยหนึ่ง หน่วยสามและหน่วยห้าประจําอยู่ที่ประตูทางเข้าครับ!”

เสี่ยวเฉิงพลันตอบกลับ “ดีมาก ทําตัวให้เป็นปกติธรรมชาติแล้วตรงไปที่ล็อบบี้จ่ายยา มีผู้ชายคนหนึ่งสวมเสื้อเชิ้ตลายตารางสีขาวนั่งอยู่บนเก้าอีหมายเลขสามแถวที่ห้า หมอนั้นเป็นชายกล้ามโตแล้วก็มีอาวุธติดตัวด้วย มันน่าจะเก่งเรื่องการต่อสู้ระยะประชิดพอตัวอยู่… ฉันต้องการให้พวกนายจับหมอนั้นให้เร็วที่สุด แต่จําไว้อย่าง… อย่าทําให้เกิดความโกลาหลล่ะ!”

ทันใดนั้น ใบหน้าของดอลฟินก็พลันเปลี่ยนไป เธอเริ่มรู้สึกหวาดกลัวในระหว่างที่มองไปยังเสี่ยวเฉิง เธอตกใจมาก เพราะผู้ชายกล้ามโตที่เสี่ยวโฉงพูดถึงก็คือชายที่ทําหน้าที่คอยเฝ้าระวังตํารวจ ผู้ชายคนนี้มีหน้าที่แจ้งข่าวให้คนที่เหลือในทีมทราบหากมีหน่วยตํารวจมาถึง

ทันทีที่ได้ยินคําสั่งของเสี่ยวเฉิง ตํารวจอาชญากรรมทั้งสามก็พลันมองหน้ากัน จากนั้น พวกเขาก็ตรงไปยังล็อบบี้ทันที บริเวณเก้าอี้ที่นั่งรอรับยา ทั้งสามเห็นชายคนหนึ่งสวมเสื้อเชิ้ตลายตารางสีขาวนั่งอยู่บนเก้าอี้หมายเลขสามในแถวที่ห้า ซึ่งมันตรงกับคําอธิบายของเสี่ยวเฉิงแบบหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์!

ทั้งสามพลันเดินไปมา สองคนพลันนั่งลงตรงข้ามกับชายคนนั้น และเมื่อชายเสื้อเชิ้ตลายตารางเงยหน้าขึ้น เจ้าหน้าที่อีกคนก็ย่องไปยืนอยู่ข้างหลังพร้อมกับเอาปืนจ่อที่ศีรษะ “อย่าขยับ!”

ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็พุ่งเข้าไปจับเป้าหมายและทําการปลดอาวุธทันที ทั้งสามพลันรวบตัวชายคนร้ายไปยังมุมตึกเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ป่วยรายอื่นและเกิดความโกลาหล

“รายงาน! เป้าหมายที่ล็อบบี้ถูกจับคุมแล้วครับ!”